นักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน เป็นนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร (Doctor of the Church) ท่านยังเป็นนักเขียน , นักแต่งเพลง , นักปราชญ์ , รหัสนิก (Mystic) และคุณแม่อธิการคณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB) ของประเทศเยอรมนี ท่านเกิดเมื่อประมาณปีค.ศ. 1098 ในตระกูลขุนนาง เป็นบุตรคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 10 คน
คณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB)
เครื่องแบบฤาษี คณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB)
เครื่องแบบแม่ชี คณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB)
บิดา-มารดาของท่านได้สัญญากับพระเจ้าว่า จะดูแลลูกสาวที่ป่วยของตน ดังนั้นพวกเขาจึงส่งท่านไปอยู่กับแม่ชีเบเนดิกติน คือ “บุญราศียุตตาแห่งทือริงเงิน (Blessed Jutta of Thuringia)” ในสังฆมณฑลชไปเออร์ (Diocese of Speyer) เมื่อท่านอายุได้ 8 ขวบ ท่านได้รับการสอนให้อ่านและร้องเพลงสวดภาษาละติน ความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาอันแรงกล้าของท่านทำให้ท่านเป็นที่รักของทุกคนที่พบเจอ กล่าวกันว่า ตั้งแต่อายุยังน้อย นักบุญฮิลเดการ์ดก็เริ่มเห็นนิมิต (Vision)
บุญราศียุตตาแห่งทือริงเงิน (Blessed Jutta of Thuringia)
เมื่อนักบุญฮิลเดการ์ดอายุได้ 18 ปี ท่านได้เป็นแม่ชีคณะเบเนดิกตินที่อารามนักบุญดิสิโบเดนเบิร์ก (Monastery of Saint Disibodenberg) หลังจากบุญราศียุตตาเสียชีวิตในปีค.ศ. 1136 ฮิลเดการ์ดได้รับเลือกเป็นคุณแม่อธิการ
ธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์และความศรัทธาอันแรงกล้าของท่านที่มีต่อพระจิตดึงดูดบรรดาแม่ชีผู้ฝึกหัด (Novice) จำนวนมากให้เข้ามาที่อาราม การเติบโตอย่างรวดเร็วดังกล่าวทำให้นักบุญฮิลเดการ์ดรู้สึกตกใจ ในไม่ช้าท่านก็ได้ย้ายออกไปพร้อมกับซิสเตอร์อีก 18 คนเพื่อก่อตั้งอารามคณะเบเนดิกตินแห่งใหม่ใกล้กับเมืองบิงเกน (Bingen) ในปีค.ศ. 1148 และต่อมาได้ก่อตั้งอารามในเมืองไอบิงเงน (Eibingen) ในปีค.ศ. 1165 ท่านเชื่อว่า นี่คือพระบัญชาของพระเจ้า
นักบุญฮิลเดการ์ดได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วสำหรับความรู้อันล้ำลึกของท่านเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกี่ยวกับศรัทธา , ดนตรี และวิทยาศาสตร์ด้านธรรมชาติ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและศิลปะการรักษาโรค ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เคยมีการศึกษาอย่างเป็นทางการและไม่รู้วิธีการเขียน
เชื่อกันว่า พระเจ้าเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ของท่านผ่านนิมิตที่ท่านเห็นอยู่บ่อยครั้ง ในตอนแรก นักบุญฮิลเดการ์ดไม่ต้องการเปิดเผยนิมิตของท่านต่อสาธารณะ แต่ท่านก็สารภาพกับผู้ปรึกษาฝ่ายจิตวิญญาณของท่าน เขาถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวให้กับอธิการของเขา ซึ่งตัดสินใจมอบหมายให้ฤาษีคนหนึ่งทำการบันทึกทุกสิ่งที่นักบุญฮิลเดการ์ดเห็น
ต่อมาเรื่องราวของท่านถูกส่งไปให้บิชอป ซึ่งรับรองว่า เรื่องราวเหล่านั้นมาจากพระเจ้าอย่างแท้จริง จากนั้นจึงนำนิมิตของท่านไปให้บุญราศีพระสันตะปาปายูจีนิอุส ที่ 3 (Blessed Pope Eugenius III) พิจารณาจนได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ
บุญราศีพระสันตะปาปายูจีนิอุส ที่ 3 (Blessed Pope Eugenius III) พิจารณานิมิตของนักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน (Saint Hildegard of Bingen) จนได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ
ชื่อเสียงของนักบุญฮิลเดการ์ดเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทวีปยุโรป ผู้คนทั้งใกล้และไกลต่างเดินทางเพื่อฟังท่านให้คำปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากท่าน แม้แต่ผู้คนทั่วไปก็ยังมาเยี่ยมนักบุญฮิลเดการ์ด
ในช่วงที่เหลือของชีวิต นักบุญฮิลเดการ์ดยังคงเขียนงานเขียนต่อไป ผลงานหลักของท่านเรียกว่า “สคิวิอัส (Scivias)” มีการบันทึกภาพนิมิตของท่าน 26 นิมิตพร้อมความหมายต่างๆ ไว้ นักบุญฮิลเดการ์ดยังเขียนเกี่ยวกับหัวข้ออื่นๆอีกมากมาย ผลงานของท่านได้แก่ บทวิจารณ์เกี่ยวกับพระวรสาร , หลักข้อเชื่ออาธานาเซียน (Athanasian Creed) และพระวินัยของนักบุญเบเนดิกต์ (Rule of Saint Benedict) ตลอดจนชีวประวัติของนักบุญและงานทางการแพทย์เกี่ยวกับความสมบูรณ์ของร่างกาย
ผลงานหลักของนักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน (Saint Hildegard of Bingen) เรียกว่า “สคิวิอัส (Scivias)” มีการบันทึกภาพนิมิตของท่าน 26 นิมิตพร้อมความหมายต่างๆ ไว้
นักบุญฮิลเดการ์ดยังเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ดนตรีอีกด้วย มีเพลงสวดที่หลงเหลืออยู่จากสมัยของนักบุญฮิลเดการ์ดมากกว่าคีตกวียุคกลางคนอื่นๆ
ปีสุดท้ายของชีวิตของนักบุญฮิลเดการ์ดเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับท่านและอารามของท่าน นักบุญฮิลเดการ์ดปฏิเสธที่จะนำร่างของชายหนุ่มที่ฝังอยู่ในสุสานที่ติดกับอารามของท่านออกไป แม้ว่าจะขัดต่อความต้องการของบรรดาเจ้าหน้าที่ของสังฆมณฑลก็ตาม ชายหนุ่มคนนี้เคยถูกขับออกจากพระศาสนจักรมาก่อน แต่หลังจากที่เขาได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต นักบุญฮิลเดการ์ดก็รู้สึกว่า ตัวของชายหนุ่มคนนั้นได้ทำการคืนดีกับพระศาสนจักรแล้ว
การกระทำของท่านดังกล่าว ทำให้อารามของท่านต้องถูกคำสั่งห้ามโดยบิชอปและคณะสงฆ์แห่งเมืองไมนซ์ (Mainz) อีกหลายเดือนผ่านไปก่อนที่คำสั่งห้ามจะถูกยกเลิก และนักบุญฮิลเดการ์ดเสียชีวิตในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 1179 ก่อนที่คำสั่งห้ามจะถูกยกเลิก ท่านถูกฝังไว้ในวัดที่เมืองรูเพิร์ตสเบิร์ก (Rupertsburg) เมื่ออารามถูกทำลายในปีค.ศ. 1632 พระธาตุของท่านจึงถูกย้ายไปที่เมืองโคโลญ (Cologne) และที่เมืองไอบิงเงน
หลังจากที่นักบุญฮิลเดการ์ดเสียชีวิต ท่านได้รับการเคารพนับถือมากขึ้นกว่าในช่วงชีวิตที่ท่านมีชีวิตอยู่ ตามคำบอกเล่าของ “ธีโอดอริก (Theodoric)” ผู้เขียนชีวประวัติของท่าน ท่านเป็นนักบุญมาโดยตลอด และจากการวิงวอนของท่าน อัศจรรย์มากมายก็เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 (Pope Benedict XVI) ทรงประกาศให้นักบุญฮิลเดการ์ดเป็นนักบุญอย่างเป็นทางการ และทรงวางรากฐานสำหรับการแต่งตั้งให้ท่านเป็นนักบุญของพระศาสนจักร 5 เดือนต่อมา ท่านได้กลายเป็นนักบุญของพระศาสนจักรอย่างเป็นทางการ ทำให้ท่านเป็นสตรีคนที่ 4 จากบรรดานักบุญ 35 คนที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าวจากพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเรียกนักบุญฮิลเดการ์ดว่า "มีความสำคัญเสมอมา" และ "เป็นครูสอนด้านเทววิทยาอย่างแท้จริงและเป็นนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ด้านธรรมชาติและดนตรี"
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 (Pope Benedict XVI) ทรงประกาศให้นักบุญฮิลเดการ์ดเป็นนักบุญอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 และทรงวางรากฐานสำหรับการแต่งตั้งให้ท่านเป็นนักบุญของพระศาสนจักร 5 เดือนต่อมา ท่านได้กลายเป็นนักบุญของพระศาสนจักรอย่างเป็นทางการ ทำให้ท่านเป็นสตรีคนที่ 4 จากบรรดานักบุญ 35 คนที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าวจากพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเรียกนักบุญฮิลเดการ์ดว่า "มีความสำคัญเสมอมา" และ "เป็นครูสอนด้านเทววิทยาอย่างแท้จริงและเป็นนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ด้านธรรมชาติและดนตรี"
ปล. หากมีการแปลผิดพลาดประการใด หรือข้อมูลผิดพลาด แอดมินก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน #คณะเบเนดิกติน #เบเนดิกติน #นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร #นักเขียน #นักแต่งเพลง #นักปราชญ์ #รหัสนิก #นิมิต #อาราม #หนังสือ #catholic #SaintHildegardOfBingen #benedictine #OSB #DoctorOfTheChurch #mystic #vision #HeiligeHildegardVanBingen
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/185F4QB5E7/
ชีวประวัติ นักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน (Saint Hildegard of Bingen - Heilige Hildegard van Bingen)
นักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน เป็นนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร (Doctor of the Church) ท่านยังเป็นนักเขียน , นักแต่งเพลง , นักปราชญ์ , รหัสนิก (Mystic) และคุณแม่อธิการคณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB) ของประเทศเยอรมนี ท่านเกิดเมื่อประมาณปีค.ศ. 1098 ในตระกูลขุนนาง เป็นบุตรคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 10 คน
คณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB)
เครื่องแบบฤาษี คณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB)
เครื่องแบบแม่ชี คณะเบเนดิกติน (Benedictine - OSB)
บิดา-มารดาของท่านได้สัญญากับพระเจ้าว่า จะดูแลลูกสาวที่ป่วยของตน ดังนั้นพวกเขาจึงส่งท่านไปอยู่กับแม่ชีเบเนดิกติน คือ “บุญราศียุตตาแห่งทือริงเงิน (Blessed Jutta of Thuringia)” ในสังฆมณฑลชไปเออร์ (Diocese of Speyer) เมื่อท่านอายุได้ 8 ขวบ ท่านได้รับการสอนให้อ่านและร้องเพลงสวดภาษาละติน ความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาอันแรงกล้าของท่านทำให้ท่านเป็นที่รักของทุกคนที่พบเจอ กล่าวกันว่า ตั้งแต่อายุยังน้อย นักบุญฮิลเดการ์ดก็เริ่มเห็นนิมิต (Vision)
บุญราศียุตตาแห่งทือริงเงิน (Blessed Jutta of Thuringia)
เมื่อนักบุญฮิลเดการ์ดอายุได้ 18 ปี ท่านได้เป็นแม่ชีคณะเบเนดิกตินที่อารามนักบุญดิสิโบเดนเบิร์ก (Monastery of Saint Disibodenberg) หลังจากบุญราศียุตตาเสียชีวิตในปีค.ศ. 1136 ฮิลเดการ์ดได้รับเลือกเป็นคุณแม่อธิการ
ธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์และความศรัทธาอันแรงกล้าของท่านที่มีต่อพระจิตดึงดูดบรรดาแม่ชีผู้ฝึกหัด (Novice) จำนวนมากให้เข้ามาที่อาราม การเติบโตอย่างรวดเร็วดังกล่าวทำให้นักบุญฮิลเดการ์ดรู้สึกตกใจ ในไม่ช้าท่านก็ได้ย้ายออกไปพร้อมกับซิสเตอร์อีก 18 คนเพื่อก่อตั้งอารามคณะเบเนดิกตินแห่งใหม่ใกล้กับเมืองบิงเกน (Bingen) ในปีค.ศ. 1148 และต่อมาได้ก่อตั้งอารามในเมืองไอบิงเงน (Eibingen) ในปีค.ศ. 1165 ท่านเชื่อว่า นี่คือพระบัญชาของพระเจ้า
นักบุญฮิลเดการ์ดได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วสำหรับความรู้อันล้ำลึกของท่านเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกี่ยวกับศรัทธา , ดนตรี และวิทยาศาสตร์ด้านธรรมชาติ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและศิลปะการรักษาโรค ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เคยมีการศึกษาอย่างเป็นทางการและไม่รู้วิธีการเขียน
เชื่อกันว่า พระเจ้าเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ของท่านผ่านนิมิตที่ท่านเห็นอยู่บ่อยครั้ง ในตอนแรก นักบุญฮิลเดการ์ดไม่ต้องการเปิดเผยนิมิตของท่านต่อสาธารณะ แต่ท่านก็สารภาพกับผู้ปรึกษาฝ่ายจิตวิญญาณของท่าน เขาถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวให้กับอธิการของเขา ซึ่งตัดสินใจมอบหมายให้ฤาษีคนหนึ่งทำการบันทึกทุกสิ่งที่นักบุญฮิลเดการ์ดเห็น
ต่อมาเรื่องราวของท่านถูกส่งไปให้บิชอป ซึ่งรับรองว่า เรื่องราวเหล่านั้นมาจากพระเจ้าอย่างแท้จริง จากนั้นจึงนำนิมิตของท่านไปให้บุญราศีพระสันตะปาปายูจีนิอุส ที่ 3 (Blessed Pope Eugenius III) พิจารณาจนได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ
บุญราศีพระสันตะปาปายูจีนิอุส ที่ 3 (Blessed Pope Eugenius III) พิจารณานิมิตของนักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน (Saint Hildegard of Bingen) จนได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ
ชื่อเสียงของนักบุญฮิลเดการ์ดเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทวีปยุโรป ผู้คนทั้งใกล้และไกลต่างเดินทางเพื่อฟังท่านให้คำปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากท่าน แม้แต่ผู้คนทั่วไปก็ยังมาเยี่ยมนักบุญฮิลเดการ์ด
ในช่วงที่เหลือของชีวิต นักบุญฮิลเดการ์ดยังคงเขียนงานเขียนต่อไป ผลงานหลักของท่านเรียกว่า “สคิวิอัส (Scivias)” มีการบันทึกภาพนิมิตของท่าน 26 นิมิตพร้อมความหมายต่างๆ ไว้ นักบุญฮิลเดการ์ดยังเขียนเกี่ยวกับหัวข้ออื่นๆอีกมากมาย ผลงานของท่านได้แก่ บทวิจารณ์เกี่ยวกับพระวรสาร , หลักข้อเชื่ออาธานาเซียน (Athanasian Creed) และพระวินัยของนักบุญเบเนดิกต์ (Rule of Saint Benedict) ตลอดจนชีวประวัติของนักบุญและงานทางการแพทย์เกี่ยวกับความสมบูรณ์ของร่างกาย
ผลงานหลักของนักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน (Saint Hildegard of Bingen) เรียกว่า “สคิวิอัส (Scivias)” มีการบันทึกภาพนิมิตของท่าน 26 นิมิตพร้อมความหมายต่างๆ ไว้
นักบุญฮิลเดการ์ดยังเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ดนตรีอีกด้วย มีเพลงสวดที่หลงเหลืออยู่จากสมัยของนักบุญฮิลเดการ์ดมากกว่าคีตกวียุคกลางคนอื่นๆ
ปีสุดท้ายของชีวิตของนักบุญฮิลเดการ์ดเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับท่านและอารามของท่าน นักบุญฮิลเดการ์ดปฏิเสธที่จะนำร่างของชายหนุ่มที่ฝังอยู่ในสุสานที่ติดกับอารามของท่านออกไป แม้ว่าจะขัดต่อความต้องการของบรรดาเจ้าหน้าที่ของสังฆมณฑลก็ตาม ชายหนุ่มคนนี้เคยถูกขับออกจากพระศาสนจักรมาก่อน แต่หลังจากที่เขาได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต นักบุญฮิลเดการ์ดก็รู้สึกว่า ตัวของชายหนุ่มคนนั้นได้ทำการคืนดีกับพระศาสนจักรแล้ว
การกระทำของท่านดังกล่าว ทำให้อารามของท่านต้องถูกคำสั่งห้ามโดยบิชอปและคณะสงฆ์แห่งเมืองไมนซ์ (Mainz) อีกหลายเดือนผ่านไปก่อนที่คำสั่งห้ามจะถูกยกเลิก และนักบุญฮิลเดการ์ดเสียชีวิตในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 1179 ก่อนที่คำสั่งห้ามจะถูกยกเลิก ท่านถูกฝังไว้ในวัดที่เมืองรูเพิร์ตสเบิร์ก (Rupertsburg) เมื่ออารามถูกทำลายในปีค.ศ. 1632 พระธาตุของท่านจึงถูกย้ายไปที่เมืองโคโลญ (Cologne) และที่เมืองไอบิงเงน
หลังจากที่นักบุญฮิลเดการ์ดเสียชีวิต ท่านได้รับการเคารพนับถือมากขึ้นกว่าในช่วงชีวิตที่ท่านมีชีวิตอยู่ ตามคำบอกเล่าของ “ธีโอดอริก (Theodoric)” ผู้เขียนชีวประวัติของท่าน ท่านเป็นนักบุญมาโดยตลอด และจากการวิงวอนของท่าน อัศจรรย์มากมายก็เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 (Pope Benedict XVI) ทรงประกาศให้นักบุญฮิลเดการ์ดเป็นนักบุญอย่างเป็นทางการ และทรงวางรากฐานสำหรับการแต่งตั้งให้ท่านเป็นนักบุญของพระศาสนจักร 5 เดือนต่อมา ท่านได้กลายเป็นนักบุญของพระศาสนจักรอย่างเป็นทางการ ทำให้ท่านเป็นสตรีคนที่ 4 จากบรรดานักบุญ 35 คนที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าวจากพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเรียกนักบุญฮิลเดการ์ดว่า "มีความสำคัญเสมอมา" และ "เป็นครูสอนด้านเทววิทยาอย่างแท้จริงและเป็นนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ด้านธรรมชาติและดนตรี"
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 (Pope Benedict XVI) ทรงประกาศให้นักบุญฮิลเดการ์ดเป็นนักบุญอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 และทรงวางรากฐานสำหรับการแต่งตั้งให้ท่านเป็นนักบุญของพระศาสนจักร 5 เดือนต่อมา ท่านได้กลายเป็นนักบุญของพระศาสนจักรอย่างเป็นทางการ ทำให้ท่านเป็นสตรีคนที่ 4 จากบรรดานักบุญ 35 คนที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าวจากพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเรียกนักบุญฮิลเดการ์ดว่า "มีความสำคัญเสมอมา" และ "เป็นครูสอนด้านเทววิทยาอย่างแท้จริงและเป็นนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ด้านธรรมชาติและดนตรี"
ปล. หากมีการแปลผิดพลาดประการใด หรือข้อมูลผิดพลาด แอดมินก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญฮิลเดการ์ดแห่งบิงเกน #คณะเบเนดิกติน #เบเนดิกติน #นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร #นักเขียน #นักแต่งเพลง #นักปราชญ์ #รหัสนิก #นิมิต #อาราม #หนังสือ #catholic #SaintHildegardOfBingen #benedictine #OSB #DoctorOfTheChurch #mystic #vision #HeiligeHildegardVanBingen
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/185F4QB5E7/