พรรคเพื่อไทยก็แปลก
นี่แหละ  ที่เรียกว่า  สนิมเกิดแต่เนื้อในตน

คนในพรรคมีเป็นร้อย  ทั้ง สส. ทั้งบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือทางสังคม
ดันไม่เห็นหัว  กลับไปให้บทบาททางการเมืองกับคนที่ไม่มีราคาจนเกินไป

ดูสิ  เมื่อวาน  ณัฐวุฒิ  ไสยเกื้อ  ก็ออกมาพูดเรื่องปัญหาเกาะกูด
ว่าพวกขวาจัดกำลังสร้างกระแสคลั่งชาติทำลายรัฐบาล ไม่ได้ผลหรอก ประชาชนรู้ทัน
อีกคน ก็จักรภพ  เพ็ญแข  ออกมาพูดเรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ว่าง่ายเกินไป  (เกือบได้เป็นโฆษกรัฐบาล แต่ผู้มีอำนาจเขาไม่ให้เป็น)

ทั้งณัฐวุฒิ  ทั้งจักรภพ นี่
ราคาทางการเมือง  ราคาความน่าเชื่อถือ  ตอนนี้ติดลบ  และคงติดลบไปตลอด  ล้างไม่ออก
ก็คิดดูสิ  ขึ้นเวทีเสื้อแดง  พูดจาอะไรไว้สารพัด  มวลชนเชื่อถือเชื่อมั่น  ยอมสละแม้ชีวิต
แต่วันนี้  ลืมหมด  พลิกหน้ามือเป็นหลังบาทา  อ้างง่าย ๆ แค่ว่า ยอมกลืนเลือด
กลืนเลือดยังไงฟร่ะ  ตระบัดสัตย์  เปลี่ยนจุดยืน  ย้ายข้าง  ชัด ๆ

พอคนไม่มีราคาออกมาสื่อสารต่อสาธารณะ
เพื่อไทยน่าจะคิดบ้าง  ว่าทำให้พรรคได้หรือเสีย

คนในพรรคมีเยอะแยะไม่ใช้  ไม่ให้บทบาท  ให้คอยเป็นฝักถั่วอย่างเดียว
สส.เพื่อไทยก็เหลือเกิน   ยอมไปหมด  ไม่กล้าหืออะไรเลย  กลัวเงินเดือนหายหรือไงก็ไม่รู้

หมดราคาแล้วครับ  ทั้งณัฐวุฒิ  ทั้งจักรภพ
ต่อให้ออกสื่อทุกวัน  ต่อให้มีบทบาทอะไร   สร้างความไว้วางใจ สร้างความน่าเชื่อถือไม่ได้

ใช้ สส.ในพรรคดีกว่าครัช


(อีกอย่าง  เพื่อไทยคงหมดปัญญาแล้วจริง ๆ   เห็น รมช.คลังออกมาพูดเรื่องเตรียมขึ้นภาษีของขบเคี้ยว
  ไม่รู้คิดได้ไง  ในภาวะการณ์แบบนี้  ขึ้นภาษีน่ะ  ภาระก็โดนผลักมาสู่ประชาชนที่ต้องจ่ายมากขึ้น
  สินค้าแพงขึ้น  คนขายขายยาก  คนซื้อก็ซื้อน้อยลง  เศรษฐกิจฟุบกว่าเดิมนะวุ้ย
  อย่าคิดหาเงินแบบง่ายเกินไป)