"เป็นความเห็นส่วนบุคคล ที่คิดแบบนี้ อยากเอามุมมองมาเสนอ ... ใครมีหลักการ ข้อแย้งอื่นๆ ก็แนะนำได้ครับ... บอกไว้ก่อน "
ค่อยๆจินตนาการตาม
เศรษฐกิจบ้านเรา เป็นแบบเก่า บวกกับโครงสร้างประชากรที่ผู้สูงอายุมากขึ้นๆ วัยแรงงานลดลงๆ อัตราตายมากกว่าอัตราเกิด
นับวันต่างชาติจะค่อยๆถอยออกจากตลาดหุ้นบ้านเรา เอาเงินไปลงเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย น่าจะได้ผลตอบแทนมากกว่า
ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ตลาดหุ้นก็ลงลงแบบดิ่งหนัก...
วิธีที่ดี ก็คือการทำยังไง ก็ได้ ให้คนในประเทศ มาซื้อหุ้นไทยกันเยอะๆ ...
เท่าที่เห็น รายการทีวี ช่องเศรษฐกิจ ก็จะเน้น เอารายชื่อหุ้นไทย มาวิเคราะห์ ให้ความหวัง กับนักลงทุนมือใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้าตลาด สัดส่วนเวลา จะน้อยมากที่จะพูดถึงหุ้นต่างประเทศ
เรื่อง SSF ก็พลาดตรง ให้ลงทุนกองต่างประเทศได้ คนลดหย่อนภาษีเลยเทหนักไปที่ ต่างประเทศ เวียดนาม อเมริกา จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ บลาๆ กันหมด เลยขาดเม็ดเงินมาอุ้ม SET ไทย
การมีกอง TESG ก็เหมือนบังคับกลายๆ ว่าต้องลงทุนหุ้นไทย... แต่เนื่องจากที่ผ่านมาหุ้นไทย หลายๆตัว ก็ทำภาพลักษณ์เสียหาย แต่งบัญชีปลอม หลอกนักลงทุน สร้างคู่ค้าหลอกไม่มีจริง แต่งงบให้ดี แล้วก็เชิดเงินหนี
TESG เลยเน้นคำว่าหุ้นดีมีธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม สังคม เพื่อมาเป็นจุดขายใหม่ ให้คนเชื่อถืออีกครั้ง
ทีนี้การมี TESG มีกองวายุภักษ์ ก็จะช่วยให้แก้เกมส์ชาวต่างชาติ...ถ้าต่างชาติขายหุ้น หรือ short future... กองก็จะเอาเงินนี้อัดเข้าไปแสกหน้า + สร้าง story เสริม... ต่างชาติจะขายก็ต้องคิดดีๆ ว่านี่ไง หุ้นเรายังขึ้นนะ ระวังขายหมู ก็จะเป็นการชะลอการลงของ SET เพราะต่างชาติ ต้องใช้วิธีค่อยๆรินขายแทน
ระหว่างนี้ รัฐบาล ก็คงต้องพยายามแก้เกมส์ แก้โครงสร้างประชากร แก้เรื่องเศรษฐกิจแบบเก่า ให้มารองรับแบบใหม่ ถึงตอนนั้น SET ก็จะขึ้นเองจากผลประกอบการที่ดีขึ้น เศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยแรงเงินจากกองทุนมาพยุง
แต่ถ้าแก้ไม่ทันหละ... เราน่าจะเห็นเม่าที่ซื้อ TESG ดอยกันเป็นแถบๆ แบบที่เห็น เม่าซื้อ LTF ช่วง SET 1800 ยังดอยกันอยู่ทีเดียว...
ผมคิดแบบนี้ เป็นความเห็นส่วนตัว... มันถูกไหมครับ หรือผมมโน จุดไหนเกินไป โปรดชี้แนะ...
ปีหน้าๆ เปลี่ยนจาก SSF เป็น TESG ก็เหมือนกับเอาเงินมาพยุง SET หน่อย ไม่อยากให้รั่วไหลไปกองทุนต่างประเทศ ประมาณนี้แหงม
ค่อยๆจินตนาการตาม
เศรษฐกิจบ้านเรา เป็นแบบเก่า บวกกับโครงสร้างประชากรที่ผู้สูงอายุมากขึ้นๆ วัยแรงงานลดลงๆ อัตราตายมากกว่าอัตราเกิด
นับวันต่างชาติจะค่อยๆถอยออกจากตลาดหุ้นบ้านเรา เอาเงินไปลงเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย น่าจะได้ผลตอบแทนมากกว่า
ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ตลาดหุ้นก็ลงลงแบบดิ่งหนัก...
วิธีที่ดี ก็คือการทำยังไง ก็ได้ ให้คนในประเทศ มาซื้อหุ้นไทยกันเยอะๆ ...
เท่าที่เห็น รายการทีวี ช่องเศรษฐกิจ ก็จะเน้น เอารายชื่อหุ้นไทย มาวิเคราะห์ ให้ความหวัง กับนักลงทุนมือใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้าตลาด สัดส่วนเวลา จะน้อยมากที่จะพูดถึงหุ้นต่างประเทศ
เรื่อง SSF ก็พลาดตรง ให้ลงทุนกองต่างประเทศได้ คนลดหย่อนภาษีเลยเทหนักไปที่ ต่างประเทศ เวียดนาม อเมริกา จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ บลาๆ กันหมด เลยขาดเม็ดเงินมาอุ้ม SET ไทย
การมีกอง TESG ก็เหมือนบังคับกลายๆ ว่าต้องลงทุนหุ้นไทย... แต่เนื่องจากที่ผ่านมาหุ้นไทย หลายๆตัว ก็ทำภาพลักษณ์เสียหาย แต่งบัญชีปลอม หลอกนักลงทุน สร้างคู่ค้าหลอกไม่มีจริง แต่งงบให้ดี แล้วก็เชิดเงินหนี
TESG เลยเน้นคำว่าหุ้นดีมีธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม สังคม เพื่อมาเป็นจุดขายใหม่ ให้คนเชื่อถืออีกครั้ง
ทีนี้การมี TESG มีกองวายุภักษ์ ก็จะช่วยให้แก้เกมส์ชาวต่างชาติ...ถ้าต่างชาติขายหุ้น หรือ short future... กองก็จะเอาเงินนี้อัดเข้าไปแสกหน้า + สร้าง story เสริม... ต่างชาติจะขายก็ต้องคิดดีๆ ว่านี่ไง หุ้นเรายังขึ้นนะ ระวังขายหมู ก็จะเป็นการชะลอการลงของ SET เพราะต่างชาติ ต้องใช้วิธีค่อยๆรินขายแทน
ระหว่างนี้ รัฐบาล ก็คงต้องพยายามแก้เกมส์ แก้โครงสร้างประชากร แก้เรื่องเศรษฐกิจแบบเก่า ให้มารองรับแบบใหม่ ถึงตอนนั้น SET ก็จะขึ้นเองจากผลประกอบการที่ดีขึ้น เศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยแรงเงินจากกองทุนมาพยุง
แต่ถ้าแก้ไม่ทันหละ... เราน่าจะเห็นเม่าที่ซื้อ TESG ดอยกันเป็นแถบๆ แบบที่เห็น เม่าซื้อ LTF ช่วง SET 1800 ยังดอยกันอยู่ทีเดียว...
ผมคิดแบบนี้ เป็นความเห็นส่วนตัว... มันถูกไหมครับ หรือผมมโน จุดไหนเกินไป โปรดชี้แนะ...