นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่า เกิดในครอบครัวอาชีพเกษตรกรในประเทศอิตาลีเมื่อปีค.ศ. 1247 เมื่ออายุได้ 7 ขวบ มารดาของท่านเสียชีวิต และอีก 2 ปีต่อมา บิดาของท่านแต่งงานใหม่ แต่น่าเสียดายที่แม่เลี้ยงของท่านไม่ใส่ใจท่าน ท่านเป็นเด็กสาวที่มีสเน่ห์มาก และกระหายความรักที่ที่บ้านท่านไม่ได้ให้ อัศวินหนุ่มจากเมืองมอนติปุลชาโน (Montepulciano) ชักชวนให้ท่านหนีไปกับเขาเมื่ออายุได้ 12 ปี และถึงแม้เขาจะสัญญาว่า จะแต่งงานกับท่าน แต่เขาก็ไม่ทำ ท่านอาศัยอยู่กับเขาอย่างเปิดเผยในฐานะภรรยาน้อยของเขาเป็นเวลา 9 ปี ทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่กับท่าน และได้ให้กำเนิดบุตรชายแก่เขา
วันหนึ่งหลังจากที่เขาไม่ได้กลับจากการไปเยี่ยมที่ดินบางส่วนของเขา สุนัขของครอบครัวก็กลับมาโดยไม่มีเขาไปด้วย ท่านตั้งใจออกตามหาเขาโดยติดตามสุนัขที่นำท่านไปหาศพของเขา พบว่าเขาถูกฆาตกรรม ท่านรู้สึกสำนึกเสียใจทันทีที่ได้ห่างเหินจากพระเจ้าและครอบครัวของท่าน ท่านได้มอบทรัพย์สินทั้งหมดที่มีให้กับครอบครัวของคนรักที่เสียชีวิตไป และกลับบ้านเพื่อพยายามคืนดีกับบิดาของท่าน อย่างไรก็ตาม ด้วยคำยุยงของแม่เลี้ยง บิดาของท่านจึงปฏิเสธที่จะรับนักบุญมาร์กาเร็ตและลูกชายของท่านเข้าบ้าน
ด้วยความสิ้นหวัง ท่านจึงไปหาที่พักพิงกับบรรดาฤาษีคณะฟรังซิสกัน (Franciscan) ในเมืองคอร์โตน่า (Cortona) เมื่อมาถึงที่นั่นท่านพบผู้หญิง 2 คนที่สงสารท่านและรับท่านเข้ามาอยู่ด้วย พวกเขายังแนะนำท่านให้รู้จักกับบรรดาฤาษีคณะฟรังซิสกันที่ให้คำแนะนำแก่ท่านด้วย ท่านดิ้นรนต่อสู้กับการผจญล่อลวงในชีวิตก่อนหน้านี้ของท่าน สลับไปมาระหว่างช่วงของความปีติยินดีและความสิ้นหวัง ท่านพยายามต่อสู้กับการผจญล่อลวงโดยกิจใช้โทษบาปของท่านในรูปแบบที่มากเกินไป เช่น ไปร่วมพิธีมิสซาที่เมืองมอนติปุลชาโนพร้อมกับมีเชือกผูกคอ แต่บรรดาฤาษีแนะนำท่านให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่เกินเลยเช่นนั้น และแนะนำให้ท่านพยายามค้นหาสันติสุขโดยการช่วยเหลือผู้อื่น ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นและเริ่มต้นชีวิตด้วยการสวดภาวนาและดูแลคนป่วยกับคนยากจน ท่านได้ย้ายออกจากบ้านของผู้หญิงที่รับท่านมาอยู่ยังกระท่อมเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งท่านใช้ชีวิตด้วยเงินทานซึ่งท่านให้กับคนยากจนเป็นหลักและเก็บเงินไว้เองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โลโก้ คณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM)
เครื่องแบบนักบวช คณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM)
ภายในเวลา 3 ปี ท่านก็สามารถเอาชนะการผจญล่อลวงและเข้าถึงระดับจิตวิญญาณที่สูงขึ้นได้ จากนั้นท่านจึงพยายามสมัครเป็นสมาชิกคณะที่ 3 ของคณะนักบุญฟรังซิส (Third Order of Saint Francis) เมื่อประทับใจกับความจริงใจในการกลับใจของท่าน บรรดาฤาษีจึงรับท่านเข้าคณะ ไม่นานหลังจากนั้น ลูกชายของท่านได้เข้าเรียนที่โรงเรียนห่างไกลจากบ้าน และในที่สุดก็ได้เข้าคณะฟรังซิสกัน ดูเหมือนว่า ท่านจะเข้าถึงระดับจิตวิญญาณที่พัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและเป็นส่วนตัวกับพระเจ้า
โลโก้ คณะที่ 3 ของคณะนักบุญฟรังซิส (Third Order of Saint Francis)
คณะที่ 3 ของคณะนักบุญฟรังซิส (Third Order of Saint Francis)
ในปีค.ศ. 1286 บิชอปแห่งนครอาเรซโซ (Arezzo) ได้มอบใบอนุญาตให้แก่ท่านเพื่อให้ท่านสามารถดำเนินงานเพื่ออภิบาลคนป่วยและคนยากจนต่อไปได้อย่างถาวร ในที่สุด ท่านได้เปิดโรงพยาบาลร่วมกับบรรดาสตรีคณะฟรังซิสกันคนอื่นๆที่ท่านได้จัดตั้งเป็นหมู่คณะ
แต่บททดสอบของท่านยังไม่จบ เนื่องจากนักบุญมาร์กาเร็ตเคยใช้ชีวิตที่ตกอยู่ในบาปมาก่อน จึงมีบางคนสงสัยในความจริงใจของท่านและเริ่มใส่ร้ายความสัมพันธ์ของท่านกับบรรดาภราดา ข่าวลือที่น่าอับอายเหล่านี้กดดันจนคณะฟรังซิสกันต้องย้ายที่ปรึกษาฝ่ายจิตวิญญาณคนสำคัญของท่าน คือ “ฟรา จุนต้า (Fra Giunta)” ไปยังอารามที่ห่างไกลเพื่อหยุดยั้งข่าวลือที่น่าอับอายเหล่านี้ ในช่วงเวลาหนึ่ง แม้แต่ความสามารถในการสวดภาวนาของท่านก็ยังได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ท่านต้องอดทนต่อบททดสอบเหล่านี้และยังคงสวดภาวนาต่อไป โดยยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างนบนอบและถ่อมตน วันหนึ่งระหว่างสวดภาวนาท่านได้รับกระแสเรียกของพระเจ้า ให้ผู้อื่นมาหาพระองค์ด้วยการเทศน์สอน
นักบุญมาร์กาเร็ตเริ่มเทศนาเรื่องการกลับใจ ความพยายามของท่านได้รับการตอบรับ และชื่อเสียงของท่านก็แพร่หลายออกไป มีผู้กลับใจเลื่อมใสมากมายจากการเทศน์สอนของท่าน และผู้คนมาจากทั่วทุกแห่งในประเทศอิตาลี , สเปน และฝรั่งเศส นอกจากนี้ ท่านยังมีอัศจรรย์ในการรักษาโรคอีกด้วย แม้แต่ชาวเมืองคอร์โตน่าที่ไม่ไว้วางใจท่านก็ยังยอมรับในตัวท่าน
นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1297 เมื่ออายุได้ 50 ปี ท่านได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นนักบุญในวันที่ท่านเสียชีวิต และชาวเมืองคอร์โตน่าจึงได้สร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านนักบุญ นักบุญมาร์กาเร็ตได้รับการประกาศให้เป็นนักบุญในปี ค.ศ. 1728 โดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 13 (Pope Benedict XIII) วันฉลองของท่านตรงกับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 13 (Pope Benedict XIII) ประกาศให้นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่า (Saint Margaret of Cortona) เป็นนักบุญในปี ค.ศ. 1728
นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่าไม่ได้เริ่มต้นชีวิตในฐานะนักบุญ แต่ท่านกลับแสดงจุดอ่อนต่อสิ่งผจญล่อลวงมากมาย ซึ่งท่านเอาชนะได้ด้วยการสวดภาวนาและการทำความดี ท่านคือนักบุญในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเราอย่างแน่นอน และเป็นผู้ที่เราควรจะสวดภาวนาขอให้กลับใจใหม่สำหรับตัวเราเองและสังคมที่เราอาศัยอยู่
ปล. หากมีการแปลผิดพลาดประการใด หรือข้อมูลผิดพลาด แอดมินก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่า #คณะฟรังซิสกัน #ฟรังซิสกัน #คณะฆราวาสฟรังซิสกัน #ฆราวาสฟรังซิสกัน #ฆราวาส #ประเทศอิตาลี #อิตาลี #กลับใจ #catholic #SaintMargaretOfCortona #franciscan #SecularFranciscanOrder #OFS #italy #repentance #SantaMargaritaDeCortona
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/15ui6XAJQi/
ชีวประวัติ นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่า (Saint Margaret of Cortona - Santa Margherita da Cortona)
นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่า เกิดในครอบครัวอาชีพเกษตรกรในประเทศอิตาลีเมื่อปีค.ศ. 1247 เมื่ออายุได้ 7 ขวบ มารดาของท่านเสียชีวิต และอีก 2 ปีต่อมา บิดาของท่านแต่งงานใหม่ แต่น่าเสียดายที่แม่เลี้ยงของท่านไม่ใส่ใจท่าน ท่านเป็นเด็กสาวที่มีสเน่ห์มาก และกระหายความรักที่ที่บ้านท่านไม่ได้ให้ อัศวินหนุ่มจากเมืองมอนติปุลชาโน (Montepulciano) ชักชวนให้ท่านหนีไปกับเขาเมื่ออายุได้ 12 ปี และถึงแม้เขาจะสัญญาว่า จะแต่งงานกับท่าน แต่เขาก็ไม่ทำ ท่านอาศัยอยู่กับเขาอย่างเปิดเผยในฐานะภรรยาน้อยของเขาเป็นเวลา 9 ปี ทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่กับท่าน และได้ให้กำเนิดบุตรชายแก่เขา
วันหนึ่งหลังจากที่เขาไม่ได้กลับจากการไปเยี่ยมที่ดินบางส่วนของเขา สุนัขของครอบครัวก็กลับมาโดยไม่มีเขาไปด้วย ท่านตั้งใจออกตามหาเขาโดยติดตามสุนัขที่นำท่านไปหาศพของเขา พบว่าเขาถูกฆาตกรรม ท่านรู้สึกสำนึกเสียใจทันทีที่ได้ห่างเหินจากพระเจ้าและครอบครัวของท่าน ท่านได้มอบทรัพย์สินทั้งหมดที่มีให้กับครอบครัวของคนรักที่เสียชีวิตไป และกลับบ้านเพื่อพยายามคืนดีกับบิดาของท่าน อย่างไรก็ตาม ด้วยคำยุยงของแม่เลี้ยง บิดาของท่านจึงปฏิเสธที่จะรับนักบุญมาร์กาเร็ตและลูกชายของท่านเข้าบ้าน
ด้วยความสิ้นหวัง ท่านจึงไปหาที่พักพิงกับบรรดาฤาษีคณะฟรังซิสกัน (Franciscan) ในเมืองคอร์โตน่า (Cortona) เมื่อมาถึงที่นั่นท่านพบผู้หญิง 2 คนที่สงสารท่านและรับท่านเข้ามาอยู่ด้วย พวกเขายังแนะนำท่านให้รู้จักกับบรรดาฤาษีคณะฟรังซิสกันที่ให้คำแนะนำแก่ท่านด้วย ท่านดิ้นรนต่อสู้กับการผจญล่อลวงในชีวิตก่อนหน้านี้ของท่าน สลับไปมาระหว่างช่วงของความปีติยินดีและความสิ้นหวัง ท่านพยายามต่อสู้กับการผจญล่อลวงโดยกิจใช้โทษบาปของท่านในรูปแบบที่มากเกินไป เช่น ไปร่วมพิธีมิสซาที่เมืองมอนติปุลชาโนพร้อมกับมีเชือกผูกคอ แต่บรรดาฤาษีแนะนำท่านให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่เกินเลยเช่นนั้น และแนะนำให้ท่านพยายามค้นหาสันติสุขโดยการช่วยเหลือผู้อื่น ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นและเริ่มต้นชีวิตด้วยการสวดภาวนาและดูแลคนป่วยกับคนยากจน ท่านได้ย้ายออกจากบ้านของผู้หญิงที่รับท่านมาอยู่ยังกระท่อมเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งท่านใช้ชีวิตด้วยเงินทานซึ่งท่านให้กับคนยากจนเป็นหลักและเก็บเงินไว้เองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โลโก้ คณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM)
เครื่องแบบนักบวช คณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM)
ภายในเวลา 3 ปี ท่านก็สามารถเอาชนะการผจญล่อลวงและเข้าถึงระดับจิตวิญญาณที่สูงขึ้นได้ จากนั้นท่านจึงพยายามสมัครเป็นสมาชิกคณะที่ 3 ของคณะนักบุญฟรังซิส (Third Order of Saint Francis) เมื่อประทับใจกับความจริงใจในการกลับใจของท่าน บรรดาฤาษีจึงรับท่านเข้าคณะ ไม่นานหลังจากนั้น ลูกชายของท่านได้เข้าเรียนที่โรงเรียนห่างไกลจากบ้าน และในที่สุดก็ได้เข้าคณะฟรังซิสกัน ดูเหมือนว่า ท่านจะเข้าถึงระดับจิตวิญญาณที่พัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและเป็นส่วนตัวกับพระเจ้า
โลโก้ คณะที่ 3 ของคณะนักบุญฟรังซิส (Third Order of Saint Francis)
คณะที่ 3 ของคณะนักบุญฟรังซิส (Third Order of Saint Francis)
ในปีค.ศ. 1286 บิชอปแห่งนครอาเรซโซ (Arezzo) ได้มอบใบอนุญาตให้แก่ท่านเพื่อให้ท่านสามารถดำเนินงานเพื่ออภิบาลคนป่วยและคนยากจนต่อไปได้อย่างถาวร ในที่สุด ท่านได้เปิดโรงพยาบาลร่วมกับบรรดาสตรีคณะฟรังซิสกันคนอื่นๆที่ท่านได้จัดตั้งเป็นหมู่คณะ
แต่บททดสอบของท่านยังไม่จบ เนื่องจากนักบุญมาร์กาเร็ตเคยใช้ชีวิตที่ตกอยู่ในบาปมาก่อน จึงมีบางคนสงสัยในความจริงใจของท่านและเริ่มใส่ร้ายความสัมพันธ์ของท่านกับบรรดาภราดา ข่าวลือที่น่าอับอายเหล่านี้กดดันจนคณะฟรังซิสกันต้องย้ายที่ปรึกษาฝ่ายจิตวิญญาณคนสำคัญของท่าน คือ “ฟรา จุนต้า (Fra Giunta)” ไปยังอารามที่ห่างไกลเพื่อหยุดยั้งข่าวลือที่น่าอับอายเหล่านี้ ในช่วงเวลาหนึ่ง แม้แต่ความสามารถในการสวดภาวนาของท่านก็ยังได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ท่านต้องอดทนต่อบททดสอบเหล่านี้และยังคงสวดภาวนาต่อไป โดยยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างนบนอบและถ่อมตน วันหนึ่งระหว่างสวดภาวนาท่านได้รับกระแสเรียกของพระเจ้า ให้ผู้อื่นมาหาพระองค์ด้วยการเทศน์สอน
นักบุญมาร์กาเร็ตเริ่มเทศนาเรื่องการกลับใจ ความพยายามของท่านได้รับการตอบรับ และชื่อเสียงของท่านก็แพร่หลายออกไป มีผู้กลับใจเลื่อมใสมากมายจากการเทศน์สอนของท่าน และผู้คนมาจากทั่วทุกแห่งในประเทศอิตาลี , สเปน และฝรั่งเศส นอกจากนี้ ท่านยังมีอัศจรรย์ในการรักษาโรคอีกด้วย แม้แต่ชาวเมืองคอร์โตน่าที่ไม่ไว้วางใจท่านก็ยังยอมรับในตัวท่าน
นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1297 เมื่ออายุได้ 50 ปี ท่านได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นนักบุญในวันที่ท่านเสียชีวิต และชาวเมืองคอร์โตน่าจึงได้สร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านนักบุญ นักบุญมาร์กาเร็ตได้รับการประกาศให้เป็นนักบุญในปี ค.ศ. 1728 โดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 13 (Pope Benedict XIII) วันฉลองของท่านตรงกับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 13 (Pope Benedict XIII) ประกาศให้นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่า (Saint Margaret of Cortona) เป็นนักบุญในปี ค.ศ. 1728
นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่าไม่ได้เริ่มต้นชีวิตในฐานะนักบุญ แต่ท่านกลับแสดงจุดอ่อนต่อสิ่งผจญล่อลวงมากมาย ซึ่งท่านเอาชนะได้ด้วยการสวดภาวนาและการทำความดี ท่านคือนักบุญในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเราอย่างแน่นอน และเป็นผู้ที่เราควรจะสวดภาวนาขอให้กลับใจใหม่สำหรับตัวเราเองและสังคมที่เราอาศัยอยู่
ปล. หากมีการแปลผิดพลาดประการใด หรือข้อมูลผิดพลาด แอดมินก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งคอร์โตน่า #คณะฟรังซิสกัน #ฟรังซิสกัน #คณะฆราวาสฟรังซิสกัน #ฆราวาสฟรังซิสกัน #ฆราวาส #ประเทศอิตาลี #อิตาลี #กลับใจ #catholic #SaintMargaretOfCortona #franciscan #SecularFranciscanOrder #OFS #italy #repentance #SantaMargaritaDeCortona
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/15ui6XAJQi/