EP นี้ ป้าขอตอบคำถามที่เพื่อนๆ ป้าถามมา อาจมีสาระไปหน่อยนะ
ถาม 1 : แสงเหนือคืออะไร
ตอบ : แสงเหนือมีลักษณะเป็นแนวสว่างสีต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียว เห็นได้ในเวลากลางคืน มักเห็นในพื้นที่ที่อยู่เหนือละติจูด 66 ½ องศาเหนือ (Arctic Circle) หรือขั้วโลกเหนือ เรียกว่าแสงเหนือ และ ใต้ละติจูด 66 ½ องศาใต้ (Antarctic Circle) หรือขั้วโลกใต้ เรียกว่าแสงใต้ แต่เรามักจะไม่พูดถึงแสงใต้ เพราะขั้วโลกใต้ ไม่มีประเทศอยู่ มีแต่สถานีทดลองของบางประเทศเท่านั้น ป้าขอแทนด้วยคำว่า “แสงเหนือ” นะ จะได้ไม่งง เรื่องที่น่าสนใจคือพื้นที่เหนือ Arctic Circle จะมีปรากฏการณ์ “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” คือเห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเดือน มิ.ย. และ “รัตติกาลเที่ยงวัน” คือไม่เห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเดือน ธ.ค. และกลับกัน พื้นที่ที่อยู่ใต้ Antarctic Circle จะมีปรากฏการณ์ “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” คือเห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเดือน ธ.ค. และ “รัตติกาลเที่ยงวัน” คือไม่เห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเดือน มิ.ย.
ถาม 2 : แสงเหนือเกิดจากอะไร
ตอบ : ตอบแบบบ้านๆ ให้เข้าใจง่ายๆ คือ เกิดจากพลังงานที่ปล่อยมาจากดวงอาทิตย์ ชนกับก๊าซในชั้นบรรยากาศ บริเวณขั้วโลกและสนามแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดปฏิกิริยาเป็นแสงสีต่างๆ ขึ้นกับว่าไปกระทบกับก๊าซชนิดใด ส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียวเพราะกระทบกับออกซิเจน
โดยปกติแสงเหนือจะแรงในช่วงที่เกิดจุดดับบนดวงอาทิตย์ (Sun spot) การเกิดจุดดับนี้มีรอบการเกิดอยู่ที่ 11 ปี ช่วงที่เกิดปรากฏการณ์จุดดับบนดวงอาทิตย์นี้ จะเกิดพายุสุริยะ และเปลวสุริยะ ส่งผลให้แสงเหนือแรงกว่าปกติ สำหรับรอบนี้อยู่ในช่วง กลางปี 2567 - กลางปี 2568 โดยประมาณ ถ้าใครติดตามข่าวจะพบว่ามีข่าวแสงเหนือที่แรงระดับ 9 ในเดือน พ.ค.และ ต.ค.67 สามารถเห็นได้นอกเขตที่เห็นแสงเหนือประจำ
ถาม 3 : แสงพวกนี้มีให้เห็นทุกวันไหม
ตอบ : ไม่ได้มีทุกวัน สมัยป้าเรียนภูมิศาสตร์ ป้าคิดว่ามันมีทุกวัน แต่พอป้าไปจริงถึงได้รู้ว่ามันไม่ได้มีทุกวัน ขึ้นกับปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ แม้วันที่มีก็ไม่สามารถเห็นได้ทุกครั้ง การจะเห็นแสงเหนือได้ จะต้องมีสถานการณ์ประกอบคือ ความสว่างของแสงแต่ละวัน ซึ่งมากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์ พยากรณ์ล่วงหน้าได้แค่ 3 วัน (เป็นระยะเวลาที่รังสีจากดวงอาทิตย์เดินทางมาถึงโลก) และจะให้แม่นจริงๆ ก็แค่ชั่วโมงเดียว (รังสีที่เดินทางมาทำปฏิกิริยากับสนามแม่เหล็กโลกมาก/น้อยแค่ไหน) นอกจากนี้แสงก็ไม่ได้สว่างจนเห็นได้ด้วยตาเปล่าทุกวัน ดังนั้นสถานที่ที่เราไปดูควรมีแสงสว่างน้อยเหมือนกับจะไปดูดาวนั่นแหละ ช่วงที่มีกลางคืนยาวโอกาสเห็นจะมากขึ้น และที่สำคัญท้องฟ้าต้องเปิด ซึ่งหมายถึงไม่มีเมฆหมอก หรือพูดง่ายๆ คือ “ดวง” นั่นเอง
ถาม 4 : ไปดูแสงเหนือได้ที่ไหนบ้างแล้วที่ไหนแสงเหนือสวย
ตอบ : ประเทศแถบขั้วโลกเหนือ (อยู่เหนือเส้น Arctic Circle) เช่น นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ กรีนแลนด์ ตอนเหนือของคานาดา ตอนเหนือของรัสเซีย รัฐอลาสกา ของสหรัฐอเมริกา หรือจะไปขั้วโลกใต้เลยก็ได้นะ ความสวยของแสงเหนือไม่ได้ขึ้นกับสถานที่แต่ขึ้นกับความแรงของแสงในแต่ละวันมากกว่า ดังนั้นถ้าจะเลือกไปดูที่ไหน ก็เลือกจากปัจจัยอื่นได้เลย เช่น วิวสวย ค่าใช้จ่ายต่ำ ความสะดวกในการเดินทาง ภูมิอากาศ ถ้าเป็นยุโรปเหนือ อลาสกา คานาดา ก็ต้องใช้วีซ่า ขอวีซ่ายาก แต่ประเทศพวกนี้ก็มีความสะดวกในการเดินทางและมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี รัสเซียไม่ต้องใช้วีซ่าอาจไปได้ง่ายกว่าและราคาถูก
ประเทศเหนือ Arctic Circle ที่สามารถเห็นแสงเหนือได้ ภาพนี้เป็นเว็บพยากรณ์แสงเหนือ
ถาม 5 : แล้วต้องไปดูช่วงไหน
ตอบ : ช่วงที่กลางคืนยาวจะเหมาะที่สุดเพราะมีโอกาสเห็นแสงเหนือมากขึ้น ช่วงที่คนนิยมไปคือเดือน ต.ค. - พ.ย. และ ก.พ. - มี.ค. เพราะอากาศหนาวพอทนไหว ช่วง ธ.ค.-ม.ค. กลางคืนยาวจริง แต่อากาศเย็นจัด
ฤดูหนาวเป็นฤดูที่เห็นแสงเหนือได้ดี เพราะกลางคืนยาว แต่อากาศแถบขั้วโลกจะมีความแปรปรวนสูง
ถาม 6 : แสงเหนือที่เห็นด้วยตาเปล่า เหมือนกับในรูปไหม
ตอบ : ถ้า KP 2 – 3 ไม่เลย ดูยังไง ก็เมฆดีๆ นี่แหละ แค่มีสง่าราศีกว่าเมฆทั่วไปนิดหน่อย ต้องใช้กล้องถ่ายรูป จึงจะออกมาเป็นสีเขียวๆ สามารถดาวน์โหลด app “Aurora” เพื่อดูค่า “KP” (Planetary K-index) ซึ่งเป็นค่าวัดระดับของคลื่นแม่เหล็ก ที่จะมาทำปฏิกิริยาทำให้เกิดความสว่างของแสงเหนือ มีระดับตั้งแต่ 0 - 9 คือ
0-1 ไม่เกิดแสงเหนือ กลับไปนอนตีพุงอยู่บ้านได้
2 ดูเหมือนเมฆ ดูเผินๆ นึกว่าเมฆจริงๆ นะ เพราะเป็นปื้นขาวๆ ขมุกขมัว แทบไม่เชื่อว่าใช่ ถ้ารู้จักสักพักจะแยกได้ ว่าปื้นขาวๆ เหมือนเมฆนั้น มีลักษณะเป็นริ้วเป็นเส้น มีสง่าราศรี และเปลี่ยนรูปร่างเร็ว ถ่ายรูปติด
3 เริ่มแยกออกว่าไม่ใช่เมฆ เพราะมีแสงเขียวๆ ปนกับไอ้กลุ่มเมฆ ในระดับ 2 ถ่ายรูปได้
4 เห็นเป็นสีด้วยตาเปล่าเป็นแผง อาจไม่เข้มข้นนัก
5 ตั้งแต่ KP 5 ขึ้นไป คือระดับที่เห็นในหนังสารคดีเลย
ถ้า KP ต่ำๆ มองด้วยตาเปล่าแสงเหนือ กับเมฆด้านล่าง แทบไม่ต่างกัน
ถาม 7 : ใช้กล้องมือถือถ่ายรูปแสงเหนือได้มั๊ย
ตอบ : รูปที่เอามาลง ใช้กล้องมือถือล้วนๆ ที่ KP 2 – 4 ล้วนๆ ด้วย เพราะวันที่ KP 5 – 6 ฟ้าไม่เปิด ป้าเสียจุย
ถาม 8 : ทำไมถึงใช้คำว่า “ล่า” แสงเหนือ
ตอบ : เพราะการเห็นแสงเหนือ ต้องใช้ “ดวง” ล้วนๆ และต้องไปซุ่มตามที่มืด เหมือนไปล่าสัตว์ ทำไมถึงเรียกว่าดวง เพราะแสงเหนือจะแรงจัดแค่ไหน เชื่อพยากรณ์ล่วงหน้าได้แค่ 3 วัน โปรไฟไหม้ คงไม่ทัน ยิ่งถ้าเป็นประเทศแถบสแกนดิเนเวีย คานาดา อลาสก้า ต้องเตรียมตัวเพื่อขอวีซ่าล่วงหน้านานบางทีเกิน 6 เดือน อากาศบริเวณขั้วโลกมีความแปรปรวนสูง ดังนั้นอาจะเจอเมฆ ฝน หิมะ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ ป้าเองก็ได้เห็นแค่ 3 วัน จาก 12 วัน และวันที่แสงแรงจริง ก็เห็นแบบทะลุเมฆมาหน่อยนึง
พื้นที่ซุ่มดูแสงเหนือ ก็จะมืด เปลี่ยว เหมือนซุ่มล่าสัตว์
ถาม 9 : ค่าใช้จ่ายที่ป้าไป เท่าไหร่
ตอบ : ค่าใช้จ่ายนี้เป็นค่าใช้จ่ายต่อคน 9 คน 14 วัน เป็นเงินบาท
ตั๋วเครื่องบิน : ไปกลับ - กรุงเทพฯ - ออสโล 33,895.00, Oslo – Bodo – Lofoten 6,468.94, Tromso – Oslo 4,134.77
ค่าเช่ารถ :
รับรถจาก Lofoten คืนที่ Tromso 10 วัน 2,000 บาท
ค่าที่พัก :
Lofoten : Work Away Holiday Base Lofoten จำนวน 3 คืน รวม 6,236.33
Gratangen : Arctic Farmhouse Holtåsveien 36 จำนวน 1 คืน รวม 1,304.25
Senja : Polar Panorama Lodge จำนวน 2 คืน รวม 3,621
Sommaroy : Behagliches Haus mit Sauna und Whirpool จำนวน 2 คืน รวม 3,919.39
Tromso : Enter Tromso Exclusive 4 bedroom villa จำนวน 2 คืน รวม 3,495.07
Oslo : Comfort Hotel Express Central Station จำนวน 1 คืน รวม 1,950.23
เงินกองกลาง 25,000 เป็นค่าน้ำมัน อาหาร ของใช้กองกลาง ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ที่ต้องมีค่าเข้า
รวม 90,024.98
อันนี้ไม่ร่วมค่า ทำวีซ่า อาหารแห้ง ถุงทรายร้อน ยา ที่ป้าๆ เก็บเงินกันก่อนเดินทาง ช้อปปิ้ง และใช้จ่ายส่วนตัวนะ
จริงๆ ป้าจองหมาลากเลื่อนไว้ด้วยแต่ฝนตก ถูกยกเลิก
ถาม 10 : ความประทับใจและไม่ประทับใจ
ตอบ :
ความประทับใจ : ความน่าทึ่งของนอร์เวย์ คือ มีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก
มีอัตราความสุขของประชากรสูงที่สุดในโลก มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำสุดในโลก
มีคุณภาพชีวิตดีอันดับต้นๆ ของโลก เป็นต้นแบบของโลก เรื่องเมืองไร้ขยะถึงขนาดต้องนำเข้าขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในฤดูหนาว
.
บ้านเมืองของเขาดูปลอดภัยมาก เห็นได้จากหน้าต่างทุกบานของทุกบ้านไม่มีม่านกั้น มีเพียงกระจกใมองเข้าไปเห็นหมดว่ากำลังทำอะไร มีทรัพย์สมบัติอะไรบ้าง ผู้คนเคารพกฎเกณฑ์
แค่ป้ายืนริมถนนรถทุกคันเบรคแบบหน้าทิ่มให้เราข้าม
ถนนเรียบ ป้าๆ เที่ยวอยู่ 12 วัน รถตกหลุมไม่ถึง 10 ครั้ง
.
ทุกอย่างที่นี่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตมีพนักงานแค่ 2 คน ไว้เติมของ
เราเดินเลือกของไปจ่ายเงินกับเครื่องแล้วเอาใบเสร็จไปสแกนออกจากร้าน สนามบินก็เช็คอินด้วยเครื่อง ปั๊มน้ำมันเติมเอง
แม้แต่แยกขยะ ก็ใช้เครื่องแยกแบบพอโยนลงไปมันจะแยกเป็นขวดไปทาง กระป๋องไปทาง
แล้วมีคูปองให้ไปลดราคาด้วย
แยกขยะ ได้คูปองไปลดราคาด้วย
ไม่ประทับใจ :
คนนอร์เวย์พูดจาสุภาพก็จริง แต่ไม่ค่อยให้บริการ ไม่เหมือนโซนเอเซียที่ดูแลลูกค้าดี
ปัญหาที่พี่พบคือเพื่อนลืมกล้อง go pro ไว้ในรถ บริษัทยันหัวชนฝาว่าหาไม่เจอ เพื่อนป้าต้องยันหัวชนฝาว่ามีและจะไปหาที่รถเอง คุยกันอยู่เป็นครึ่งชั่วโมงถึงยอมไปหาอีกครั้งแล้วก็เจอจริงๆ
บ้านที่พักตอนกลับออกมา เค้าโทรมาว่าหากุญแจไม่เจอ จริงอยู่ป้าไม่ได้วางคืนตามจุดที่เค้าบอก แต่ป้าก็บอกว่าอยู่ที่ไหน เค้าก็ยืนยันว่าหาไม่เจอ ดีที่ป้าๆ ถ่ายรูปกันแล้วบีงเอิญติดจุดที่วางกุญแจส่งไปให้เลยยอมได้
อีกเรื่องคือประกันรถเช่า พอกลับมาแล้ว บริษัทรถส่งเมล์มาเคลม เกือบ 20,000 บาท บอกว่ารถมีรอย ทั้งๆ ที่พวกป้าทำประกันแบบ full coverage มูลค่าร่วม 2 แสนบาทไทย ไอ้รอยนี่ค่าซ่อมเกิน 2 แสนเลยหรือ
นี่เป็นประสบการณ์ของป้าๆ ใครเคยเจออะไร มาแชร์ประสบการณ์ได้นะคะ
ติดตามรีวิววันอื่นๆ ได้ตาม Link
ล่าแสงเหนือ Day 1 - 2 : กรุงเทพฯ - Lofoten :
https://ppantip.com/topic/43157801
ล่าแสงเหนือ Day 3 : Lofoten :
https://ppantip.com/topic/43161435
ล่าแสงเหนือ Day 4 : Lofoten :
https://ppantip.com/topic/43163258
ล่าแสงเหนือ Day 5 : Lofoten - Gratangen :
https://ppantip.com/topic/43166778
ล่าแสงเหนือ Day 6 : Gratangen - Senja :
https://ppantip.com/topic/43174947
ล่าแสงเหนือ Day 7 : Senja Island :
https://ppantip.com/topic/43175240
ล่าแสงเหนือ Day 8 : Senja - Sommaroy :
https://ppantip.com/topic/43178972
ล่าแสงเหนือ Day 9 : Sommaroy :
https://ppantip.com/topic/43180888
ล่าแสงเหนือ Day 10 : Sommaroy - Tromso :
https://ppantip.com/topic/43181727
ล่าแสงเหนือ Day 11 : Tromso :
https://ppantip.com/topic/43183087
ล่าแสงเหนือ Day 12 : Oslo :
https://ppantip.com/topic/43186297?sc=0Z1e71r
หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้ที่เพจ "หลากหลาย by Artima"
https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964
ล่าแสงเหนือ : เก็บตก
ถาม 1 : แสงเหนือคืออะไร
ตอบ : แสงเหนือมีลักษณะเป็นแนวสว่างสีต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียว เห็นได้ในเวลากลางคืน มักเห็นในพื้นที่ที่อยู่เหนือละติจูด 66 ½ องศาเหนือ (Arctic Circle) หรือขั้วโลกเหนือ เรียกว่าแสงเหนือ และ ใต้ละติจูด 66 ½ องศาใต้ (Antarctic Circle) หรือขั้วโลกใต้ เรียกว่าแสงใต้ แต่เรามักจะไม่พูดถึงแสงใต้ เพราะขั้วโลกใต้ ไม่มีประเทศอยู่ มีแต่สถานีทดลองของบางประเทศเท่านั้น ป้าขอแทนด้วยคำว่า “แสงเหนือ” นะ จะได้ไม่งง เรื่องที่น่าสนใจคือพื้นที่เหนือ Arctic Circle จะมีปรากฏการณ์ “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” คือเห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเดือน มิ.ย. และ “รัตติกาลเที่ยงวัน” คือไม่เห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเดือน ธ.ค. และกลับกัน พื้นที่ที่อยู่ใต้ Antarctic Circle จะมีปรากฏการณ์ “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” คือเห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเดือน ธ.ค. และ “รัตติกาลเที่ยงวัน” คือไม่เห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเดือน มิ.ย.
ถาม 2 : แสงเหนือเกิดจากอะไร
ตอบ : ตอบแบบบ้านๆ ให้เข้าใจง่ายๆ คือ เกิดจากพลังงานที่ปล่อยมาจากดวงอาทิตย์ ชนกับก๊าซในชั้นบรรยากาศ บริเวณขั้วโลกและสนามแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดปฏิกิริยาเป็นแสงสีต่างๆ ขึ้นกับว่าไปกระทบกับก๊าซชนิดใด ส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียวเพราะกระทบกับออกซิเจน
โดยปกติแสงเหนือจะแรงในช่วงที่เกิดจุดดับบนดวงอาทิตย์ (Sun spot) การเกิดจุดดับนี้มีรอบการเกิดอยู่ที่ 11 ปี ช่วงที่เกิดปรากฏการณ์จุดดับบนดวงอาทิตย์นี้ จะเกิดพายุสุริยะ และเปลวสุริยะ ส่งผลให้แสงเหนือแรงกว่าปกติ สำหรับรอบนี้อยู่ในช่วง กลางปี 2567 - กลางปี 2568 โดยประมาณ ถ้าใครติดตามข่าวจะพบว่ามีข่าวแสงเหนือที่แรงระดับ 9 ในเดือน พ.ค.และ ต.ค.67 สามารถเห็นได้นอกเขตที่เห็นแสงเหนือประจำ
ถาม 3 : แสงพวกนี้มีให้เห็นทุกวันไหม
ตอบ : ไม่ได้มีทุกวัน สมัยป้าเรียนภูมิศาสตร์ ป้าคิดว่ามันมีทุกวัน แต่พอป้าไปจริงถึงได้รู้ว่ามันไม่ได้มีทุกวัน ขึ้นกับปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ แม้วันที่มีก็ไม่สามารถเห็นได้ทุกครั้ง การจะเห็นแสงเหนือได้ จะต้องมีสถานการณ์ประกอบคือ ความสว่างของแสงแต่ละวัน ซึ่งมากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์ พยากรณ์ล่วงหน้าได้แค่ 3 วัน (เป็นระยะเวลาที่รังสีจากดวงอาทิตย์เดินทางมาถึงโลก) และจะให้แม่นจริงๆ ก็แค่ชั่วโมงเดียว (รังสีที่เดินทางมาทำปฏิกิริยากับสนามแม่เหล็กโลกมาก/น้อยแค่ไหน) นอกจากนี้แสงก็ไม่ได้สว่างจนเห็นได้ด้วยตาเปล่าทุกวัน ดังนั้นสถานที่ที่เราไปดูควรมีแสงสว่างน้อยเหมือนกับจะไปดูดาวนั่นแหละ ช่วงที่มีกลางคืนยาวโอกาสเห็นจะมากขึ้น และที่สำคัญท้องฟ้าต้องเปิด ซึ่งหมายถึงไม่มีเมฆหมอก หรือพูดง่ายๆ คือ “ดวง” นั่นเอง
ถาม 4 : ไปดูแสงเหนือได้ที่ไหนบ้างแล้วที่ไหนแสงเหนือสวย
ตอบ : ประเทศแถบขั้วโลกเหนือ (อยู่เหนือเส้น Arctic Circle) เช่น นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ กรีนแลนด์ ตอนเหนือของคานาดา ตอนเหนือของรัสเซีย รัฐอลาสกา ของสหรัฐอเมริกา หรือจะไปขั้วโลกใต้เลยก็ได้นะ ความสวยของแสงเหนือไม่ได้ขึ้นกับสถานที่แต่ขึ้นกับความแรงของแสงในแต่ละวันมากกว่า ดังนั้นถ้าจะเลือกไปดูที่ไหน ก็เลือกจากปัจจัยอื่นได้เลย เช่น วิวสวย ค่าใช้จ่ายต่ำ ความสะดวกในการเดินทาง ภูมิอากาศ ถ้าเป็นยุโรปเหนือ อลาสกา คานาดา ก็ต้องใช้วีซ่า ขอวีซ่ายาก แต่ประเทศพวกนี้ก็มีความสะดวกในการเดินทางและมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี รัสเซียไม่ต้องใช้วีซ่าอาจไปได้ง่ายกว่าและราคาถูก
ประเทศเหนือ Arctic Circle ที่สามารถเห็นแสงเหนือได้ ภาพนี้เป็นเว็บพยากรณ์แสงเหนือ
ถาม 5 : แล้วต้องไปดูช่วงไหน
ตอบ : ช่วงที่กลางคืนยาวจะเหมาะที่สุดเพราะมีโอกาสเห็นแสงเหนือมากขึ้น ช่วงที่คนนิยมไปคือเดือน ต.ค. - พ.ย. และ ก.พ. - มี.ค. เพราะอากาศหนาวพอทนไหว ช่วง ธ.ค.-ม.ค. กลางคืนยาวจริง แต่อากาศเย็นจัด
ฤดูหนาวเป็นฤดูที่เห็นแสงเหนือได้ดี เพราะกลางคืนยาว แต่อากาศแถบขั้วโลกจะมีความแปรปรวนสูง
ถาม 6 : แสงเหนือที่เห็นด้วยตาเปล่า เหมือนกับในรูปไหม
ตอบ : ถ้า KP 2 – 3 ไม่เลย ดูยังไง ก็เมฆดีๆ นี่แหละ แค่มีสง่าราศีกว่าเมฆทั่วไปนิดหน่อย ต้องใช้กล้องถ่ายรูป จึงจะออกมาเป็นสีเขียวๆ สามารถดาวน์โหลด app “Aurora” เพื่อดูค่า “KP” (Planetary K-index) ซึ่งเป็นค่าวัดระดับของคลื่นแม่เหล็ก ที่จะมาทำปฏิกิริยาทำให้เกิดความสว่างของแสงเหนือ มีระดับตั้งแต่ 0 - 9 คือ
0-1 ไม่เกิดแสงเหนือ กลับไปนอนตีพุงอยู่บ้านได้
2 ดูเหมือนเมฆ ดูเผินๆ นึกว่าเมฆจริงๆ นะ เพราะเป็นปื้นขาวๆ ขมุกขมัว แทบไม่เชื่อว่าใช่ ถ้ารู้จักสักพักจะแยกได้ ว่าปื้นขาวๆ เหมือนเมฆนั้น มีลักษณะเป็นริ้วเป็นเส้น มีสง่าราศรี และเปลี่ยนรูปร่างเร็ว ถ่ายรูปติด
3 เริ่มแยกออกว่าไม่ใช่เมฆ เพราะมีแสงเขียวๆ ปนกับไอ้กลุ่มเมฆ ในระดับ 2 ถ่ายรูปได้
4 เห็นเป็นสีด้วยตาเปล่าเป็นแผง อาจไม่เข้มข้นนัก
5 ตั้งแต่ KP 5 ขึ้นไป คือระดับที่เห็นในหนังสารคดีเลย
ถ้า KP ต่ำๆ มองด้วยตาเปล่าแสงเหนือ กับเมฆด้านล่าง แทบไม่ต่างกัน
ถาม 7 : ใช้กล้องมือถือถ่ายรูปแสงเหนือได้มั๊ย
ตอบ : รูปที่เอามาลง ใช้กล้องมือถือล้วนๆ ที่ KP 2 – 4 ล้วนๆ ด้วย เพราะวันที่ KP 5 – 6 ฟ้าไม่เปิด ป้าเสียจุย
ถาม 8 : ทำไมถึงใช้คำว่า “ล่า” แสงเหนือ
ตอบ : เพราะการเห็นแสงเหนือ ต้องใช้ “ดวง” ล้วนๆ และต้องไปซุ่มตามที่มืด เหมือนไปล่าสัตว์ ทำไมถึงเรียกว่าดวง เพราะแสงเหนือจะแรงจัดแค่ไหน เชื่อพยากรณ์ล่วงหน้าได้แค่ 3 วัน โปรไฟไหม้ คงไม่ทัน ยิ่งถ้าเป็นประเทศแถบสแกนดิเนเวีย คานาดา อลาสก้า ต้องเตรียมตัวเพื่อขอวีซ่าล่วงหน้านานบางทีเกิน 6 เดือน อากาศบริเวณขั้วโลกมีความแปรปรวนสูง ดังนั้นอาจะเจอเมฆ ฝน หิมะ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ ป้าเองก็ได้เห็นแค่ 3 วัน จาก 12 วัน และวันที่แสงแรงจริง ก็เห็นแบบทะลุเมฆมาหน่อยนึง
พื้นที่ซุ่มดูแสงเหนือ ก็จะมืด เปลี่ยว เหมือนซุ่มล่าสัตว์
ถาม 9 : ค่าใช้จ่ายที่ป้าไป เท่าไหร่
ตอบ : ค่าใช้จ่ายนี้เป็นค่าใช้จ่ายต่อคน 9 คน 14 วัน เป็นเงินบาท
ตั๋วเครื่องบิน : ไปกลับ - กรุงเทพฯ - ออสโล 33,895.00, Oslo – Bodo – Lofoten 6,468.94, Tromso – Oslo 4,134.77
ค่าเช่ารถ :
รับรถจาก Lofoten คืนที่ Tromso 10 วัน 2,000 บาท
ค่าที่พัก :
Lofoten : Work Away Holiday Base Lofoten จำนวน 3 คืน รวม 6,236.33
Gratangen : Arctic Farmhouse Holtåsveien 36 จำนวน 1 คืน รวม 1,304.25
Senja : Polar Panorama Lodge จำนวน 2 คืน รวม 3,621
Sommaroy : Behagliches Haus mit Sauna und Whirpool จำนวน 2 คืน รวม 3,919.39
Tromso : Enter Tromso Exclusive 4 bedroom villa จำนวน 2 คืน รวม 3,495.07
Oslo : Comfort Hotel Express Central Station จำนวน 1 คืน รวม 1,950.23
เงินกองกลาง 25,000 เป็นค่าน้ำมัน อาหาร ของใช้กองกลาง ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ที่ต้องมีค่าเข้า
รวม 90,024.98
อันนี้ไม่ร่วมค่า ทำวีซ่า อาหารแห้ง ถุงทรายร้อน ยา ที่ป้าๆ เก็บเงินกันก่อนเดินทาง ช้อปปิ้ง และใช้จ่ายส่วนตัวนะ
จริงๆ ป้าจองหมาลากเลื่อนไว้ด้วยแต่ฝนตก ถูกยกเลิก
ถาม 10 : ความประทับใจและไม่ประทับใจ
ตอบ :
ความประทับใจ : ความน่าทึ่งของนอร์เวย์ คือ มีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก
มีอัตราความสุขของประชากรสูงที่สุดในโลก มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำสุดในโลก
มีคุณภาพชีวิตดีอันดับต้นๆ ของโลก เป็นต้นแบบของโลก เรื่องเมืองไร้ขยะถึงขนาดต้องนำเข้าขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในฤดูหนาว
.
บ้านเมืองของเขาดูปลอดภัยมาก เห็นได้จากหน้าต่างทุกบานของทุกบ้านไม่มีม่านกั้น มีเพียงกระจกใมองเข้าไปเห็นหมดว่ากำลังทำอะไร มีทรัพย์สมบัติอะไรบ้าง ผู้คนเคารพกฎเกณฑ์
แค่ป้ายืนริมถนนรถทุกคันเบรคแบบหน้าทิ่มให้เราข้าม
ถนนเรียบ ป้าๆ เที่ยวอยู่ 12 วัน รถตกหลุมไม่ถึง 10 ครั้ง
.
ทุกอย่างที่นี่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตมีพนักงานแค่ 2 คน ไว้เติมของ
เราเดินเลือกของไปจ่ายเงินกับเครื่องแล้วเอาใบเสร็จไปสแกนออกจากร้าน สนามบินก็เช็คอินด้วยเครื่อง ปั๊มน้ำมันเติมเอง
แม้แต่แยกขยะ ก็ใช้เครื่องแยกแบบพอโยนลงไปมันจะแยกเป็นขวดไปทาง กระป๋องไปทาง
แล้วมีคูปองให้ไปลดราคาด้วย
แยกขยะ ได้คูปองไปลดราคาด้วย
ไม่ประทับใจ :
คนนอร์เวย์พูดจาสุภาพก็จริง แต่ไม่ค่อยให้บริการ ไม่เหมือนโซนเอเซียที่ดูแลลูกค้าดี
ปัญหาที่พี่พบคือเพื่อนลืมกล้อง go pro ไว้ในรถ บริษัทยันหัวชนฝาว่าหาไม่เจอ เพื่อนป้าต้องยันหัวชนฝาว่ามีและจะไปหาที่รถเอง คุยกันอยู่เป็นครึ่งชั่วโมงถึงยอมไปหาอีกครั้งแล้วก็เจอจริงๆ
บ้านที่พักตอนกลับออกมา เค้าโทรมาว่าหากุญแจไม่เจอ จริงอยู่ป้าไม่ได้วางคืนตามจุดที่เค้าบอก แต่ป้าก็บอกว่าอยู่ที่ไหน เค้าก็ยืนยันว่าหาไม่เจอ ดีที่ป้าๆ ถ่ายรูปกันแล้วบีงเอิญติดจุดที่วางกุญแจส่งไปให้เลยยอมได้
อีกเรื่องคือประกันรถเช่า พอกลับมาแล้ว บริษัทรถส่งเมล์มาเคลม เกือบ 20,000 บาท บอกว่ารถมีรอย ทั้งๆ ที่พวกป้าทำประกันแบบ full coverage มูลค่าร่วม 2 แสนบาทไทย ไอ้รอยนี่ค่าซ่อมเกิน 2 แสนเลยหรือ
นี่เป็นประสบการณ์ของป้าๆ ใครเคยเจออะไร มาแชร์ประสบการณ์ได้นะคะ
ติดตามรีวิววันอื่นๆ ได้ตาม Link
ล่าแสงเหนือ Day 1 - 2 : กรุงเทพฯ - Lofoten : https://ppantip.com/topic/43157801
ล่าแสงเหนือ Day 3 : Lofoten : https://ppantip.com/topic/43161435
ล่าแสงเหนือ Day 4 : Lofoten : https://ppantip.com/topic/43163258
ล่าแสงเหนือ Day 5 : Lofoten - Gratangen : https://ppantip.com/topic/43166778
ล่าแสงเหนือ Day 6 : Gratangen - Senja : https://ppantip.com/topic/43174947
ล่าแสงเหนือ Day 7 : Senja Island : https://ppantip.com/topic/43175240
ล่าแสงเหนือ Day 8 : Senja - Sommaroy : https://ppantip.com/topic/43178972
ล่าแสงเหนือ Day 9 : Sommaroy : https://ppantip.com/topic/43180888
ล่าแสงเหนือ Day 10 : Sommaroy - Tromso : https://ppantip.com/topic/43181727
ล่าแสงเหนือ Day 11 : Tromso : https://ppantip.com/topic/43183087
ล่าแสงเหนือ Day 12 : Oslo : https://ppantip.com/topic/43186297?sc=0Z1e71r
หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้ที่เพจ "หลากหลาย by Artima"
https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964