คือเราเองเป็นโรคซึมเศร้าแบบเป็นจริงๆอะค่ะเป็นมาเป็น 10 ปีกว่าแล้ว แล้วก็ได้รับการรักษาอยู่ตลอด
ซึ่งเราก็รู้ตัวนะคะว่า ในบางครั้งบางอารมณ์เราก็แบบมีความวิตกกังวลขี้ระแวงค่ะ ซึ่งก่อนที่เราจะคบกันเราก็เคยบอกเขาแล้วว่าเราอ่ะเป็นโรคซึมเศร้านะ
เป็นโรคซึมเศร้าที่ป่วยจริงไม่ได้ป่วยเพราะกระแส เป็นมาเป็น 10 ปีกว่าแล้ว คือเป็นภาวะที่สารเคมีในสมองรวนไปหมดแล้วค่ะ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ว่าก่อนหน้านี้เนี่ยเรารักษาจนหยุดกินยามา 2 ปีแล้วค่ะ
แล้วทีนี้ปัญหาก็คือ
ครั้งหนึ่งเราเคยมีความรัก ก่อนที่จะมาเจอเขา
เราเคยโดนนอกใจค่ะ แล้วเราก็อดทน
อยู่กับผู้ชายคนนั้นมานานมาก 6-7 ปี
คือด้วยความคิดเราด้วยค่ะว่าเราอ่ะไม่อยากจะเริ่มต้นใหม่กับใครแล้วก็เลยอดทนพยายามอยู่ต่อไป ส่วนนึงคือเราจดทะเบียนสมรสอยู่กับเขาด้วยค่ะตอนนั้น
แต่ทีนี้ด้วยความที่ว่าเค้าเคยนอกใจเรามาตลอด
มันก็เลยทำให้เราเห็นว่าวิธีการนอกใจของเค้ามีอะไรบ้าง อะไรที่แบบมันเข้าเคล้าจะนอกใจมีอะไรบ้าง
ขนาดอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเค้ายังนอกใจเราได้
คือเค้าทำโดยแบบเนียนมาก คือมันสารพัดรูปแบบวิธีเลยค่ะ
แล้วยอมรับเลยว่าด้วยความที่เป็นโรคซึมเศร้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราก็คอยแต่โทษตัวเองว่าเราไม่ได้มีอะไรดีตรงไหนบ้างเพราะว่าช่วงนั้นที่เราอยู่กับเขาอ่ะเราโดน Gasligth เยอะมากค่ะ แต่ว่าเราไม่รู้นะคะว่าเค้ากำลังทำการ Gaslight เราอยู่
ทีนี้ช่วงนั้นมันก็มีอาการแบบ ไร้คุณค่าหรือสารพัดเลยค่ะว่าฉันทำผิดอะไรมากมายเค้าถึงนอกใจฉันประมาณนั้น คือเราพยายามหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงโดนนอกใจทั้งที่เราดูแลครอบครัวเค้าดีทุกอย่าง แถมตัวเค้าเองอ่ะไม่ทำงานทำการด้วยนะคะตอนนั้น ด้วยความที่ว่าเค้าโดนบีบออกจากงานช่วงโควิด แล้วเค้าก็เป็นคนว่างงานเราทำงานคนเดียวไปเลยค่ะ
แล้วทีนี้มันก็ถึงจุดแตกหักก็คือ อดีตสามีเราได้งานไปทำงานต่างจังหวัดแล้ว เรากับเขาไปหย่ากัน เพราะว่าเมียน้อยของเค้ามาวุ่นวายหนักมาก ก็คือเมียน้อยเค้าก็คือต่างจังหวัดที่เค้าไปทำงานนั่นแหละค่ะ เราก็ไม่ทนค่ะสรุปไปหย่ากัน
พอจบเรื่องนี้ไปก็คือเราก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ค่ะ
คนใหม่ที่เราเจอก็คือเค้าแก่กว่าเรา 16 ปีเค้า 40 กว่า
เขามีความเป็นเป็นผู้ใหญ่ค่ะแล้วก็เป็นคนดีอ่ะ
สำหรับเรานะ แต่เค้าก็อาจจะมีข้อเสียข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นพ่อแม่เค้าไม่ค่อยโอเคกับเรา เค้าบอกว่ามันเป็นเพราะแบบเราเคยแต่งงานมาก่อน แล้วกลัวอดีตสามีเราจะมาทำร้ายลูกชายเขา ประมาณนั้น เราก็เล่าทุกอย่างให้เค้าฟังนะคะว่าเราเป็นยังไงเคยเจออะไรมาบ้างเพราะเราไม่อยากโกหกค่ะ
เราก็บอกเขานะว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่แรก เราเป็นคนค่อนข้างเป็นคนคิดมาก
จริงๆเลยก็คือไม่อยากเปิดใจให้ใครเลยค่ะเพราะว่ารู้ตัวเองแล้วก็กลัวว่าจะทำความรักพังเพราะว่าก่อนหน้านี้ เราเหมือนเราโดนแก๊สมาเยอะว่า เราอ่ะไม่มีอะไรดีซักอย่างทำทุกอย่างพังหมดในชีวิตความรัก
แต่ว่าปัญหาก็คือ
เราเป็นคนคิดมาก งี่เง่าในบางเรื่อง
ตอนแรกยอมรับนะคะว่ายังไม่ได้รักเขามากขนาดนั้น
แต่ทุกวันนี้คือเรารักเค้ามากเลยค่ะ
แล้วเหมือนกับเหตุการณ์อะไรหลายอย่าง
มันก็ทำให้เรากับเขามีเรื่องทะเลาะกัน
ทั้งเรื่องที่เราผิด อันนี้เราเองก็ยอมรับค่ะ
เอาจริงแต่รูปช่วงที่เราทำผิดหนักๆมันไม่ใช่ช่วงที่เรารักเค้ามากนะคะ เราก็เลยไม่ได้คิดถึงใจเขาเท่าไหร่ค่ะตอนนั้นยอมรับเลย แต่ว่าไม่ได้มีเรื่องการนอกใจอะไรนะคะเพราะว่าเราก็ไม่ใช่คนแบบนั้น
เค้าอาจจะมีเรื่องที่เขาผิดบ้าง แต่ข้อเสียเขาคือเค้าเป็นคนไม่ขอโทษ เลยค่ะ
แต่เรารู้สึกว่า ช่วงเนี่ยเรางี่เง่า ขี้ระแวง มากเลยค่ะ
เรางี่เง่าจนทำให้เขารู้สึกแบบอยากเลิกกับเราหรือรู้สึกแย่มากๆ มันเหมือนกับว่าเราไม่เชื่อใจเขาเราก็เลยทำให้มันเป็นเรื่องทะเลาะกันขึ้นมา
อันนี้ส่วนตัวยอมรับเลยว่ามันไม่ใช่ความผิดของเค้าเลย ที่ต้องมาแบกรับประสบการณ์ความรักที่เราโดนนอกใจมาก่อนแล้วเราเป็นคนขี้ระแวงไปเลยอะค่ะ
คือเค้าบอกว่าเค้าไม่ได้คิดอะไร
แต่พฤติกรรมของเค้ามันคล้ายกับอดีตสามีของเราที่แบบ เคยนอกใจเรามาก่อน
ยกตัวอย่างเช่นกระทู้ก่อนหน้านี้
ที่เราถามว่าเราใจแคบไหมที่เราไม่โอเคกับการที่เค้าไปเที่ยวกับเพื่อนเค้าสองคน แบบผู้ชายผู้หญิงไป กันสองคน คือเราก็บอกตามตรงค่ะว่าเราไม่โอเค เค้าอาจจะเป็นเพื่อนกันมานาน แต่เรามีความคิดที่ว่า
คุณเป็นเพื่อนกันมานานแล้วมันยังไง ฉันก็มีแต่เพื่อนผู้ชายเต็มไปหมด แถมเพื่อนผู้ชายของฉันที่ พวกมันมีแฟน ฉันไม่เคยชวนเพื่อนผู้ชายของฉันที่มีแฟนไปเที่ยวกันสองต่อสองเลย เพราะมันคือเรื่องของสามัญสำนึก อีกอย่างหนึ่งเราก็คือเราให้เกียรติเพื่อนให้เกียรติแฟนเพื่อนเพราะเรากลัวเพื่อนเรากับแฟนเขาทะเลาะกันต่อให้สนิทขนาดไหน มันก็ควรให้เกียรติคนของเขาด้วย
ตอนที่เรากับเขาทะเลาะกันเพื่อนรับรู้ไหมก็ไม่ได้รับรู้เลยแบบนี้
แล้วเค้าก็บอกว่าเค้าเหนื่อย เค้าเบื่อที่เราเป็นแบบนี้
ที่เราคิดมาก แล้วเราคิดว่าอาการที่เราเคยเป็นโรคซึมเศร้าหลายอย่างค่ะมันกำลังกลับมาเป็น คือโดยปกติเราก็เป็นๆหายๆมาตลอด 19 ปีค่ะ รอบล่าสุดก็คือกินยาอยู่ 5 ปี แล้วก็เพิ่งหยุดยาไปได้ 2 ปี ทั้งนอนไม่หลับฝันร้ายตลอดเวลา อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนขี้ระแวงเฉยๆ อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ
ตอนนี้ก็คือเราพยายามจะไปหาหมออีกครั้งนะคะ
แต่ว่าเราไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไงดีจริงๆ
คือเรากลัวเค้าเปลี่ยนไปค่ะ แต่เราก็พยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์เอาไว้เพราะว่าเราก็ไม่อยากจะมีคนใหม่แล้ว
ส่วนหนึ่งที่คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราถึงยึดติดกับความรักมากนัก ครั้งก่อนที่จะเจอเขาอยู่เกือบ 8 ปี และเราจะบอกว่าเหตุผลจริงๆ ส่วนนึงที่เราเป็นโรคซึมเศร้าคือเราเป็นโดยพันธุกรรมค่ะ
แต่เหตุผลรองก็คือครอบครัวเราอ่ะมันไม่มีความอบอุ่นในครอบครัวเลย บ้านไม่ใช่เซฟโซนเราไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรักในครอบครัวเลยค่ะ
พอถึงเวลาคับขันครอบครัวไม่มาเลยเสมอ
คือเรา เป็นผู้หญิงที่ยืนได้ด้วยตัวเองค่ะ คือเราทำงานหาเงินเองเราก็เป็นผู้หญิงเก่งคนนึงนะคะแบบไม่ได้ขิงเพราะเราก็รู้สึกว่าการที่เราใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่มีครอบครัวซัพพอร์ตเราก็ถือว่าเราเป็นคนที่เก่งคนนึงค่ะเราใช้ชีวิตเหมือนคนที่แบบไม่มีครอบครัวเลยใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวจริงๆค่ะทุกวันนี้ แต่เราเป็นคนที่โง่ด้านความรักความสัมพันธ์มากเลยค่ะ
แล้วเวลาเราเจอความรักอ่ะ ทุกคนเราคิดว่าทุกคนคาดหวังในความรักนะ แต่ส่วนเราคนที่แบบเหมือนเด็กโหยหาความรักคนนึงอ่ะ เราเจอคนที่ให้ความรักเราแล้วเราก็ไม่อยากเสียเค้าไปอ่ะ ตอนแรกเราก็คิดแล้วว่าเราอาจจะไม่รักเขามากขนาดนี้เพราะว่าเรารู้ว่าเราต้องเจ็บมากเลย แน่ๆในสักวัน แล้วก็คือตอนเนี่ยในชีวิตเราก็เหมือนมีแค่เค้าคนเดียว
คือจริงๆก่อนหน้านี้ส่วนนึงก็คือเราเคย พยายามฆาตกรรมตัวเองมาหลายครั้งค่ะ จนคุณหมอบอกว่าเหมือนเป็นคนที่แบบเป็นภาวะตายจากข้างในไม่เกรงกลัวต่อความตายแล้ว แล้วเหมือนกับว่าทุกวันนี้เรามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ค่ะ แล้วพอมาเจอเขาตอนแรกเราก็ไม่ได้ให้เค้าเป็นโลกทั้งใบของเราหรอกค่ะ เพราะว่าเรากลัว แต่ตอนนี้มันเหมือนกับความรู้สึกของเราอ่ะ เหมือนเรามีชีวิตอยู่เพื่อเขาเลยจริงๆ เราอยากปรับปรุงตัวเองและเราก็ไม่อยากเสียเค้าไป จากคนที่คิดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร แต่เรากำลังเปลี่ยนเพื่อเขาอ่ะ เค้าไม่ได้มีความผิดอะไรเลย มันเป็นแค่ตัวเราเองที่ไปเจอคนที่แย่มา แล้วพอทีนี้เราก็กลายเป็นคนที่งี่เง่า ขี้ระแวงไปหมด
ตอนนี้เราอยากรู้ว่านอกจากไปหาหมอ
กับพยายามทำงานให้หนัก
หรือหาอะไรมันไม่ค่อยว่างคิด
มันมีวิธีไหนอีกมั้ยคะที่จะทำให้เราแบบปล่อยวางได้มากกว่านี้ เราไม่อยากให้ความรักเรามีปัญหาไปมากกว่านี้เลยค่ะ
คือเราเจอคนที่ดีแล้ว แต่ว่ามันผิดที่เราเองที่เราเป็นคนคิดมากแล้วมันกำลังทำให้ทุกอย่างเป็นปัญหา จริงๆเราอยากได้กำลังใจมากเลยนะคะ
เราเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคนนึงค่ะ ที่ไม่ได้อยากเป็นโรคนี้เลย เวลาคิดมากมันก็จะคิดมากมากกว่าคนทั่วไป มันจะคิดวนย้ำคิดย้ำทำปวดหัว ตามเข้าไปอยู่ในฝันนอนไม่เป็นสุขเลยค่ะ เรารู้ค่ะว่ามันไม่มีทางหายในเคสที่เราเป็น แต่เราจะพยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเหมือนกัน
แต่ส่วนนึงในฐานะของคนที่อาจจะมีความเป็นอคติกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า เราขอบอกเลยนะคะว่าคนเป็นโรคนี้มีสองแบบ แบบที่เป็นจริงๆ กับแบบที่พยายามอยากจะเป็น แล้วคนที่พยายามอยากจะเป็นก็ชอบทำให้เราดูแย่จริงๆเราไม่เคยเอาคำว่าโรคซึมเศร้า ไปใช้เป็นข้ออ้างใดใดเลยค่ะ เช่นเพื่อนที่ทำงานไม่มีคนรู้เลยว่าเราป่วยโรคนี้ด้วยซ้ำ หรือตอนที่เราพยายามจะฆาตกรรมตัวเอง เหมือนตอนที่เรากินยาแล้วโดนล้างท้อง เราเข้าโรงพยาบาลไปโดยที่คนรอบข้างรู้ว่าเราอาหารเป็นพิษไม่ใช่เราพยายามกินยาตาย
แต่เราก็อยากบอกกับคนที่เป็นเหมือนกันนะคะเราเข้มแข็งกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะ
จริงๆเรื่องของเราเรามีละเอียดกว่านี้ แต่ตอนนี้ก็คือคิดได้เท่านี้ค่ะลืมไว้จะมาตั้งกระทู้ใหม่นะคะ
เป็นโรคซึมเศร้า แล้วมีความรักทำให้แฟนเครียดทำยังไงดี
ซึ่งเราก็รู้ตัวนะคะว่า ในบางครั้งบางอารมณ์เราก็แบบมีความวิตกกังวลขี้ระแวงค่ะ ซึ่งก่อนที่เราจะคบกันเราก็เคยบอกเขาแล้วว่าเราอ่ะเป็นโรคซึมเศร้านะ
เป็นโรคซึมเศร้าที่ป่วยจริงไม่ได้ป่วยเพราะกระแส เป็นมาเป็น 10 ปีกว่าแล้ว คือเป็นภาวะที่สารเคมีในสมองรวนไปหมดแล้วค่ะ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ว่าก่อนหน้านี้เนี่ยเรารักษาจนหยุดกินยามา 2 ปีแล้วค่ะ
แล้วทีนี้ปัญหาก็คือ
ครั้งหนึ่งเราเคยมีความรัก ก่อนที่จะมาเจอเขา
เราเคยโดนนอกใจค่ะ แล้วเราก็อดทน
อยู่กับผู้ชายคนนั้นมานานมาก 6-7 ปี
คือด้วยความคิดเราด้วยค่ะว่าเราอ่ะไม่อยากจะเริ่มต้นใหม่กับใครแล้วก็เลยอดทนพยายามอยู่ต่อไป ส่วนนึงคือเราจดทะเบียนสมรสอยู่กับเขาด้วยค่ะตอนนั้น
แต่ทีนี้ด้วยความที่ว่าเค้าเคยนอกใจเรามาตลอด
มันก็เลยทำให้เราเห็นว่าวิธีการนอกใจของเค้ามีอะไรบ้าง อะไรที่แบบมันเข้าเคล้าจะนอกใจมีอะไรบ้าง
ขนาดอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเค้ายังนอกใจเราได้
คือเค้าทำโดยแบบเนียนมาก คือมันสารพัดรูปแบบวิธีเลยค่ะ
แล้วยอมรับเลยว่าด้วยความที่เป็นโรคซึมเศร้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราก็คอยแต่โทษตัวเองว่าเราไม่ได้มีอะไรดีตรงไหนบ้างเพราะว่าช่วงนั้นที่เราอยู่กับเขาอ่ะเราโดน Gasligth เยอะมากค่ะ แต่ว่าเราไม่รู้นะคะว่าเค้ากำลังทำการ Gaslight เราอยู่
ทีนี้ช่วงนั้นมันก็มีอาการแบบ ไร้คุณค่าหรือสารพัดเลยค่ะว่าฉันทำผิดอะไรมากมายเค้าถึงนอกใจฉันประมาณนั้น คือเราพยายามหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงโดนนอกใจทั้งที่เราดูแลครอบครัวเค้าดีทุกอย่าง แถมตัวเค้าเองอ่ะไม่ทำงานทำการด้วยนะคะตอนนั้น ด้วยความที่ว่าเค้าโดนบีบออกจากงานช่วงโควิด แล้วเค้าก็เป็นคนว่างงานเราทำงานคนเดียวไปเลยค่ะ
แล้วทีนี้มันก็ถึงจุดแตกหักก็คือ อดีตสามีเราได้งานไปทำงานต่างจังหวัดแล้ว เรากับเขาไปหย่ากัน เพราะว่าเมียน้อยของเค้ามาวุ่นวายหนักมาก ก็คือเมียน้อยเค้าก็คือต่างจังหวัดที่เค้าไปทำงานนั่นแหละค่ะ เราก็ไม่ทนค่ะสรุปไปหย่ากัน
พอจบเรื่องนี้ไปก็คือเราก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ค่ะ
คนใหม่ที่เราเจอก็คือเค้าแก่กว่าเรา 16 ปีเค้า 40 กว่า
เขามีความเป็นเป็นผู้ใหญ่ค่ะแล้วก็เป็นคนดีอ่ะ
สำหรับเรานะ แต่เค้าก็อาจจะมีข้อเสียข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นพ่อแม่เค้าไม่ค่อยโอเคกับเรา เค้าบอกว่ามันเป็นเพราะแบบเราเคยแต่งงานมาก่อน แล้วกลัวอดีตสามีเราจะมาทำร้ายลูกชายเขา ประมาณนั้น เราก็เล่าทุกอย่างให้เค้าฟังนะคะว่าเราเป็นยังไงเคยเจออะไรมาบ้างเพราะเราไม่อยากโกหกค่ะ
เราก็บอกเขานะว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่แรก เราเป็นคนค่อนข้างเป็นคนคิดมาก
จริงๆเลยก็คือไม่อยากเปิดใจให้ใครเลยค่ะเพราะว่ารู้ตัวเองแล้วก็กลัวว่าจะทำความรักพังเพราะว่าก่อนหน้านี้ เราเหมือนเราโดนแก๊สมาเยอะว่า เราอ่ะไม่มีอะไรดีซักอย่างทำทุกอย่างพังหมดในชีวิตความรัก
แต่ว่าปัญหาก็คือ
เราเป็นคนคิดมาก งี่เง่าในบางเรื่อง
ตอนแรกยอมรับนะคะว่ายังไม่ได้รักเขามากขนาดนั้น
แต่ทุกวันนี้คือเรารักเค้ามากเลยค่ะ
แล้วเหมือนกับเหตุการณ์อะไรหลายอย่าง
มันก็ทำให้เรากับเขามีเรื่องทะเลาะกัน
ทั้งเรื่องที่เราผิด อันนี้เราเองก็ยอมรับค่ะ
เอาจริงแต่รูปช่วงที่เราทำผิดหนักๆมันไม่ใช่ช่วงที่เรารักเค้ามากนะคะ เราก็เลยไม่ได้คิดถึงใจเขาเท่าไหร่ค่ะตอนนั้นยอมรับเลย แต่ว่าไม่ได้มีเรื่องการนอกใจอะไรนะคะเพราะว่าเราก็ไม่ใช่คนแบบนั้น
เค้าอาจจะมีเรื่องที่เขาผิดบ้าง แต่ข้อเสียเขาคือเค้าเป็นคนไม่ขอโทษ เลยค่ะ
แต่เรารู้สึกว่า ช่วงเนี่ยเรางี่เง่า ขี้ระแวง มากเลยค่ะ
เรางี่เง่าจนทำให้เขารู้สึกแบบอยากเลิกกับเราหรือรู้สึกแย่มากๆ มันเหมือนกับว่าเราไม่เชื่อใจเขาเราก็เลยทำให้มันเป็นเรื่องทะเลาะกันขึ้นมา
อันนี้ส่วนตัวยอมรับเลยว่ามันไม่ใช่ความผิดของเค้าเลย ที่ต้องมาแบกรับประสบการณ์ความรักที่เราโดนนอกใจมาก่อนแล้วเราเป็นคนขี้ระแวงไปเลยอะค่ะ
คือเค้าบอกว่าเค้าไม่ได้คิดอะไร
แต่พฤติกรรมของเค้ามันคล้ายกับอดีตสามีของเราที่แบบ เคยนอกใจเรามาก่อน
ยกตัวอย่างเช่นกระทู้ก่อนหน้านี้
ที่เราถามว่าเราใจแคบไหมที่เราไม่โอเคกับการที่เค้าไปเที่ยวกับเพื่อนเค้าสองคน แบบผู้ชายผู้หญิงไป กันสองคน คือเราก็บอกตามตรงค่ะว่าเราไม่โอเค เค้าอาจจะเป็นเพื่อนกันมานาน แต่เรามีความคิดที่ว่า
คุณเป็นเพื่อนกันมานานแล้วมันยังไง ฉันก็มีแต่เพื่อนผู้ชายเต็มไปหมด แถมเพื่อนผู้ชายของฉันที่ พวกมันมีแฟน ฉันไม่เคยชวนเพื่อนผู้ชายของฉันที่มีแฟนไปเที่ยวกันสองต่อสองเลย เพราะมันคือเรื่องของสามัญสำนึก อีกอย่างหนึ่งเราก็คือเราให้เกียรติเพื่อนให้เกียรติแฟนเพื่อนเพราะเรากลัวเพื่อนเรากับแฟนเขาทะเลาะกันต่อให้สนิทขนาดไหน มันก็ควรให้เกียรติคนของเขาด้วย
ตอนที่เรากับเขาทะเลาะกันเพื่อนรับรู้ไหมก็ไม่ได้รับรู้เลยแบบนี้
แล้วเค้าก็บอกว่าเค้าเหนื่อย เค้าเบื่อที่เราเป็นแบบนี้
ที่เราคิดมาก แล้วเราคิดว่าอาการที่เราเคยเป็นโรคซึมเศร้าหลายอย่างค่ะมันกำลังกลับมาเป็น คือโดยปกติเราก็เป็นๆหายๆมาตลอด 19 ปีค่ะ รอบล่าสุดก็คือกินยาอยู่ 5 ปี แล้วก็เพิ่งหยุดยาไปได้ 2 ปี ทั้งนอนไม่หลับฝันร้ายตลอดเวลา อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนขี้ระแวงเฉยๆ อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ
ตอนนี้ก็คือเราพยายามจะไปหาหมออีกครั้งนะคะ
แต่ว่าเราไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไงดีจริงๆ
คือเรากลัวเค้าเปลี่ยนไปค่ะ แต่เราก็พยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์เอาไว้เพราะว่าเราก็ไม่อยากจะมีคนใหม่แล้ว
ส่วนหนึ่งที่คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราถึงยึดติดกับความรักมากนัก ครั้งก่อนที่จะเจอเขาอยู่เกือบ 8 ปี และเราจะบอกว่าเหตุผลจริงๆ ส่วนนึงที่เราเป็นโรคซึมเศร้าคือเราเป็นโดยพันธุกรรมค่ะ
แต่เหตุผลรองก็คือครอบครัวเราอ่ะมันไม่มีความอบอุ่นในครอบครัวเลย บ้านไม่ใช่เซฟโซนเราไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรักในครอบครัวเลยค่ะ
พอถึงเวลาคับขันครอบครัวไม่มาเลยเสมอ
คือเรา เป็นผู้หญิงที่ยืนได้ด้วยตัวเองค่ะ คือเราทำงานหาเงินเองเราก็เป็นผู้หญิงเก่งคนนึงนะคะแบบไม่ได้ขิงเพราะเราก็รู้สึกว่าการที่เราใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่มีครอบครัวซัพพอร์ตเราก็ถือว่าเราเป็นคนที่เก่งคนนึงค่ะเราใช้ชีวิตเหมือนคนที่แบบไม่มีครอบครัวเลยใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวจริงๆค่ะทุกวันนี้ แต่เราเป็นคนที่โง่ด้านความรักความสัมพันธ์มากเลยค่ะ
แล้วเวลาเราเจอความรักอ่ะ ทุกคนเราคิดว่าทุกคนคาดหวังในความรักนะ แต่ส่วนเราคนที่แบบเหมือนเด็กโหยหาความรักคนนึงอ่ะ เราเจอคนที่ให้ความรักเราแล้วเราก็ไม่อยากเสียเค้าไปอ่ะ ตอนแรกเราก็คิดแล้วว่าเราอาจจะไม่รักเขามากขนาดนี้เพราะว่าเรารู้ว่าเราต้องเจ็บมากเลย แน่ๆในสักวัน แล้วก็คือตอนเนี่ยในชีวิตเราก็เหมือนมีแค่เค้าคนเดียว
คือจริงๆก่อนหน้านี้ส่วนนึงก็คือเราเคย พยายามฆาตกรรมตัวเองมาหลายครั้งค่ะ จนคุณหมอบอกว่าเหมือนเป็นคนที่แบบเป็นภาวะตายจากข้างในไม่เกรงกลัวต่อความตายแล้ว แล้วเหมือนกับว่าทุกวันนี้เรามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ค่ะ แล้วพอมาเจอเขาตอนแรกเราก็ไม่ได้ให้เค้าเป็นโลกทั้งใบของเราหรอกค่ะ เพราะว่าเรากลัว แต่ตอนนี้มันเหมือนกับความรู้สึกของเราอ่ะ เหมือนเรามีชีวิตอยู่เพื่อเขาเลยจริงๆ เราอยากปรับปรุงตัวเองและเราก็ไม่อยากเสียเค้าไป จากคนที่คิดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร แต่เรากำลังเปลี่ยนเพื่อเขาอ่ะ เค้าไม่ได้มีความผิดอะไรเลย มันเป็นแค่ตัวเราเองที่ไปเจอคนที่แย่มา แล้วพอทีนี้เราก็กลายเป็นคนที่งี่เง่า ขี้ระแวงไปหมด
ตอนนี้เราอยากรู้ว่านอกจากไปหาหมอ
กับพยายามทำงานให้หนัก
หรือหาอะไรมันไม่ค่อยว่างคิด
มันมีวิธีไหนอีกมั้ยคะที่จะทำให้เราแบบปล่อยวางได้มากกว่านี้ เราไม่อยากให้ความรักเรามีปัญหาไปมากกว่านี้เลยค่ะ
คือเราเจอคนที่ดีแล้ว แต่ว่ามันผิดที่เราเองที่เราเป็นคนคิดมากแล้วมันกำลังทำให้ทุกอย่างเป็นปัญหา จริงๆเราอยากได้กำลังใจมากเลยนะคะ
เราเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคนนึงค่ะ ที่ไม่ได้อยากเป็นโรคนี้เลย เวลาคิดมากมันก็จะคิดมากมากกว่าคนทั่วไป มันจะคิดวนย้ำคิดย้ำทำปวดหัว ตามเข้าไปอยู่ในฝันนอนไม่เป็นสุขเลยค่ะ เรารู้ค่ะว่ามันไม่มีทางหายในเคสที่เราเป็น แต่เราจะพยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเหมือนกัน
แต่ส่วนนึงในฐานะของคนที่อาจจะมีความเป็นอคติกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า เราขอบอกเลยนะคะว่าคนเป็นโรคนี้มีสองแบบ แบบที่เป็นจริงๆ กับแบบที่พยายามอยากจะเป็น แล้วคนที่พยายามอยากจะเป็นก็ชอบทำให้เราดูแย่จริงๆเราไม่เคยเอาคำว่าโรคซึมเศร้า ไปใช้เป็นข้ออ้างใดใดเลยค่ะ เช่นเพื่อนที่ทำงานไม่มีคนรู้เลยว่าเราป่วยโรคนี้ด้วยซ้ำ หรือตอนที่เราพยายามจะฆาตกรรมตัวเอง เหมือนตอนที่เรากินยาแล้วโดนล้างท้อง เราเข้าโรงพยาบาลไปโดยที่คนรอบข้างรู้ว่าเราอาหารเป็นพิษไม่ใช่เราพยายามกินยาตาย
แต่เราก็อยากบอกกับคนที่เป็นเหมือนกันนะคะเราเข้มแข็งกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะ
จริงๆเรื่องของเราเรามีละเอียดกว่านี้ แต่ตอนนี้ก็คือคิดได้เท่านี้ค่ะลืมไว้จะมาตั้งกระทู้ใหม่นะคะ