คือต้องเกริ่นก่อนว่าเราทำงานที่นี่มา 5ปีแล้วค่ะ ทุกอย่างราบลื่นดีเป็นหัวหน้าแผนก จนมีวันนึงช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีพนักงานใหม่เข้ามาดีกรีจบจากต่างประเทศ อายุยังน้อยมาทำงานที่บริษัทเรา ตอนแรกน้องเขานิสัยดีมากๆค่ะ พอผ่านไป2-3เดือน เจ้านายได้เลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นผู้ช่วยเรา (เรามีผู้ช่วยอยู่2คนแล้วนะคะรวมน้องเขาก็จะเป็น3) เรามีผู้ช่วยเยอะเพราะว่าทุกคนต้องสลับมาช่วยงานเราคนละวัน
ช่วงแรกๆเราก็สอนงานน้องเขาปกติดีจนพอเขาเริ่มทำงานได้แล้ว (ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน) เขาเริ่มมีการพูดการจาที่แปลกไปไม่มีหางเสียงพูดห้วนและไม่ยอมช่วยงานเราไม่ประสานงานกับฝ่ายอื่นๆเลยค่ะ เขาจะบอกว่าผมยุ่งอยู่ แต่ที่สังเกตุน้องจะชอบเลื่อนเมาท์ขึ้นลงๆเฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลยบางทีก็เปิดยูทูบฟังบ้าง กับทำงานเสริมที่ตัดต่อรูปเวลางานไม่มี(ซึ่งงานนี้ต้องทำตอนที่งานไม่ยุ่งค่ะ) ใส่หูฟังเวลาเราเรียกหรือให้ช่วยงาน เราพูดตั้งนานเรารอคำตอบก็เงียบ
เราเลยตัดปัญหาโดยการทำงานเองคนเดียวทั้งหมดเฉพาะวันที่น้องเขามาเป็นผู้ช่วยเรา แบบนี้ประมาณหลายวันค่ะ เราจึงไปปรึกษาเจ้านายเรื่องนี้ เจ้านายให้คำตอบเราว่าเขาไม่ฟังก็ต้องบอกซ้ำค่ะ เราก็ค่ะแค่นั้นและเราก็ทำตามที่เจ้านายบอกแต่กลายเป็นว่าน้องเขาไม่ทำหนักกว่าเดิมอีก และยังมีพฤติกรรมที่ไม่ดีด้วยเช่น เริ่มงาน 8โมงเช้า เข้างาน 9-10โมง มาถึงแสกนนิ้วเข้างาน แล้วนั่งกินข้าวแบบชิวๆในขณะที่คนอื่นทำงานกัน กินข้าวเสร็จก็แบบเดิมค่ะนั่งเลื่อนเมาส์ขึ้นๆลงๆ ไม่ทำเอกสารใดๆ ไม่ตอบแชทลูกค้าไม่ประสานงานกับฝ่ายอื่น สรุปก็เป็นเราทำเองทั้งหมด
หลังเลิกงานเราก็กลับบ้านปกติ ส่วนน้องเขาทำโอทีค่ะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมีพี่ๆคนอื่นทำโอทีเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราเห็นแล้วไม่โอเคเลยคือ เราดูสตอรี่น้อง น้องลงคลิปเล่นกีตาร์ บางวันก็ลงคลิปล้างรถอยู่ที่บริษัท ซึ่งพี่ๆคนอื่นๆก็เห็นและรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม คนอื่นนั่งทำงานถึงได้เงินกันส่วนน้องไม่ได้นั่งทำงานอะไรแต่ไม่แสกนออกจากงานแล้วได้โอที เราก็แจ้งเรื่องนี้กับเจ้านายไป เขาก็บอกน้องไม่กล้าทำแบบนี้หรอก เราก็ทำได้แค่ตอบว่าค่ะ
หลังจากนั้นผู้ช่วยเราอีก2 คนก็มาปรึกษาเราว่าวันที่เราหยุดงาน ผู้ช่วยเราต้องทำงานแทนเราคู่กับน้องแล้วเจอพฤติกรรมแบบนี้ ซึงแบบเดียวกับที่เราเจอแต่พวกเราก็รวมตัวกันแจ้งเจ้านายไปแล้วเขาก็บอกให้พวกเราเปิดใจ แล้วปรับตัว พวกเราก็ได้แค่ตอบว่าค่ะ ซึ่งจริงๆเราว่าควรเป็นน้องที่ปรับต้องปรับตัวมากกว่าให้คนหมู่มากปรับเข้าหา
หลังจากนั้นได้ไม่นานบริษัทเราได้เปิดสาขาใหม่ค่ะ เจ้านายให้น้องเป็นคนดูแลที่สาขาใหม่ แล้วขอผู้ช่วยเราไป1คน เท่ากับว่า ตอนนี้เราจะมีผู้ช่วย1คน และน้องจะมีผู้ช่วย1คน และเรื่องทั้งหมดก็มาจากตรงนี้ค่ะ เราโทรไปประสานงานน้องไม่เคยรับสายมีแค่พี่ผู้ช่วยเก่าเราที่รับสาย เวลาเราทักแชทประสานงานก็ไม่ตอบ แต่เวลาที่น้องต้องการถามงานเราจะโทรมาพอได้คำตอบจะเงียบและตัดสายทันที ซึ่งมันดูไม่โอเคเท่าไหร่เพราะเราไม่รู้ว่าที่ตัดสายไปคือเน็ตหลุดหรือน้องต้องใจวางสาย แต่เป็นแบบนี้ทุกครั้ง และพี่ๆคนอื่นก็โดนแบบนี้เหมือนกันซึ่งทุกคนไม่โอเคกันพฤติกรรมนี้มากๆ
จนมีวันนึงเราคุยกับลูกค้าไว้เป็นงานสำคัญมาก แต่เราคุยกับลูกค้ายังไม่เสร็จค่ะเราออกไปช่วยดูงานให้พี่คนอื่นอยู่กลับมาที่คอมคือน้องคุยกับลูกค้าแล้วตกลงกันหมดแล้วประสานให้ไปที่สาขาตัวเองแต่ไม่โทรมาแจ้งเราเลยว่าให้เขาไปที่สาขาใหม่ซึ่งเราให้พนักงานเตรียมเอกสารกับของให้ลูกค้าที่สาขาเราแล้ว เราโกรธมากค่ะเพราะทำคนอื่นเสียเวลา และก็เวลาเราตอบแชทลูกค้าน้องจะพิมตอบแทรกเข้ามาค่ะ เราต้องหยุดพิมเพราะเดี๋ยวลูกค้าสับสน เป็นแบบนี้ทุกวันจนเราคิดว่าเราสุดแล้วจริงๆไม่ไหวแล้ว
เราเลยคุยกับเจ้านายเรื่องพฤติกรรมนี้ เขารับทราบแต่ไม่ทำอะไร จนมีวันนึงเจ้านายเรียกเราไปพบที่ห้องทำงานแล้วให้คำตอบเราว่า คุณยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลยรู้มั้ยน้องไม่เคยมีอารมณ์แบบนี้ที่ทำงานไม่เคยโกรธใครอันนี้แหละทำให้น้องเขาดูเป็นคนที่น่านับถือในเรื่องควบคุมอารมณ์โมโหขนาดพี่ยังทำแบบเขาไม่ได้เลย พี่ยังมีโกรธเวลาทำงานบ้างเลยนะ พี่แอบถามทริคเขาด้วยแต่เขาไม่ยอมบอก คุณอยู่มาตั้ง5ปีแล้วควรจะนิ่งกว่านี้ ส่วนเรื่องตัดสายมือถือมันเป็นเรื่องปกติพี่ก็ตัดสายแบบนี้เหมือนกัน คุณอย่าให้ความไม่ชอบส่วนตัวมาปนกับงานสิ ส่วนเรื่องการพูดมันเป็นคาแรกเตอร์ของเขาเขาเป็นคนพูดจาห้วนๆคุณต้องเข้าใจวัยรุ่นเจนใหม่ เราต้องปรับตัว หรือคุณต้องการให้พี่ตอบว่าใช่น้องมันแย่มันไม่ดีแบบนี้ใช่มั้ยพี่รู้ว่าคุณอยากได้ยิน
เราเลยตอบกลับไปว่า (ชื่อเรา)เปิดใจมากี่เดือนแล้วคะ แล้วทำไมต้องให้คนหมู่มากพยายามปรับเข้าหาคนๆเดียว ปัญหาอยู่ที่เขาทำไมไม่ให้เขาปรับ และคำตอบที่ต้องการไม่ได้ต้องการคำตอบแบบนั้นค่ะต้องการให้พี่ไปแจ้งปรับเรื่องปัญหาการประสานงานที่เกิดขึ้น ส่วนวัยรุ่นเจนใหม่แล้วยังไงคะน้องคนอื่นๆในบริษัทก็มีเจนเดียวกันไม่เห็นน้องๆเขามีพฤติกรรมแบบนี้เลย รู้สึกว่ามันดูไม่มีมารยาทค่ะบางคนเขาก็อายุเยอะแล้วคำพูดคำจาพูดดีๆก็ได้ งานก็ประสานงานยากไม่รับสายไม่ตอบอะไรเลยจะให้พวกเราปรับยังไงคะ และการพิมแชทแทรกระหว่างที่คนอื่นกำลังคุยก็ไม่ควรทำ (เวลาพิมคุยกับลูกค้าจะขึ้นข้างล่างว่าใคร กำลังพิมพ์ข้อความอยู่)เพราะมันมีหลายสาขาค่ะ น้องต้องรู้อยู่แล้วว่ามีคนคุยแชทอยู่
เขาก็เงียบแล้วบอกว่าวันนี้พอแค่นี้แหละพี่มีธุระค่อยคุยใหม่
เรารู้สึกว่าเรากลายเป็นคนโดนปรับทัศนคติแทนค่ะ คือแบบนี้เราต้องยอมรับว่าเราต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ถูกมั้ยคะ กลายเป็นเราผิดไปหมดเลยค่ะ เสียสุขภาาพจิตมากเลย
เพราะผู้ช่วยที่ไปอยู่สาขาเดียวกับน้องก็บอกว่าน้องไม่ทำอะไรเลยเอกสารอะไรก็ให้พี่ทำหมดแล้วก็นั่งดูยูทูบกับตอบแชทเวลาเห็นสาขาเรากำลังพิมพ์ถึงจะรีบเข้าไปพิมแทรก เข้างานสายบ่อย นั่งเหม่อบ้าง
ตั้งใจทำงานแทบตายสุดท้ายโดนเรียกปรับทัศนคติ คุณคิดว่าเราผิดมั้ย?
ช่วงแรกๆเราก็สอนงานน้องเขาปกติดีจนพอเขาเริ่มทำงานได้แล้ว (ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน) เขาเริ่มมีการพูดการจาที่แปลกไปไม่มีหางเสียงพูดห้วนและไม่ยอมช่วยงานเราไม่ประสานงานกับฝ่ายอื่นๆเลยค่ะ เขาจะบอกว่าผมยุ่งอยู่ แต่ที่สังเกตุน้องจะชอบเลื่อนเมาท์ขึ้นลงๆเฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลยบางทีก็เปิดยูทูบฟังบ้าง กับทำงานเสริมที่ตัดต่อรูปเวลางานไม่มี(ซึ่งงานนี้ต้องทำตอนที่งานไม่ยุ่งค่ะ) ใส่หูฟังเวลาเราเรียกหรือให้ช่วยงาน เราพูดตั้งนานเรารอคำตอบก็เงียบ
เราเลยตัดปัญหาโดยการทำงานเองคนเดียวทั้งหมดเฉพาะวันที่น้องเขามาเป็นผู้ช่วยเรา แบบนี้ประมาณหลายวันค่ะ เราจึงไปปรึกษาเจ้านายเรื่องนี้ เจ้านายให้คำตอบเราว่าเขาไม่ฟังก็ต้องบอกซ้ำค่ะ เราก็ค่ะแค่นั้นและเราก็ทำตามที่เจ้านายบอกแต่กลายเป็นว่าน้องเขาไม่ทำหนักกว่าเดิมอีก และยังมีพฤติกรรมที่ไม่ดีด้วยเช่น เริ่มงาน 8โมงเช้า เข้างาน 9-10โมง มาถึงแสกนนิ้วเข้างาน แล้วนั่งกินข้าวแบบชิวๆในขณะที่คนอื่นทำงานกัน กินข้าวเสร็จก็แบบเดิมค่ะนั่งเลื่อนเมาส์ขึ้นๆลงๆ ไม่ทำเอกสารใดๆ ไม่ตอบแชทลูกค้าไม่ประสานงานกับฝ่ายอื่น สรุปก็เป็นเราทำเองทั้งหมด
หลังเลิกงานเราก็กลับบ้านปกติ ส่วนน้องเขาทำโอทีค่ะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมีพี่ๆคนอื่นทำโอทีเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราเห็นแล้วไม่โอเคเลยคือ เราดูสตอรี่น้อง น้องลงคลิปเล่นกีตาร์ บางวันก็ลงคลิปล้างรถอยู่ที่บริษัท ซึ่งพี่ๆคนอื่นๆก็เห็นและรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม คนอื่นนั่งทำงานถึงได้เงินกันส่วนน้องไม่ได้นั่งทำงานอะไรแต่ไม่แสกนออกจากงานแล้วได้โอที เราก็แจ้งเรื่องนี้กับเจ้านายไป เขาก็บอกน้องไม่กล้าทำแบบนี้หรอก เราก็ทำได้แค่ตอบว่าค่ะ
หลังจากนั้นผู้ช่วยเราอีก2 คนก็มาปรึกษาเราว่าวันที่เราหยุดงาน ผู้ช่วยเราต้องทำงานแทนเราคู่กับน้องแล้วเจอพฤติกรรมแบบนี้ ซึงแบบเดียวกับที่เราเจอแต่พวกเราก็รวมตัวกันแจ้งเจ้านายไปแล้วเขาก็บอกให้พวกเราเปิดใจ แล้วปรับตัว พวกเราก็ได้แค่ตอบว่าค่ะ ซึ่งจริงๆเราว่าควรเป็นน้องที่ปรับต้องปรับตัวมากกว่าให้คนหมู่มากปรับเข้าหา
หลังจากนั้นได้ไม่นานบริษัทเราได้เปิดสาขาใหม่ค่ะ เจ้านายให้น้องเป็นคนดูแลที่สาขาใหม่ แล้วขอผู้ช่วยเราไป1คน เท่ากับว่า ตอนนี้เราจะมีผู้ช่วย1คน และน้องจะมีผู้ช่วย1คน และเรื่องทั้งหมดก็มาจากตรงนี้ค่ะ เราโทรไปประสานงานน้องไม่เคยรับสายมีแค่พี่ผู้ช่วยเก่าเราที่รับสาย เวลาเราทักแชทประสานงานก็ไม่ตอบ แต่เวลาที่น้องต้องการถามงานเราจะโทรมาพอได้คำตอบจะเงียบและตัดสายทันที ซึ่งมันดูไม่โอเคเท่าไหร่เพราะเราไม่รู้ว่าที่ตัดสายไปคือเน็ตหลุดหรือน้องต้องใจวางสาย แต่เป็นแบบนี้ทุกครั้ง และพี่ๆคนอื่นก็โดนแบบนี้เหมือนกันซึ่งทุกคนไม่โอเคกันพฤติกรรมนี้มากๆ
จนมีวันนึงเราคุยกับลูกค้าไว้เป็นงานสำคัญมาก แต่เราคุยกับลูกค้ายังไม่เสร็จค่ะเราออกไปช่วยดูงานให้พี่คนอื่นอยู่กลับมาที่คอมคือน้องคุยกับลูกค้าแล้วตกลงกันหมดแล้วประสานให้ไปที่สาขาตัวเองแต่ไม่โทรมาแจ้งเราเลยว่าให้เขาไปที่สาขาใหม่ซึ่งเราให้พนักงานเตรียมเอกสารกับของให้ลูกค้าที่สาขาเราแล้ว เราโกรธมากค่ะเพราะทำคนอื่นเสียเวลา และก็เวลาเราตอบแชทลูกค้าน้องจะพิมตอบแทรกเข้ามาค่ะ เราต้องหยุดพิมเพราะเดี๋ยวลูกค้าสับสน เป็นแบบนี้ทุกวันจนเราคิดว่าเราสุดแล้วจริงๆไม่ไหวแล้ว
เราเลยคุยกับเจ้านายเรื่องพฤติกรรมนี้ เขารับทราบแต่ไม่ทำอะไร จนมีวันนึงเจ้านายเรียกเราไปพบที่ห้องทำงานแล้วให้คำตอบเราว่า คุณยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลยรู้มั้ยน้องไม่เคยมีอารมณ์แบบนี้ที่ทำงานไม่เคยโกรธใครอันนี้แหละทำให้น้องเขาดูเป็นคนที่น่านับถือในเรื่องควบคุมอารมณ์โมโหขนาดพี่ยังทำแบบเขาไม่ได้เลย พี่ยังมีโกรธเวลาทำงานบ้างเลยนะ พี่แอบถามทริคเขาด้วยแต่เขาไม่ยอมบอก คุณอยู่มาตั้ง5ปีแล้วควรจะนิ่งกว่านี้ ส่วนเรื่องตัดสายมือถือมันเป็นเรื่องปกติพี่ก็ตัดสายแบบนี้เหมือนกัน คุณอย่าให้ความไม่ชอบส่วนตัวมาปนกับงานสิ ส่วนเรื่องการพูดมันเป็นคาแรกเตอร์ของเขาเขาเป็นคนพูดจาห้วนๆคุณต้องเข้าใจวัยรุ่นเจนใหม่ เราต้องปรับตัว หรือคุณต้องการให้พี่ตอบว่าใช่น้องมันแย่มันไม่ดีแบบนี้ใช่มั้ยพี่รู้ว่าคุณอยากได้ยิน
เราเลยตอบกลับไปว่า (ชื่อเรา)เปิดใจมากี่เดือนแล้วคะ แล้วทำไมต้องให้คนหมู่มากพยายามปรับเข้าหาคนๆเดียว ปัญหาอยู่ที่เขาทำไมไม่ให้เขาปรับ และคำตอบที่ต้องการไม่ได้ต้องการคำตอบแบบนั้นค่ะต้องการให้พี่ไปแจ้งปรับเรื่องปัญหาการประสานงานที่เกิดขึ้น ส่วนวัยรุ่นเจนใหม่แล้วยังไงคะน้องคนอื่นๆในบริษัทก็มีเจนเดียวกันไม่เห็นน้องๆเขามีพฤติกรรมแบบนี้เลย รู้สึกว่ามันดูไม่มีมารยาทค่ะบางคนเขาก็อายุเยอะแล้วคำพูดคำจาพูดดีๆก็ได้ งานก็ประสานงานยากไม่รับสายไม่ตอบอะไรเลยจะให้พวกเราปรับยังไงคะ และการพิมแชทแทรกระหว่างที่คนอื่นกำลังคุยก็ไม่ควรทำ (เวลาพิมคุยกับลูกค้าจะขึ้นข้างล่างว่าใคร กำลังพิมพ์ข้อความอยู่)เพราะมันมีหลายสาขาค่ะ น้องต้องรู้อยู่แล้วว่ามีคนคุยแชทอยู่
เขาก็เงียบแล้วบอกว่าวันนี้พอแค่นี้แหละพี่มีธุระค่อยคุยใหม่
เรารู้สึกว่าเรากลายเป็นคนโดนปรับทัศนคติแทนค่ะ คือแบบนี้เราต้องยอมรับว่าเราต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ถูกมั้ยคะ กลายเป็นเราผิดไปหมดเลยค่ะ เสียสุขภาาพจิตมากเลย
เพราะผู้ช่วยที่ไปอยู่สาขาเดียวกับน้องก็บอกว่าน้องไม่ทำอะไรเลยเอกสารอะไรก็ให้พี่ทำหมดแล้วก็นั่งดูยูทูบกับตอบแชทเวลาเห็นสาขาเรากำลังพิมพ์ถึงจะรีบเข้าไปพิมแทรก เข้างานสายบ่อย นั่งเหม่อบ้าง