**เพิ่มเติมข้อความค่ะ เห็นหลายๆคอมเม้น เป็นไปในทางเดียวกันว่าให้เราแยะแยะเรื่องเงินกับบุญคุณ ซึ่งเราไม่ได้ติดปัญหาเรื่องเงินนั่นสักนิดเลยจริงๆ และเราได้จ่ายเขาไปเพิ่มจากที่แม่จ่ายไปแล้วให้ด้วยค่ะอีก 2 หมื่น ถ้าคิดตามจากที่เขาจ่ายจริงเผื่อตกหล่น เพราะเห็นหลายๆคอมเม้นว่าเราว่าเขาจ่ายจริงก็ต้องคืนเขาไป มันก็ทำให้เรารู้สึกแย่หน่อยๆ เป็นเรื่องทัศนคติของเราเองว่าคงผิดเพี้ยนไป เเละเราไม่เคยคิดที่จะเอาเปรียบฝั่งเขาเลย
 
??? ถ้าเราตั้งคำถามใหม่ว่า คุณเป็นผู้ชายที่อาศัยอยู่บ้านแม่แฟน มานาน 5-6 ปี ซึ่งบ้านนั้นแม่แฟนเป็นคนผ่อนให้อยู่อาศัยไม่ได้คิดเงิน และยังไม่ได้แต่งงานกับลูกสาวเขา แล้วแม่แฟนขอยืมเงินแล้วคุณต้องไปกู้มา 3 ปี คุณต้องจ่ายดอกทั้งหมด 5-6 หมื่น คุณจะกล้าเรียกดอกเบี้ยกับบ้านแฟนรึเปล่า ??? 
สงสัยค่ะ ถ้าเราตั้งคำถามแบบมองกลับมุม ทางคอมเม้นยังจะตอบแบบเดิมรึเปล่า ???

ข้อความเดิม

เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน แม่เราติดขัดเรื่องเงินทำธุรกิจ เลยไปยืมเงินแฟนพี่สาวที่คบกันมา 4 ปี มาจำนวน 3 แสน แล้วแฟนพี่เลยไปกู้สหกรณ์มาให้
แต่เมื่อปีที่ผ่านมา แม่คืนไป 1 แสน และปีนี้แม่คืนเงินครบ แล้วพี่สาวเรียกดอกเบี้ยจากแม่ 5 หมื่น (น่าจะเรียกแทนแฟน) มันเยอะไปรึเปล่าคะ ???

ในความคิดเราคิดว่า 2 หมื่นกำลังดีตอบแทนน้ำใจ เพราะพี่สาว กับแฟน อาศัยบ้านที่แม่เป็นคนผ่อน (สร้างไว้ขายแล้วมันเหลือหลังนึง เลยเอาชื่อพี่กู้ แต่แม่ผ่อน) รถยนต์ก็ของที่บ้านซื้อให้(ชื่อรถเป็นของพ่อ) ทั้งพี่สาวกับแฟนก็ใช้ ซึ่งปัจจุบันผู้ชายคบกับพี่เรามา 7 ปี เราคิดว่ามันเหมือน เขามีน้ำใจให้เรายืม เราก็ให้ตอบแทนเขาตามกำลังทรัพย์ ส่วนเราก็ให้เขาใช้สอยทรัพย์สินส่วนของบ้านเรา

พอเราได้ยินจำนวนดอกเบี้ยที่พี่สาวเรียก เราตกใจและรู้สึกไม่ค่อยดี มันเป็นเรื่องของความรู้สึกคนในครอบครัวมากกว่า ที่เหมือนเขาเองก็พึ่งพิงบ้านเรา เพราะบ้านทุกวันนี้ที่พี่สาวอยู่แม่ก็ยังต้องผ่อน พอเราคุยกับพ่อ พ่อบอกว่าเราคิดมากไป เลยสงสัยว่าคนปกติทั่วไป เป็นแฟนลูกมาอยู่บ้านแฟน จะเรียกกันประมาณเท่าไหร่