เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.bangkokbiznews.com/world/1161926
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่งแรงทุบสถิติใหม่ในปี 2567 เติบโต 25% นำโดยตลาด "จีน" แต่นักวิเคราะห์เผยปี 2568 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง คาดยอดขายในจีนจะชะลอตัวรุนแรง และจะเห็นการดิ้นรนควบรวมกิจการกันมากขึ้น
บริษัทวิจัย Rho Motion เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (HPEV) ทั่วโลกในปีที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 25% เป็น 17.1 ล้านคัน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายในเดือนธันวาคม ที่ทำสถิติ "สูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่" เนื่องจากตลาดจีนยังคงเติบโต และตลาดยุโรปก็มีเสถียรภาพดีขึ้น
มาตรการจูงใจการซื้อ และเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันยอดขายใน "จีน" พุ่งแตะ 11 ล้านคันในปีที่แล้ว และยังเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ตลาดสหราชอาณาจักร (UK) เติบโตแซงหน้า "เยอรมนี" ขึ้นเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในปี 2567
ทั้งนี้ ยอดขายรวมในปี 2567 เติบโตมากกว่ายอดขายในปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 13.6 ล้านคัน หรือมากกว่าประมาณ 3.5 ล้านคัน และยังเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 10.4 ล้านคัน ขณะที่ Rho Motion คำนวณเฉพาะยอดขาย BEV และ HPEV เท่านั้น ไม่ได้นับรวมกลุ่มรถยนต์ไฮบริดปกติแต่อย่างใด
หากนับเฉพาะเดือนธันวาคม เพียงเดือนเดียว ยอดขายทั่วโลกเติบโตถึง 26.4% นำโดยตลาดจีนที่ขยายตัวได้ 36.5% หรือ 1.3 ล้านคัน ขณะที่ตลาดสหรัฐขยายตัว 8.8% อยู่ที่ 1.9 แสนคัน และยุโรปขยายตัว 0.7% อยู่ที่ 3.1 แสนคัน
อย่างไรก็ดี สำหรับในปีนี้ 2568 บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามองว่าจะเป็น "ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง" เนื่องจากคาดว่ายอดขายในจีนจะเติบโตได้ช้าลง ส่วนในยุโรปกำลังจะเริ่มใช้เป้าหมายการปล่อยมลพิษใหม่ ขณะที่สหรัฐยังเต็มไปด้วยคำถามต่างๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่อาจเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
จีน' คาดปีนี้ยอดขายชะลอตัวแรง
อ่านต่อที่นี่
https://www.bangkokbiznews.com/world/1161926
ยอดขายรถอีวีทั่วโลก 'ทุบสถิติใหม่' โต 25% ในปี 2567 แต่ ปี 2568 จะเป็น “ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง”
https://www.bangkokbiznews.com/world/1161926
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่งแรงทุบสถิติใหม่ในปี 2567 เติบโต 25% นำโดยตลาด "จีน" แต่นักวิเคราะห์เผยปี 2568 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง คาดยอดขายในจีนจะชะลอตัวรุนแรง และจะเห็นการดิ้นรนควบรวมกิจการกันมากขึ้น
บริษัทวิจัย Rho Motion เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (HPEV) ทั่วโลกในปีที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 25% เป็น 17.1 ล้านคัน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายในเดือนธันวาคม ที่ทำสถิติ "สูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่" เนื่องจากตลาดจีนยังคงเติบโต และตลาดยุโรปก็มีเสถียรภาพดีขึ้น
มาตรการจูงใจการซื้อ และเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันยอดขายใน "จีน" พุ่งแตะ 11 ล้านคันในปีที่แล้ว และยังเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ตลาดสหราชอาณาจักร (UK) เติบโตแซงหน้า "เยอรมนี" ขึ้นเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในปี 2567
ทั้งนี้ ยอดขายรวมในปี 2567 เติบโตมากกว่ายอดขายในปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 13.6 ล้านคัน หรือมากกว่าประมาณ 3.5 ล้านคัน และยังเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 10.4 ล้านคัน ขณะที่ Rho Motion คำนวณเฉพาะยอดขาย BEV และ HPEV เท่านั้น ไม่ได้นับรวมกลุ่มรถยนต์ไฮบริดปกติแต่อย่างใด
หากนับเฉพาะเดือนธันวาคม เพียงเดือนเดียว ยอดขายทั่วโลกเติบโตถึง 26.4% นำโดยตลาดจีนที่ขยายตัวได้ 36.5% หรือ 1.3 ล้านคัน ขณะที่ตลาดสหรัฐขยายตัว 8.8% อยู่ที่ 1.9 แสนคัน และยุโรปขยายตัว 0.7% อยู่ที่ 3.1 แสนคัน
อย่างไรก็ดี สำหรับในปีนี้ 2568 บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามองว่าจะเป็น "ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง" เนื่องจากคาดว่ายอดขายในจีนจะเติบโตได้ช้าลง ส่วนในยุโรปกำลังจะเริ่มใช้เป้าหมายการปล่อยมลพิษใหม่ ขณะที่สหรัฐยังเต็มไปด้วยคำถามต่างๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่อาจเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
จีน' คาดปีนี้ยอดขายชะลอตัวแรง
อ่านต่อที่นี่ https://www.bangkokbiznews.com/world/1161926