แบ่งปันประสบการณ์การแก้ไขปัญหาการขับถ่ายของผู้สูงวัย

เพี้ยนหัวเราะคำเตือน กระทู้สนทนานี้มีกลิ่นตุ ตุ โปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกเวลาอ่าน 555

ถ้าไม่พบสถานการณ์กับตัวเอง ดิฉันจะไม่มีทางทราบเลยว่าการขับถ่ายอุจจาระของพ่อ จะเป็นหัวข้อในการสนทนาของครอบครัวได้ขนาดนี้
พ่อในวัย 90+ กับอาการท้องผูก ทำให้แม่วิตกกังวลมาโดยตลอด คำถามที่แม่ถามพ่อทุกวันคือ ‘กิมยิก อู่ปั๊งไส้บ๊อ’  (วันนี้ถ่ายหรือเปล่า) ถ้ายังไม่ถ่ายใน 3-4 วัน ลูก ๆ จะได้รับคำบอกเล่าทั้งต่อหน้าและทางโทรศัพท์ว่าหลายวันแล้ว  พ่อยังไม่ถ่ายเลย 
เป็นบทสนทนาที่มีกลิ่นตุ ตุ ชอบก๊ล 555
วิธีการแก้ไขปัญหาท้องผูกของพ่อ มีสองวิธี โดยแม่ให้ใช้การสวนทวาร  พี่สาวคนโตที่เป็นแพทย์สั่งยาระบายให้กิน แต่ก็ยังไม่ได้ผล เวลาพ่อถ่ายแต่ละครั้ง เหมือนมีมหกรรมเลยทีเดียว ลุ้นให้ถ่ายออก ส่งน้ำให้ดื่ม ช่วยสวนทวาร ถึงขั้นพี่สาวหรือหลานต้องล้วงไปควักอุจจาระกันเลยทีเดียว 
นานาเรียน
แม้ดิฉันจะโชคดีไม่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในมหกรรมนั้นก็เถอะ  แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ท้องผูกนั้น มีแนวทางในการแก้ไขนอกจากการสวนและกินยาหรือเปล่านะ  จึงไปสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ซึ่งประมวลรวมความรู้เกี่ยวกับท้องผูกได้ ดังนี้ 
อาการท้องผูก
               “อาการที่ลำไส้บีบตัวหรือเคลื่อนตัวช้า ไม่สามารถกำจัดอุจจาระออกจากทางเดินอาหารได้ตามปกติ เกิดการตกค้างในลำไส้ใหญ่เป็นเวลานาน  เมื่อร่างกายดูดน้ำในอุจจาระกลับ ทำให้อุจจาระมีลักษณะแห้งแข็งและมีขนาดใหญ่ ส่งผลให้ขับถ่ายลำบาก” (ที่มา ท้องผูกถ่ายยากทำอย่างไรดี : พญ.ศุภมาส เชิญอักษร)
               “อาการท้องผูกไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งหรือความสม่ำเสมอในการขับถ่าย ตราบใดที่สามารถถ่ายได้อย่างสบายๆ ไร้กังวล ไม่ต้องเบ่ง อุจจาระนิ่มจับตัวเป็นก้อนดี แม้ 2-3 วันจะถ่ายสักครั้งก็ไม่ถือว่าผิดปกติ
               แต่เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าการขับถ่ายเป็นเรื่องยาก หลายครั้งต้องนั่งนานถึงครึ่งชั่วโมงเพื่อเบ่งถ่าย บางครั้งต้องใช้น้ำฉีด ใช้นิ้วล้วงช่วย ถ่ายไม่สุด เหมือนมีอะไรมาอุดกั้นอยู่ ถ่ายออกมาน้อย อุจจาระแข็งมีลักษณะเป็นเม็ด ผิวขรุขระหรือแห้งแตก รู้สึกอึดอัดแน่นท้อง ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่ามีอาการท้องผูกอย่างแน่นอน” (ที่มา ปัญหาท้องผูก ต้องแก้ให้ถูกวิธี : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์)
 
การแก้ไขอาการท้องผูก
              1. ปรับพฤติกรรมประจำวัน โดยการกินอาหารที่มีกากใยสูง   ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว  ออกกำลังกายเป็นประจำ  
 ขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่กลั้นอุจจาระ  และลดความเครียด
              2. รักษาด้วยยา  มีหลายชนิดให้เลือก เช่น  ยาระบายกลุ่มกระตุ้น ยาระบายกลุ่มออสโมซิส ยาระบายกลุ่มเกลือ ยาที่ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่ม/ยาหล่อลื่น  ตลอดจนยาเหน็บทวารและการสวนอุจจาระ  

 เพี้ยนไฟลุก
ดิฉันจึงปรับพฤติกรรมการรับประทานประจำวันของพ่อ ดังนี้
            1. เพิ่มอาหารจานผักและมีผักเป็นเครื่องเคียงให้มากขึ้น  แม้พ่อจะโปรดอาหารจานเนื้อสัตว์ก็เถอะ  โดยคอยตักผักใส่ช้อนให้พ่อทานไปเรื่อย ๆ ผักที่ใช้เป็นทั้งผักปรุงสุกและผักสด  เครื่องเคียงยอดนิยมประจำมื้ออาหารของพ่อ คือ แตงกวา  ผักสดที่ทานบ้าง ได้แก่ สลัด มะเขือเทศ  ส่วนผักปรุงสุก ทานได้ทุกชนิด และชอบผักที่นิ่ม ๆ 
                ไม่เพียงแต่เพิ่มอาหารจานผัก  แต่ดิฉันเพิ่มปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อจะได้มีมวลสารไปเพิ่มปริมาณอุจจาระ
                สำหรับผลไม้ ไม่มีประเด็น  พ่อทานผลไม้ได้มากเป็นปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะผลไม้ตามฤดูกาล ของโปรดคือ มะม่วง แตงโมและดิฉันพยายามสับเปลี่ยนผลไม้หลากหลายชนิดให้ได้รับประทาน 
            2. กำหนดวันทานยาให้ชัดเจน  พี่สาวกำหนดให้แม่จัดยาระบายให้พ่อทานวันเว้นวัน  แต่แม่ที่เป็นสาวน้อยวัย 15 (จะครบ 100) ลืม ลืมและลืม ดิฉันเลยจัดเวลาทานยาระบายใหม่ เป็นทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ แทน  ทำให้พ่อได้ทานยาระบายอย่างเป็นระบบแล้ว

จากการปรับพฤติกรรมดังกล่าว ร่วม 3 สัปดาห์ ปรากฏว่าได้ผลที่น่าพอใจ พ่อขับถ่ายเฉลี่ยทุก 2 วัน ช่วงไหนถ่ายวันละครั้งได้ละก็ แม่ดีใจมากเลยทีเดียว แม่จะคุยและรายงานให้ลูกๆ ฟังว่าพ่อถ่ายออกแล้วนะ 555  แต่ดิฉันยังมีประเด็นที่ยังไม่สามารถกระตุ้นให้พ่อดื่มน้ำได้เพิ่มขึ้น  ทุกวันนี้ พ่อดื่มน้ำ ไม่ถึง 2 แก้วต่อวัน  ต้องหาวิธีต่อไป

ดอกไม้ดอกไม้
เนื่องในโอกาสวันพ่อและเป็นการตั้งกระทู้แรกที่พันทิป ขอบพระคุณพ่อที่มีอายุยืนยาวให้ลูกได้มีโอกาสฉลองพระคุณ ได้ฝึกฝนตนเองและได้มีโอกาสขยายพรมแดนแห่งความรู้ใหม่ๆ
 
tripnote005
ความรู้เพิ่มเติม
ภาวะท้องผูก ใครว่าแก้ไม่ได้ ?  https://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-45
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่