ริดสีดวงทวารไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็สร้างความไม่สบายตัวและอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้หากปล่อยไว้นาน มักเกิดกับคนที่ท้องผูกบ่อย นั่งเบ่งนาน ๆ หรือมีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้ำหนักเกินและตั้งครรภ์ มาเช็ก 5 สัญญาณกันหน่อยว่าคุณอาจกำลังมีปัญหานี้อยู่หรือเปล่า และถ้าใช่ ควรรีบพบแพทย์!
 
1. มีเลือดออกตอนขับถ่าย 🩸
หากมีเลือดแดงสดปนกับอุจจาระ หรือเห็นเลือดติดบนกระดาษชำระหลังซับ อาจเป็นริดสีดวงภายใน ยิ่งถ้ามีเลือดหยดออกมาเป็นระยะ ๆ และรู้สึกเจ็บเวลาเบ่ง ควรรีบตรวจทันที

2. รู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองบริเวณทวารหนัก 💥
ริดสีดวงอาจทำให้รู้สึกเจ็บตึงหรือระคายเคือง ยิ่งเบ่งแรง อุจจาระที่แข็งอาจครูดทำให้หัวริดสีดวงอักเสบหนัก ถ้าหัวริดสีดวงยื่นออกมาและไม่หดกลับ รู้สึกเจ็บเวลาเดินหรือนั่ง จะยิ่งชัดเจนขึ้น

3. คันรอบรูทวาร 👌🏻
ความอับชื้น การทำความสะอาดมากเกินไป หรือการอักเสบจากริดสีดวง อาจทำให้เกิดอาการคัน หากเกามากเกินไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

4. คลำพบก้อนแข็งหรือบวมรอบทวารหนัก 😱
นี่อาจเป็นริดสีดวงภายนอก ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่โป่งพองอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณรอบทวารหนัก ตรวจเจอได้ง่ายเมื่อคลำรอบ ๆ ทวาร

5. มีก้อนยื่นออกนอกทวารขณะถ่ายอุจจาระ 💩
ถ้าก้อนยื่นออกมาและหดกลับเข้าไปเองได้ แสดงว่าเป็นระยะเริ่มต้น แต่ถ้าก้อนยื่นค้างและไม่หดกลับ แสดงว่าเป็นริดสีดวงในระยะที่ 3-4 ต้องรีบพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้อาจต้องผ่าตัด
 
✨ วิธีดูแลเบื้องต้น:
- แช่ก้นในน้ำอุ่นช่วยบรรเทาอาการ
- กินอาหารที่มีกากใยและดื่มน้ำมากขึ้น
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อช่วยการขับถ่าย
แต่ถ้ามีเลือดออกจากทวารหนัก ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาการนี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาอื่น เช่น ฝีคัณฑสูตร หรือแม้แต่โรคร้ายอย่างมะเร็งลำไส้

ที่มาข้อมูล HDcare Blog

ความรู้เพิ่มเติม
https://youtu.be/VCNDYAxBJAo?si=5qqeq-CElaqMq7xe