ทริปนี้เป็นทริปที่เราแทบไม่ได้ทำการบ้านอะไรเลย เพราะงานยุ่งจนหัวหมุน น้องที่ทำงานที่ร่วมทริปกันเป็นคนจัดการให้กับเพื่อนของน้องที่ไปเที่ยวจีนก่อนล่วงหน้า แล้วจะไปเจอกันที่เฉิงตู เราเตรียมแค่เรื่องระบบจ่ายเงิน เราใช้ทั้ง AliPay และ ทรูมันนี่ (วิธีการใช้แอปเราดูในยูทูป) ทุกอย่างพร้อมโอนตามที่น้องบอก เพื่อนของน้องก็แสนดี ทำตารางทริปให้พวกเราด้วย ในส่วนของกรุ๊ปเราที่ตามเขาไปเที่ยวมี 3 คน ส่วนน้องที่ไปจีนล่วงหน้ามี 2 คน รวมทั้งกรุ๊ปที่ด้วยกันในครั้งนี้ 5 คน
ตารางทริปเที่ยวที่น้องทำมาให้พร้อมระบุระดับความสูง
ก่อนไปนอกจากเตรียมเรื่องเงิน ก็มีเสื้อผ้า แล้วก็ทดลองกินยา Diamox (ป้องกันอาการแพ้ความสูง) ก่อนว่าแพ้หรือเปล่า สรุปคือไม่แพ้ มีอาการข้างเคียงคือ ฉี่บ่อย กับ มือเท้าชา สำหรับการกินยา Diamox ให้เรากินเช้าเย็น ½ เม็ดก่อนขึ้นที่สูง 1 วัน จากตารางที่น้องทำมาเราจะกินยานี้ในวันที่ 4 ก่อนขึ้นไปภูเขาสี่ดรุณี ซื่อกูเหนียงซาน (Siguniangshan)
อย่างที่บอกในตอนแรกว่าไม่ได้เตรียมตัวไป แม้แต่เรื่องข้อมูลว่าถึงตรงนี้ต้องไปดูตรงไหนอะไรยังไง ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เราไปเที่ยวแบบใสๆ เลย ถ้าแวะตรงไหนถือว่าตรงนั้นมีบุญสัมพันธ์กัน เป็นการเที่ยวตามแรงกรรม เอาเป็นว่าเริ่มทริปกันเลย
Day 1
เราใช้บริการ Air China ออกจากสุวรรณภูมิ 13.50 น. ถึงเฉิงตู 18.00 น. สนามบินกว้างมาก เดินอย่างไกล เดินตามป้ายที่บอกว่า Metro กดซื้อตั๋ว 11 หยวน ไปถึงที่พัก POSHPACKER Local Tea Hostel ประมาณ 20.00 น. หาของกินรอบๆ ที่พัก มีของกินเยอะ ดูร้านที่มีป้ายรางวัล น่าจะอร่อย สรุปคือ เกี้ยวอร่อยจริง เสร็จแล้วก็เดินดูร้านรอบๆ เล็งๆ ไว้ซื้อของก่อนกลับ กลับที่พัก แยกกระเป๋าเล็ก พรุ่งนี้เช้ามืดต้องขึ้นรถไฟฟ้าไปจิ่วจ้ายโกว ค้างที่เมืองจิ่วจ้ายโกว 1 คืน กระเป๋าใหญ่ฝากไว้ที่ที่พัก เพราะเราจะใช้ที่พักนี้เป็น Hub
ไปถึงที่พัก POSHPACKER Local Tea Hostel ประมาณ 20.00 น.
เราเดินหาของกินรอบๆ ที่พัก มีของกินเยอะ ดูร้านที่มีป้ายรางวัล น่าจะอร่อย สรุปคือ เกี้ยวอร่อยจริง เสร็จแล้วก็เดินดูร้านรอบๆ เล็งๆ ไว้ซื้อของก่อนกลับ กลับที่พัก แยกกระเป๋าเล็ก พรุ่งนี้เช้ามืดต้องขึ้นรถไฟฟ้าไปจิ่วจ้ายโกว ค้างที่เมืองจิ่วจ้ายโกว 1 คืน กระเป๋าใหญ่ฝากไว้ที่ที่พัก เพราะเราจะใช้ที่พักนี้เป็น Hub
Day 2
เราออกจากที่พัก 05.00 น. เช้านี้ใช้บริการ DiDi น้องลองกดใช้บริการครั้งแรก ขลุกขลักเล็กน้อยแต่ก็ผ่านไปได้ เราไป Chengdu East Railway Station น้องได้ซื้อตั๋วให้เราไว้ล่วงหน้าแล้ว (คนละ 103 หยวน) เที่ยวรถไฟที่ C5746 ส่วนจะขึ้น Gate ไหน ต้องไปเล็งเอาตรงจอในสถานี เวลาเข้า Gate ต้องเข้าตรงที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ จนท.จะเอาพาสปอร์ตเราไปสแกน
รถไฟออก 06.14 น. Gate เปิดก่อนเวลารถออกประมาณ 20 นาที คนเยอะมาก แต่ด้วยระบบที่โครตทันสมัย สามารถโหลดคนลงรถไฟได้รวดเร็ว รถไฟออกตรงเวลาเป๊ะๆ 06.14 น. ดังนั้นคนไปเที่ยวจีน ต้องระมัดระวังมากๆ เรื่องนี้ ต้องตรงต่อเวลาสุดๆ ทุกที่ที่ใช้บริการขนส่ง ทุกคนต้องผ่านการสแกนทั้งตัว กระเป๋า น้ำ ก็ต้องตรวจ ตรวจมันทุกสิ่ง โดน จนท. ลูบตรวจเพลินๆ ตลอด
พอได้นั่งแล้วเราก็หลับเพลินๆ ถึงสถานี Huanglong-Jiuzhai Railway Station ประมาณ 8.00 น. อากาศเย็นมาก เราเดินตามฝูงชนไป มองโน่นดูนี่ เข้าไปในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่ให้บริการจองตั๋วรถบัสไปจิ่วจ้ายโกว เราบอกเจ้าหน้าที่ ยื่นมือถือให้ ให้เขากดซื้อตั๋วในแอฟ Ali ให้เลย ค่าตั๋ว 3 คน 153 หยวน เห็นเราดูมึนๆ เลยเดินนำไปส่งที่รถ ตั๋วที่โชว์ในแอปเรารีบแคปหน้าจอไว้เลย (เดี๋ยวหาในแอปไม่เจอ ยิ่งฉลาดๆ อยู่ด้วย) เวลาขึ้น จะมี จนท. สแกน QR Code ก่อนขึ้น
จากสถานีรถไฟฟ้าไปจิ่วจ้ายโกวระยะทางประมาณ 90 กม. เราไม่ได้ลงที่ อช.จิ่วจ้ายโกว เราต้องลงที่พักก่อน ตอนขึ้นรถต้องบอกคนขับว่าเราจะลงตรงไหน พอถึงเดี๋ยวเขาก็โวยวายให้เรารู้ตัวเอง ระหว่างทางไป มีให้พักเข้าห้องน้ำกลางทาง เป็นสุขาแบบรางน้ำไหลผ่าน เจอสุขาแบบนี้แสดงว่านังหมวยเมืองไทยถึงเมืองจีนที่แท้ทรู
จุดแวะพักเข้าห้องน้ำกลางทาง
ถึงเมืองจิ่วฯ เช็คอินเข้าที่พัก เสร็จแล้วเจ้าของขับรถไปส่งหน้าทางเข้าอุทยานพร้อมทั้งให้วีแชท เวลากลับจะได้ให้มารับตามจุดที่นัดหมายได้ การสื่อสารในเมืองจีน เราพูดภาษาไทยได้เลย พูดผ่านแอป เพราะยังไงเขาก็ไม่พูดภาษาอังกฤษกันอยู่แล้ว ตั๋วเข้าจิ่วฯ น้องจองจาก Trip.com ค่าเข้า 1,324 บาท/คน
ที่ อช.จิ่วฯ มีร้านขายของอยู่ทุกป้ายรถ ไม่ต้องห่วงว่าจะอด เราก็กินข้าว กินน้ำตามที่เขาขายกัน การจัดการการท่องเที่ยวของอุทยานต่างๆ ในจีน ใช้รถบัส/เมล์ที่จัดไว้ให้ภายในเท่านั้น ไม่มีการใช้รถส่วนตัว อย่างที่บอกในตอนแรกว่าเรื่องข้อมูลการท่องเที่ยวว่าต้องแวะจุดโน้นจุดนี้จุดนั้นเราไม่มีในสมอง จอดตรงไหนน่าแวะก็ลงตรงนั้น
อากาศในจิ่วฯ ตอนที่เราไปก็เย็นๆ ไม่หนาวมาก ประมาณ 15องศา เราเดินใส่เสื้อยืดได้สบายๆ ทุกจุดที่ได้ลงไปชมสวยมากแบบ ก.ไก่สามล้านตัว ดูรูปได้เลย คนจีนเองก็เที่ยวเมืองเขาด้วย เพราะฉะนั้นคนเยอะ เดินไปไหล่เบียด ชนไหล่ไปมาเป็นปกติของพี่เขา ส่วนถ้าเราไม่รับก็รอรถรอบถัดไปได้ เอาให้มีที่นั่ง ไม่ต้องยืน เซฟเข่าของเราไว้
จิ่วจ้ายโกว (แปลว่าธารน้ำ 9 หมู่บ้าน) เป็นหุบเขาที่คดเคี้ยวไป มีชนชาติทิเบต 9 หมู่บ้านที่อาศัยอยู่ริมธารน้ำ ชนเผ่าทิเบตเรียกที่นี่ว่า “ขุนเขาธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์” จิ่วไจ้โกวเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำเจียหลิงที่เป็นสาขาหนึ่งแม่น้ำแยงซีเกียง
เฉพาะเขตที่มีการเปิดให้เข้าชมก็มีความสูง 2,000 – 3,100 เมตร ด้วยความสูงต่ำของภูมิประเทศที่แตกต่างกันมากทำให้พืชพรรณสัตว์ป่าก็มีความหลากหลายและซับซ้อน มีสัตว์สงวนอย่าง แพนด้า กระทิง ค่างขนทอง ละมั่งลายจุด กวางปากขาว แพนด้าจิ๋ว ลิงกัง ไก่ฟ้า ห่านฟ้า เป็นต้น
[CR] ทริปนี้ขอไปพี่ขอไปที่สูงๆ เฉิงตู ประเทศจีน
อย่างที่บอกในตอนแรกว่าไม่ได้เตรียมตัวไป แม้แต่เรื่องข้อมูลว่าถึงตรงนี้ต้องไปดูตรงไหนอะไรยังไง ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เราไปเที่ยวแบบใสๆ เลย ถ้าแวะตรงไหนถือว่าตรงนั้นมีบุญสัมพันธ์กัน เป็นการเที่ยวตามแรงกรรม เอาเป็นว่าเริ่มทริปกันเลย
Day 1
เราใช้บริการ Air China ออกจากสุวรรณภูมิ 13.50 น. ถึงเฉิงตู 18.00 น. สนามบินกว้างมาก เดินอย่างไกล เดินตามป้ายที่บอกว่า Metro กดซื้อตั๋ว 11 หยวน ไปถึงที่พัก POSHPACKER Local Tea Hostel ประมาณ 20.00 น. หาของกินรอบๆ ที่พัก มีของกินเยอะ ดูร้านที่มีป้ายรางวัล น่าจะอร่อย สรุปคือ เกี้ยวอร่อยจริง เสร็จแล้วก็เดินดูร้านรอบๆ เล็งๆ ไว้ซื้อของก่อนกลับ กลับที่พัก แยกกระเป๋าเล็ก พรุ่งนี้เช้ามืดต้องขึ้นรถไฟฟ้าไปจิ่วจ้ายโกว ค้างที่เมืองจิ่วจ้ายโกว 1 คืน กระเป๋าใหญ่ฝากไว้ที่ที่พัก เพราะเราจะใช้ที่พักนี้เป็น Hub
เราออกจากที่พัก 05.00 น. เช้านี้ใช้บริการ DiDi น้องลองกดใช้บริการครั้งแรก ขลุกขลักเล็กน้อยแต่ก็ผ่านไปได้ เราไป Chengdu East Railway Station น้องได้ซื้อตั๋วให้เราไว้ล่วงหน้าแล้ว (คนละ 103 หยวน) เที่ยวรถไฟที่ C5746 ส่วนจะขึ้น Gate ไหน ต้องไปเล็งเอาตรงจอในสถานี เวลาเข้า Gate ต้องเข้าตรงที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ จนท.จะเอาพาสปอร์ตเราไปสแกน
รถไฟออก 06.14 น. Gate เปิดก่อนเวลารถออกประมาณ 20 นาที คนเยอะมาก แต่ด้วยระบบที่โครตทันสมัย สามารถโหลดคนลงรถไฟได้รวดเร็ว รถไฟออกตรงเวลาเป๊ะๆ 06.14 น. ดังนั้นคนไปเที่ยวจีน ต้องระมัดระวังมากๆ เรื่องนี้ ต้องตรงต่อเวลาสุดๆ ทุกที่ที่ใช้บริการขนส่ง ทุกคนต้องผ่านการสแกนทั้งตัว กระเป๋า น้ำ ก็ต้องตรวจ ตรวจมันทุกสิ่ง โดน จนท. ลูบตรวจเพลินๆ ตลอด
พอได้นั่งแล้วเราก็หลับเพลินๆ ถึงสถานี Huanglong-Jiuzhai Railway Station ประมาณ 8.00 น. อากาศเย็นมาก เราเดินตามฝูงชนไป มองโน่นดูนี่ เข้าไปในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่ให้บริการจองตั๋วรถบัสไปจิ่วจ้ายโกว เราบอกเจ้าหน้าที่ ยื่นมือถือให้ ให้เขากดซื้อตั๋วในแอฟ Ali ให้เลย ค่าตั๋ว 3 คน 153 หยวน เห็นเราดูมึนๆ เลยเดินนำไปส่งที่รถ ตั๋วที่โชว์ในแอปเรารีบแคปหน้าจอไว้เลย (เดี๋ยวหาในแอปไม่เจอ ยิ่งฉลาดๆ อยู่ด้วย) เวลาขึ้น จะมี จนท. สแกน QR Code ก่อนขึ้น
อากาศในจิ่วฯ ตอนที่เราไปก็เย็นๆ ไม่หนาวมาก ประมาณ 15องศา เราเดินใส่เสื้อยืดได้สบายๆ ทุกจุดที่ได้ลงไปชมสวยมากแบบ ก.ไก่สามล้านตัว ดูรูปได้เลย คนจีนเองก็เที่ยวเมืองเขาด้วย เพราะฉะนั้นคนเยอะ เดินไปไหล่เบียด ชนไหล่ไปมาเป็นปกติของพี่เขา ส่วนถ้าเราไม่รับก็รอรถรอบถัดไปได้ เอาให้มีที่นั่ง ไม่ต้องยืน เซฟเข่าของเราไว้
จิ่วจ้ายโกว (แปลว่าธารน้ำ 9 หมู่บ้าน) เป็นหุบเขาที่คดเคี้ยวไป มีชนชาติทิเบต 9 หมู่บ้านที่อาศัยอยู่ริมธารน้ำ ชนเผ่าทิเบตเรียกที่นี่ว่า “ขุนเขาธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์” จิ่วไจ้โกวเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำเจียหลิงที่เป็นสาขาหนึ่งแม่น้ำแยงซีเกียง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้