แชร์ประสบการณ์ เลิกจ้างไม่เป็นธรรม โดยบริษัทสื่อข่าวในตึกตรงข้าม มศว.

สวัสดีครับ วันนี้จะผมขอแบ่งปันประสบการณ์ การทำงานและการถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเจอมา

บอกก่อนว่าไม่ได้มีความขัดแย้งหรือปัญหาส่วนตัวกับบริษัทนี้ แต่อยากมีเป็นอีกกระบอกเสียง เตือนคนที่มาอ่านหรือได้รู้และวิธีลบเลี่ยงบริษัทนี้หากจะไปทำงานหรือได้ยื่นสมัครไป 

บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัททำสื่อและข่าวสารอยู่บนชั้น 15 ของอาคารอโศกทาวเวอร์ โดยเป็นหนึ่งเครือในของบริษัทอสังหาชื่อขึ้นต้นด้วยตัว F และมีบริษัทใหญ่อยู่ชั้นที่ 17 โดยหน้าทางเข้าจะมีรูปวาดเป็นเสือ แขวนเด่นเห็นชัด 

โดยเราได้เริ่มงานในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2567 ในตำแหน่งนักเขียน ซึ่งฐานเงินเดือนที่ได้อยู่ 23,000.- 
*ขอขยายความตรงนี้เพิ่มเติมว่าในตอนแรก เราจะไม่ได้งานที่นี้เพราะเขาไม่เลือกเรา แต่หลังจากการประกาศผลว่าไม่ได้ หัวหน้างานติดต่อกลับมาพร้อมยื่นขอเสนอว่ามีตำแหน่งให้ทำแล้วจะได้ตามฐานเงินเดือนที่เราขอไป แต่ก่อนที่จะทำเริ่มทำสัญญาก็มีการพูดคุยดีลกันว่าในช่วงระยะเวลาทดลองงาน สามเดือนเราจะขอรับเงินเดือนเรท 23,000.- แล้วถ้าหากผ่านทดลองงานจะขออัพเพิ่มเป็น 25,000.- และหัวหน้ารับดีลตกลงตามนี้พร้มออกหนังสือมาให้เซ็น*

หลังจากเริ่มงานไป ภายในหนึ่งเดือนก็ทำงานได้ไม่ติดปัญหาหรือมีปัญหาอะไร อาจจะมีการผิดพลาดและเรียนรู้ปรับเปลี่ยนแพลนเทิร์นการเขียนบทความให้ตรงกับแนวทางของบริษัท แต่ก็ไม่มีงานไหนที่ผิดพลาดจนเกิดปัญหาหรือสร้างความเสียหายให้แก่บริษัทจนต้องโดนตักเตือน

การประเมินทดลองงานในเดือนแรกหลังผ่านมาเดือนนึงว่าเรามีปัญหาหรือติดขัดตรงไหนที่ต้องแก้ไข ผ่านการพูดคุยกับซีเนียร์ ซึ่งเป็นคนรับคำสั่งจากหัวหน้ามาอีกที่ในการประเมินงาน แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าการประเมินที่นี้ไม่มีความเป็นทางการ เพราะใช้เป็นตัวกูเกิลชีท แล้วให้เราเป็นคนประเมินให้คะแนนตัวเองและจะมีคอมเมนต์จากหัวหน้ามาตามหลัง และก็ใช้การที่เราเขียนประเมินตัวเองมาพูดคุยกับเรา ซึ่งถ้าพูดกันตามตรงว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเพราะเราเองที่รู้ตัวว่ามีปัญหาในส่วนไหนและไม่ได้มีคอมเมนต์ทางการสำหรับการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับวิธีปรับแก้อย่างใด และการพูดคุยประเมินนั้นก็บอกแต่เรื่องที่เรารู้ตัวเองว่าต้องปรับปรุงตรงไหนด้วยตัวเองอยู่แล้ว และประเมินเราแค่ในเดือนแรก เดือนสองไม่มีการเขียนประเมินในชีทนั้นอีกเลย

ต่อมาพอเข้าเดือนที่สองในการพูดคุยหัวหน้าได้แจ้งให้ซีเนียร์มาแจ้งผลการประเมินโดยให้มาบอกกับเราว่า ไม่ผ่านโปรเพราะยังทำงานไม่ตรงตามที่บริษัทซึ่งระหว่างก่อนจจะเข้าเดือนที่สองไม่มีการบอกกล่าวอะไรเรื่องปัญหาของงานเพิ่มเติมเลย เลยขอพูดคุยว่าถ้าต้องการทำงานที่นี้ต้องทำอย่างไร สุดท้ายซีเนียร์จึงให้คุยกับหัวหน้ามาคุยกับเราเอง

สรุปหัวหน้ากลับแจ้งว่าเหตุผลหลักไม่เกี่ยวกับการทำงาน "ทำงานโอเค ไม่มีปัญหา" แต่หลัก ๆ ที่ไม่ให้ผ่านทดลองงานเกี่ยวกับ "คอร์สและเงินของบริษัทที่ไม่สามารถจ้างต่อได้" ด้วยเหตุผลนี้เรายิ่งรู้สึกว่าไม่แฟร์และการพูดคุยสอบถามเพื่อหาวิธีต่อหัวหน้าก็ไม่ได้กระตื้อรือล้นจะช่วยหาวิธี สอบถามกี่รอบก็แจ้งแต่ว่าเกี่ยวกับเรื่องเงินเป็นปัญหาหลักไม่เกี่ยวกับเพอร์ฟอแมนตัวงานของเรา ทั้งที่ดีลกันมาลงตัวและยอมรับข้อเสนอนี้แต่แรก 

ซึ่งในช่วงนั้นเราพยายามพูดคุยหาวิธี หัวหน้าก็หาวิธีช่วยแบบส่งๆ ว่าให้เขียนงานคอนเทนต์ที่ยอดดีมีคนอ่านเยอะเพื่อจะได้เอาไปเสนอกับผู้บริหาร และช่วงนั้นเราก็ทำงานบทความที่มีติดอันดับยอดคนสนใจคนอ่าน บ้างอันความติดอันดับหนึ่ง หรือ สองบทความติดอันดับหนึ่งหรืออันดับสามทั้งสองชิ้น พร้อมกับได้ยอดในช่องทางโซเชียล แต่หัวหน้าก็เมินเฉย ไม่ช่วยเหลือหรือพูดคุย เราต้องพยายามไถ่ถามด้วยตัวเอง

และในเดือนที่สามช่วงตุลาคม 2567 หลังจากมีการบอกเลิกจ้างด้วยไม่มีเงินจ้างต่อและในสิ้นสุดการทำงานในช่วงวันที่ 20 กันยายน 2567 แต่ช่วงต้นเดือนดันรับพนักงานใหม่มาเพิ่มหนึ่งคน ซึ่งทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ สุดท้ายเราก็ออกตามวันที่เขาเลิกจ้าง คือ 20 ตุลาคม 2567 ซึ่งไม่ได้เขียนใบลาออกแต่อย่างใด บริษัทออกหนังสือเลิกจ้างมาให้แต่เราไม่ได้เซ็นเพราะยังไงแล้วทางบริษัทก็เลิกจ้าง จะเซ็นหรือไม่ก็ไม่เป็นผลที่จะได้ทำงานที่นี้ต่อ

แต่ปัญหาที่บริษัทนี้ทำไว้ยังไม่จบ เมื่อเราว่างงานจึงแจ้งกับประกันสังคมเพื่อรับเงินชดเชย แต่แล้วเราก็ได้รับหนังสือว่าเราไม่สิทธิได้เงินชดเชย เพราะโดนไล่ออก ซึ่งเราต้องเดินทางไปทำเรื่องที่ประกันสังคม แล้วชี้แจ้งจนเจ้าหน้าที่ต้องติดต่อไปทางบริษัทว่าการแจ้งว่าไล่ออกจะทำให้เราไม่ได้เงินชดเชยจากประกันสังคม ดังนั้นต้องแก้ไขข้อมูลและสอบถามว่าเรามีความผิดหรือไม่ที่แจ้งว่าไล่ออก สรุปง่ายๆ คือบริษัทไม่อยากจ่ายค่าชดเชยจึงใช้เหตุผลแจ้งว่าไล่ออกซึ่งส่งผลกระทบกับการขอรับเงินประกัน อันนี้คือแย่มาก 

แต่ต้องบอกก่อนว่าจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เรามีการดำเนินการฟ้องศาลเกี่ยวกับการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมและเตรียมเอกสารและหลักฐานพร้อมหมด โดยเรื่องประกันสังคมเราก็มีหลักฐานยื่นจึงช่วยให้ทำเรื่องได้ หลังจากนี้ต้องรอดูฝั่งประกันสังคมเรื่องเงินชดเชย และจะมีการฟ้องนัดไกล่เกลี่ยช่วงมกราคมปีหน้า

ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมถามมาได้ครับ แล้วก็แชร์กันได้ว่าใครเคยเจอเรื่องแบบเดียวกันบ้างกับการไม่ให้ผ่านโปร เพราะไม่มีเงินจ้างทั้งที่เราทำงานได้และไม่มีปัญหา และอยากบอกอีกว่าไม่ว่าจะทำงานที่ไหนเก็บเอกสารหรือชิ้นงานต่างๆ ของเราไว้แคปภาพ เก็บทุกอย่างไว้ให้หมด มันจะเป็นตัวช่วยเราในการเรียกร้องความยุติธรรมได้เป็นอย่างดี หลังจากนี้เป็นการจะมาแชร์เพิ่มเติมครับ

ปล. ตอนนี้เรื่องเงินชดเชยของประกันสังคม ตอนนี้ทางประกันสังคมโทรมาแจ้งว่ามีการเปลี่ยนข้อมูลแล้วสามารถรอรายงานตัวได้ตามปกติ เพราะบริษัทได้แก้ข้อมูลเพราะยื่นในระบบผิดพลาด ซึ่งยังไงก็ไม่ควรใช้เป็นลาออก เพราะเลิกจ้างเราเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่