"ผู้ที่ดูถูกผู้อื่น ก็ตาม
ผู้ที่ตื่นเต้นในความใหญ่โตของผู้อื่น ก็ตาม
ล้วนเป็นผู้ไม่อยู่ในความหมายของคำว่า...
ผู้วางเฉย แต่เป็นผู้ขาดสติ เพราะผู้...วางเฉย
เป็นผู้มีสติ...ทุกเมื่อ
ผู้วางเฉย เป็นผู้ไม่ดูถูกผู้อื่น
เพราะไม่เห็นว่า...ผู้อื่นต่ำต้อยกว่าตน
ไม่เห็นว่า ตนสูงกว่าผู้อื่น
ผู้วางเฉยมีสติทุกเมื่อ ย่อมไม่ตื่นเต้นในความใหญ่โต ของผู้อื่น เพราะไม่เห็นว่า...
ผู้อื่นสูงกว่าตน ไม่เห็นว่า ตนต่ำกว่าผู้อื่น
ความสำคัญตนว่า เสมอเขานั้น...
มีได้เป็นสองนัย คือสำคัญตนว่าเสมอกับ
ผู้ที่ต่ำต้อย เมื่อมีความสำคัญตนนี้เกิดขึ้น
ก็ต้องมีความน้อยเนื้อต่ำใจ มีความแฟบลง
ของใจ
เพราะย่อมสำคัญตนเลยไปถึงว่าตนต่ำกว่า
ผู้มีภาวะฐานะสูง นี้เป็นนัยหนึ่งของความสำคัญตนว่า...เสมอเขา
ความสำคัญตนว่า เสมอเขาอีกนัยหนึ่ง
คือ สำคัญตนว่าเสมอกับผู้ที่สูงด้วยภาวะ และฐานะ เมื่อความสำคัญตนเช่นนี้เกิดขึ้น ก็ต้องมีความลำพองใจยกตนข่มท่าน มีความฟูขึ้นของจิตใจ เพราะย่อมสำคัญตนเลยไปถึงว่า...ตนสูงกว่าผู้ที่มีภาวะฐานะต่ำต้อย
ความไม่วางเฉย ไม่มี...สติทุกเมื่อ
เป็นเหตุให้เกิดกิเลสเครื่องฟูขึ้น และแฟบลง
ของจิตใจ เพราะความไม่วางเฉย เป็นทางให้
เกิดความสำคัญตนสามประการ คือ...
สำคัญตนว่า...
เสมอกับเขา
ดีกว่าเขา
ต่ำกว่าเขา
ความสำคัญตนทั้งสามประการ
มีแต่โทษสถานเดียว ไม่มี...คุณอย่างใด
จึงควรอบรมความวางเฉยให้มาก พยายาม
ตัดความรู้สึกสำคัญตนดังกล่าวให้สิ้น จะได้
รับความสงบสุขยิ่งนัก."
---------------------------------------------------------------‐-----
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
ปล่อยวางได้จริงต้องไม่ดูถูกคนอื่น
ผู้ที่ตื่นเต้นในความใหญ่โตของผู้อื่น ก็ตาม
ล้วนเป็นผู้ไม่อยู่ในความหมายของคำว่า...
ผู้วางเฉย แต่เป็นผู้ขาดสติ เพราะผู้...วางเฉย
เป็นผู้มีสติ...ทุกเมื่อ
ผู้วางเฉย เป็นผู้ไม่ดูถูกผู้อื่น
เพราะไม่เห็นว่า...ผู้อื่นต่ำต้อยกว่าตน
ไม่เห็นว่า ตนสูงกว่าผู้อื่น
ผู้วางเฉยมีสติทุกเมื่อ ย่อมไม่ตื่นเต้นในความใหญ่โต ของผู้อื่น เพราะไม่เห็นว่า...
ผู้อื่นสูงกว่าตน ไม่เห็นว่า ตนต่ำกว่าผู้อื่น
ความสำคัญตนว่า เสมอเขานั้น...
มีได้เป็นสองนัย คือสำคัญตนว่าเสมอกับ
ผู้ที่ต่ำต้อย เมื่อมีความสำคัญตนนี้เกิดขึ้น
ก็ต้องมีความน้อยเนื้อต่ำใจ มีความแฟบลง
ของใจ
เพราะย่อมสำคัญตนเลยไปถึงว่าตนต่ำกว่า
ผู้มีภาวะฐานะสูง นี้เป็นนัยหนึ่งของความสำคัญตนว่า...เสมอเขา
ความสำคัญตนว่า เสมอเขาอีกนัยหนึ่ง
คือ สำคัญตนว่าเสมอกับผู้ที่สูงด้วยภาวะ และฐานะ เมื่อความสำคัญตนเช่นนี้เกิดขึ้น ก็ต้องมีความลำพองใจยกตนข่มท่าน มีความฟูขึ้นของจิตใจ เพราะย่อมสำคัญตนเลยไปถึงว่า...ตนสูงกว่าผู้ที่มีภาวะฐานะต่ำต้อย
ความไม่วางเฉย ไม่มี...สติทุกเมื่อ
เป็นเหตุให้เกิดกิเลสเครื่องฟูขึ้น และแฟบลง
ของจิตใจ เพราะความไม่วางเฉย เป็นทางให้
เกิดความสำคัญตนสามประการ คือ...
สำคัญตนว่า...
เสมอกับเขา
ดีกว่าเขา
ต่ำกว่าเขา
ความสำคัญตนทั้งสามประการ
มีแต่โทษสถานเดียว ไม่มี...คุณอย่างใด
จึงควรอบรมความวางเฉยให้มาก พยายาม
ตัดความรู้สึกสำคัญตนดังกล่าวให้สิ้น จะได้
รับความสงบสุขยิ่งนัก."
---------------------------------------------------------------‐-----
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร