หนังสือ คู่มือปฎิบัติวัดท่าซุง เล่ม 1 อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ 2.2

(ต่อจาก หนังสือ คู่มือปฎิบัติวัดท่าซุง เล่ม 1 อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ 2.1 https://ppantip.com/topic/43077561)

อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ 2.2


“เลือดและเนื้อของเราจะเหือดแห้งไปก็ตามที ชีวิตินทรีย์จะตายไปก็ตาม ถ้าเราไม่สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณเพียงใด เราจะไม่ลุกจากที่นี่”
 
เราก็จงคิดว่าถ้า 1 ถึง 10 นี้เอาดีไม่ได้ จะให้มันตายไปเสียเลย จิตพล่านนิดเริ่มตั้งต้นใหม่ รักษาอารมณ์ใจให้เข้าถึง 10 อย่างนี้เป็นจุดหนึ่ง แต่เมื่อนานๆไป ถึงครึ่งเดือนแล้ว ถ้าหากว่าท่านยังทำแค่ 10 ผมก็ถือว่าเลวเกินไปสำหรับผ้ากาสาวพัสตร์ หรือว่าบรรดาท่านพุทธบริษัทชายและหญิงที่อยู่ในเขตนี้ เมื่อถึงเวลา 15 วันผ่านไป ท่านทั้งหลายยังรักษาอารมณ์ถึง 10 ก็คิดว่าไม่ควรจะอยู่ในที่นี้ มันเลวเกินไปสำหรับเขตของพระพุทธศาสนา ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะผมทำมาก่อน ผมรู้ อย่ามาอ้างเหตุอ้างผลใดๆทั้งหมด การอ้างเหตุอ้างผลกับบุคคลที่ผ่านมาแล้วมันไม่เกิดประโยชน์ ทำไม แค่นับ 1 ถึง 10 มันเป็นเวลานิดเดียว ที่เขาใช้กันกว่าจะถึง 1 วัน นับ 1 เป็น ร้อยแล้ว บางทีสองร้อยสามร้อยจิตมันยังสบาย ทำให้มันคล่อง ถ้าเราทำกันทั้งวัน ไอ้ความยุ่งของจิตมันไม่มี ความโลภมันก็ไม่เกิด ความรักในอารมณ์ต่างๆ ก็ไม่เกิด ความโกรธความพยาบาทมันก็ไม่เกิด ความหลงมันก็ไม่เกิด มันจะเกิดมายังไง เพราะ จิตมันมีสภาพรับอารมณ์ๆเดียว ในเมื่อจิตมันรับอารมณ์ที่เป็นกุศล ทรงสติสัมปชัญญะด้วยอานาปานุสสติกรรมฐาน แล้วอะไรมันจะเข้ามาอีก ที่มันเข้ามาได้ เพราะว่าพวกท่านทั้งหลายมีหน้าที่แต่เพียงฟัง ดีไม่ดีกำลังสอนอยู่อย่างนี้ก็ไม่ฟัง ไปฟังวิทยุเสียบ้าง ไปนั่งคุยกันเสียบ้าง ไปทำงานกันเสียบ้าง นั่นแสดงถึงความเลวอย่างหนักของพวกท่าน จึงไม่ได้ดี
 
อันนี้ผมขอพูดแต่เฉพาะคนที่ไม่สนใจ สำหรับท่านที่ดีก็มีอยู่มาก ที่สามารถปราบปรามอารมณ์ร้ายที่มีอยู่ในจิต ความหยาบในจิตหมดไปเหลือแต่ความละเอียด คนที่มีความหยาบในจิตหมดไป เหลือแต่กองธรรมที่ละเอียด จะดูว่าเขามีความขยันขันแข็งในการงาน จิตใจเขาไม่ได้ฟุ้งซ่านไปในด้านโลกียธรรม มีความมุ่งมั่นโดยเฉพาะว่างานที่ทำนี่มันเป็นอามิสบูชา และการตั้งใจปฏิบัติงานโดยไม่คิดสินจ้างรางวัล มันเป็นปฏิบัติบูชา เป็นจาคานุสสติกรรมฐาน หรือที่เราเรียกว่า พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง เรียกว่า การถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดจนกว่าจะเข้านิพพาน เป็นอย่างนี้ ที่พูดอย่างนี้จะถือว่าไปยกยอปอปั้นหลอกใช้คน ก็ดูน้ำใจของเขาว่าเขาทำงานนั้น เขาทำเพื่อตัวหรือว่าทำเพื่อพระพุทธศาสนา เขาไม่เคยรับฟังว่าจะจ้างเท่าไหร่ ให้รางวัลเท่าไหร่ เขาก็ทำกันด้วยความเต็มใจ การทำอย่างนี้เป็นพุทธบูชา คือเป็นปฏิบัติบูชาตรงในพระพุทธเจ้า กระทำในทรัพย์สินขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่เขาทำกันอย่างนี้ ผมก็ทำมาอย่างนี้ ไม่เห็นว่างานทำลายพระกรรมฐาน เวลาหยิบงานขึ้นมา จิตใจก็ตั้งหน้าโดยเฉพาะในการงานที่เราทำ
 
สำหรับพระที่รักษาสมบัติของพระพุทธศาสนามีการผลัดเวรเปลี่ยนกัน นี่เป็น พุทธัง ชีวิตัง จริง ธัมมัง ชีวิตัง สังฆัง ชีวิตัง จริงเหมือนกัน เพราะว่ายอมพลี ความสุขส่วนตัว เข้ามารักษาทรัพย์สินของพระศาสนา เวลาท่านเดินไปเดินมาล่ะก็ ใช้การเดินเป็นเขตของการจงกรม อย่าปล่อยให้ใจมันเสียเวลา เวลานั่งอยู่ก็จับอานาปานุสสติกรรมฐานเป็นปรกติ ความจริงงานประเภทนี้ได้กำไรมาก คือ
 
1.รักษาทรัพย์สินของพระพุทธศาสนา เป็นการแสดงความกตัญญูต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

2.ใช้โอกาส ใช้สมถะภาวนาและวิปัสสนาภาวนาไปด้วย ช่วยกำลังใจให้มีความสุขเข้าถึงอารมณ์ฌาน
 
เป็นอันว่า สำหรับวันนี้ ก็ขอแนะนำท่าน ในส่วนที่จะใช้อานาปานุสสติกรรมฐาน กับพุทธานุสสติกรรมฐานควบคู่กันไป แต่ว่างานเฉพาะนี้เป็นงานเฉพาะของอานาปานุสสติกรรมฐาน คือจงพยายามใช้กำลังใจให้อยู่ขอบเขต มีความเด็ดเดี่ยว ถือว่าทำไม่ได้ให้มันตายไป พระอรหันต์ทั้งหลายที่ท่านบรรลุมรรคผล ท่านก็เป็นคนมี10 เหมือนเรา 2 มือ 10 นิ้ว มือละ 5 นิ้ว มีอาการ 32 เหมือนเรา ถ้าดูตามประวัติของท่านแล้ว เรากับท่านไม่ต่างกันอะไรนัก เว้นไว้แต่ว่าเรามีกำลังใจเท่าท่านหรือไม่เท่านั้น
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานอน ก่อนจะนอนจับลมหายใจเข้าออกเป็นปกติ จนกว่าจะหลับไป ให้มันหลับไปด้วยการดูลมหายใจเข้าออก ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ จะลุกขึ้นมาหรือไม่ลุกก็ตาม เวลาเช้ามืด ใช้อารมณ์ใจให้มันถึงที่สุดทุกวัน นี่ความจริงผมสอนมาแล้วนะเรื่องนี้นะ แต่เห็นบางท่านที่ผลุบๆ โผล่ๆ น่ะ เป็นอันว่ารู้ ผมรู้ว่าท่านเหล่านั้นไม่ได้สนใจอะไร เป็นที่น่าเสียดายชีวิตของท่านที่ตายแล้วมันจะต้องลงนรก เราจะประมาทกันเพื่อประโยชน์อะไร เห็นว่าพระพุทธศาสนาไม่ดีก็สึกไป มันก็หมดเรื่อง ฆราวาสก็เหมือนกัน เห็นว่าเขตพระศาสนาไม่ดีก็ออกไปเสียก็หมดเรื่อง จะมาอยู่ให้เปลืองที่ของพระศาสนาเพื่อประโยชน์อะไร เพียงแค่รักษากำลังใจเท่านี้ ยังถือว่าลำบาก มันก็ควรแล้วที่จะต้องไปลากโคลนทำงาน ให้สบายใจตามอัธยาศัยของตน
 
นี่การพูดอย่างนี้ จะถือว่าด่าใครไม่ใช่ เพราะต้องการให้ดี รักษากำลังใจนั้น มันเสียอะไรบ้าง เวลาเดินไปบิณฑบาต ก้าวเท้าซ้ายหายใจเข้า ก้าวเท้าขวาหายใจออก ทำมันไปจนกว่าจะบิณฑบาตจนกลับ แค่นี้จิตมันก็ทรงฌานแบบสบายๆ อย่าไปหาเวลาที่ไหน ไอ้ที่เรื่องปรารภอะไรอย่างอื่นภายนอก จงรู้ตัวว่าเราบวชมาเพื่อ นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คเหตวา เราอธิษฐานว่า ขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ฉะนั้นทางใดก็ตามที่เป็นปัจจัยของพระนิพพานเราต้องทำให้ได้ เราต้องชนะใจ อย่าลืมว่าวันเดียวสองวันมันไม่ชนะ ทำไปมันทุกวันมันต้องถึงคำว่าชนะ คำว่าไม่ชนะไม่มี ถ้าเรามีความพยายาม
 
ชาวนาน่ะเขาไถนาด้วยควายตัวเดียว ไถคันเดียว เนื้อที่ 30-40 ไร่ เขาทำได้ เพราะว่าเขาใช้รอยไถน้อยๆ แต่ว่าไถบ่อยๆ ไม่ยอมหยุด ข้อนี้มีอุปมาฉันใด แม้แต่อานาปานุสสติกรรมฐานก็เช่นเดียวกัน มันจะกลุ้มมันจะกลัดประการใดก็ตามที เราถือว่ากิจนี้เป็นกิจที่เราจะต้องทำ ยอมตายมันซะสิ ถ้ามันทำไม่ได้ให้มันตายไป เดินไปเดินมาอย่าทิ้งอารมณ์อานาปานุสสติ เดินไปก็ใช้เท้าเป็นเครื่องวัด ก้าวไปข้างซ้ายหายใจเข้า ก้าวไปข้างขวาหายใจออก เอามันอย่างนี้เรื่อยๆ ไป อย่าไปนั่งนึกนั่งคิดอะไร
 
ถ้าท่านทำกันอย่างนี้จริงๆ ผมให้เวลาอย่างเลวที่สุด เพียงแค่เดือนเดียว อารมณ์ฌานในอานาปานุสสติกรรมฐานเป็นของท่าน สำหรับที่จิตใจของท่านทั้งหลายเข้าสู่อารมณ์ฌาน จะเป็นฌานไหนก็ตาม ฌานก็ดี อุปจารฌานก็ดี ใจของท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีแต่ความเรียบร้อยของจิต มีอารมณ์แนบสนิทในด้านของกุศล ในการจะทำ การจะพูด การจะคิดของแต่ละบุคคลเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เยือกเย็น ปราศจากเวรปราศจากภัย ไม่เดือดร้อนต่อกิจการงานใด ๆ ที่มันจะเกิดกับเรา หรือมันจะหมดไปจากสภาพของเรา

เอาละ สำหรับวันนี้ ก็ขอเตือนกันไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับวันพรุ่งนี้จะได้พูดถึงอารมณ์ของฌาน ในขณะที่ท่านทั้งหลายเอาจิตของท่านก้าวเข้าไปสู่ระดับอานาปานุสสติกรรมฐานที่เป็นฌาน แล้วก็อย่าลืมว่า เฉพาะอานาปานุสสติกรรมฐานนี้ ผมจะแนะนำท่านถึงอรหัตตผล จะได้ทราบว่าคำสอนขององค์สมเด็จพระทศพล แต่ตอนก่อนที่เราปฏิบัติ ควรทำให้ได้ถึงอรหัตตผลได้ทุกจุด

เอาละ ต่อแต่นี้ไป ขอบรรดาท่านทั้งหลาย จงตั้งกายให้ตรง ดำรงจิตให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก ใช้คำภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าที่ท่านจะเห็นว่า เวลานั้นเป็นการสมควร เพราะว่าผมไม่ให้เวลากับท่าน ให้ท่านทำตามอัธยาศัยของท่าน


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่