ก่อนอื่นต้องขออธิบายเคสของตัวเองก่อนนะคะ ว่าเป็นคนที่เคยตั้งครรภ์ได้เองมาแล้วตามธรรมชาติ อาศัยแค่การกินยากระตุ้นไข่แค่ไม่กี่รอบเดือนเท่านั้น ณ ตอนอายุ 32 ปี ตลอดเวลาการตั้งครรภ์ ไม่มีภาวะแท้งคุกคาม อายุครรภ์ก็ 39 สัปดาห์ กว่าๆ และคลอดได้เองตามธรรมชาติเช่นกัน ท้องนั้นไม่มีปัญหาใดๆเลย แต่หลังจากคลอดน้องคนแรกไป ก็ตั้งใจอยากจะมีอีกคน ปรากฎว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก 5 ปี ไร้ซึ่งวี่แวว จึงปรึกษากับสามีว่า เราควรต้องพึ่งการแพทย์แล้วแหละ แต่ก่อนจะมาพบหมอเพื่อทำ ICSI ก็ไปหาหมอที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งก่อนตอนกลางเดือน มกราคม 2567 ไปอัลตร้าซาวน์มดลูก ว่ามีเนื้องอก หรือซีสอะไรไหม ผลก็ออกมาว่ามี เลยขอคุณหมอทำการผ่าตัดออกเลย แบบวิธีส่องกล้อง เผื่อจะเคลียร์ให้มดลูกของเรา พร้อมที่สุดก่อนไปทำเด็กหลอดแก้ว
ระหว่างที่ยังไม่ได้เลือกสถานที่ที่จะทำ ICSI ก็หาข้อมูลในเน็ตบ้าง สอบถามพูดคุยกับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการทำมาแล้วบ้าง เก็บข้อมูลอยู่หลายเดือนด้วยกัน เช่นขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร การพบหมอเพื่อตรวจติดตามบ่อยแค่ไหน คลินิกไหนมีรีวิวดีๆในแง่ของบริการ ความสะอาด และอัตราการสำเร็จบ้าง และอื่นๆจิปาถะ คือจะบอกว่า พอก้าวเข้าสู่วงการนี้ มันมีอะไรให้เรียนรู้เยอะมากคร๊า และรอเวลาที่คุณสามีพร้อมหลังจากสะสางงานการเสร็จ และที่สำคัญที่สุดคือทุนทรัพย์ นอกจากต้องเตรียมทุนทรัพย์ในการทำแล้วต้องเตรียมใจด้วยคะ หากทำครั้งแรกไม่สำเร็จ ยังจะมีครั้งที่ 2 และ 3 อยู่ไหม ไหวหรือเปล่า ค่าใช้จ่ายจะไปหยุดอยู่ที่ตรงไหน เดี๋ยวค่อยๆมาเล่ากันนะ จะพยายามเอาให้ละเอียดที่สุด
สรุปว่าเราเลือกทำที่ Prime Fertility Center ตรง BTS อารีย์ ด้วยเหตุผล 2-3 ประการ หลักๆคือระยะทางที่ใกล้ที่สุดจากที่ทำงานไปคลินิกต่อให้นั่งแท็กซี่ไปก็เสียเงินไม่เกิน 80 บาท และก็ 2 ราคาแพ็กเก็จมีให้เลือกหลากหลาย สิ่งที่ได้จากแพ็กเกจที่เลือกมองว่าครอบคุมพอสมควร นี่เป็น 2 สาเหตุหลักๆที่ตัดสินใจเลือกที่นี่คะ ราคาแพ็กเกจที่เลือกไปเป็นราคาแพ็กเกจที่ต่ำสุดของทางคลินิก ในราคา 169,999 บาท สิ่งที่จะได้มีดังนี้
1. ตรวจร่างกายชาย-หญิง (ส่วนมากที่อื่นจะคิดเงินค่าตรวจร่างกายเพิ่มประมาณ หมื่นกว่าบาท ต่างหากคะ)
2. ยากระตุ้นไข่ไม่เกิน 3500 UI (หลายๆที่ให้ยากระตุ้นไข่มากสุดไม่เกิน 3000 UI ส่วนมาก 2500 UI ด้วยซ้ำใครใช้เกินจ่ายเองคะ ยานี้แพงสุดๆ)
3. เก็บไข่
4. ICSI
5. ย้ายตัวอ่อนรอบสด (จะทำการย้ายตัวอ่อนหลังตัวอ่อนเจริญเติบโตที่บลาสโตซิส ย้ายสดจะไม่ได้ตรวจโครโมโซมนะคะ อันนี้เหมาะกับคนอายุต่ำว่า 35ปี)
6. แช่แข็งตัวอ่อน (จำไม่ได้ว่าเค้าแช่ให้กี่ตัว เดี๋ยวไปให้ถึงขั้นตอนนี้ก่อน คงจะได้รู้)
ลัดมาถึงวันที่พร้อมเลยละกันนะคะ
วันที่ 1 พ.ย. 2567 จับมือคุณสามีไปพบคุณหมอ เมื่อไปถึงคลินิกก็ทำการกรอกประวัติที่จำเป็นทั้งหมด พร้อมทั้งมีการซักประวัติของทั้งคู่ นำใบทะเบียนสมรส กับบัตรประชาชนตัวจริงไปแค่นั้นสำหรับเอกสารของคู่สามี-ภรรยา ตกลงขอเริ่มแพ็กเกจเลยทันทีวันนี้ ใจร้อนอยากทำแล้ว >>>จากนั้นก็ไปทำการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง วัดความดัน ซักประวัติการผ่าตัด แพ้ยา ฯลฯ (และก็เจาะเลือด ทำทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง) และฝ่ายชายไปเก็บเชื้ออสุจิ เพื่อตรวจวิเคราะห์ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วรอผลเลือดจากห้องแล็ปประมาณ 1 ชั่วโมงคะ เมื่อผลเลือดกับผลอสุจิออก ก็จะได้พบกับคุณหมอแล้ว เมื่อพบคุณหมอ ฝ่ายหญิงก็เปลี่ยนผ้าขึ้นเตียง เพื่อดูโพรงมดลูกและก็รังไข่กันคะ วันนี้นับๆแล้วเห็นไข่ใบจิ๋วๆ ขนาด 2-3 มิล ประมาณ 3 ใบคะ จากรังไข่ทั้ง 2 ข้าง เรียกว่าไข่ตั้งต้นคะ ส่วนผลการตรวจฮอร์โมนจากเลือดก็ได้ค่า AMH 0.51 ซึ่งมันสอดคล้องกับไข่ที่เห็น เพราะว่าอายุ 38 ปี รังไข่เสื่อมแล้วจ้า ส่วนฝ่ายชายก็พบว่าเชื้ออสุจิก็ตายเยอะ พบตัวว่ายที่ดีน้อย คุณหมอสรุปได้ว่า ผุ้หญิงรังไข่เสื่อม ฝ่ายชายอสุจิไม่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นสาเหตุทำให้ตลอด 5 ปีที่ปล่อยมีลูกถึงไม่ติดสักที คุณหมอสั่งวิตามินบำรุงทั้งชายและหญิงแยกกันไปทานชุดใหญ่
ในวิตามินที่ฝ่ายหญิงได้ก็เป็นโฟลิก/วิตามินดี 3/CO-Q10/วิตามินรวม 2 อย่าง/ฮอร์โมนเพศชายชนิดเจล ไว้สำหรับทาใต้แขน
ของผู้ชายก็จะได้ ซิ้งค์/วิตามินดี 3/วิตามินรวม 2 อย่างเหมือนกัน กลับไปให้เริ่มกินทันที
ต้องขอบอกก่อนว่า ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในคลินิก ให้ความเป็นส่วนตัวดีมาก พยาบาล ผู้ช่วย ทักทาย และให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี นั่งรอผลเลือด ผลอสุจิออก ก็ได้พบคุณหมอ ซึ่งระหว่างอยู่กับคุณหมอ สงสัยอะไรก็ซักถามได้ตลอด เต็มที่เท่าที่ตัวเองจะพอใจ ในตรงนี้เราว่าก็ดีนะ มีเวลาให้เรา ไม่ต้องเร่งรีบ
กลับมาต่อคะ สรุปว่าวันนี้ก็จ่ายเงินก่อนเลยรอบที่ 1 สำหรับชำระค่าแพ็กเกจ 50% แรก ด้วยยอด 84,999.50 บาท และก็ค่าวิตามิน (อันนี้ไม่รวมในแพ็กเกจนะคะ) 19,500 บาท สำรับชายหญิง กินทั้งเดือน (30วัน) ส่วนยาอยู่ในแพ็กเกจคะ จะได้ยาปรับประจำเดือนและก็ยาปรับฮอร์โมนมากินคะ ที่ได้ยากลุ่มนี้กลับมากินเพราะว่าส่วนตัวประจำเดือนมาไม่เคยตรงเลย เพี๊ยนตลอด จากนั้นก็กลับบ้านคะ กินวิตามิน กินยาตามที่คุณหมอสั่ง รอเวลาประจำเดือนมา เพื่อทำนัดมาพบคุณหมอครั้งที่ 2 คะ
คืนวันที่ 8 พ.ย. 2567 มีเลือดปนกับฉี่นิดหน่อย เลยทำการนัดพยาบาลเลย ทางคลินิกให้ Add Line เพื่อสะดวกต่อการนัดคะ
วันที่ 9 พ.ย. 2567 มาพบคุณหมอตามนัด พร้อมกับประจำเดือนแดงเดือด มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดคะ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ก็พบว่าไข่ฟองจิ๋วของเราก็ยังคงเป็น 3 ฟองตั้งต้นเหมือนเดิม ซึ่งคุณหมอบอกว่า ฮอร์โมน AMH น้อย ไข่ในรังไข่สำรองมีน้อย รังไข่เสื่อมแล้ว ก็ได้ประมาณนี้แหละครับ แต่ถ้าสำหรับคนที่รังไข่ยังไม่เสื่อมมักจะพบไข่ตั้งต้นที่ 8-10 ใบ (เมื่อมีการเปรียบเทียบกับคนในวัยเดียวกันที่รังไข่ยังไม่เสื่อม) หมดแรงทำต่อเลย 555+ จะคุ้มค่าต่อการเสียเงินไหมเนี่ย ไข่น้อยขนาดนี้ คุณหมอก็ทำการคำนวนปริมาณยาที่จะฉีดกระตุ้นไข่ในรอบนี้ สำหรับเราก็ต้องลองสู้ดู 3 ฟองก็ 3 ฟอง (รังไข่ข้างซ้าย 2 ฟอง ข้างขวา 1 ฟอง) ใช้เท่าที่มี วันนี้ได้รับยากระตุ้นไข่ 350 UI จำนวน 4 เข็ม(ชนิดเข็มปากกา) ให้เริ่มฉีดที่บริเวณใต้สะดือ ในเวลา 20.00 น. ทุกวัน คุณหมอขอเปลี่ยนยาฉีดกระตุ้นเป็นยา Pergoveris ทั้งหมด เพราะฟองไข่ตั้งต้นน้อย อยากให้ได้รับยาที่ดีที่สุด เพื่อให้ไข่ที่มีอยู่ สมบูรณ์ที่สุด ใช้ทำ ICSI ได้ทุกฟอง โดยที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกแพ็กเกจอยู่ที่ 27,000 บาท จะได้รับยา Pergoveris ที่ 3,500 UI เช่นกัน ก็ลงมือทำไปแล้ว อะไรที่หมอคิดว่าดีก็รับหมดคะ เพื่อผลการรักษาที่ดียอม ก็ทำการฉีดยา Pergoveris 350 UI ในวันที่ 9 พ.ย. ถึงวันที่ 12 พ.ย. 67 ในเวลา 20.00 น. ทุกวันไม่เคยเลทเลย เพราะว่าหากเราฉีดไม่ตรงเวลา ผลที่ตามมาน่ากลัวมากคะ จะทำให้ไข่อาจจะฟ่อหมดเลยหากรับยาไม่ตรงเวลา กระตุ้นไม่ขึ้น ไม่มีไข่โตให้เก็บ ประมาณนี้ มียากินเพิ่มมาอีก เป็นยากระตุ้นไข่ชนิดเม็ดและยากันไม่ให้ไข่ตกชนิดเม็ด
วันที่ 13 พ.ย. 2567 มาพบแพทย์หลังจากรับยาฉีดกระตุ้นไป 4 เข็มแรก มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดคะ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ผลตอบรับยา Pergoveris ดีมากคะ ไข่โตขี้นอย่างเห็นได้ชัด พบว่ารังไข่ฝั่งซ้าย มีไข่ 2 ฟองขนาด 7 มิล และรังไข่ข้างขวามีไข่ 3 ฟองขนาด 7-8 มิล และก็ 4 มิลเพิ่มมาอีก 1 ฟอง ร่างกายตอบสนองยาดีมาก นอกจากจะทำให้ไข่โตขึ้น และเพิ่มปริมาณมาอีก 3 ฟองด้วย แต่คุณหมอบอกว่า ใบที่ได้ 4 มิล อาจจะโตไม่ทันกลุ่มแรก แต่เลี้ยงไว้ได้ เผื่อโตทันในวันสุดท้ายก่อนเก็บไข่ และแล้ววันนี้ก็ได้รับยาเพิ่มเป็น Pergoveris 350 UI จำนวน 5 เข็มและก็ยา IVF-M จำนวน 75 UI อีก 5 เข็ม กลับไปฉีดตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ถึงวันที่ 17 พ.ย. 67 วันละ 2 เข็มในช่วงเวลา 20.00 น. เหมือนเดิมคะ มียากินเพิ่มมาอีก เป็นยากระตุ้นไข่ชนิดเม็ดและยากันไม่ให้ไข่ตกชนิดเม็ด
วันที่ 18 พ.ย. 67 มาพบแพทย์หลังจากรับยาฉีดกระตุ้นไปอีก 10 เข็ม มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดเหมือนเดิมคะ เจาะจนพรุน เค้าตรวจวัดระดับฮอร์โมนในเลือดตลอดเวลาคะ เจ็บตัวทุกครั้งก็จริง แต่ดีคะ บางที่ไม่เจาะเลย ไปแบบดิบๆก็มีคะอ่านเจอในกะทู้ท่านอื่น จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ดูว่าฟองไข่โตไปถึงไหนแล้ว ผลก็คือรังไข่ฝั่งซ้าย มี 2 ใบ ขนาด 13-14 มิล และรังไข่ฝั่งขวา ขนาด 17-18 มิล 2 ใบและ 14 มิล 1 ใบ (แอบตกใจทำไมไข่ฉันหายไป 1 ฟอง ผลคือไปเจอเอารอบถัดไป 555+) คุณหมอน่าจะนับผิด มาถึงวันนี้คุณหมอก็นัดว่าจะเก็บไข่วันที่ 22 พ.ย. 2567 ในตอน 8.00 น. และรับยาไปฉีดกระตุ้นเข็มสุดท้าย Pergoveris 350 UI จำนวน 1 เข็ม (เนื่องจากใช้ยาเกินแพ็กเกจแล้ว เข็มนี้จ่ายเงินเองคะ 7,200 บาท ได้ส่วนลดมาพอสมควร ราคาเต็มอยู่ที่ 12,000 บาท) ที่ต้องฉีดอีกเข็มเพราะว่าไข่ที่เห็นวันนี้ส่วนมากอยู่ที่ 13-14 มิลถึง 3 ฟองด้วยกัน ต้องการกระตุ้นไข่กลุ่มนี้ให้โตทันกลุ่มแรก โดยที่กลุ่มแรกก็ไม่โตมากไปกว่าที่จะเก็บไปใช้ ICSI ได้ ยาเข็มสุดท้ายคุณหมอใช้ความคิดหนักพอสมควรในการจ่ายยาเพื่อให้ไข่โตเท่าๆกัน และวันนี้ก็รับยาฉีดกันไม่ให้ไข่ตก 1 เข็ม
วันที่ 20 พ.ย. 67 มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดเหมือนเดิมคะ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ดูว่าฟองไข่รอบนี้โค้งสุดท้ายก่อนเก็บไข่แล้วคะ สรุปว่าน้องๆโตดี มีขนาดไล่เลี่ยแล้ว ไข่ฝั่งซ้าย มี 2 ฟองขนาด 17-18 มิล ไข่ฝั่งขวา มี 4 ฟอง ขนาด 22 มิล 1 ฟอง ขนาด 18 มิล 2 ฟอง และก็ 11 มิล 1 ฟองคะ วันนี้รับยากลับบ้าน 2 เข็มเป็นขากันไม่ให้ไข่ตก 1 เข็มและก็ยาทำให้ใข่สุกภายใน 36 ชั่วโมงอีก 1 เข็ม ซึ่งยาทำให้ไข่สุก พยาบาลที่คลินิกมาฉีดให้ที่บ้านคะ เสียค่าบริการนอกสถานที่ภายใน 20 กิโลเมตร 1,500 บาทคะ และวันนี้ก็ชำระเงินอีก 50 % ที่เหลือคะ ยอด 84,999.50 บาท ก่อนเก็บไข่คะ
วันที่ 22 พ.ย. 67 มาถึงคลินิกเพื่อเตรียมตัวเก็บไข่คะตั้งแต่ 06.30 น. แต่พยาบาลนัดจริงๆ 7.00 น. คะ มาเตรียมตัวก่อนทำการเก็บไข่ ก็มีการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน (อ๋อก่อนเก็บไข่ให้งดข้าวและน้ำตั้งแต่เที่ยงคืนเลยนะค) เปลี่ยนชุดที่ทางคลินิกเตรียมให้คะ ใส่หมวกคลุมผล แมส และมานอนรอที่เตียงเจาะสายน้ำเกลือคะ ต้องวางยาสลบนะคะสำหรับการเก็บไข่ จำได้ว่าให้ห้องเก็บไข่มีคนอยู่เยอะมากก่อนที่จะหลับไปนับๆแล้วประมาณ 8 คนคะ พยาบาล วิสัญญี ผู้ช่วย คุณหมอ มากันเต็มห้องเลยคะ ใช้เวลาเก็บไข่ไม่นานประมาณ 15-20 นาที รู้สึกตัวอีกที อยู่ห้องพักฝืนแล้วคะ สามีก็ไปเก็บเชื้อก่อนภรรยาจะเก็บไข่เสียอีก หลังตื่นจากเก็บไข่อาการก็มึนยาสลบนิดหน่อย หน่วงท้องน้อยแต่ยังเดินไหว ทางคลินิกเตรียมโจ๊กร้อนๆ ขนมปัง พร้อมกับน้ำหวานแดง น้ำเปล่า และก็ยาไว้ให้ทานหลังจากดีขึ้นคะ ได้พบคุณหมอหลังเก็บไข่ คุณหมอแจ้งว่า เก็บไข่ได้ 6 ฟองนะครับ ส่วนคุณสามีน้ำเชื้อคุณภาพดีขึ้นจากวันแรกเยอะมาก ครั้งแรกที่มา วันที่ 1 พ.ย. 67 พบว่าคุณภาพตัวอสุจิที่นับได้ประมาณ 17 ล้านตัวต่อml แต่หลังจากรับยาและวิตามินไปทาน 20 กว่าวัน คุณภาพตัวอสุจิที่นับได้ประมาณ 110 ล้านตัวต่อml เพิ่มขึ้นแบบติดจรวดเลยจร้า
วันที่ 23 พ.ย. 67 ได้ผลการ ICSI มาแล้วจ้า

ก็เก็บไข่ไปได้ 6 ฟอง
ผสม ICSI ได้ 6 ฟอง
Day 1 เหลือ 5 ตัวคะ (ฟองที่ไม่ไปต่อคาดว่าเป็นไข่ที่โตไม่ทันเพื่อน) อันนี้พอจะทราบเบื้องต้นอยู่แล้ว
เท่ากับว่าลุ้นที่เหลือ 5 ตัวว่าจะสู้ถึง Day 5 ระยะบลาสโตซิสไหม เพราะเราอายุ 38 ปีแล้ว ขอตรวจโครโมโซมหมดเลยคะ ตัวไหนที่ถึงบลาส เพื่อความสบายใจก่อนย้ายกลับมาใส่ แต่ในแพ็กเกจมีการใส่ให้แค่รอบสดเท่านั้น คือเมื่อถึงบลาสแล้วต้องรีบย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าเลือกที่จะตรวจโครโมโซมจะต้องเป็นการใส่รอบแช่แข็งเท่านั้นนะคะ เพื่อรอผลตรวจก็ 2 อาทิตย์แล้วคะ จึงทำให้เสียสิทธิ์การใส่รอบสดไป แล้วไปเลือกใส่รอบแช่แข็งและเสียเงินเองรอบละ 55,000 บาทคะ
เดี๋ยวมีต่ออีกนิดนึงคะ ไหนๆก็เขียนเยอะมากๆแล้ว ต้องไปให้สุด
แชร์ประสบการณ์ ทำ ICSI ครั้งแรก ปี2024
ระหว่างที่ยังไม่ได้เลือกสถานที่ที่จะทำ ICSI ก็หาข้อมูลในเน็ตบ้าง สอบถามพูดคุยกับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการทำมาแล้วบ้าง เก็บข้อมูลอยู่หลายเดือนด้วยกัน เช่นขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร การพบหมอเพื่อตรวจติดตามบ่อยแค่ไหน คลินิกไหนมีรีวิวดีๆในแง่ของบริการ ความสะอาด และอัตราการสำเร็จบ้าง และอื่นๆจิปาถะ คือจะบอกว่า พอก้าวเข้าสู่วงการนี้ มันมีอะไรให้เรียนรู้เยอะมากคร๊า และรอเวลาที่คุณสามีพร้อมหลังจากสะสางงานการเสร็จ และที่สำคัญที่สุดคือทุนทรัพย์ นอกจากต้องเตรียมทุนทรัพย์ในการทำแล้วต้องเตรียมใจด้วยคะ หากทำครั้งแรกไม่สำเร็จ ยังจะมีครั้งที่ 2 และ 3 อยู่ไหม ไหวหรือเปล่า ค่าใช้จ่ายจะไปหยุดอยู่ที่ตรงไหน เดี๋ยวค่อยๆมาเล่ากันนะ จะพยายามเอาให้ละเอียดที่สุด
สรุปว่าเราเลือกทำที่ Prime Fertility Center ตรง BTS อารีย์ ด้วยเหตุผล 2-3 ประการ หลักๆคือระยะทางที่ใกล้ที่สุดจากที่ทำงานไปคลินิกต่อให้นั่งแท็กซี่ไปก็เสียเงินไม่เกิน 80 บาท และก็ 2 ราคาแพ็กเก็จมีให้เลือกหลากหลาย สิ่งที่ได้จากแพ็กเกจที่เลือกมองว่าครอบคุมพอสมควร นี่เป็น 2 สาเหตุหลักๆที่ตัดสินใจเลือกที่นี่คะ ราคาแพ็กเกจที่เลือกไปเป็นราคาแพ็กเกจที่ต่ำสุดของทางคลินิก ในราคา 169,999 บาท สิ่งที่จะได้มีดังนี้
1. ตรวจร่างกายชาย-หญิง (ส่วนมากที่อื่นจะคิดเงินค่าตรวจร่างกายเพิ่มประมาณ หมื่นกว่าบาท ต่างหากคะ)
2. ยากระตุ้นไข่ไม่เกิน 3500 UI (หลายๆที่ให้ยากระตุ้นไข่มากสุดไม่เกิน 3000 UI ส่วนมาก 2500 UI ด้วยซ้ำใครใช้เกินจ่ายเองคะ ยานี้แพงสุดๆ)
3. เก็บไข่
4. ICSI
5. ย้ายตัวอ่อนรอบสด (จะทำการย้ายตัวอ่อนหลังตัวอ่อนเจริญเติบโตที่บลาสโตซิส ย้ายสดจะไม่ได้ตรวจโครโมโซมนะคะ อันนี้เหมาะกับคนอายุต่ำว่า 35ปี)
6. แช่แข็งตัวอ่อน (จำไม่ได้ว่าเค้าแช่ให้กี่ตัว เดี๋ยวไปให้ถึงขั้นตอนนี้ก่อน คงจะได้รู้)
ลัดมาถึงวันที่พร้อมเลยละกันนะคะ
วันที่ 1 พ.ย. 2567 จับมือคุณสามีไปพบคุณหมอ เมื่อไปถึงคลินิกก็ทำการกรอกประวัติที่จำเป็นทั้งหมด พร้อมทั้งมีการซักประวัติของทั้งคู่ นำใบทะเบียนสมรส กับบัตรประชาชนตัวจริงไปแค่นั้นสำหรับเอกสารของคู่สามี-ภรรยา ตกลงขอเริ่มแพ็กเกจเลยทันทีวันนี้ ใจร้อนอยากทำแล้ว >>>จากนั้นก็ไปทำการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง วัดความดัน ซักประวัติการผ่าตัด แพ้ยา ฯลฯ (และก็เจาะเลือด ทำทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง) และฝ่ายชายไปเก็บเชื้ออสุจิ เพื่อตรวจวิเคราะห์ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วรอผลเลือดจากห้องแล็ปประมาณ 1 ชั่วโมงคะ เมื่อผลเลือดกับผลอสุจิออก ก็จะได้พบกับคุณหมอแล้ว เมื่อพบคุณหมอ ฝ่ายหญิงก็เปลี่ยนผ้าขึ้นเตียง เพื่อดูโพรงมดลูกและก็รังไข่กันคะ วันนี้นับๆแล้วเห็นไข่ใบจิ๋วๆ ขนาด 2-3 มิล ประมาณ 3 ใบคะ จากรังไข่ทั้ง 2 ข้าง เรียกว่าไข่ตั้งต้นคะ ส่วนผลการตรวจฮอร์โมนจากเลือดก็ได้ค่า AMH 0.51 ซึ่งมันสอดคล้องกับไข่ที่เห็น เพราะว่าอายุ 38 ปี รังไข่เสื่อมแล้วจ้า ส่วนฝ่ายชายก็พบว่าเชื้ออสุจิก็ตายเยอะ พบตัวว่ายที่ดีน้อย คุณหมอสรุปได้ว่า ผุ้หญิงรังไข่เสื่อม ฝ่ายชายอสุจิไม่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นสาเหตุทำให้ตลอด 5 ปีที่ปล่อยมีลูกถึงไม่ติดสักที คุณหมอสั่งวิตามินบำรุงทั้งชายและหญิงแยกกันไปทานชุดใหญ่
ในวิตามินที่ฝ่ายหญิงได้ก็เป็นโฟลิก/วิตามินดี 3/CO-Q10/วิตามินรวม 2 อย่าง/ฮอร์โมนเพศชายชนิดเจล ไว้สำหรับทาใต้แขน
ของผู้ชายก็จะได้ ซิ้งค์/วิตามินดี 3/วิตามินรวม 2 อย่างเหมือนกัน กลับไปให้เริ่มกินทันที
ต้องขอบอกก่อนว่า ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในคลินิก ให้ความเป็นส่วนตัวดีมาก พยาบาล ผู้ช่วย ทักทาย และให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี นั่งรอผลเลือด ผลอสุจิออก ก็ได้พบคุณหมอ ซึ่งระหว่างอยู่กับคุณหมอ สงสัยอะไรก็ซักถามได้ตลอด เต็มที่เท่าที่ตัวเองจะพอใจ ในตรงนี้เราว่าก็ดีนะ มีเวลาให้เรา ไม่ต้องเร่งรีบ
กลับมาต่อคะ สรุปว่าวันนี้ก็จ่ายเงินก่อนเลยรอบที่ 1 สำหรับชำระค่าแพ็กเกจ 50% แรก ด้วยยอด 84,999.50 บาท และก็ค่าวิตามิน (อันนี้ไม่รวมในแพ็กเกจนะคะ) 19,500 บาท สำรับชายหญิง กินทั้งเดือน (30วัน) ส่วนยาอยู่ในแพ็กเกจคะ จะได้ยาปรับประจำเดือนและก็ยาปรับฮอร์โมนมากินคะ ที่ได้ยากลุ่มนี้กลับมากินเพราะว่าส่วนตัวประจำเดือนมาไม่เคยตรงเลย เพี๊ยนตลอด จากนั้นก็กลับบ้านคะ กินวิตามิน กินยาตามที่คุณหมอสั่ง รอเวลาประจำเดือนมา เพื่อทำนัดมาพบคุณหมอครั้งที่ 2 คะ
คืนวันที่ 8 พ.ย. 2567 มีเลือดปนกับฉี่นิดหน่อย เลยทำการนัดพยาบาลเลย ทางคลินิกให้ Add Line เพื่อสะดวกต่อการนัดคะ
วันที่ 9 พ.ย. 2567 มาพบคุณหมอตามนัด พร้อมกับประจำเดือนแดงเดือด มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดคะ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ก็พบว่าไข่ฟองจิ๋วของเราก็ยังคงเป็น 3 ฟองตั้งต้นเหมือนเดิม ซึ่งคุณหมอบอกว่า ฮอร์โมน AMH น้อย ไข่ในรังไข่สำรองมีน้อย รังไข่เสื่อมแล้ว ก็ได้ประมาณนี้แหละครับ แต่ถ้าสำหรับคนที่รังไข่ยังไม่เสื่อมมักจะพบไข่ตั้งต้นที่ 8-10 ใบ (เมื่อมีการเปรียบเทียบกับคนในวัยเดียวกันที่รังไข่ยังไม่เสื่อม) หมดแรงทำต่อเลย 555+ จะคุ้มค่าต่อการเสียเงินไหมเนี่ย ไข่น้อยขนาดนี้ คุณหมอก็ทำการคำนวนปริมาณยาที่จะฉีดกระตุ้นไข่ในรอบนี้ สำหรับเราก็ต้องลองสู้ดู 3 ฟองก็ 3 ฟอง (รังไข่ข้างซ้าย 2 ฟอง ข้างขวา 1 ฟอง) ใช้เท่าที่มี วันนี้ได้รับยากระตุ้นไข่ 350 UI จำนวน 4 เข็ม(ชนิดเข็มปากกา) ให้เริ่มฉีดที่บริเวณใต้สะดือ ในเวลา 20.00 น. ทุกวัน คุณหมอขอเปลี่ยนยาฉีดกระตุ้นเป็นยา Pergoveris ทั้งหมด เพราะฟองไข่ตั้งต้นน้อย อยากให้ได้รับยาที่ดีที่สุด เพื่อให้ไข่ที่มีอยู่ สมบูรณ์ที่สุด ใช้ทำ ICSI ได้ทุกฟอง โดยที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกแพ็กเกจอยู่ที่ 27,000 บาท จะได้รับยา Pergoveris ที่ 3,500 UI เช่นกัน ก็ลงมือทำไปแล้ว อะไรที่หมอคิดว่าดีก็รับหมดคะ เพื่อผลการรักษาที่ดียอม ก็ทำการฉีดยา Pergoveris 350 UI ในวันที่ 9 พ.ย. ถึงวันที่ 12 พ.ย. 67 ในเวลา 20.00 น. ทุกวันไม่เคยเลทเลย เพราะว่าหากเราฉีดไม่ตรงเวลา ผลที่ตามมาน่ากลัวมากคะ จะทำให้ไข่อาจจะฟ่อหมดเลยหากรับยาไม่ตรงเวลา กระตุ้นไม่ขึ้น ไม่มีไข่โตให้เก็บ ประมาณนี้ มียากินเพิ่มมาอีก เป็นยากระตุ้นไข่ชนิดเม็ดและยากันไม่ให้ไข่ตกชนิดเม็ด
วันที่ 13 พ.ย. 2567 มาพบแพทย์หลังจากรับยาฉีดกระตุ้นไป 4 เข็มแรก มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดคะ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ผลตอบรับยา Pergoveris ดีมากคะ ไข่โตขี้นอย่างเห็นได้ชัด พบว่ารังไข่ฝั่งซ้าย มีไข่ 2 ฟองขนาด 7 มิล และรังไข่ข้างขวามีไข่ 3 ฟองขนาด 7-8 มิล และก็ 4 มิลเพิ่มมาอีก 1 ฟอง ร่างกายตอบสนองยาดีมาก นอกจากจะทำให้ไข่โตขึ้น และเพิ่มปริมาณมาอีก 3 ฟองด้วย แต่คุณหมอบอกว่า ใบที่ได้ 4 มิล อาจจะโตไม่ทันกลุ่มแรก แต่เลี้ยงไว้ได้ เผื่อโตทันในวันสุดท้ายก่อนเก็บไข่ และแล้ววันนี้ก็ได้รับยาเพิ่มเป็น Pergoveris 350 UI จำนวน 5 เข็มและก็ยา IVF-M จำนวน 75 UI อีก 5 เข็ม กลับไปฉีดตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ถึงวันที่ 17 พ.ย. 67 วันละ 2 เข็มในช่วงเวลา 20.00 น. เหมือนเดิมคะ มียากินเพิ่มมาอีก เป็นยากระตุ้นไข่ชนิดเม็ดและยากันไม่ให้ไข่ตกชนิดเม็ด
วันที่ 18 พ.ย. 67 มาพบแพทย์หลังจากรับยาฉีดกระตุ้นไปอีก 10 เข็ม มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดเหมือนเดิมคะ เจาะจนพรุน เค้าตรวจวัดระดับฮอร์โมนในเลือดตลอดเวลาคะ เจ็บตัวทุกครั้งก็จริง แต่ดีคะ บางที่ไม่เจาะเลย ไปแบบดิบๆก็มีคะอ่านเจอในกะทู้ท่านอื่น จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ดูว่าฟองไข่โตไปถึงไหนแล้ว ผลก็คือรังไข่ฝั่งซ้าย มี 2 ใบ ขนาด 13-14 มิล และรังไข่ฝั่งขวา ขนาด 17-18 มิล 2 ใบและ 14 มิล 1 ใบ (แอบตกใจทำไมไข่ฉันหายไป 1 ฟอง ผลคือไปเจอเอารอบถัดไป 555+) คุณหมอน่าจะนับผิด มาถึงวันนี้คุณหมอก็นัดว่าจะเก็บไข่วันที่ 22 พ.ย. 2567 ในตอน 8.00 น. และรับยาไปฉีดกระตุ้นเข็มสุดท้าย Pergoveris 350 UI จำนวน 1 เข็ม (เนื่องจากใช้ยาเกินแพ็กเกจแล้ว เข็มนี้จ่ายเงินเองคะ 7,200 บาท ได้ส่วนลดมาพอสมควร ราคาเต็มอยู่ที่ 12,000 บาท) ที่ต้องฉีดอีกเข็มเพราะว่าไข่ที่เห็นวันนี้ส่วนมากอยู่ที่ 13-14 มิลถึง 3 ฟองด้วยกัน ต้องการกระตุ้นไข่กลุ่มนี้ให้โตทันกลุ่มแรก โดยที่กลุ่มแรกก็ไม่โตมากไปกว่าที่จะเก็บไปใช้ ICSI ได้ ยาเข็มสุดท้ายคุณหมอใช้ความคิดหนักพอสมควรในการจ่ายยาเพื่อให้ไข่โตเท่าๆกัน และวันนี้ก็รับยาฉีดกันไม่ให้ไข่ตก 1 เข็ม
วันที่ 20 พ.ย. 67 มาถึงก็ทำการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน และก็เจาะเลือดเหมือนเดิมคะ จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออัลตร้าซาวด์ ดูว่าฟองไข่รอบนี้โค้งสุดท้ายก่อนเก็บไข่แล้วคะ สรุปว่าน้องๆโตดี มีขนาดไล่เลี่ยแล้ว ไข่ฝั่งซ้าย มี 2 ฟองขนาด 17-18 มิล ไข่ฝั่งขวา มี 4 ฟอง ขนาด 22 มิล 1 ฟอง ขนาด 18 มิล 2 ฟอง และก็ 11 มิล 1 ฟองคะ วันนี้รับยากลับบ้าน 2 เข็มเป็นขากันไม่ให้ไข่ตก 1 เข็มและก็ยาทำให้ใข่สุกภายใน 36 ชั่วโมงอีก 1 เข็ม ซึ่งยาทำให้ไข่สุก พยาบาลที่คลินิกมาฉีดให้ที่บ้านคะ เสียค่าบริการนอกสถานที่ภายใน 20 กิโลเมตร 1,500 บาทคะ และวันนี้ก็ชำระเงินอีก 50 % ที่เหลือคะ ยอด 84,999.50 บาท ก่อนเก็บไข่คะ
วันที่ 22 พ.ย. 67 มาถึงคลินิกเพื่อเตรียมตัวเก็บไข่คะตั้งแต่ 06.30 น. แต่พยาบาลนัดจริงๆ 7.00 น. คะ มาเตรียมตัวก่อนทำการเก็บไข่ ก็มีการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน (อ๋อก่อนเก็บไข่ให้งดข้าวและน้ำตั้งแต่เที่ยงคืนเลยนะค) เปลี่ยนชุดที่ทางคลินิกเตรียมให้คะ ใส่หมวกคลุมผล แมส และมานอนรอที่เตียงเจาะสายน้ำเกลือคะ ต้องวางยาสลบนะคะสำหรับการเก็บไข่ จำได้ว่าให้ห้องเก็บไข่มีคนอยู่เยอะมากก่อนที่จะหลับไปนับๆแล้วประมาณ 8 คนคะ พยาบาล วิสัญญี ผู้ช่วย คุณหมอ มากันเต็มห้องเลยคะ ใช้เวลาเก็บไข่ไม่นานประมาณ 15-20 นาที รู้สึกตัวอีกที อยู่ห้องพักฝืนแล้วคะ สามีก็ไปเก็บเชื้อก่อนภรรยาจะเก็บไข่เสียอีก หลังตื่นจากเก็บไข่อาการก็มึนยาสลบนิดหน่อย หน่วงท้องน้อยแต่ยังเดินไหว ทางคลินิกเตรียมโจ๊กร้อนๆ ขนมปัง พร้อมกับน้ำหวานแดง น้ำเปล่า และก็ยาไว้ให้ทานหลังจากดีขึ้นคะ ได้พบคุณหมอหลังเก็บไข่ คุณหมอแจ้งว่า เก็บไข่ได้ 6 ฟองนะครับ ส่วนคุณสามีน้ำเชื้อคุณภาพดีขึ้นจากวันแรกเยอะมาก ครั้งแรกที่มา วันที่ 1 พ.ย. 67 พบว่าคุณภาพตัวอสุจิที่นับได้ประมาณ 17 ล้านตัวต่อml แต่หลังจากรับยาและวิตามินไปทาน 20 กว่าวัน คุณภาพตัวอสุจิที่นับได้ประมาณ 110 ล้านตัวต่อml เพิ่มขึ้นแบบติดจรวดเลยจร้า
วันที่ 23 พ.ย. 67 ได้ผลการ ICSI มาแล้วจ้า
ก็เก็บไข่ไปได้ 6 ฟอง
ผสม ICSI ได้ 6 ฟอง
Day 1 เหลือ 5 ตัวคะ (ฟองที่ไม่ไปต่อคาดว่าเป็นไข่ที่โตไม่ทันเพื่อน) อันนี้พอจะทราบเบื้องต้นอยู่แล้ว
เท่ากับว่าลุ้นที่เหลือ 5 ตัวว่าจะสู้ถึง Day 5 ระยะบลาสโตซิสไหม เพราะเราอายุ 38 ปีแล้ว ขอตรวจโครโมโซมหมดเลยคะ ตัวไหนที่ถึงบลาส เพื่อความสบายใจก่อนย้ายกลับมาใส่ แต่ในแพ็กเกจมีการใส่ให้แค่รอบสดเท่านั้น คือเมื่อถึงบลาสแล้วต้องรีบย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าเลือกที่จะตรวจโครโมโซมจะต้องเป็นการใส่รอบแช่แข็งเท่านั้นนะคะ เพื่อรอผลตรวจก็ 2 อาทิตย์แล้วคะ จึงทำให้เสียสิทธิ์การใส่รอบสดไป แล้วไปเลือกใส่รอบแช่แข็งและเสียเงินเองรอบละ 55,000 บาทคะ
เดี๋ยวมีต่ออีกนิดนึงคะ ไหนๆก็เขียนเยอะมากๆแล้ว ต้องไปให้สุด