มะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer) คือ โรคที่เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณรังไข่ หรือท่อนําไข่ อาจเพียงข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง หลังจากนั้นเซลล์มะเร็งก็ได้เจริญเติบโตขึ้น มีขนาดใหญ่ แพร่กระจายไปตามเยื่อบุช่องท้อง ทางเดินนํ้าเหลือง กระแสโลหิต รวมทั้งส่งผลกระทบไปยังอวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุ้งเชิงกราน ปอด ตับ โรคนี้สามารถพบได้ในผู้หญิงทุกช่วงอายุ
สาเหตุมะเร็งรังไข่
อย่างที่ทราบกันดีว่าการกลายพันธุ์ของเซลล์ในรังไข่ไปเป็นมะเร็ง ซึ่งมาจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้
- อายุมากกว่า 55 ปี
- น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน
- ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้
- ได้รับฮอร์โมนทดแทน
- สมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงเป็นมะเร็ง
- มีประจำเดือนเร็วหรือหมดช้ากว่าปกติ
- มีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคทางนรีเวช เช่น มะเร็งเต้านม เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาการมะเร็งรังไข่
ในระยะแรกนั้นจะไม่แสดงความผิดปกติแต่อย่างใด หลังจากนั้นจะมีอาการดังนี้
- เบื่ออาหาร
- อิ่มเร็ว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- น้ำหนักตัวลดลง
- ท้องอืด บวม
- อาหารไม่ย่อย
- ท้องเสียสลับท้องผูก
- ปัสสาวะบ่อย
- ปวดท้องหรือปวดในอุ้งเชิงกราน
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
การวินิจฉัยมะเร็งรังไข่
ในขั้นแรกนั้น แพทย์จะซักประวัติสอบถามอาการ รวมทั้งบุคคลในครอบครัว หลังจากนั้นจะทำการตรวจหาความผิดปกติ ได้แก่
การตรวจภายในช่องคลอด
- เพื่อดูขนาดของรังไข่ และของเหลวที่อาจจะอยู่ภายในท้อง
ตรวจโลหิต
- หาค่าบ่งชี้มะเร็งรังไข่
วัดปริมาณสารบ่งชี้มะเร็ง เช่น ฮอร์โมน HCG
- การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
การตรวจความผิดปกติของพันธุกรรม
- ใช้ตัวอย่างเลือดหาการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 และ BRCA2
การตัดชิ้นเนื้อ
- ตัดเนื้องอกระหว่างผ่าตัด นำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่
การรักษามะเร็งรังไข่
ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy)
- ออกฤทธิ์ให้เซลล์มะเร็งตาย
เคมีบำบัด
- เป็นการกำจัดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง สำหรับผู้ป่วยที่มีการแพร่กระจายเข้าไปในช่องท้องแล้ว
การฉายรังสี
- เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งในรังไข่ เหมาะสมกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
การผ่าตัด
- เอาเซลล์มะเร็งบริเวณรังไข่และปีกมดลูกออก หรือตัดเอาอวัยวะใกล้เคียง เช่น ต่อมน้ำเหลือง มดลูก ออก หากมีการแพร่กระจายไปยังบริเวณนั้น
การป้องกันมะเร็งรังไข่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จากวัตถุดิบและกรรมวิธีที่ปลอดจากการเกิดมะเร็ง
- ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักตัว
- ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ก่อนใช้ยา สมุนไพร อาหารเสริมต่าง ๆ โดยเฉพาะยาคุมกำเนิด
- ผู้หญิงควรตรวจภายในและพบสูตินรีแพทย์อย่างน้อง 1 ครั้ง ต่อปี
โรงพยาบาลเพชรเวชมีบริการตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ ซึ่งมาจากการเจาะเลือด เพื่อวัดปริมาณสาร CA -125 เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีความเสี่ยงตามที่กล่าวมาในข้างต้น แม้จะไม่ใช่การตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่สามารถช่วยพบร่องรอยของโรคได้ หากท้องอืดบ่อยครั้งภายใน 1 เดือน และมีอาการความผิดปกติใกล้เคียงกับมะเร็งรังไข่ ควรมาพบแพทย์ทันที
มะเร็งรังไข่ อีกโรคที่พบได้บ่อยในเพศหญิง
อย่างที่ทราบกันดีว่าการกลายพันธุ์ของเซลล์ในรังไข่ไปเป็นมะเร็ง ซึ่งมาจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้
- อายุมากกว่า 55 ปี
- น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน
- ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้
- ได้รับฮอร์โมนทดแทน
- สมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงเป็นมะเร็ง
- มีประจำเดือนเร็วหรือหมดช้ากว่าปกติ
- มีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคทางนรีเวช เช่น มะเร็งเต้านม เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาการมะเร็งรังไข่
ในระยะแรกนั้นจะไม่แสดงความผิดปกติแต่อย่างใด หลังจากนั้นจะมีอาการดังนี้
- เบื่ออาหาร
- อิ่มเร็ว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- น้ำหนักตัวลดลง
- ท้องอืด บวม
- อาหารไม่ย่อย
- ท้องเสียสลับท้องผูก
- ปัสสาวะบ่อย
- ปวดท้องหรือปวดในอุ้งเชิงกราน
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
การวินิจฉัยมะเร็งรังไข่
ในขั้นแรกนั้น แพทย์จะซักประวัติสอบถามอาการ รวมทั้งบุคคลในครอบครัว หลังจากนั้นจะทำการตรวจหาความผิดปกติ ได้แก่
การตรวจภายในช่องคลอด
- เพื่อดูขนาดของรังไข่ และของเหลวที่อาจจะอยู่ภายในท้อง
ตรวจโลหิต
- หาค่าบ่งชี้มะเร็งรังไข่
วัดปริมาณสารบ่งชี้มะเร็ง เช่น ฮอร์โมน HCG
- การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
การตรวจความผิดปกติของพันธุกรรม
- ใช้ตัวอย่างเลือดหาการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 และ BRCA2
การตัดชิ้นเนื้อ
- ตัดเนื้องอกระหว่างผ่าตัด นำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่
การรักษามะเร็งรังไข่
ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy)
- ออกฤทธิ์ให้เซลล์มะเร็งตาย
เคมีบำบัด
- เป็นการกำจัดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง สำหรับผู้ป่วยที่มีการแพร่กระจายเข้าไปในช่องท้องแล้ว
การฉายรังสี
- เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งในรังไข่ เหมาะสมกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
การผ่าตัด
- เอาเซลล์มะเร็งบริเวณรังไข่และปีกมดลูกออก หรือตัดเอาอวัยวะใกล้เคียง เช่น ต่อมน้ำเหลือง มดลูก ออก หากมีการแพร่กระจายไปยังบริเวณนั้น
การป้องกันมะเร็งรังไข่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จากวัตถุดิบและกรรมวิธีที่ปลอดจากการเกิดมะเร็ง
- ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักตัว
- ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ก่อนใช้ยา สมุนไพร อาหารเสริมต่าง ๆ โดยเฉพาะยาคุมกำเนิด
- ผู้หญิงควรตรวจภายในและพบสูตินรีแพทย์อย่างน้อง 1 ครั้ง ต่อปี
โรงพยาบาลเพชรเวชมีบริการตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ ซึ่งมาจากการเจาะเลือด เพื่อวัดปริมาณสาร CA -125 เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่มีความเสี่ยงตามที่กล่าวมาในข้างต้น แม้จะไม่ใช่การตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่สามารถช่วยพบร่องรอยของโรคได้ หากท้องอืดบ่อยครั้งภายใน 1 เดือน และมีอาการความผิดปกติใกล้เคียงกับมะเร็งรังไข่ ควรมาพบแพทย์ทันที