ประโยชน์และสารอาหารในถั่วลิสง

กระทู้สนทนา
ถั่วลิสง สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลายวิธี โดยจะนำมาต้มหรือคั่ว เพื่อเป็นของว่างแสนอร่อย ชวนเคี้ยวก็ได้   หรือจะนำไปใส่เป็นส่วนประกอบในอาหารคาวหวาน ก็สร้างรสชาติและรสสัมผัสที่ดีได้ไม่แพ้กัน
 
แต่คุณรู้ไหมว่า หากกินถั่วลิสงโดยไม่ระมัดระวัง อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ และอาจเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งในอนาคต!
 
ในบทความนี้ คุณปรารถนา นิธิเจษฎาวงศ์  นักกำหนดอาหาร จากแอปฯ หมอดี จะมาแนะนำวิธีกินถั่วลิสงที่ถูกต้อง เหมาะสม รวมทั้งประโยชน์ต่าง  ๆ ของถั่วชนิดนี้ให้ได้ทราบกัน
 
ประโยชน์และสารอาหารในถั่วลิสง
1. เป็นแหล่งโปรตีน : มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด โภชนาการสูง  
2. ดัชนีน้ำตาลน้อย : เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน (แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะถั่วลิสงมีไขมันมาก) 
3. ใยอาหารสูง : ช่วยในการขับถ่าย ท้องไม่ผูก
4. อุดมด้วยวิตามิน : เช่น วิตามินบี 1 , วิตามินบี 3 , วิตามินบี 6 , วิตามินซี ชึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี
5. มีแร่ธาตุหลายชนิด : เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม
 
โทษ ข้อพึงระวัง และอันตรายแฝงในถั่วลิสง
 อาจมีสารก่อมะเร็งปนเปื้อน :  เช่น อะฟลาทอกซิน และไฮโดรคาร์บอนโพลีไซคลิกอะโรมาติก สาเหตุของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ  ดังนั้น หากพบจุดดำ ๆ ที่บริเวณเปลือก คล้ายเชื้อราในถั่วลิสงคั่ว หรือถั่วลิสงต้ม ไม่ควรกินโดยเด็ดขาด
 อาจทำให้คอเรสเตอรอลในเลือดสูง :  แม้ตัวถั่วลิสงเองจะไม่มีคอเรสเตอรอล แต่ก็มีไขมันและแคลอรี่สูง หากกินมากไป อาจไปสร้างคอเรสเตอรอลในเลือด และทำให้อ้วนได้  ทางที่ดี ไม่ควรกินเกิน 1 ผ่ามือในแต่ละครั้ง 
อาจมีสารพิษ :  เช่น สารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งอาจปนเปื้อนถั่วลิสง ที่เกิดจากกระบวนการคั่ว
อาจได้สารอาหารไม่ครบ :  หากนำถั่วลิสงมาผ่านความร้อน และน้ำมัน โดยไม่ผ่านวิธีถนอมสารอาหารที่ถูกต้อง  อาจทำให้วิตามินบางชนิด และไขมันไม่อิ่มตัวหายไป ร่างกายจึงได้รับประโยชน์น้อยลง
 
กล่าวโดยสรุปแล้ว ถั่วลิสง แม้จะมีสรรพคุณดี ๆ มากมาย แต่ควรกินให้พอดี เลือกกินชิ้นที่สะอาด ผ่านความร้อนอย่างเหมาะสม ที่สำคัญต้องเลือกถั่วลิสงจากร้านค้าหรีอแหล่งที่เชื่อถือได้ และหากพบจุดดำ ๆ ที่เปลือก หรือเมล็ดถั่ว ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจมีสารก่อมะเร็งในถั่วนั้น

ขอบคุณ เวปหมอดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่