เบญจา-โตโต้ ให้คำมั่น สานอุดมการณ์ลุงนวมทอง ทนายแจม ยันนิรโทษกรรม ต้องรวม 112
https://www.matichon.co.th/politics/news_4876151
ส.ส.โตโต้-เบญจา ให้คำมั่น – พรรคปชช.ลั่น มีห้องชื่อ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ สักขีพยานย้ำเตือน ‘ มีประชาชนยอมแลก’
เนื่องในวันครบรอบ 18 ปี การเสียชีวิตของ นาย
นวมทอง ไพรวัลย์ สามัญชนคนขับแท็กซี่ ผู้กระทำอัตวิบาตกรรมด้วยการขับรถแท็กซี่ชนรถถัง เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร ปี 2549 ก่อนผูกคอปลิดชีพตนเองหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 เพื่อลบคำสบประมาทของพันเอก
อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษกคณะรัฐประหาร คปค. ที่ว่า “
ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้”
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่หน้าสำนักงาน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 53
ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและเครือข่าย จัดงาน “
รำลึก 18 ปี นวมทองไพรวัลย์ ต้านเผด็จการ สานต่อประชาธิปไตย นิรโทษกรรม 112 วัน”
เวลา 15.00 น. หลังประกอบพิธีสงฆ์ เข้าสู่ช่วงกล่าวรำลึก โดยคณะก้าวหน้า และพรรคประชาชน ส่งตัวแทนเข้าร่วมอาทิ น.ส.
เบญจา แสงจันทร์
อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในนามคณะก้าวหน้า, ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ได้แก่ น.ส.
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ ทนายแจม และ นาย
ปิยรัฐ จงเทพ
น.ส.
ศศินันท์ หรือ ส.ส.แจม กล่าวว่า ตนเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลุงนวมทอง แต่ในห้องประชุมของพรรคประชาชน เรามีห้องหนึ่งชื่อ ‘
นวมทอง ไพรวัลย์’ ส่วนหนึ่งเราคิดว่าการเสียชีวิตของลุง น่าเคารพยกย่อง และเป็นสักขีพยานว่ามีประชาชนยอมเสียชีวิตเพื่อไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก
ตนยังจำในข้อความของลุงนวมทองที่ว่า ‘
ชาติหน้า เกิดมา คงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก’ แสดงว่าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้นเลย รัฐไม่ได้มองเห็นการสูญเสียของประชาชน
“
มารอบนี้ แม้ชื่อพรรคจะเปลี่ยน แต่อุดมการณ์ไม่เปลี่ยน เราไม่สามารถยอมรับการรัฐประหารได้อีกต่อไป ในฐานะพรรคประชาชนจะยืนยันในหลายๆ เรื่องเหมือนเดิม อย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ยังยืนยันในสิ่งที่เราเคยพูดเอาไว้ ตั้งแต่ก่อนเป็น ส.ส คือการเป็นทนายความ
เรายังอยู่ในทิศทางเดิม มองว่า การนิรโทษกรรม จำเป็นต้องรวมมาตรา 112 เพราะเป็นคดีการเมือง ถ้าจะยุติความขัดแย้ง ต้องรวมมาตรานี้ด้วย เรื่องรัฐธรรมนูญและอื่นๆ เราจะยังคิดตามเหมือนเดิม เราจะต้องพยายามขยับไปข้างหน้าพร้อมกัน ด้วยความอาลัย และสดุดีลุงนวมทอง”
ด้าน นาย
ปิยรัฐ หรือ
โตโต้ กล่าวว่า ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับนิรโทษกรรม ค้างคาอยู่อีก 4 ฉบับ ไอลอว์ เสนอแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรม อีกร่างของก้าวไกล และอีก 2 ร่างของพรรครัฐบาล ก็ยังอยู่ในสภา ยืนยันว่า เราต้องอภิปรายเรื่องนี้ในสภา ว่าจะสนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตราใดบ้าง คาดว่า ช่วงต้นสมัยหน้า 22 ธ.ค. จะมีการพูดถึง
“
แต่ผมเองคงพูดเรื่องนี้มากไม่ได้ เพราะเป็นผู้ได้เสีย ปีนี้คดี ม.112 ของผมยกฟ้องไป 1 คดี แต่ยังเหลือ ม.112 อีก 2 รวมคดีอื่นๆ อีกเป็น 5 คดี ผมยังสู้คดี ไม่หลบไปไหน ไปขึ้นศาลทุกนัด
มีคนบอกว่า ส.ส.จะไปหรอ ไม่หนีเหรอ ผมบอกว่า จะไป ติดคุกวันนี้ก็ไม่เสียใจ แต่ผิดคาด ทนายรีบยกมือขอว่าต้องให้ประกันวันนี้ไม่อย่างนั้น ส.ส.หลุด ผมหน้าเสียเลย กระทั่งอ่านคำพิพากษา เป็นคำพิพากษาที่สั้นที่สุดเท่าที่ผมเคยฟัง ใช้เวลาอ่านแค่ 5 นาที เท่านั้น ในการยกฟ้องคดีผม
เป็นอีกความหวังหนึ่ง อย่าคิดว่าคดี ม.112 จะติดคุกเสมอไป หรือไม่มีความหวัง ยังมีผู้พิพากษาที่กล้าหาญ ธำรงความยุติธรรม นี่คือความหวังจริงๆของพวกเรา” นาย
ปิยรัฐกล่าว
นาย
ปิยรัฐกล่าวต่อว่า ในความมืดมิด ก็ยังมีแสงสว่างอยู่บ้าง ยังมีลุงนวมทอง ในวันที่มืดมิดรัฐประหารปี 49 ที่ออกมากระทำอัตวินิบาตกรรม ต่อต้านเผด็จการ 1 เสียงของพวกท่านมีคุณค่ามาก สิ่งสำคัญตอนนี้คือกำลังใตให้กันและกัน อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งถอย
ด้าน น.ส.
เบญจา ในนามคณะก้าวหน้า กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้งหลังทำรัฐประหาร คือความขัดแย้ง คือการที่พี่น้องออกมาต่อต้านการทำรัฐประหาร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือคนหนุ่มสาวถูกดำเนินคดี ด้วยข้อหาที่ร้ายแรงท่ามกลางสถานการณ์ขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
“
ดิฉันคิดเสมอว่า หลังจากนี้ไป หลังเรามีรัฐบาลที่มาจากประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา จะมีประตูไหนที่เปิดไปสู่การปรองดองได้บ้าง สิ่งที่เราต้องคิดหลังจากนี้ คือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
วันนี้เรายังอยู่ท่ามกลางมรดกของคณะรัฐประหาร ประตูบานแรกไม่อะไรดีไปกว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และนิรโทษกรรมประชาชน เป็นโจทย์แรกที่ต้องคิด” น.ส.
เบญจากล่าว
น.ส.
เบญจากล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า การพูดถึงการนิรโทษกรรม มักนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคมเสมอ จากการที่จะนิรโทษกรรมคดีการเมือง โดยรวม ม.112 ยังเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่ ยังไม่ตกผลึก
“
วันนี้ 31 ต.ค.เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ลุงนวมทอง ยุติลมหายใจ เพื่อแสดงออกต่อคนทั้งโลก สังคม และผู้ใช้อำนาจกดขี่ ว่าอุดมการณ์ประชาธิปไตย เป็นทางออกของพวกเราทุกคน สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย คือ การยืนหยัดแม้จะต้องยุติลมหายใจของตัวเอง แต่เป็นการยืนยันแล้วว่า เลือดเนื้อจิตวิญญาณ อยู่เหนือลมหายใจของตัวเอง
วันนี้สิ่งที่ดิฉันรำลึกถึง คือ จิตวิญญาณประชาธิปไตย สิ่งที่ยังหายใจอยู่คืออุดมการณ์ ที่เชื่อว่า คนที่นี่ยึดถือร่วมกัน
“ก่อนไฟจะหมดลง อยากให้ทุกคนกล่าวขาน สิ่งที่ลุงนวมทองทำมาในอดีต ว่าคือประกายไฟแห่งความฝัน แล้วจะยืนหยัดสานต่ออุดมการณ์ของลุงนวมทอง ขอรำลึกและยืนหยัดต่อสู้ต่อไป” น.ส.
เบญจากล่าว
หมอเหวงทะแ-่งๆ ‘คดีตากใบ’ เสียดายแทน พท. ‘ธิดา’ ร่ายยาว สิ่งที่ต้องยืนหยัด ไม่เกี่ยวพรรคไหน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4875983
‘ธิดา’ ลั่น สิ่งที่ต้อง ‘ยืนหยัด’ ไม่เกี่ยวกับพรรคไหน ‘นพ.เหวง’ ของพรรคการเมือง ‘กล้าหาญ’ ทะแ-่งๆ ‘คดีตากใบ’ เสียดายโอกาสแทน พท.
เนื่องในวันครบรอบ 18 ปี การเสียชีวิตของ นาย
นวมทอง ไพรวัลย์ สามัญชนคนขับแท็กซี่ ผู้กระทำอัตวิบาตกรรมด้วยการขับรถแท็กซี่ชนรถถัง เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร ปี 2549 ก่อนผูกคอปลิดชีพตนเองหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 เพื่อลบคำสบประมาทของพันเอก
อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษกคณะรัฐประหาร คปค. ที่ว่า “
ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้”
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่หน้าสำนักงาน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 53 ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและเครือข่าย จัดงาน “
รำลึก 18 ปี นวมทองไพรวัลย์ ต้านเผด็จการ สานต่อประชาธิปไตย นิรโทษกรรม 112 วัน”
เวลา 15.00 น. หลังประกอบพิธีสงฆ์ เข้าสู่ช่วงกล่าวรำลึก เริ่มจาก นาง
ธิดา ถาวรเศรษฐ ดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ลุง
นวมทอง เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกตายได้อย่างวีรบุรุษ เพราะไม่ต้องการให้นายทหารไทยเหยียดหยาม และไม่อยากให้ประชาชนเหยียดหยามกันเอง ซึ่งทุกวันนี้ยังมีอยู่ ที่บอกว่า มันไม่มีคนที่รักประชาธิปไตยจริงหรอก ลุง
นวมทอง คือตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ เพื่อศักดิ์ศรี คนไทยหยามไม่ได้ นี่คือลุงนวมทอง
สิ่งที่เราอยากฝากไว้ คือปัจจุบันนี้ เรายังเห็นการต่อสู้กันอยู่ ระหว่างฝ่ายต่อต้านเผด็จการ กับฝ่ายที่ไม่ต้องการคืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีการสลายขั้ว ข้ามก็ข้าม
“
เรามาถึงยุคใหม่ ที่เยาวชนถูกจัดการ อาจจะไม่ได้ถูกยิงตายเหมือนเสื้อแดง หรือตายเหมือนตากใบ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ความยุติธรรมถูกคุมขังอย่างไร้ความปรานี นี้คือการต่อสู้ที่ยังดำรงอยู่” นาง
ธิดากล่าว
นาง
ธิดากล่าวต่อว่า นับตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 จนวันนี้ อำนาจการรัฐประหารยังอยู่ เรามีวิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตสังคมอย่างไม่น่าเชื่อ
“
หลอกกันไปหมด ไม่รู้ใครจะเชื่อใครได้ หนักกว่าวิกฤตสังคม คือวิกฤตการเมือง เพราะคือบ่อเกิดของวิกฤต เศรษฐกิจและสังคม
การยืนหยัดว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เป็นเรื่องที่เราต้องยืนหยัด ไม่เกี่ยวกับพรรคไหน แต่มันเป็นเรื่องของประชาชน ด้วยจิตวิญญาณในการต่อต้านรัฐประหารโดยแท้”
อยากฝากไปถึงคนรุ่นเก่า ผ่านมา 51 ปี เป็นสายธารของการต่อสู้ มีคนตาย บาดเจ็บ ถูกคุมขังเป็นจำนสนมาก เราไม่อาจหนีไปได้ แต่เรามีอุดมการณ์ร่วมกันเหมือนกับลุงนวมทอง จึงขอฝากให้เป็นภารกิจของคนรุ่นหลัง
เมื่อไหร่ที่สับสน ให้ถามก่อนว่า สิ่งที่เราจะเดินไปนั้น ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อประเทศชาติ ประชาชน ลองถามแบบไม่ต้องหลอกตัวเอง ถ้าหนทางนั้น เป็นหนทางเหมือนที่นักต่อสู้ในอดีตได้ผ่านมา
บางคนอาจจะหยุดระหว่างทาง ไม่เป็นไร เรายังมีคนใหม่ๆ แต่ยุทธศาสตร์ของถนนสายนี้คือ อำนาจอธิปไตยต้องเป็นต้องประชาชน ไม่เช่นนั้นจะล้มเหลว
ไม่ว่าคุณจะอยู่กลุ่มไหน ด้วยเป้าหมายอันเดียวกันนี้ เราจะเดินไปด้วยกันได้ ลุงนวมทอง ตัวตายแต่ชีพยัง แต่คนบางคนถูกฝังเอาไว้ทั้งๆ ที่มีลมหายใจ” นางธิดากล่าว
ด้าน นพ.
เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. กล่าวว่า ‘
ทุกท่านยินดีรับภารกิจของลุงนวมทองต่อไปหรือไม่‘ โดยผู้ร่วมงานปรบมือ
นพ.
เหวงกล่าวต่อว่า ลุง
นวมทองประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า คนไทยที่พร้อมพลีชีพเพื่อต้านรัฐประหาร มีไม่น้อย เป็นการหักล้างคำเยาะเย้ยถากถางของพวกยึดอำนาจ รองโฆษกของ คปค. ที่เยาะเย้ยว่าไม่มีใครมีอุดมการณ์ มากขนาดพลีชีพได้
“
แต่มีลุงนวมทองนี่แหละ ตรงข้ามกับนักวิชาการบางคน มีนักวิชาการระดับสูง ชื่อเสียงก้อง บอกว่า รัฐประหารเป็นการกระทำที่จำเป็น ดังนั้น เราต้องชำระประวัติศาสตร์
“
ลุงนวมทองพูดเลยว่า คนไทย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ลุงได้ฝากภารกิจ ให้พวกเราทุกคน หยุดไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก นี่คือพินัยกรรมที่ลุงนวมทองฝากเอาไว้
ผมเชื่อว่า ต่อไปก็ยังต้องมีการรัฐประหารอีก ที่เชื่ออย่างนี้ เพราะถ้ารัฐประหารสำเร็จ ไม่เคยได้รับการลงโทษตามกฎหมาย เราจะหยุดรัฐประหารได้ มีวิธีเดียวคือ เอาพวกรัฐประหาร มารับโทษให้ได้
นักการเมืองท่านไหนฟัง จะรับเรื่องนี้หรือไม่ก็แล้วแต่ วิธีการคือไปบัญญัติให้รัฐธรรมนูญ ว่า ไม่มีการนิรโทษกรรมให้คณะรัฐประหาร ซี่งทำได้ อยู่ที่นักการเมืองและประชาชน จะทำหรือเปล่า” นพ.
เหวงกล่าว
นพ.เหวงกล่าวต่อว่า เมื่อไหร่ที่ลั่นกระสุนสังหารประชาชน แล้วเราจับทหารที่มีคำสั่งเรื่องการตายชัดเจน มาลงโทษได้สักคน เรื่องก็จะสืบไปที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้มารับผิดตามมาตรา 113 ได้
“
ผมยืนยันเรื่องนี้ และเสียดายจริงๆ ผมไม่รักหรือเกลียดพรรคไหน เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่ที่ผมจะสู้ด้วยคือ หยุดทหารที่ฆ่าประชาขนมือเปล่า ไม่ให้เกิดอีกต่อไป ในภาคใต้ ถีบลงเขา เผาลงถังแดง 3,000 ศพ จะปล่อยให้หายไปกับสายลมเหรอ, 6 ตุลาคม 2519 ผมเข้าป่า ไม่ได้อยู่ในเหตุกาณ์ แต่ดูทีวี เอายางรถยนต์ครอบ แล้วเอาไฟเผาทั้งเป็น เราจะให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่”
“
ผมเสียดาย กรณีตากใบ ผมไม่เป็นทาส หรือลูกสมุนของพรรคไหนทั้งสิ้น ผมเป็นทาสของประชาชน ถ้านำคนที่ผิดคดีตากใบมาขึ้นศาลได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ ในการที่ทหารฆ่าประชาชนแล้วต้องรับผิดชอบ”
นพ.เ
หวงกล่าวต่อว่า มีใครบ้าง ที่เอาประชาชนไปเรียงกันทับ 5 ชั้น คุณเป็นมนุษย์หรือเปล่า สงสัยจริงๆ เรื่องจากใบ มีกรณีเดียว ถ้าเอาคนผิดมารับโทษได้ จะไม้เกิดกรณีทหารฆ่าและทำร้ายประชาชนอีกต่อไป ตนถึงเสียดาย ที่ทำไมเรื่องนี้ถึงลอยหายไปกับสายลม
JJNY : เบญจา-โตโต้ ให้คำมั่น│หมอเหวงทะแ-่งๆ│ส.ว.เชื่อลุงนวมทอง'มีเคือง'│สมยศวัดใจพท.│ควันพิษปกคลุมเมืองหลวงอินเดีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4876151
ส.ส.โตโต้-เบญจา ให้คำมั่น – พรรคปชช.ลั่น มีห้องชื่อ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ สักขีพยานย้ำเตือน ‘ มีประชาชนยอมแลก’
เนื่องในวันครบรอบ 18 ปี การเสียชีวิตของ นายนวมทอง ไพรวัลย์ สามัญชนคนขับแท็กซี่ ผู้กระทำอัตวิบาตกรรมด้วยการขับรถแท็กซี่ชนรถถัง เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร ปี 2549 ก่อนผูกคอปลิดชีพตนเองหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 เพื่อลบคำสบประมาทของพันเอกอัคร ทิพโรจน์ รองโฆษกคณะรัฐประหาร คปค. ที่ว่า “ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้”
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่หน้าสำนักงาน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 53
ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและเครือข่าย จัดงาน “รำลึก 18 ปี นวมทองไพรวัลย์ ต้านเผด็จการ สานต่อประชาธิปไตย นิรโทษกรรม 112 วัน”
เวลา 15.00 น. หลังประกอบพิธีสงฆ์ เข้าสู่ช่วงกล่าวรำลึก โดยคณะก้าวหน้า และพรรคประชาชน ส่งตัวแทนเข้าร่วมอาทิ น.ส.เบญจา แสงจันทร์
อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในนามคณะก้าวหน้า, ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ได้แก่ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ ทนายแจม และ นายปิยรัฐ จงเทพ
น.ส.ศศินันท์ หรือ ส.ส.แจม กล่าวว่า ตนเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลุงนวมทอง แต่ในห้องประชุมของพรรคประชาชน เรามีห้องหนึ่งชื่อ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ ส่วนหนึ่งเราคิดว่าการเสียชีวิตของลุง น่าเคารพยกย่อง และเป็นสักขีพยานว่ามีประชาชนยอมเสียชีวิตเพื่อไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก
ตนยังจำในข้อความของลุงนวมทองที่ว่า ‘ชาติหน้า เกิดมา คงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก’ แสดงว่าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้นเลย รัฐไม่ได้มองเห็นการสูญเสียของประชาชน
“มารอบนี้ แม้ชื่อพรรคจะเปลี่ยน แต่อุดมการณ์ไม่เปลี่ยน เราไม่สามารถยอมรับการรัฐประหารได้อีกต่อไป ในฐานะพรรคประชาชนจะยืนยันในหลายๆ เรื่องเหมือนเดิม อย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ยังยืนยันในสิ่งที่เราเคยพูดเอาไว้ ตั้งแต่ก่อนเป็น ส.ส คือการเป็นทนายความ
เรายังอยู่ในทิศทางเดิม มองว่า การนิรโทษกรรม จำเป็นต้องรวมมาตรา 112 เพราะเป็นคดีการเมือง ถ้าจะยุติความขัดแย้ง ต้องรวมมาตรานี้ด้วย เรื่องรัฐธรรมนูญและอื่นๆ เราจะยังคิดตามเหมือนเดิม เราจะต้องพยายามขยับไปข้างหน้าพร้อมกัน ด้วยความอาลัย และสดุดีลุงนวมทอง”
ด้าน นายปิยรัฐ หรือ โตโต้ กล่าวว่า ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับนิรโทษกรรม ค้างคาอยู่อีก 4 ฉบับ ไอลอว์ เสนอแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรม อีกร่างของก้าวไกล และอีก 2 ร่างของพรรครัฐบาล ก็ยังอยู่ในสภา ยืนยันว่า เราต้องอภิปรายเรื่องนี้ในสภา ว่าจะสนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตราใดบ้าง คาดว่า ช่วงต้นสมัยหน้า 22 ธ.ค. จะมีการพูดถึง
“แต่ผมเองคงพูดเรื่องนี้มากไม่ได้ เพราะเป็นผู้ได้เสีย ปีนี้คดี ม.112 ของผมยกฟ้องไป 1 คดี แต่ยังเหลือ ม.112 อีก 2 รวมคดีอื่นๆ อีกเป็น 5 คดี ผมยังสู้คดี ไม่หลบไปไหน ไปขึ้นศาลทุกนัด
มีคนบอกว่า ส.ส.จะไปหรอ ไม่หนีเหรอ ผมบอกว่า จะไป ติดคุกวันนี้ก็ไม่เสียใจ แต่ผิดคาด ทนายรีบยกมือขอว่าต้องให้ประกันวันนี้ไม่อย่างนั้น ส.ส.หลุด ผมหน้าเสียเลย กระทั่งอ่านคำพิพากษา เป็นคำพิพากษาที่สั้นที่สุดเท่าที่ผมเคยฟัง ใช้เวลาอ่านแค่ 5 นาที เท่านั้น ในการยกฟ้องคดีผม
เป็นอีกความหวังหนึ่ง อย่าคิดว่าคดี ม.112 จะติดคุกเสมอไป หรือไม่มีความหวัง ยังมีผู้พิพากษาที่กล้าหาญ ธำรงความยุติธรรม นี่คือความหวังจริงๆของพวกเรา” นายปิยรัฐกล่าว
นายปิยรัฐกล่าวต่อว่า ในความมืดมิด ก็ยังมีแสงสว่างอยู่บ้าง ยังมีลุงนวมทอง ในวันที่มืดมิดรัฐประหารปี 49 ที่ออกมากระทำอัตวินิบาตกรรม ต่อต้านเผด็จการ 1 เสียงของพวกท่านมีคุณค่ามาก สิ่งสำคัญตอนนี้คือกำลังใตให้กันและกัน อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งถอย
ด้าน น.ส.เบญจา ในนามคณะก้าวหน้า กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้งหลังทำรัฐประหาร คือความขัดแย้ง คือการที่พี่น้องออกมาต่อต้านการทำรัฐประหาร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือคนหนุ่มสาวถูกดำเนินคดี ด้วยข้อหาที่ร้ายแรงท่ามกลางสถานการณ์ขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
“ดิฉันคิดเสมอว่า หลังจากนี้ไป หลังเรามีรัฐบาลที่มาจากประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา จะมีประตูไหนที่เปิดไปสู่การปรองดองได้บ้าง สิ่งที่เราต้องคิดหลังจากนี้ คือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
วันนี้เรายังอยู่ท่ามกลางมรดกของคณะรัฐประหาร ประตูบานแรกไม่อะไรดีไปกว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และนิรโทษกรรมประชาชน เป็นโจทย์แรกที่ต้องคิด” น.ส.เบญจากล่าว
น.ส.เบญจากล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า การพูดถึงการนิรโทษกรรม มักนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคมเสมอ จากการที่จะนิรโทษกรรมคดีการเมือง โดยรวม ม.112 ยังเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่ ยังไม่ตกผลึก
“วันนี้ 31 ต.ค.เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ลุงนวมทอง ยุติลมหายใจ เพื่อแสดงออกต่อคนทั้งโลก สังคม และผู้ใช้อำนาจกดขี่ ว่าอุดมการณ์ประชาธิปไตย เป็นทางออกของพวกเราทุกคน สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย คือ การยืนหยัดแม้จะต้องยุติลมหายใจของตัวเอง แต่เป็นการยืนยันแล้วว่า เลือดเนื้อจิตวิญญาณ อยู่เหนือลมหายใจของตัวเอง
วันนี้สิ่งที่ดิฉันรำลึกถึง คือ จิตวิญญาณประชาธิปไตย สิ่งที่ยังหายใจอยู่คืออุดมการณ์ ที่เชื่อว่า คนที่นี่ยึดถือร่วมกัน
“ก่อนไฟจะหมดลง อยากให้ทุกคนกล่าวขาน สิ่งที่ลุงนวมทองทำมาในอดีต ว่าคือประกายไฟแห่งความฝัน แล้วจะยืนหยัดสานต่ออุดมการณ์ของลุงนวมทอง ขอรำลึกและยืนหยัดต่อสู้ต่อไป” น.ส.เบญจากล่าว
หมอเหวงทะแ-่งๆ ‘คดีตากใบ’ เสียดายแทน พท. ‘ธิดา’ ร่ายยาว สิ่งที่ต้องยืนหยัด ไม่เกี่ยวพรรคไหน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4875983
‘ธิดา’ ลั่น สิ่งที่ต้อง ‘ยืนหยัด’ ไม่เกี่ยวกับพรรคไหน ‘นพ.เหวง’ ของพรรคการเมือง ‘กล้าหาญ’ ทะแ-่งๆ ‘คดีตากใบ’ เสียดายโอกาสแทน พท.
เนื่องในวันครบรอบ 18 ปี การเสียชีวิตของ นายนวมทอง ไพรวัลย์ สามัญชนคนขับแท็กซี่ ผู้กระทำอัตวิบาตกรรมด้วยการขับรถแท็กซี่ชนรถถัง เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร ปี 2549 ก่อนผูกคอปลิดชีพตนเองหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 เพื่อลบคำสบประมาทของพันเอกอัคร ทิพโรจน์ รองโฆษกคณะรัฐประหาร คปค. ที่ว่า “ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้”
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่หน้าสำนักงาน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 53 ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและเครือข่าย จัดงาน “รำลึก 18 ปี นวมทองไพรวัลย์ ต้านเผด็จการ สานต่อประชาธิปไตย นิรโทษกรรม 112 วัน”
เวลา 15.00 น. หลังประกอบพิธีสงฆ์ เข้าสู่ช่วงกล่าวรำลึก เริ่มจาก นางธิดา ถาวรเศรษฐ ดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ลุงนวมทอง เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกตายได้อย่างวีรบุรุษ เพราะไม่ต้องการให้นายทหารไทยเหยียดหยาม และไม่อยากให้ประชาชนเหยียดหยามกันเอง ซึ่งทุกวันนี้ยังมีอยู่ ที่บอกว่า มันไม่มีคนที่รักประชาธิปไตยจริงหรอก ลุงนวมทอง คือตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ เพื่อศักดิ์ศรี คนไทยหยามไม่ได้ นี่คือลุงนวมทอง
สิ่งที่เราอยากฝากไว้ คือปัจจุบันนี้ เรายังเห็นการต่อสู้กันอยู่ ระหว่างฝ่ายต่อต้านเผด็จการ กับฝ่ายที่ไม่ต้องการคืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งสู้กันอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีการสลายขั้ว ข้ามก็ข้าม
“เรามาถึงยุคใหม่ ที่เยาวชนถูกจัดการ อาจจะไม่ได้ถูกยิงตายเหมือนเสื้อแดง หรือตายเหมือนตากใบ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ความยุติธรรมถูกคุมขังอย่างไร้ความปรานี นี้คือการต่อสู้ที่ยังดำรงอยู่” นางธิดากล่าว
นางธิดากล่าวต่อว่า นับตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 จนวันนี้ อำนาจการรัฐประหารยังอยู่ เรามีวิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตสังคมอย่างไม่น่าเชื่อ
“หลอกกันไปหมด ไม่รู้ใครจะเชื่อใครได้ หนักกว่าวิกฤตสังคม คือวิกฤตการเมือง เพราะคือบ่อเกิดของวิกฤต เศรษฐกิจและสังคม
การยืนหยัดว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เป็นเรื่องที่เราต้องยืนหยัด ไม่เกี่ยวกับพรรคไหน แต่มันเป็นเรื่องของประชาชน ด้วยจิตวิญญาณในการต่อต้านรัฐประหารโดยแท้”
อยากฝากไปถึงคนรุ่นเก่า ผ่านมา 51 ปี เป็นสายธารของการต่อสู้ มีคนตาย บาดเจ็บ ถูกคุมขังเป็นจำนสนมาก เราไม่อาจหนีไปได้ แต่เรามีอุดมการณ์ร่วมกันเหมือนกับลุงนวมทอง จึงขอฝากให้เป็นภารกิจของคนรุ่นหลัง
เมื่อไหร่ที่สับสน ให้ถามก่อนว่า สิ่งที่เราจะเดินไปนั้น ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อประเทศชาติ ประชาชน ลองถามแบบไม่ต้องหลอกตัวเอง ถ้าหนทางนั้น เป็นหนทางเหมือนที่นักต่อสู้ในอดีตได้ผ่านมา
บางคนอาจจะหยุดระหว่างทาง ไม่เป็นไร เรายังมีคนใหม่ๆ แต่ยุทธศาสตร์ของถนนสายนี้คือ อำนาจอธิปไตยต้องเป็นต้องประชาชน ไม่เช่นนั้นจะล้มเหลว
ไม่ว่าคุณจะอยู่กลุ่มไหน ด้วยเป้าหมายอันเดียวกันนี้ เราจะเดินไปด้วยกันได้ ลุงนวมทอง ตัวตายแต่ชีพยัง แต่คนบางคนถูกฝังเอาไว้ทั้งๆ ที่มีลมหายใจ” นางธิดากล่าว
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. กล่าวว่า ‘ทุกท่านยินดีรับภารกิจของลุงนวมทองต่อไปหรือไม่‘ โดยผู้ร่วมงานปรบมือ
นพ.เหวงกล่าวต่อว่า ลุงนวมทองประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า คนไทยที่พร้อมพลีชีพเพื่อต้านรัฐประหาร มีไม่น้อย เป็นการหักล้างคำเยาะเย้ยถากถางของพวกยึดอำนาจ รองโฆษกของ คปค. ที่เยาะเย้ยว่าไม่มีใครมีอุดมการณ์ มากขนาดพลีชีพได้
“แต่มีลุงนวมทองนี่แหละ ตรงข้ามกับนักวิชาการบางคน มีนักวิชาการระดับสูง ชื่อเสียงก้อง บอกว่า รัฐประหารเป็นการกระทำที่จำเป็น ดังนั้น เราต้องชำระประวัติศาสตร์
“ลุงนวมทองพูดเลยว่า คนไทย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ลุงได้ฝากภารกิจ ให้พวกเราทุกคน หยุดไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก นี่คือพินัยกรรมที่ลุงนวมทองฝากเอาไว้
ผมเชื่อว่า ต่อไปก็ยังต้องมีการรัฐประหารอีก ที่เชื่ออย่างนี้ เพราะถ้ารัฐประหารสำเร็จ ไม่เคยได้รับการลงโทษตามกฎหมาย เราจะหยุดรัฐประหารได้ มีวิธีเดียวคือ เอาพวกรัฐประหาร มารับโทษให้ได้
นักการเมืองท่านไหนฟัง จะรับเรื่องนี้หรือไม่ก็แล้วแต่ วิธีการคือไปบัญญัติให้รัฐธรรมนูญ ว่า ไม่มีการนิรโทษกรรมให้คณะรัฐประหาร ซี่งทำได้ อยู่ที่นักการเมืองและประชาชน จะทำหรือเปล่า” นพ.เหวงกล่าว
นพ.เหวงกล่าวต่อว่า เมื่อไหร่ที่ลั่นกระสุนสังหารประชาชน แล้วเราจับทหารที่มีคำสั่งเรื่องการตายชัดเจน มาลงโทษได้สักคน เรื่องก็จะสืบไปที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้มารับผิดตามมาตรา 113 ได้
“ผมยืนยันเรื่องนี้ และเสียดายจริงๆ ผมไม่รักหรือเกลียดพรรคไหน เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่ที่ผมจะสู้ด้วยคือ หยุดทหารที่ฆ่าประชาขนมือเปล่า ไม่ให้เกิดอีกต่อไป ในภาคใต้ ถีบลงเขา เผาลงถังแดง 3,000 ศพ จะปล่อยให้หายไปกับสายลมเหรอ, 6 ตุลาคม 2519 ผมเข้าป่า ไม่ได้อยู่ในเหตุกาณ์ แต่ดูทีวี เอายางรถยนต์ครอบ แล้วเอาไฟเผาทั้งเป็น เราจะให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่”
“ผมเสียดาย กรณีตากใบ ผมไม่เป็นทาส หรือลูกสมุนของพรรคไหนทั้งสิ้น ผมเป็นทาสของประชาชน ถ้านำคนที่ผิดคดีตากใบมาขึ้นศาลได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ ในการที่ทหารฆ่าประชาชนแล้วต้องรับผิดชอบ”
นพ.เหวงกล่าวต่อว่า มีใครบ้าง ที่เอาประชาชนไปเรียงกันทับ 5 ชั้น คุณเป็นมนุษย์หรือเปล่า สงสัยจริงๆ เรื่องจากใบ มีกรณีเดียว ถ้าเอาคนผิดมารับโทษได้ จะไม้เกิดกรณีทหารฆ่าและทำร้ายประชาชนอีกต่อไป ตนถึงเสียดาย ที่ทำไมเรื่องนี้ถึงลอยหายไปกับสายลม