อัตตา....อนัตตา

วันนี้ป้าขอเปลี่ยนแนว ปกติป้าจะมาแนวท่องเที่ยว
.
ก่อนอื่นป้าขอออตัวก่อนว่า ป้าไม่ได้แตกฉานเรื่องศาสนา ไม่ว่าจะศาสนาใดๆ และเรื่องที่ป้าเอามาเขียนนี่ก็ไม่ได้อ้างอิงหลักศาสนาแต่อย่างใด ป้าเขียนเพราะคิดว่ามัน “เป็นแบบนี้” บทความนี้ป้าเขียนไว้นานแล้ว เอามาปัดฝุ่นใหม่ เพราะอยากให้แนวคิดหรือแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อ่านเท่านั้น
 
คนไทย นับถือศาสนาพุทธ น้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินคำว่า “อัตตา” และ “อนัตตา” คำสองคำนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะมันคือความ "มีตัวตน" กับ "ไม่มีตัวตน" 
.
ในความคิดป้า ถ้าอยากจะเข้าใจคำว่าอัตตา เราคงต้องเข้าใจคำว่าอนัตตาก่อน และถ้าอยากเข้าใจคำว่าอนัตตาเราคงต้องเข้าใจคำว่าอัตตาก่อน 
เอ้า....ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่กันล่ะ ลองมาทำความเข้าใจความคิดของป้าซักหน่อย เผื่อมันจะชัดเจนขึ้น
 
อนัตตา คือ ความไม่มีตัวตน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอยู่จริง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ภาพที่เราเห็น เสียงที่เราได้ยิน ลาภยศ สรรเสริญ แม้แต่ตัวตนของเรา ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติขึ้น การมองสิ่งรอบตัวว่าไม่มีอยู่จริง ไม่แน่นอน อาจเปลี่ยนแปลงได้ นั่นคืออนัตตา....เอ้าเข้าใจยากไปอี๊ก
 
ทุกคนคงนึกภาพของอนัตตาไม่ออก เพราะเราอยู่ในภาพของ “อัตตา” นั่นก็คือความมีตัวตน สิ่งต่างๆ มีตัวตน เป็นของเรา เป็นองค์ประกอบของตัวเรา มีทรัพย์สมบัติเป็นของเรา มียศตำแหน่ง มีชื่อเรียก ฯลฯ

อ้าวก็มันจริงไม่ใช่หรือ ตัวเรามีอยู่จริง จับต้องได้ หยิกก็เจ็บ แล้วทำไมมาบอกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่จริงล่ะ ลองตามมาดูกันค่ะ
 
คำถามแรก...อะไรทำให้เกิดอัตตา
 
สิ่งแรกที่ทำให้เรารู้สึกมีตัวตนก็คือ “สัมพัส” เช่น การมองเห็น ได้ยิน รู้สึก รู้รส การได้สัมพันธ์กับผู้อื่น พูดคุย มีอารมณ์ ความรู้สึก มีความต้องการ ทำให้เราคิดว่าตัวเรามีอยู่จริง และยิ่งใหญ่ ดังนั้นเราจึงต้องหาสิ่งต่างๆ มาสนองความพอใจในสัมพัสต่างๆ เช่น ความสวยงาม เพลงเพราะๆ เมื่อได้มาเราก็จะรู้สึกชัดเจนว่าตัวเรามีอยู่จริง บางคนมีอำนาจตัดสินคนได้ เปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ ถ้าเราไม่มีตัวตนสิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร...จริงมั๊ย
 
ลองคิดใหม่...เราเป็นเพียงคนหนึ่งคนในโลกซึ่งแสนกว้างใหญ่ ใหญ่เสียจนเรารู้ว่าไม่มีใครสามารถเดินทางไปทุกซอกทุกมุมของโลกได้
 
คำถาม...เรายังจะมีตัวตนอยู่ไหมเมื่อเทียบกับโลกอันกว้างใหญ่  
 
คิดต่อ.....โลกเราเป็นบริวารของดวงอาทิตย์ ในระบบสุริยะจักรวาลซึ่งมีดาวทั้งหมด 8 ดวง (ปัจจุบันนับดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์น้อย) โลกเป็นดาวบริวารดวงเล็กๆ ขนาดประมาณจุดหนึ่งจุด เมื่อเทียบกับดาวบริวารใหญ่ๆ เช่นดาวพฤหัส 


 โลก คือลูกกลมล่างซ้าย เทียบกับดาวพฤหัสแล้วเหลือนิดเดียว

ดาวพฤหัสที่ว่าใหญ่เมื่อนำไปเทียบกับดวงอาทิตย์ จะเหลือขนาดเล็กๆ ในขณะที่โลกใหญ่กว่าจุดนิดนึง ระยะทางจากโลกไปดวงอาทิตย์ก็แสนไกลใช้ยานอวกาศที่ความเร็วสูงสุดในปัจจุบันใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ปี 

เมื่อเอาดาวพฤหัสไปเทียบกับดวงอาทิตย์ เหลือนิดเดียว แล้วโลกล่ะ ใหญ่กว่าจุดหน่อยนึง 

คำถาม...ตอนนี้ตัวเราเหลือแค่ไหน ในระบบสุริยะ....เรายังมีตัวตนอยู่ไหม....เห็น "อนัตตา" หรือยัง

ถ้ายัง....คิดต่อไปอีก....
ดวงอาทิตย์ที่แสนใหญ่ของเราอยู่ในกาแลคซี่ทางช้างเผือกที่มีดาวฤกษ์เป็นบริวารนับแสนล้านดวง 
เมื่อเทียบขนาดของดวงอาทิตย์กับดาวดวงใหญ่ชื่อ Arcturus (ไม่กล้าสะกดเพราะกลัวอ่านไม่ถูก) ซึ่งมีศูนย์กลางประมาณ 2,800,000,000 ก.ม.แล้ว ดวงอาทิตย์จะมีขนาดเล็กนิดเดียว เพราะดาว Arcturus นี้ถ้าใช้เครื่องบินไอพ่นความเร็ว 900 กม./ชม. เดินทางรอบเส้นศูนย์สูตรแล้ว จะใช้เวลาถึง 1,100 ปี ในการเดินทาง 

ลองเทียบขนาดดาว Arcturus กับดวงอาทิตย์ แล้วหาโลกเจอมั๊ย ในภาพนี้หาโลกไม่เจอแล้วใช่มั๊ย แล้วตัวตนของเรา เหลือแค่ไหนแล้ว
 
ยังไม่จบ...
เมื่อนำดาว Arcturus ไปเทียบกับดาวฤกษ์ดวงใหญ่อื่นๆ ก็จะพบว่า Arcturus มีขนาดเล็กนิดเดียว ในรูปมองหาดวงอาทิตย์ที่แสนจะยิ่งใหญ่ของเราเจอมั๊ย  นี่แค่ในแกแลคซี่ทางช้างเผือกของเรานะ

เมื่อเทียบกับดาวฤกษ์ดวงอื่น Arcturus เหลือแค่นิดเดียว ดวงอาทิตย์เหลือแค่จุดเล็กๆ จุดหนึ่ง
 
คิดต่ออีก....กาแลคซี่ทางช้างเผือกที่แสนจะยิ่งใหญ่ของเราก็เป็นเพียงจุดเล็กๆ เมื่อเทียบกับเอกภพ ที่มีกาแลคซี่อยู่กว่า 100,000 กาแลคซี่ แต่ละกาแลคซี่มีขนาดที่ยิ่งใหญ่จนกลบความใหญ่ของกาแลคซี่ทางช้างเผือกไปได้อย่างตกขอบ 
ความกว้างของเอกภพที่ได้จากการคำนวณ กว้างถึง 14 พันล้าน ปีแสง ( 1 ปีแสงคือระยะทางที่แสงเดินทางใช้เวลา 1 ปี ด้วยความเร็ว 299,792 ก.ม./วินาที หรือ 186,291 ไมล์/วินาที)

แล้วตอนนี้ตัวตนของเราอยู่ที่ไหน เทียบกับจักรวาลที่กว้างใหญ่ได้ไหม..พอมองเห็นอนัตตาหรือยัง 
 
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีตัวตนอย่างที่สองก็คือเวลา 
อายุของคนเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราอยู่ในโลกเต็มที่ 100 ปี ฟังดูนานใช่ไหม แม้ว่าปัจจุบันคนที่อยู่เกินร้อยเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่ออายุขนาดนั้น สังขารก็เสื่อมโทรม แทบจะไม่สามารถทำอะไรได้อีก และในที่สุดก็ตายไปตามธรรมชาติ
เวลา 100 ปี.....ตัวตนของเราอยู่ตรงไหนในร้อยปีนี้ล่ะ 

เรามองว่าก้อนกรวดไม่สำคัญ ไม่มีค่า 
แต่รู้ไหมก้อนกรวดทุกก้อนมีอายุเป็นล้านปี คุณกล้าเอาตัวเองไปเทียบหรือ?? อายุของคุณเทียบไม่ได้กับก้อนกรวดเพียงก้อนเดียว

ก้อนกรวดทุกก้อนอายุเกินล้านปี มนุษย์กล้าเทียบรุ่นกับเค้ามั๊ย

จักรวาลเกิดขึ้นเมื่อ 15,000 ล้านปี ที่แล้ว ดวงอาทิตย์มีอายุประมาณ 5,000 ล้านปี น้อยกว่าจักรวาลถึงหนึ่งหมื่นล้านปี สิ่งมีชีวิตสิ่งแรกกำเนิดขึ้นเมื่อ 3,300 ล้านปีที่แล้ว ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปเมื่อ 135 ล้านปีที่แล้ว มนุษย์คนแรกเพิ่งเริ่มต้นวิวัฒนาการจากลิงเมื่อ 7 ล้านปีที่แล้ว วิวัฒนาการเดินตัวตรง เมื่อ 150,00 ปีที่แล้ว เริ่มมีอารยธรรมเมื่อ 35,000 ปีที่แล้วนี้เอง แล้วเราล่ะ เกิดมาแค่ 100 ปี จะไปเทียบกับ 15,000 ล้านปี ได้ไหม 
เรายังมีตัวตนอยู่ไหม พอมองเห็นอนัตตาหรือยัง
 
เรื่องของเวลา...อีกเรื่อง
บนโลกมีTime Zone ที่แตกต่างกัน ถึง 39 เขต แล้วเขตไหนคือเวลาที่แท้จริงล่ะ
ลองดู Content นี้ แล้วตอบหน่อย ว่าเวลาที่ไหนเป็นจริง 

เที่ยวบินย้อนเวลา บินขึ้นในปี 2025 แต่ลงจอดในปี 2024 

เรื่องนี้เป็นไปได้จริง เพราะเครื่องบินขึ้นจากฝั่งตะวันออก เช่น ประเทศไทย และเดินทางไปยังประเทศฝั่งตะวันตก เช่น ยุโรป ซึ่งเวลาจะช้ากว่าฝั่งตะวันออก แล้วเวลาฝั่งไหนเป็นจริงล่ะ เวลาที่เราเดินทางไปต่างประเทศ เรานับเวลาที่ไหน ที่ไทย หรือที่ประเทศนั้น แล้วเวลาที่ไหนคือเวลาจริง

นั่นหมายถึงเวลาก็ไม่มีอยู่จริง เป็นสิ่งที่สมมุติขึ้น 
แล้ว....เรามีตัวตนจริงไหม....พอมองเห็นอนัตตาหรือยัง
 
ไปต่อ....ทุกคนทราบดีว่าร่างกายประกอบด้วยเซลเล็กๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านเซลที่ทำให้เรามีชีวิต คิด และทำทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ทุกวันนี้ ทั้ง 5 หมื่นล้านเซลทำงานประกอบกันเป็นตัวเรา คำถาม...ใน ห้าหมื่นล้านเซลนี้ ตัวตนของเราอยู่ที่เซลไหน...!!

 

ยังไม่จบ...แต่ละวันมีเซลที่ตายแล้วถูกขับออกมามากกว่า 50 ล้านเซลต่อวัน รับรองได้ว่าตั้งแต่วันที่คุณปฏิสนธิในท้องของแม่ จนถึงวันนี้ไม่มีเซลเดิมเหลืออยู่แน่นอน 

คำถาม...ตัวตนของคุณอยู่ที่ไหน อยู่ในเซลที่ถูกผลัดออกไปแล้ว หรือยังอยู่ ณ ขณะนี้ 
 
คำถาม...คุณมีตัวตนจริงไหม เข้าใจ "อนัตตา" หรือยัง

ตัวตนที่เราคิดว่ายิ่งใหญ่ แท้จริงแล้วแทบจะไม่มีอยู่จริงเลย ทั้งในแง่ของขนาด เวลา และแม้แต่องค์ประกอบระดับเซล เป็นสิ่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
 
เอ้า.....ก็กำลังนั่งอ่านบทความอยู่นี่ไง 
คำถาม...ปัจจุบันอยู่ตรงไหน ??
รู้สึกไหมว่า ตอนที่คุณเริ่มอ่านบทความ มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว 
.
ตอนนี้เป็นปัจจุบัน ?? จริงมั๊ย
แน่ใจไหมว่าเป็นปัจจุบัน??
.
ลองหายใจลึกๆ 
เมื่อคุณหายใจออก ลมหายใจเข้าของคุณก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว....จริงหรือไม่ 
คำถาม...ปัจจุบันมีจริงหรือไม่ เกิดขึ้นตอนไหน 
แล้วตัวคุณอยู่ตรงไหน 
อนัตตา" คืออะไร

เมื่อเห็นดังนี้แล้ว จะเห็นว่าตัวตนของเราที่เคยคิดว่ายิ่งใหญ่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย
ไม่มีอะไรเป้นตัวตนเลย
.
ตอบได้หรือยังว่า “อนัตตา” คืออะไร

ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต ขออภัยที่ไม่ได้บันทึกไว้ว่ามาจากเว็บไหนบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่