แม้ว่าทาสจะตะโกนเรียกกี่ครั้งก็ไม่หัน ไม่มอง ไม่สน แต่ลึกๆ แล้วแมวจะเข้าใจภาษามนุษย์หรือเปล่านะ? สิ่งนี้ถูกตอบแล้วในงานวิจัยชิ้นล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยบอกว่า จริงๆ แล้วแมวมีความสามารถในการเข้าใจภาษามนุษย์ได้ดีกว่าเด็กทารกถึง 4 เท่า 

แม้ว่าภาษาที่เราพูดกันจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร แต่ไม่ได้มีแค่มนุษย์ (Homo sapiens) เท่านั้นที่เข้าใจ แม้แต่ลิงบางสายพันธุ์ยังสามารถเชื่อมโยงคำพูดกับสัญลักษณ์หรือรูปภาพได้ หรือนกแก้วแอฟริกันสีเทาก็ยังเข้าใจและตอบสนองต่อคำสั่งที่พูดออกมาได้ เช่นเดียวกับ น้องหมาที่ได้รับการฝึกก็จะสามารถตอบสนองคำสั่งต่างๆ ได้

แต่เมื่อเป็น ‘แมว’ สิ่งมีชีวิตที่มนุษย์ไม่มีวันเข้าใจจิตใจได้อย่างถ่องแท้ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่หยุดความพยายามเข้าใจพวกมัน ซึ่ง คาร์โล ซิราคูซา นักพฤติกรรมวิทยาสัตว์ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย บอกว่า แมวสามารถจดจำเสียงของคนได้อย่างแน่นอน และงานวิจัยหลายชิ้นพิสูจน์แล้วว่าแมวต้องอาศัยปฏิสัมพันธ์ที่มีกับมนุษย์ในการแก้ปัญหา

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่บอกว่า แมวตอบสนองต่อการชี้ และการวิจัยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าแมวสามารถจดจำชื่อของตัวเองได้ และยังจดจำชื่อของมนุษย์และสัตว์ที่คุ้นเคยกันได้อีกด้วย

นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า ถ้าแมวฟังภาษาคนรู้เรื่องและจดจำชื่อเพื่อนๆ สัตว์ด้วยกันได้ มันจะสามารถเชื่อมโยงคำพูดกับวัตถุต่างๆ ได้ไหม?

ซาโฮะ ทาคากิ จากมหาวิทยาลัยอาซาบุในญี่ปุ่น ได้ทำการทดลองโดยให้แมวโต 31 ตัวเล่นเกมคำศัพท์ง่ายๆ เพื่อทดสอบความสามารถของมันกับเด็กทารก โดยแมวจะได้รับชมคลิปการ์ตูนความยาว 9 วินาที 2 คลิป ซึ่งเจ้าของของพวกมันจะพูดคำที่แต่งขึ้นซ้ำๆ ในแต่ละภาพ คลิปเหล่านี้จะถูกเรียงลำดับซ้ำไปเรื่อยๆ จนแมวเริ่มเบื่อและสนใจหน้าจอน้อยลง 50%

หลังจากใช้เวลาพักสั้นๆ จะเปิดคลิปภาพซ้ำ แต่คราวนี้จะสลับคำพูดกับภาพ เช่น เปิดภาพยูนิคอร์นแต่พูดว่าดวงอาทิตย์ ซึ่งแมวมีอาการสับสนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้แมวสนใจสิ่งที่เปิดนานขึ้นโดยเฉลี่ย 15% 

ทาคากิ บอกในงานวิจัยว่า การที่แมวสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้และรู้สึกสับสนอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นหลักฐานที่ดีว่าแมวได้สร้างการเชื่อมโยงระหว่างคำพูดและภาพ โดยแมวบางตัวจ้องหน้าจอด้วยตาที่ขยายกว้างขึ้น ขณะที่การทดลองกับเด็กทารก ผู้ทดลองใช้เวลาในการทดลองเพิ่มจากคลิปวิดีโอ เดิมที่ 9 วินาที เป็น 20 วินาที ถึง 4 ครั้ง 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องขีดเส้นใต้กันชัดๆ เป็นหมายเหตุไว้ก็คือ การทดลองในครั้งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะฟันธงได้ นักพฤติกรรมวิทยาสัตว์ บอกว่า มันเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่างสัตว์ที่โตเต็มวัย (แมว) กับสัตว์ที่ยังไม่โตเต็มวัย (มนุษย์) ซึ่งต่างสายพันธุ์กันด้วย 

นักพฤติกรรมวิทยาสัตว์เสนอว่า การเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่น เช่น น้องหมาอาจมีประโยชน์มากกว่า แต่ก็จำเป็นที่ต้องพิจารณาความแตกต่างทางวิวัฒนาการของพวกมันด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ทีมวิจัยก็ได้พัฒนาวิธีการที่สมเหตุสมผลและมีประสิทธิภาพในการศึกษานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความยากลำบากในการศึกษาสัตว์อย่างแมว

ที่มา : The Matter