เราจบสถาปัตย์ผังเมืองมา มีความจำเป็นต้องมาอยู่ กทม. แต่หางานผังเมืองยากเพราะบริษัทน้อย เลยลองยิ่นตำแหน่งอื่นที่ใกล้เคียงและคิดว่าตัวเองจะทำได้และพัฒนาตัวเองได้ ถึงเนื้องานไม่ค่อยตรงสายที่เรียน จนมีบริษัทแห่งนึงรับเราเข้าทำงาน เราเลยคว้าโอกาสไว้ มารู้ภายหลังว่าเขานึกว่าเราจบสถาปัตย์หลักมาเลยรับ เราก็พอมีพื้นฐานโปรแกรมและออกแบบอาคารมาบ้าง เริ่มงานมาได้ปีกว่า และทำที่นี่เป็นที่แรก หน้าที่คือการเคลีย์แบบต่างๆสถาปัตย์งานระบบประปา,ไฟฟ้า,โครงสร้างบ้านอาคารต่างๆ แต่ละโครงการดีเทล รายละเอียดความยากง่ายแตกต่างกันออกไป เป็นงานที่ต้องตัดสินใจแม่นยำและรอบคอบมาก ปัจจุบันเราช่วยพี่ดูโครงการที่พี่รับผิดชอบเหมือนผู้ช่วยพี่ ทุกงานที่เราทำต้องผ่านพี่ก่อนเสมอ ยังไม่มีโครงการที่รับผิดชอบคนเดียว อาจจะเพราะเรายังมีข้อผิดพลาดเยอะ
เรามักถูกตำหนิจากพี่ที่ช่วยสอนงานอยู่บ่อยครั้ง พี่อธิบายสอนงาน ขณะนั้นเราเข้าใจและพยายามนำมาปรับใช้ พอมีโครงการใหม่เราก็มีจุดที่ผิดพลาดอีก ทำให้งานหลุด ล่าช้า หน้างานก็ล่าช้า เพราะรอแบบที่แก้จากเรา พี่ต้องสละเวลางานตัวเองมาตรวจงานจากเรา เรามักจะเจอคำพูดทำไมทำแบบนี้ อะไรที่ถูกทำไมทำให้มันผิด เคยสอนไปแล้วนิ ทำไมไม่เข้าใจทำไมทำไม่ได้ พอทำโครงการใหม่ทุกครั้งเราบอกกับตัวเองว่าจะพัฒนาและรอบคอบมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาเช็คมากขึ้น พี่ก็ตามงานว่าทำไมทำช้า จะเสร็จวันไหน ติดตรงไหน ถึงเราจะพยายามมากขึ้นก็มีจุดที่ผิดพลาดหรืองานหลุดไม่จุดใดก็จุดนึง เพราะดีเทลงานมันเยอะ และเราขาดความชำยาญ ทำให้ทุกวันนี้เราไม่กล้าตัดสินใจอะไรในงานที่ได้รับมอบหมาย ถึงพี่จะบอกให้ตัดสินใจเลย และรู้สึกบั่นทอนทุกครั้งที่มีความผิดพลาดเพราะมันไม่ได้กระทบที่เราคนเดียว พี่ก็เหนื่อยๆที่ต้องมาตรวจงานเรา พูดประมาณว่าถ้ารับคนมาเพิ่มอยากได้คนที่มีประสบการณ์มาบ้างจะได้ไม่ต้องมาสอน บ้างก็บอกว่ามีเรามาช่วยก็เลยได้รับงานมาดูแลมากขึ้น หรือเมื่อไหร่เราจะได้ดูแลโครงการคนเดียวบ้าง ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง
ทำให้บางทีเราคิดว่าเราไม่เหมาะกับงานนี้ หรือไม่เหมาะกับบริษัทนี้รึเปล่า ที่อื่นเราจะสบายใจแบบนี้ไหม หรือลองเปลี่ยนที่ทำงาน รูปแบบงานใหม่ดู อยากรู้ว่าทุกคนเวลาที่อยากเปลี่ยนงานจุดเริ่มต้นมาจากอะไร งานที่เหมาะกับตัวเองเป็นแบบไหน เราเองก็เข้าใจว่าทุกคนก็ต้องมีความผิดพลาดบ้างเป็นเรื่องปกติ เรารู้สึกบั่นทอนมาก
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนอยากเปลี่ยนงานมาจากอะไรกันบ้าง ?
เรามักถูกตำหนิจากพี่ที่ช่วยสอนงานอยู่บ่อยครั้ง พี่อธิบายสอนงาน ขณะนั้นเราเข้าใจและพยายามนำมาปรับใช้ พอมีโครงการใหม่เราก็มีจุดที่ผิดพลาดอีก ทำให้งานหลุด ล่าช้า หน้างานก็ล่าช้า เพราะรอแบบที่แก้จากเรา พี่ต้องสละเวลางานตัวเองมาตรวจงานจากเรา เรามักจะเจอคำพูดทำไมทำแบบนี้ อะไรที่ถูกทำไมทำให้มันผิด เคยสอนไปแล้วนิ ทำไมไม่เข้าใจทำไมทำไม่ได้ พอทำโครงการใหม่ทุกครั้งเราบอกกับตัวเองว่าจะพัฒนาและรอบคอบมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาเช็คมากขึ้น พี่ก็ตามงานว่าทำไมทำช้า จะเสร็จวันไหน ติดตรงไหน ถึงเราจะพยายามมากขึ้นก็มีจุดที่ผิดพลาดหรืองานหลุดไม่จุดใดก็จุดนึง เพราะดีเทลงานมันเยอะ และเราขาดความชำยาญ ทำให้ทุกวันนี้เราไม่กล้าตัดสินใจอะไรในงานที่ได้รับมอบหมาย ถึงพี่จะบอกให้ตัดสินใจเลย และรู้สึกบั่นทอนทุกครั้งที่มีความผิดพลาดเพราะมันไม่ได้กระทบที่เราคนเดียว พี่ก็เหนื่อยๆที่ต้องมาตรวจงานเรา พูดประมาณว่าถ้ารับคนมาเพิ่มอยากได้คนที่มีประสบการณ์มาบ้างจะได้ไม่ต้องมาสอน บ้างก็บอกว่ามีเรามาช่วยก็เลยได้รับงานมาดูแลมากขึ้น หรือเมื่อไหร่เราจะได้ดูแลโครงการคนเดียวบ้าง ยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง
ทำให้บางทีเราคิดว่าเราไม่เหมาะกับงานนี้ หรือไม่เหมาะกับบริษัทนี้รึเปล่า ที่อื่นเราจะสบายใจแบบนี้ไหม หรือลองเปลี่ยนที่ทำงาน รูปแบบงานใหม่ดู อยากรู้ว่าทุกคนเวลาที่อยากเปลี่ยนงานจุดเริ่มต้นมาจากอะไร งานที่เหมาะกับตัวเองเป็นแบบไหน เราเองก็เข้าใจว่าทุกคนก็ต้องมีความผิดพลาดบ้างเป็นเรื่องปกติ เรารู้สึกบั่นทอนมาก