นั่ง นอน ยืน เดิน ในอิริยาบถบรรพ (กายานุปัสสนา) เป็น บัญญัติหรึอปรมัตถ์ครับ

จากที่ได้ยิน ได้ฟังมา บวกกับการคิดเอาเองได้ความว่า
 การเจริญสติปัฎฐานมีเป้าหมายที่วิปัสสนา ...
 วิปัสสนามีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์ ...
 กายานุปัสสนาเกี่ยวกับกาย น่าจะมีรูปปรมัตถ์เป็นอารมณ์ ...

 การรู้ว่านั่ง หรือนอน ฯ จะต้องรู้สึกทั่วทั้งตัวหรือส่วนใหญ่ของร่างกาย
 รู้การกระทบสัมผัสเก้าอี้,พื้น,ที่นอนฯ รู้ลมกระทบหรืออุณหภูมิของอากาศที่ผิวหนัง เป็นต้น
 คือ รู้เย็นร้อนอ่อนแข็ง(ซึ่งเป็นปรมัตถ์ ?) จากหลายๆจุดทั่วร่าง
 ปรมัตถธรรมจำนวนมากนี้ถุกนำมาประมวลผลเป็นอาการนั่ง นอน ฯ
 แล้วรู้ทางใจอีกทีหนึ่ง (รู้ว่านั่ง หรือนอน ฯ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นปรมัตถ์หรือเปล่า)
 
 ต่อไปนี้เป็นการเดาล้วนๆ
 สมมุติ นั่ง นอน ยืน เดิน ไม่ใช่ปรมัตถ์ ก็ไม่มีอะไรเสียหาย
 ผมเดาว่า การรู้นั่ง นอน ยืน เดิน ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง แต่เป็นเพียงเหยื่อล่อ
 ให้สติได้โอกาสเกิดขึ้นระลึกปรมัตถธรรมที่อยู่เบื้องหลัง นั่ง นอน ยืน เดิน
 จากนั้นปัญญาก็มีโอกาสเจริญจากการได้ศึกษาปรมัตถธรรมเหล่านั้น
 (กลายเป็นว่าเราไม่ได้จงใจที่จะไปเพ่งปรมัตถธรรม แต่มีการเห็นโดยธรรมชาติ
 เหมือนเป็นการทำงานอยู่ในฉากหลัง)
 เมื่อถึงจุดที่อินทรีย์แก่กล้ามากพอแล้ว วิป้สสนาญานแรกก็อาจจะเกิดขึ้น
 เห็นรูปธรรมนามธรรม(ซึ่งเป็นปรมัตถ์) แยกขาดจากกัน (เป็นภาวนามยปัญญา ไม่ได้เกิดจากคิดเอา)
 ....   อย่างนี้ ทำนองนี้  ....

 มีความเห็นยังไงกันบ้างครับเกี่ยวกับเรื่องนี้
 ผมเข้าใจผิดตรงไหนบ้าง หรือเข้าใจผิดตั้งแต่ต้นจนจบเลย...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่