เรื่องของเรื่องคือ เราหวังพึ่งแคลเซียม ในนมถั่วเหลืองงาดำ UHT ที่กินอยู่ประจำ
แต่เพิ่งไปอ่านเจอมาว่า ถั่วเหลืองและงาดำ มี Oxalate และ Phytate (phytic acid) สูง
ซึ่งสารสองตัวนี้ จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ
เลยเป็นกังวลว่า ปริมาณแคลเซียมสูงๆที่เขียนไว้ข้างกล่องนั่น ร่างกายจะดูดซึมได้จริงๆแค่นิดเดียวรึเปล่า
เลยอยากทราบว่า
ในกระบวนการทำนมถั่วเหลือง UHT จะสามารถทำลาย Oxalate และ Phytate (phytic acid) ไปได้เยอะไหมคะ
(ข้อมูลวิธีการทำนมถั่วเหลือง UHT จากเว็บของแลคตาซอย)
(จริงๆเรากินยี่ห้อดีน่า แต่ก็น่าจะใช้วิธีเดียวกันแหละ)
" ยูเอชที เป็นกรรมวิธีการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ โดยนำน้ำนมถั่วเหลืองดิบ
ไปผ่านกระบวนการให้ความร้อนสูง ประมาณ 137-140 องศาเซลเซียส เป็นเวลาสั้นๆเพียง 4-15 วินาที
แล้วจึงนำมาบรรจุกล่อง
ข้อดีของกรรมวิธีนี้คือ น้ำนมถั่วเหลืองสามารถคงคุณค่าทางสารอาหาร สี กลิ่น และรสชาติไว้ได้นานถึง 10 เดือน
โดยไม่ต้องแช่เย็นหรือเติมสารกันบูด "
Oxalate และ Phytate (phytic acid) ในถั่วเหลือง จะถูกทำลายไปได้มากแค่ไหน ในกระบวนการทำเป็นนมถั่วเหลือง UHT คะ
แต่เพิ่งไปอ่านเจอมาว่า ถั่วเหลืองและงาดำ มี Oxalate และ Phytate (phytic acid) สูง
ซึ่งสารสองตัวนี้ จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ
เลยเป็นกังวลว่า ปริมาณแคลเซียมสูงๆที่เขียนไว้ข้างกล่องนั่น ร่างกายจะดูดซึมได้จริงๆแค่นิดเดียวรึเปล่า
เลยอยากทราบว่า
ในกระบวนการทำนมถั่วเหลือง UHT จะสามารถทำลาย Oxalate และ Phytate (phytic acid) ไปได้เยอะไหมคะ
(ข้อมูลวิธีการทำนมถั่วเหลือง UHT จากเว็บของแลคตาซอย)
(จริงๆเรากินยี่ห้อดีน่า แต่ก็น่าจะใช้วิธีเดียวกันแหละ)
" ยูเอชที เป็นกรรมวิธีการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ โดยนำน้ำนมถั่วเหลืองดิบ
ไปผ่านกระบวนการให้ความร้อนสูง ประมาณ 137-140 องศาเซลเซียส เป็นเวลาสั้นๆเพียง 4-15 วินาที
แล้วจึงนำมาบรรจุกล่อง
ข้อดีของกรรมวิธีนี้คือ น้ำนมถั่วเหลืองสามารถคงคุณค่าทางสารอาหาร สี กลิ่น และรสชาติไว้ได้นานถึง 10 เดือน
โดยไม่ต้องแช่เย็นหรือเติมสารกันบูด "