ใกล้จะหมดปี 2024 แล้ว มาแชร์ประสบการณ์ "...ที้สุดของชีวิต" กันหน่อยดีมั้ยคะ

เริ่มจาก จขกท.เองเลย  ถ้าที่สุดเลยก็คงจะเป็นการ

เปลี่ยนงานโดยไม่มีเงินเก็บ

คือ ณ ตอนนั้น  มีเงินสำรองในรูปแบบของบัตรกดเงินสดนะคะ  แต่คิดว่าจะไม่ใช้จนถึงที่สุด  แล้วก็ดีใจมากที่ผ่านมาแบบไม่ต้องพึ่งพิงมันได้

อีกก้อนคือเงินฝากประจำ  ซึ่ง  มันถอนออกมาไม่ได้  ถ้าถอนคือมีส่วนที่ต้องเสียด้วย  เพราะเค้า advance ดอกเบี้ยจากเงินฝากให้เราก่อน  ถ้าปิดปุ๊บ  ขาดทุนแน่  ตัวผลประโยชน์ก็จะเสีย

การเปลี่ยนงานใหม่ครั้งนั้น  ส่วนตัวรู้สึกพลาดในช่วงวันที่เริ่มงาน  เพราะที่เก่าเค้าขอเวลาเพิ่มอีก 1 สัปดาห์  ส่วนที่ใหม่บอกว่า  เค้าขอเป็นรอบเริ่มงาน ไม่1ก็16 ของเดือน  เราก็เลย  อะ  งั้นอยู่จนถึง 15 ไปเริ่มใหม่ 16

สรุปว่าในรอบสิ้นเดือนนั้น  การตัดรอบเงินเดือนของที่เก่า  มันจะไปได้อีกทีก็คือสิ้นเดือนถัดไป  ส่วนที่ใหม่  ก็จะได้แค่ครึ่งเดือน (ดีนะที่นี่ตัด 1ชนสิ้นเดือน)

ณ ตอนนั้น  เราได้เงินเดือนครึ่งเดียวค่ะ  เงินเก็บก็ไม่มี  สรุปได้รวมอยู่ที่  11,875  (12500 บาท - ประกันสังคม)  หักประกันสังคมแล้ว

จริงๆ  งานเรามันจะมีค่าอื่นๆนอกเหนือเงินเดือนด้วยนะ  แต่เค้าจะเริ่มให้ในเดือนถัดไป

สตาร์ทชีวิตที่ 11,875  บาท  ใช้ชีวิตอีก 30 วัน  (รอบวันจ่ายเงินไม่ตรงกับที่เดิมด้วย)  

้เดือนที่เปลี่ยนมาน่ะ  ไม่เป็นไรหรอก  แต่เดือนถัดไปหลังจากรับเงินเดือนแรกมาเนี่ยล่ะ

เริ่มจากมาเริ่มคำนวณค่าใช้จ่ายฟิก

โอเค...ทำงานทั้งหมด 22 วัน

- จ่ายค่าห้องรวมน้ำไฟ  และเน็ตมือถือ  ตียอดกลมๆอยู่ที่ 8000บาท

- เหลือทั้งหมด 3875 บาท!!

ณ จุดนั้นเข้าใจคนรายได้หลัก 1x,xxx เลยค่ะว่าต้องสู้ชีวิตแค่ไหน   แวบแรกคือ

"กดเงินสดดีมัย  เดี๋ยวค่อยทำคืน 12 งวดแล้วก็โปะเอา"

แต่คิดไปคิดมามันเป็นสิ่งที่เลือกเอง  ชาเล้นจ์ดูสักทีก็ดีเหมือนกัน

- ทำงาน 22 วัน  ค่ารถถูกที่สุดคือเที่ยวละ 8บาท  = วันละ 16 บาท
: รวมค่ารถ 352 บาท

ทั้งนี้ทั้งนั้น  ห้ามตื่นสายเลยแม้แต่วันเดียว  เพราะการเดินทางไปทำงาน  จากคอนโดไปป้ายรถเมล์ประมาณ 1 กม.  และยังต้องเผื่อการจราจรรถติดอีก  ดีที่มันอยู่ห่างจากที่พักไม่มากนัก

- ค่าของใช้เข้าห้อง 500 บาท
: อันนี้คือลำบากจริง  จัดสรรยากมาก  ปกติให้งบตัวเองเยอะกว่านี้  แต่มันไฟลท์บังคับ  เดือนนั้นคือซื้อไว้ได้แค่  ผ้าอนามัย  สบู่ก้อน  แชมพู  ครีมนวดผม  ทิชชู่  ผงซักฟอก (ปกติใช้เป็นน้ำ 🥺)

หลายๆอย่างที่ซื้อมาคือต้องเปลี่ยนเกรดไปโดยปริยายเลย

- อาหาร  
: ต้องใช้ชีวิต 30 วัน  จะมากินมาม่าอย่างเดียวก็น่าจะแย่  วันๆนึงเราเดินทางไปทำงาน  ก็ต้องเดินอย่างน้อย 3 กม.ไปกลับละ  แถมขากลับขึ้นสะพานลอยด้วยนะ

เราก็เลยแบ่งงบเป็น

- ข้าวสาร 200 บ. (ยังไงก็ขอเป็นข้าวหอม)
- ไข่ไก่ 30 ฟอง 150 บ.
- น้ำแพ็ค 600 มล.  น่าจะ 60 บาทได้ตอนนั้น
(อันนี้เราซื้อรอบเดียว  นอกนั้น  เราเอาขวดไปกินที่ทำงานค่ะ 😂)
- น้ำปลา 30 บาท
- น้ำมันพืช 50 บาท
- น้ำจิ้มสุกี้  จำได้ว่าซื้อเป็นแพคมาเพราะถูกกว่า  ไม่เกิน 180 บาทได้สามขวด

ทั้งหมดนี้อ้างอิงราคาจาก 7-11 หมดเลย  เพราะเราใช้วิธีจ่ายเงินผ่านแอพให้เซเว่นมาส่งที่คอนโด  เราก็จะมีหน้าที่แค่หยิบมันขึ้นลิฟต์ไปไว้ห้อง  ดูทรงแล้วน่าจะขนกลับมาจากห้างเองลำบากอยู่

ส่วนผัก  เราจะใช้วิธีแวะตลาดก่อนกลับ  ซื้อมาสัปดาห์ละ 30 บาท  ส่วนใหญ่จะใช้ผักบุ้ง 1 กก. 25 บาท  เพราะกะไว้แล้วว่าจะเอามากินกับน้ำจิ้มสุกี้ที่ซื้อมา  กับไข่


รวมๆ ค่าอาหาร  หมดไปไม่เกิน 800 บาท

รวมค่ารถ ค่าของเข้าห้อง  ค่าอาหาร  ประมาณ 1652 บาท

งบคงเหลือ  อยู่ที่ประมาณ 2223 บาท

**อันนี้เราบอกไว้ก่อน  เราไม่ได้จำแม่นขนาดนั้น  แค่เราจำวิธีคิด ณ ตอนนั้นได้ 😂  แต่ใกล้เคียงเกิน 98% ละ


ตลอดเดือน  สิ่งที่เราทำคือ
วันทำงาน
- เช้า : กินกาแฟฟรี
- เที่ยง : กินข้าวกับไข่ต้มและผักบุ้ง
- เย็น : กินข้าวกับผักบุ้ง
สาเหตุที่เอาไข่ไปไว้มื้อเที่ยง  เพราะเรากินได้แค่วันละใบ  และช่วงเที่ยงมันน่าจะต้องการโปรตีนมากที่สุด

วันหยุด
- ก็เหมือนกันกับวันทำงาน  แค่เราไม่กินกาแฟ  มันเปลือง 😂  ดื่มน้ำตอนเช้าและตลอดวันเอา


ทีนี้ในงบคงเหลือ 2000 กว่าบาทนี้  เรายังมีค่าใช้จ่ายแฝงคือ

- ต้องไปธุระที่นนทบุรี  (เซ็นทรัลเวสเกต)  ซึ่งถ้าเป็นปกติ  เรายอมจ่ายค่าแกร๊บอะค่ะ  เที่ยวละ 200 ก็ไม่ติด  แต่ด้วยสภาพ ณ ตอนนั้น  เราจำเป็นต้องเดินโลกว่าๆ  เพื่อไปขึ้น MRT ห้วยขวางไปบางใหญ่  แล้วเดินอีกโลเพื่อไปห้าง  แล้วก็ย้อนกลับมาแบบเดิม

ค่าใช้จ่ายรวมทั้งวัน 80 บาท  (พกข้าวไปกินเองด้วยนะ  สู้สุดๆ)

- ค่าซ่อมจอมือถือ 1500 บาท  (จริงๆเค้าลดให้จาก 1800 ด้วย)

้หน้าซีดกันเลยทีเดียว  แต่มันจำเป็นอะ  ก็เลยต้องยอมจ่าย

- ธุระแถวสยามอีก  ทุกสัปดาห์  
: ค่ารถไปกลับวันละ 16 บาท  ปริมาณความเหนื่อยพอๆกันกับที่ไปทำงาน  ซึ่งยังพอรับไหว  เหนื่อยน้อยกว่าไปเวสเกตแหละ

- วันหยุดก่อนเงินเดือนออก  มีนัดเกี่ยวกับเรื่องงานกับที่ทำงานอีกที่พระราม9  
: ค่ารถไปกลับ 16 บาท  ความเหนื่อย  อันนี้เหนื่อยพอกับไปเวสเกตเลยค่ะ

รวมทั้งเดือน  จากเด็กที่ติดสบาย เราใช้ชีวิตแบบ

- ต้องเดินไกลเพื่อไปนั่งรถเมล์ไปทำงานทุกวัน

- ตื่นไม่ต่ำกว่าตี 5 แม้แต่วันเดียว (พระเจ้า! คอนโดอยู่ห้วยขวาง  ที่ทำงานอยู่สุทธิสาร  แล้วเข้างาน 8.30 น.  แต่ความกลัวสายตั้งแต่เดือนแรก)

- ทำอาหารกินเองทุกวัน

- งดพบปะสังสรรค์เพื่อนตลอดเดือน

- ไม่ได้ซื้อกาแฟหรือขนมสักแก้วเดียว  ยกเว้นวันสุดท้ายก่อนเงินเดือนจะออก  ที่ได้ซื้อกาแฟเซเว่นและก็กินข้าวตามสั่งมื้อละ 50 บาท และนั่งแกร๊บกลับห้อง

สรุปก่อนเงินเดือนออก  เหลือประมาณ 400 กว่าบาท


เอ้อ  มันก็ยังจะเหลือให้เนอะ 😂


ความภูมิใจของเรื่องนี้คือ
- เราไม่ต้องเป็นหนี้สักบาทเดียว  ไม่ต้องขอใครด้วย
- เราเองก็ขยันทุกวันได้เหมือนกันนะ
- เราไม่ใช่ลูกคุณหนูเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ (แต่เงินเดือนกลับมาก็ขอใช้ชีวิตแบบเดิมเถอะ  แค่เก็บเงินหน่อย)

ความตระหนักรู้ถึงเรื่องนี้คือ
- อย่างน้อยเรามีบัตรอะ  เราคำนวณบัตรเป็น  อย่างน้อยที่สุดเรามั่นใจว่าการทำบัตรไว้แต่ตอนนั้น  มันโคตรจะดีเลย  ถ้าเกิดสะดุดล้มจริงๆ ขึ้นมา  เราก็มีทางเลือกจะไม่เป็นหนี้อยู่ดี

ข้อคิดเตือนใจตัวเองจากเรื่องนี้
- พอมันผ่านสถานการณ์แบบนี้มา  แน่นอนว่าเรื่องเงินสำคัญมาก  งานก็เช่นกัน  ถ้างานไม่มั่นคงล่ะก็  เราจะไม่ปกติสุขแน่ๆ

เพราะฉะนั้นในช่วงก่อนผ่านโปร  เราก็มีความระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้นพอสมควร  และตั้งใจเก็บเงินจริงจังมากขึ้น


คำเตือนสำหรับเพื่อนๆที่จะเริ่มงานใหม่
- ถ้าเค้าเลือกคุณแล้วและคุณมีอำนาจต่อรอง  พิจารณาเรื่องรอบเริ่มงานดีๆ นะคะ อย่างของเรานี่ถ้าย้อนกลับไปได้ เราจะไปเริ่มวันที่ 1 ของเดือนใหม่เลย  ตอนนั้นเรากลัวว่าเค้าจะไม่เอาเราถ้าให้รอนาน

แต่ฝ่ายบุคคลบอกว่า

"พี่เลือกหนูแล้ว  และก็ให้คำมั่นสัญญาแล้วไงด้วยการเซ็นต์สัญญา  พี่รอหนูได้อีกแค่ครึ่งเดือน  ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็น่าจะบอกกันหน่อย  ไม่ได้อยากให้ลำบากเลย  มันคุยกันได้"

ก็นะ  แทนที่จะได้เต็มเดือนเดือนนี้  แล้วอีกเดือนที่แหว่งอยู่จากการตัดรอบที่เก่าก็จะได้ในรอบถัดไป

แต่ก็ดีนะ ประสบการณ์ครั้งนี้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเยอะเลย  แม้มันจะเป็นช่วงเหมือนตกสวรรค์ในระยะเวลาสั้นๆ  ที่พ่อแม่และเพื่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังลำบากอยู่  แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราคงจะไม่ลืม



แล้วคุณล่ะ  มีอะไรอยากเล่าสู่กันฟังก่อนสิ้นปีมั้ยคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่