อยากแชร์ประสบการณ์ การรักษามีบุตรยากที่ศิริราช (ลงให้ภรรยา)

สวัสดีค่ะ 

ตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ในการทำเด็กหลอดแก้วแบบ icsi เพราะก่อนเราจะทำก็เข้ามาอ่าน มาค้นข้อมูลในนี้เยอะมาก เพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองในการทำ และเป็นประโยชน์ให้กับคนที่อยากเป็นแม่เหมือนกันนะคะ 

ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้เคยทำ IUI ที่ รพ.รัฐชื่อดังแห่งหนึ่งมาแล้ว 3 ครั้ง (ตั้งแต่ปี 2562-2563) ค่าใช้จ่ายประมาณแสนนิดๆ เพราะตอนนั้นก่อนทำมีปัญหา คือเป็น PCOS ไข่ไม่ตก และมดลูกมีพังผืด ทำให้ไข่ไม่ตก ประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง(หรือรอบประจำเดือนยาวกว่าปกติ) ก่อนที่เราจะตัดสินใจในการทำ ICSI ครั้งนี้ เราก็ผ่านความล้มเหลวจาก IUI มาหลายครั้งด้วยกัน เลยพักไปช่วงนึง คือพักทำใจก่อนนั่นเอง แล้วมาตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้วแบบ icsi ช่วงเดือนเมษายน ปี 2567 ที่ รพ.ศิริราช ในเวลาทำการ ตอนเราอายุ 38 ปี (แฟน 51 ปี) ทำงานพนักงานบริษัททั้งคู่ ทำวิธีธรรมชาติปล่อยมาแล้ว 14 ปี แต่ไม่ท้อง ปัญหาของเรา คือเป็น PCOS ไข่ไม่ตก ส่วนของแฟนปกติดีทุกอย่าง (เราเลือกทำในเวลาเพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าประมาณ 30-40% อันนี้พยาบาลแจ้งมาแบบนั้นนะคะ  หรือถ้าใครไม่สะดวกก็มีคลินิกนอกเวลาที่เป็นเสาร์-อาทิตย์ ปรึกษากับพยาบาลได้เลยค่ะ พยาบาลใจดีทุกคนเลยคะ)

ขั้นตอนในการขอเข้ารับการรักษา ต้องสมัครลงทะเบียนขอมีเวชระเบียนผู้ป่วยใหม่ออนไลน์ ผ่านทางเว็ปไซต์ของ รพ. ก่อน เพื่อให้ได้รับรหัสผู้ป่วย HN นะคะ เพราะตอนโทรจองคิวพยาบาลจะสอบถามรหัสผู้ป่วย HN เพื่อทำการจองคิวด้วย  ขอเริ่มเลยนะคะ

ช่วงเดือน  เมษายน 67   

โทรเข้าไปที่แผนกสูติ-นรีเวช เพื่อนัดคิดตรวจ (02-4194778,02-4199929) พอโทรเข้าไปก็แจ้งได้เลยว่าต้องการปรึกษากับผู้มีบุตรยาก ก็จะได้คิวมา ช่วงนั้นคิวจะอยู่ประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้นก็รอไปยาวๆเลยจ้า เราได้คิววันที่ 13 มิ.ย 67

วันที่ 13 มิถุนายน 67     

ขึ้นไปแผนกสูติ-นรีเวช ตึกผู้ป่วยนอกชั้น 3 หน้าห้องจะมีกระดาษให้เขียน เลข HN แล้วก็วางไว้ แล้วรอเรียกชื่อได้เลย รอไม่นานพยาบาลก็จะเรียกซักประวัติ และให้บัตรคิวเพื่อไปรอหน้าห้องพบคุณหมอ คุณหมอก็จะถามว่าเคยตรวจมะเร็งปากมดลูกมามั๊ย ถ้าไม่เคยก็ต้องตรวจก่อนการเข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยาก ตัวเรายังไม่เคยตรวจมาก่อนเลยตรวจวันนั้นเลย (แต่แอบเขินนิดหน่อยนะคะ เพราะวันนั้นจะมีนักศึกษาแพทย์ศึกษาเคสของเราด้วย) วันที่ไปตรวจแนะนำพาแฟนไปด้วยนะคะค่าใช้จ่ายรวม 2,370 บาท (ชำระก่อนไปที่หน่วยผู้มีบุตรยาก)
หลังจากตรวจเสร็จก็จะส่งตัวไปที่ หน่วยผู้มีบุตรยาก อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ชั้น 6 พอถึงก็ยื่นใบที่พยาบาลแผนกสูติ-นรีเวช ส่งตัวมาให้กับพยาบาลที่
เคาเตอร์พยาบาล แล้วก็รอเรียกชื่อเหมือนเดิม รอไม่นานค่ะ พยาบาลก็จะเรียกซักประวัติทั้งเราและแฟน และจะให้เลือกคุณหมอที่จะดูแลเรา (เราเลือกเป็นอาจารย์หมอผู้หญิงท่านหนึ่ง จะมาเฉลยชื่ออาจารย์ให้ตอนทำสำเร็จแล้วนะคะ แต่เราก็มั่นใจคุณหมอที่นี้ว่าเก่งทุกคนนะคะ) หลังจากเลือกเรียบร้อยพยาบาลก็จะให้ใบเพื่อนำไปตรวจเลือดของเรากับของแฟน เบื้องต้น และอีกใบจะเป็นตรวจเลือดของเราตอนมีประจำเดือน 1-3 วันแรก (พยายาลจะขอใบทะเบียนสมรสให้ส่งตอนมาพบหมอตามนัดครั้งต่อไปนะคะ ซึ่งเราได้นัดครั้งต่อไปคือวันที่ 23 ก.ค 67)
หมายเหตุ  ต้องตรวจเลือดทั้งของเราและแฟนให้เสร็จก่อนมาพบคุณหมอในครั้งหน้าค่ะ เพราะคุณหมอจะได้ทำการประเมินในการรักษาเรากับแฟนตัดสินใจตรวจวันนั้นเลย เพราะไหนๆก็มาแล้ว ก็ไปที่จุดเจาะเลือดที่อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา (แต่ถ้าไม่สะดวกวันนี้ก็สามารถมาวันอื่นได้)

ค่าใช้จ่ายรวม 1,730 บาท (ฝ่ายชาย) 
ค่าใช้จ่ายรวม    630 บาท (ฝ่ายหญิง)
หลังจากเสร็จก็กลับบ้านได้ มาใหม่ในวันที่มีประจำเดือน 1-3 วันแรก ขั้นตอนในการมาครั้งแรกอาจจะเยอะหน่อยแต่ใช้เวลาไม่นานนะคะ มาถึงช่วง 7.00 ใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิน 12.00 ก็เสร็จเรียบร้อยกลับบ้านได้ 

วันที่ 22 มิถุนายน 67     

ตรวจเลือดวันที่มีประจำเดือน 1-3 วันแรก(เราเป็นวันที่ 2) ทำเหมือนเดิมเลยค่ะวันนี้ ไปที่จุดเจาะเลือดที่อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา เจาะเสร็จก็กลับบ้านได้เลย
ค่าใช้จ่ายรวม  1,850  บาท (ฝ่ายหญิง)

วันที่ 23 กรกฎาคม 67   

ตรงไปที่หน่วยผู้มีบุตรยาก อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ชั้น 6 มาถึงยื่นใบนัดเคาเตอร์พยาบาลแล้วก็รอเรียกชื่อเหมือนเดิม รอไม่นานค่ะ พยาบาลก็จะเรียกให้ไปเปลี่ยนชุดไปรอที่หน้าห้องอัลตราซาวด์ดูไข่ ส่วนแฟนวันนี้ต้องมาตรวจน้ำเชื้อด้วยนะคะ พอเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่ ก็รอเรียกพบคุณหมอฟังผลที่ตรวจ (วันนี้จะยังไม่พบอาจารย์หมอนะคะ จะพบหมอท่านอื่นในทีมอาจารย์ไปก่อน) ส่วนของฝ่ายหญิง คุณหมอแจ้งว่าเป็น PCOS กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ และเเป็นพาหะธาลัสซีเมีย ส่วนของฝ่ายชายคุณหมอแจ้งว่า ปกติดี น้ำเชื้อแข็งแรง
ค่าใช้จ่ายรวม  700 บาท (ฝ่ายชาย) 
ค่าใช้จ่ายรวม  880 บาท (ฝ่ายหญิง) 
พอแจ้งผลเสร็จก็ออกมารอบรับใบนัดครั้งต่อไปที่เคาเตอร์พยาบาล นัดในครั้งต่อไปคือวันที่มีประจำเดือน 1-3 แรก พยาบาลแจ้งว่ามีประจำวันไหนสามารถโทรเข้ามานัดวันที่จะมาได้เลยค่ะ

วันที่ 21 สิงหาคม 67     

เรามาวันที่ประจำเดือนวันที่ 2 (เพราะวันแรกมาช่วงบ่ายเลยโทรเข้ามานัดเป็นวันถัดไป) (โทรนัดได้ที่เบอร์ 02-4194651-2)มาถึงยื่นใบนัดเคาเตอร์พยาบาล แล้วก็รอเรียกชื่อเหมือนเดิม รอไม่นานค่ะ พยาบาลก็จะเรียกให้ไปเปลี่ยนชุดไปรอที่หน้าห้องอัลตราซาวด์ดูไข่ว่ามีไข่ตั้งต้นกี่ใบ คุณหมอบอกว่าไข่เยอะมาก คุณหมอก็วัดขนาดให้คุณพยาบาลเขียนลงประวัติ(แต่ไม่ได้แจ้งว่าได้กี่ใบ) พอเสร็จก็รอบพบอาจาร์หมอที่ห้องตรวจ อาจารย์หมอก็สั่งจ่ายยาให้มาฉีดกระตุ้นไข่ที่หน้าท้อง เป็นจำนวน 7 วัน(คือวันที่ 21,22,23,24,25,26,27)ปริมาณยา 150 IU (แต่จำชื่อยาไม่ได้นะคะ) และยากินยากันไข่ตก (ยาอาจจะไม่ได้เหมือนกันนะคะแล้วแต่เคส แต่เคสของเราคุณหมอจ่ายยาในปริมาณน้อย) และให้นำประวัติมาที่เคาเตอร์พยาบาล รอเรียกชื่อเหมือนเดิม เพื่อนำใบไปชำระค่ายาที่ชั้น 1 แล้วก็ขึ้นมาให้พยาบาลแนะนำวิธีการใช้ยา และรับใบนัดกลับบ้าน นัดครั้งต่อไปวันที่ 28 ส.ค 67 
ค่าใช้จ่ายรวม  13,284 บาท (ฝ่ายหญิง) 
 
อาการของการฉีดยากระตุ้นไข่ พยาบาลแจ้งว่าให้ฉีดช่วงเวลา 18.00-20 น. ของทุกวัน เลทได้ไม่เกิน 30 นาทีแต่ไม่ควรทำ ควรฉีดให้ตรงเวลาของทุกวัน และกินยากันไข่ตก เวลา 21.00 น.ของทุกวัน
วันที่ 22 ส.ค 67 ฉีด 19.00 น. กินยากันไข่ตก 21.00 น. อาการปกติแต่ตอนเช้าแน่นท้องเหมือนจะเป็นลม          
วันที่ 23 ส.ค 67 ฉีด 19.00 น. กินยากันไข่ตก 21.00 น. อาการปกติ ตอนเช้าท้องอืดนิดหน่อย
วันที่ 24 ส.ค 67 ฉีด 19.00 น. กินยากันไข่ตก 21.00 น. อาการปกติ ตอนเช้าท้องอืดนิดหน่อย
วันที่ 25 ส.ค 67 ฉีด 19.00 น. กินยากันไข่ตก 21.00 น. อาการปกติ ระหว่างวันท้องอืดเริ่มแน่นขึ้น
วันที่ 26 ส.ค 67  ฉีด 19.00 น. กินยากันไข่ตก 21.00 น. อาการปกติ ระหว่างวันท้องอืดเริ่มแน่นขึ้น
วันที่ 27 ส.ค 67 ฉีด 19.00 น. กินยากันไข่ตก 21.00 น. อาการปกติ ระหว่างวันท้องอืดมาก
 
**หมายเหตุ** แนะนำให้ทานไข่วันละ 2-3 ฟอง แต่ท้องเราอืดมากขนาดรูดซิปกางเกงใส่ทำงานไม่ได้ ต้องไม่รูดซิปกันเลยทีเดียว ต้องปล่อยชายเสื้อมาปิดไว้เอา เดินก็จะไม่ค่อยไหว เวลาเดินก็จะหน่วงๆที่ท้องน้อย ข้อควรระหว่างคือควรเดินน้อยที่สุด และห้ามเดินตกหลุม ไม่งั้นจะจุกและเจ็บมาก (อันนี้เป็นอาการเราเองนะคะ คนอื่นอาจจะไม่เป็นแบบนี้ เพราะเท่าที่ศึกษาเคสอื่นมาไม่มีใครเป็นเลย เราก็งงตัวเองเหมือนกันว่าทำไมมันแน่นมากได้ขนาดนี้)

วันที่ 28 สิงหาคม 67     

ตรงไปที่หน่วยผู้มีบุตรยาก อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ชั้น 6 มาถึงยื่นใบนัดเคาเตอร์พยาบาลแล้วก็รอเรียกชื่อเหมือนเดิม รอไม่นานค่ะ พยาบาลก็จะเรียกให้ไปเปลี่ยนชุดไปรอที่หน้าห้องอัลตราซาวด์ดูไข่ครั้งนี้คุณหมอก็บอกว่าไข่เยอะมาก คุณหมอก็วัดขนาดให้พยาบาลเขียนลงประวัติ วัดขนาดไข่อยู่ประมาณ 30 นาที นานมากเลยถามคุณหมอว่ามีประมาณกี่ใบ คุณหมอแจ้งว่าข้างเดียวก็ประมาณ 40 ใบ คุณหมอก็นับต่อไปเรื่อยๆ จนเสร็จ หลังจากเสร็จคุณหมอก็แนะนำว่าเรามีไข่เยอะเกินไป ใบเล็กๆที่ยังไม่โตถ้าได้โตเต็มที่ ก็จะทำให้ท้องอืดมาก อาจจะเยอะ และถ้าฉีดยากระตุ้นไข่ไปเรื่อยๆ เราอาจจะได้นอน รพ. ต้องรอให้อาจารย์หมอดูอีกที พออาจารย์หมอดูก็สั่งยามาฉีดเพิ่มอีก 1 วัน แต่ถ้าไม่ไหวก่อนก็สามารถมาที่ห้องฉุกเฉินของ รพ. หรือโทรมาปรึกษาพยาบาลได้ อาจารย์หมอก็สั่งจ่ายยาให้มาฉีดกระตุ้นไข้ที่หน้าท้อง เป็นจำนวน 1 วัน(คือวันที่ 28)ปริมาณยา 150 IU (แต่จำชื่อยาไม่ได้นะคะ)และยากินยากันไข่ตก +ยาฉีดให้ไข่ตก    และให้นำประวัติมาที่เคาเตอร์พยาบาล รอเรียกชื่อเหมือนเดิมเพื่อนำใบไปชำระค่ายาแล้วก็ขึ้นมาให้พยาบาล แนะนำวิธีการใช้ยา และรับใบนัดกลับบ้าน นัดเก็บไข่ 31 ส.ค 67 

หมายเหตุ มีถามอาจารย์หมอว่าไข่ที่ใช้ได้อยู่ประมาณกี่ใบคะตอนนี้ อาจารย์หมอก็บอกว่าประมาณ 20 ใบ แต่ระหว่างเดินไปวางแฟ้มประวัติที่เคาเตอร์พยาบาล มีแอบนับไข่ที่พยาบาลเขียนในแฟ้มประวัตินิดนึง (นับไปนับมาได้ไข่ตั้งต้นที่ 40 ใบจ้า ขนาดจะอยู่ที่ 5.5-20 mm.แอบตกใจมิน่าล่ะถึงท้องอืดได้ขนาดนี้)
ค่าใช้จ่ายรวม  4,519 บาท (ฝ่ายหญิง) 

อาการของการฉีดยากระตุ้นไข่ +ยาฉีดให้ไข่ตก

- วันที่ 28 ส.ค 67 ฉีด 19.00 น. กินยากันไข่ตก 21.00 น. อาการปกติ ระหว่างวันท้องอืดมาก     

- วันที่ 29 ส.ค 67 ฉีดยาฉีดให้ไข่ตก 2 เข็ม 22.30 น. (ห้ามเลทนะคะ)ฉีดเสร็จอาการเหมือนจะเป็นลม ระหว่างวันท้องอืดมาก พอตอนเย็นอาการแน่น หน่วงท้อง จุกท้อง อาการมาครบเลยจ้า อยากจะร้องไห้เพราะทรมานมาก เกือบไม่ไหวแต่ก็ต้องทนเพราะคำว่าอยากเป็นแม่เลยจ้า

- วันที่ 31 ส.ค 67 เวลานัด 9.00 น. แต่ตื่นเต้นมาก มายื่นตั้งแต่เวลา 7.00 น. มาถึงก็เหมือนเดินเลยจ้า  ยื่นใบนัดที่เคาเตอร์พยาบาล แล้วก็รอเรียกชื่อ รอบนี้พยาบาลเรียกคุณแฟนเข้าห้องเก็บน้ำเชื้อก่อนเลย ส่วนตัวเราพยาบาลก็แจ้งว่าให้รอเวลา 9.30 น. ค่อยไปเปลี่ยนชุด ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย และเดินไปรอที่ห้องเก็บไข่ได้เลย ผ่านไป 30 นาที แฟนเดินออกมาแอบถามแฟนว่าเป็นยังไงบ้าง แฟนบอกว่าเก็บได้เยอะ โอเคเลย เราเลยแอบคิดในใจว่ามีประสบการณ์เก็บมาหลายครั้ง ครั้งนี้น่าจะโอเคแหละ 5555
ถึงเวลา 9.30 น. ขึ้นเตียงหมอจะฉีดยาให้มึนๆ แต่รู้สึกตัวในระหว่างที่เก็บไข่ ไม่แน่ใจว่าเก็บกี่นาที่แต่ไม่นานพยาบาลก็บอกว่าเสร็จแล้ว ก็พยุงมานอนที่สำหรับพัก นอนพักประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงได้ พยาบาลก็จะสอบถามว่าโอเคไหม ถ้าโอเคแล้วก็ออกมารอฟังผลว่าเก็บไข่ได้กี่ใบ ส่วนแฟนก็ไปจ่ายค่าเก็บไข่รอไว้ก่อนแล้ว ตอนฟังผลพยาบาลแจ้งว่าเก็บไข่ได้ 26 ใบ ค่อนข้างเยอะ ท้องอาจจะอืด หรือหน่วง มีเลือดออก ก็โทรมาปรึกษาได้ แนะนำให้กินไข่ 7-8 ฟอง ทุกวันไปก่อน และให้แอดไลน์สอบถามว่าได้ตัวอ่อนกี่ตัว หลังจากนำไปปฏิสนธิในวันที่ 9 ก.ย 67 เวลา 13.00-14.00 น.
หมายเหตุ  แต่ก็แอบเสียดายนิดหน่อยเพราะรอบเก็บไข่ตรงกับเสาร์ พยาบาลแจ้งว่าต้องจ่ายเพิ่มอีก 10,000 บาท เพราะเป็นคลิกนิกนอกเวลา ลืมบอกว่าวีดีโอที่ให้ดูสำหรับเก็บน้ำเชื้อค่อนข้างจะเก่า แนะนำให้ฝ่ายชายเตรียมมาเองนะคะ ส่วนอาการหลังจากกลับบ้านก็มีแค่ท้องอืดเล็กน้อย นอกนั้นก็ไม่มีอะไร 
ค่าใช้จ่ายรวม  27,081 บาท (ฝ่ายหญิง+ฝ่ายชาย) 

*** วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ ว่างๆจะมาลงให้ภรรยาอีกทีจ้า ****
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่