หลายคนคงเคยได้ยินชื่อหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินอย่าง FCA (Financial Conduct Authority) จากอังกฤษ และ FINMA (Swiss Financial Market Supervisory Authority) จากสวิตเซอร์แลนด์กันมาบ้างใช่ไหมคะ แต่เคยสงสัยไหมว่าหน่วยงานไหนที่มีความเข้มงวดและปลอดภัยมากกว่ากัน? วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่าทั้งสองหน่วยงานนี้มีความแตกต่างและน่าสนใจอย่างไรบ้างค่ะ
1. ความปลอดภัยของธนาคารไม่ได้แปลว่าปลอดภัย 100%
หลายคนอาจคิดว่าธนาคารเป็นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเงินของเรา แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีความเสี่ยงอยู่นะคะ ตัวอย่างเช่น ธนาคาร Silicon Valley Bank ในสหรัฐฯ และ Credit Suisse ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยประสบปัญหาทางการเงินจนถึงขั้นล้มละลาย ดังนั้น การที่โบรกเกอร์ไหนมีใบอนุญาตธนาคารก็ไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัยเสมอไป โดยเฉพาะถ้าเงินของเราไปอยู่กับธนาคารที่ไม่น่าเชื่อถือ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงไม่น้อยเลยค่ะ
2. ใบอนุญาตธนาคารของ FINMA มีความหมายที่กว้างกว่าที่คิด
FINMA กำหนดว่าโบรกเกอร์ที่รับฝากเงินเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินของบุคคลที่สามต้องมีใบอนุญาตธนาคาร ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่า "ธนาคาร" ในสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้หมายถึงธนาคารแบบที่เราคุ้นเคยเสมอไปค่ะ บางบริษัทที่ทำธุรกิจคล้าย ๆ กับโบรกเกอร์ก็ต้องขอใบอนุญาตนี้เช่นกัน ดังนั้น ใบอนุญาตธนาคารของ FINMA อาจไม่แข็งแรงเท่าที่เราคิด
3. รูปแบบการกำกับดูแล : FCA กับ FINMA ใครแข็งแกร่งมากกว่ากัน?
FCA ของอังกฤษมีการกำกับดูแลแบบ " Twin Peaks " หรือที่เรียกว่า Twin Peaks Regulation คือการดูแลทั้งพฤติกรรมของบริษัทและความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งถือว่าเข้มข้นและครอบคลุมมากค่ะ ในขณะที่ FINMA ของสวิตเซอร์แลนด์เน้นไปที่การกำกับดูแลด้านความเสี่ยงเพียงอย่างเดียว ทำให้ FCA ดูจะมีความละเอียดและเข้มงวดกว่า
4. ระบบการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้า
FCA มีโครงการ FSCS (Financial Services Compensation Scheme) ที่คุ้มครองเงินของลูกค้าสูงสุดถึง 85,000 ปอนด์ต่อบัญชี ถ้าบริษัทที่เราลงทุนล้มละลายก็ยังพออุ่นใจได้ค่ะ ในขณะที่ FINMA มีโครงการประกันเงินฝากสูงสุด 100,000 ฟรังก์สวิส แม้ว่าจำนวนเงินจะใกล้เคียงกัน แต่ในแง่ของประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ FCA ดูจะมีความพร้อมและมั่นคงมากกว่า
5. ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ
FCA มีประสบการณ์ด้านการกำกับดูแลมานานกว่า FINMA โดยเริ่มใช้ระบบกำกับดูแลแบบ" Twin Peaks " มาตั้งแต่ปี 1995 ส่วน FINMA เริ่มมีการกำกับดูแลในรูปแบบปัจจุบันหลังปี 2009 ดังนั้น FCA จึงมีประสบการณ์มากกว่าและสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ดีกว่า
📍สรุป 📍
ถ้าพูดถึงความเข้มงวดและการคุ้มครองลูกค้า FCA ของอังกฤษดูจะได้เปรียบกว่า FINMA ของสวิตเซอร์แลนด์ เพราะมีระบบการกำกับดูแลที่ครอบคลุมและมีประสบการณ์ยาวนานกว่า รวมถึงโครงการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้าที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกใช้บริการจากโบรกเกอร์ไหนก็ควรพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยนะคะ ไม่ใช่แค่ใบอนุญาตเพียงอย่างเดียว
FCA อังกฤษและ FINMA สวิตเซอร์แลนด์ : ใครคือผู้นำด้านความปลอดภัยทางการเงิน?
1. ความปลอดภัยของธนาคารไม่ได้แปลว่าปลอดภัย 100%
หลายคนอาจคิดว่าธนาคารเป็นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเงินของเรา แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีความเสี่ยงอยู่นะคะ ตัวอย่างเช่น ธนาคาร Silicon Valley Bank ในสหรัฐฯ และ Credit Suisse ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยประสบปัญหาทางการเงินจนถึงขั้นล้มละลาย ดังนั้น การที่โบรกเกอร์ไหนมีใบอนุญาตธนาคารก็ไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัยเสมอไป โดยเฉพาะถ้าเงินของเราไปอยู่กับธนาคารที่ไม่น่าเชื่อถือ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงไม่น้อยเลยค่ะ
2. ใบอนุญาตธนาคารของ FINMA มีความหมายที่กว้างกว่าที่คิด
FINMA กำหนดว่าโบรกเกอร์ที่รับฝากเงินเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินของบุคคลที่สามต้องมีใบอนุญาตธนาคาร ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่า "ธนาคาร" ในสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้หมายถึงธนาคารแบบที่เราคุ้นเคยเสมอไปค่ะ บางบริษัทที่ทำธุรกิจคล้าย ๆ กับโบรกเกอร์ก็ต้องขอใบอนุญาตนี้เช่นกัน ดังนั้น ใบอนุญาตธนาคารของ FINMA อาจไม่แข็งแรงเท่าที่เราคิด
3. รูปแบบการกำกับดูแล : FCA กับ FINMA ใครแข็งแกร่งมากกว่ากัน?
FCA ของอังกฤษมีการกำกับดูแลแบบ " Twin Peaks " หรือที่เรียกว่า Twin Peaks Regulation คือการดูแลทั้งพฤติกรรมของบริษัทและความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งถือว่าเข้มข้นและครอบคลุมมากค่ะ ในขณะที่ FINMA ของสวิตเซอร์แลนด์เน้นไปที่การกำกับดูแลด้านความเสี่ยงเพียงอย่างเดียว ทำให้ FCA ดูจะมีความละเอียดและเข้มงวดกว่า
4. ระบบการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้า
FCA มีโครงการ FSCS (Financial Services Compensation Scheme) ที่คุ้มครองเงินของลูกค้าสูงสุดถึง 85,000 ปอนด์ต่อบัญชี ถ้าบริษัทที่เราลงทุนล้มละลายก็ยังพออุ่นใจได้ค่ะ ในขณะที่ FINMA มีโครงการประกันเงินฝากสูงสุด 100,000 ฟรังก์สวิส แม้ว่าจำนวนเงินจะใกล้เคียงกัน แต่ในแง่ของประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ FCA ดูจะมีความพร้อมและมั่นคงมากกว่า
5. ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ
FCA มีประสบการณ์ด้านการกำกับดูแลมานานกว่า FINMA โดยเริ่มใช้ระบบกำกับดูแลแบบ" Twin Peaks " มาตั้งแต่ปี 1995 ส่วน FINMA เริ่มมีการกำกับดูแลในรูปแบบปัจจุบันหลังปี 2009 ดังนั้น FCA จึงมีประสบการณ์มากกว่าและสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ดีกว่า
📍สรุป 📍
ถ้าพูดถึงความเข้มงวดและการคุ้มครองลูกค้า FCA ของอังกฤษดูจะได้เปรียบกว่า FINMA ของสวิตเซอร์แลนด์ เพราะมีระบบการกำกับดูแลที่ครอบคลุมและมีประสบการณ์ยาวนานกว่า รวมถึงโครงการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้าที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกใช้บริการจากโบรกเกอร์ไหนก็ควรพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยนะคะ ไม่ใช่แค่ใบอนุญาตเพียงอย่างเดียว