เดินผ่าน..ได้ยินรองนายกฯ พูดอย่างนี้

คงต้องพิจารณาว่าโหดร้ายต่อใคร?

ในมุมของครอบครัวคุณแม่ลูกอ่อน..
คำตอบคือ โหดร้ายต่อทั้งเด็กและคุณแม่

สำหรับเด็ก..
จะขาดการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากแม่

สำหรับแม่  .. 
จะห่างเหินจากความเสน่หาในบุตร
ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของเด็ก

เมื่อมีเวลาอยู่กับลูก
ก็เป็นไปด้วยจิตที่เคร่งเครียดจากหน้าที่การงาน

ว่ากันว่า..
เด็กเล็กๆย่อมรับรู้ต่อความรู้สึกของแม่ได้ดี
อันจะส่งผลถึงพัฒนาการในด้านต่างๆของเด็กตามไปด้วย

ในมุมของครอบครัวนายใหญ่..
ก็ดูเหมือนจะโหดร้ายต่อนายกฯ
ที่ยังมีคุณสมบัติ รวมทั้งภาวะต่างๆที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง
แต่ไม่มีทางเลือกมากนัก

ในมุมของประเทศชาติ..
ท่ามกลางความเป็นไปในปัจจุบัน
ที่ต้องการผู้นำตัวจริงเสียงจริง

แต่เมื่อระบบมันถูกกำหนดโดยบอสการเมืองมาแบบนี้
และตัวเลือกก็ไม่มี
จึงต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม

มีพระบาลีที่ว่า..

" คนพาลมีชีวิตอยู่ร้อยปี ก็ไร้ประโยชน์
   ส่วนบัณฑิต แม้มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ย่อมประเสริฐกว่า "

จะป่วยกล่าวไปไย ถึงการอยู่เพียงเดือนเดียว
ที่รองนายก พูดเล่า..