“ชีวิตนั้นไม่ได้ง่าย แต่ถ้ายังใจสู้ ยังไงก็ไปต่อได้”(จากเรื่องราวชีวิตของคนหนึ่ง)

สำหรับเรื่องที่ผมจะมาเล่านี้ อยากให้เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าในหลายๆเรื่องเล่า เป็นกำลังใจชีวิตให้กับคนที่จะสอบ หรือคนที่สู้ชีวิต ท้าวความก่อนว่า ผมเป็นคนไทย มีเชื้อสายจีนจากทางฝั่งพ่อ ทำให้ในมุมมองครอบครัวคนจีนมักไม่ให้ความยอมรับ โดยเฉพาะกับย่าตัวเอง ที่มักจะลำเอียงเลือกที่รักมักที่ชัง ในบรรดาลูกหลานผมมักจะเป็นหลานที่ถูกมองข้ามมากที่สุดเสมอ ตั้งแต่เด็กต้องคอยมองหลานคนอื่นที่ย่าจะพาไปกินขนม พาไปเที่ยว หรือช่วยสนับสนุนให้เรียนโรงเรียนดีๆหรือเรียนพิเศษ อาจสงสัยว่าแล้ว พ่อแม่ผมล่ะไปไหน ทำไมให้ลูกต้องมารู้สึกแบบนี้ เพราะแม่ผมต้องตามพ่อตลอด ไม่มีปากเสียง หรือพยายามกล้าอะไรเพื่อลูกเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าแม่จะทำงานเอง หาเงินกินใช้เองแต่กลับยังยอมพ่อตลอด ส่วนพ่อ ถ้าอะไรที่ตัวเองไม่เห็นประโยชน์และตัวเองไม่ได้ประโยชน์ก็จะไม่ทำ รวมถึงการส่งเสริมลูก
   เรื่องเรียนส่วนใหญ่จะแค่มีค่าขนมเล็กน้อยๆเท่านั้น ไม่มีการสนับสนุนอื่นๆเลย ทำให้ในช่วง ม.ปลาย ผมค่อนข้างเรียนตามเพื่อนไม่ทัน เพราะเด็กส่วนใหญ่มักจะเรียนพิเศษกัน เมื่อผมบอกพ่อแม่ไปว่าอาจไม่ได้เข้าคณะตามที่พวกเค้าต้องการ เพราะหลุดเนื้อหาเรียนหลายอย่าง เนื่องจากไม่ได้เรียนพิเศษและไม่มีเวลาดูหนังสือเพราะต้องคอยช่วยพ่อขายของตลอด สุดท้ายผมก็โดนพ่อลอยแพ และแม่ที่เลือกจะไม่สนใจลูก ผมต้องรอเวลา 2-3 ปีในการเก็บเงิน เพื่อส่งเสียตัวเองเรียนในคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ โดยระหว่างเรียน ก็มีปัญหาอื่นตามมาอยู่เนืองๆ อย่างระหว่างช่วงเรียนปี 1-2 เนื่องจากต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายวัน ก็ต้องอยู่บ้านของพ่อไปก่อน ทำให้ทุกๆวันหลังกลับบ้าน ผมมักโดนด่าทอหรือแกล้งทำเสียงดัง รบกวนการนอน (ช่วงนี้พ่อไม่ทำงานแล้ว ติดเกมส์กับแชทไลน์ สัปดาห์หนึ่งทำงานแค่วันสองวัน) เพื่อให้ผมนอนหลับไม่ดี ทำให้เริ่มกระทบการเรียน แต่โชคยังดีที่ผมมีแฟนที่คอยช่วยเหลือเรื่องเรียนทำให้พอรอดตัวเรื่องเรียนมาได้บ้าง แต่สุดท้ายก็เลิกกันไปช่วงปี 3 เพราะพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับผม ซึ่งผมก็เข้าใจได้ จากปัญหาของตัวเอง
   ผมไม่มีเวลากระทั่งเสียใจ เพราะปัญหาในครอบครัวก็ยังตามมาอยู่ ทีนี้พ่อไปพัวพันเรื่องผู้หญิง ทำให้ทะเลาะกับแม่อยู่ตลอด จนเรื่องเลยเถิดเป็นว่า ถ้าพ่อไม่พอใจคำพูดไหนของแม่ ก็จะมาด่าทอผมแทนว่าเรียนจบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แม้กระทั่งเคยแกล้งทำเป็นไม่พอใจแม่  แต่จริงๆเจตนาแกล้งผม เอาน้ำสาดใส่โน้ตบุ๊คผม เพราะเห็นผมกำลังทำเล่มวิจัยจบ ป.ตรี เพื่อความสะใจส่วนตัว อยากให้ผมไปซ่อมคอมหรือข้อมูลที่ทำมาหายไปได้ยิ่งดี ระหว่างนี้ช่วงเรียนปีสุดท้าย ผมก็ได้มีแฟนคนที่สอง และได้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน ทำให้ผมสามารถเรียนและทำเล่มจบได้อย่างสบายใจสักระยะหนึ่ง จนหลังเรียนจบมาไม่กี่เดือน เค้าลางปัญหาเรื่องความรักก็ตามมา เนื่องจากแฟนพอทำงาน ไปเจอสังคมใหม่ๆ ทำให้มีรสนิยมสูง อยากมีชีวิตที่หรูหรา ได้เที่ยวกลางคืน แต่งตัวสวยๆ ใช้เครื่องสำอางแพงๆ แต่ตัวผมชอบใช้ชีวิตสมถะ อยู่ห้อง ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่     กินข้าวห้างบ้างบางที ทำให้สุดท้ายไปกันไม่รอด และเจอคบซ้อน เค้าให้เหตุผลว่าเพราะผมมีแต่ตัว ทำให้ตอนเลิกกันผมจึงต้องกลับมาอยู่บ้านพ่ออีกครั้ง เพราะระหว่างนั้นผมก็ได้ลาออกจากงานด้วย จึงต้องกลับมาเจอสภาพแวดล้อมแบบเดิมๆ หรือยิ่งกว่าเดิม กับสภาพจิตใจที่ไม่มีแม้แต่เวลาเสียใจหรือเศร้าจากความรักในครั้งนี้
   ช่วงนั้นใกล้จะสอบ ก.พ. ป.ตรี พอดีซึ่งถือเป็นครั้งแรกของผมด้วย ผมจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นเท่านั้น เก็บความรู้สึกเรื่องต่างๆไว้ในส่วนลึกของจิตใจ เพื่อมาโฟกัสกับการสอบ เมื่อผลประกาศว่า ผ่าน ก.พ. แล้วแม้ว่าจะโล่งใจไปเปราะนึง แต่ก็รู้ว่ายังต้องเจอสนามอื่นๆอีก กับปัญหาครอบครัวที่ยังคงอยู่ ระหว่างช่วงที่ผมสอบสนาม ภาค ข ในหลายครั้งถ้าพ่อแอบได้ยินว่าจะสอบ คืนก่อนสอบจะแกล้งเสียงดัง เปิดลำโพงโทรศัพท์ให้ดังช่วงดึก หรือไม่ก็มาทำเสียงดังแต่เช้ามืด แต่ยังดีที่หลังประกาศผลสอบ ผมจะมีชื่อได้ขึ้นบัญชีไว้เกือบทุกครั้ง และสุดท้ายผมก็ได้รับหนังสือเรียกรายงานตัวเข้ารับบรรจุข้าราชการในหน่วยงานหนึ่งในช่วงอายุยี่สิบกว่าๆ ทั้งที่ปัจจัยอะไรหลายอย่างในชีวิตจะไม่เอื้ออำนวย แม้ว่าจะช้ากว่าคนรุ่นเดียวกันไปบ้าง แต่ก็พาตัวเองกะยิ้มกะสนมาได้ประมาณนึง แม้จะไม่ดีมากแต่ก็ไม่แย่มาก
   เรื่องที่ผมเล่ามาสำหรับคนที่อาจไม่เชื่อ ผมก็คงขอให้มองว่าเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟัง แต่สำหรับคนที่อ่านแล้วเลือกจะเชื่อ ผมก็หวังว่าทุกคนจะรู้สึกมีแรงใจ มีกำลังใจในชีวิตมากขึ้นกับทุกปัญหาที่เจออยู่ ผมจะรู้สึกยินดีมากๆ หากเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวบันดาลใจให้กับใครก็ตามที่ได้อ่านเรื่องราวของผม สำหรับใครก็ตามที่เผชิญปัญหาครอบครัวอยู่หรือปัญหาความรักก็ตาม หรือต้องดิ้นชีวิต หรือกำลังเผชิญปัญหาอุปสรรคอะไรอยู่ก็ตามในชีวิต ไม่ว่าจะเจอความทุกข์ ความเจ็บปวด ความเสียใจ หรือไม่มีแม้แต่ใครให้กำลังใจหรือเคียงข้างก็ตาม ได้ใช้เป็นแรงใจและกำลังใจสู้ต่อไป เพราะแม้แต่ตัวผมเองก็คงต้องสู้ และเผชิญกับปัญหาอะไรหลายอย่างๆต่อไปตราบใดที่ยังอยู่ในโลกใบนี้ สุดท้ายก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่