ครอบครัวเรา ตอนนี้มีกันอยู่ 3 คน เมื่อก่อนมี 4 เนื่องจากพ่อเราเสียชีวิตไปเมื่อตอนเราอยู่ ป.5 แต่แม่เราติดเหล้ามาตั้งแต่เรายังไม่เกิดด้วยซ้ำ เลยใช้ชีวิตกังวลเวลาแม่กินเหล้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนเด็ก ๆ พยายามห้ามไม่ให้แม่กิน เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร กินแล้วก็กลับเข้าบ้านไม่เกิน 2 ทุ่ม เกือบทุกวัน ตอนนั้นเราก็เศร้าว่าทำไมถึงเป็นอย่างงี้ มีหนักสุด แม่ก่อนเราตอนเด็กละเราดื้อมาก แม่ก็ตีเราบ่อยมาก หนักจริงๆสำหรับเราตอนเด็กก็คือเอาหัวเราโขกกับพัดลม จำไม่ได้มันนานมาก ไม่รู้ว่าตอนนั้นหมดสติไปรึเปล่า แต่ร้องไห้หนักมาก
พอหลังจากที่พ่อเราเสียตอนป. 5 ฐานะมันก็ไม่ค่อยดีเท่าตอนที่พ่ออยู่ เพราะตอนที่พ่อเราอยู่ พ่อเราทำงานราชการ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเดือดร้อนอะไร ไม่รวยละก็ไม่จน พอมีพอกิน อยู่แบบไม่มีปัญหาอะไร พอพ่อเราเสีย แม่ก็ทำใจช่วงแรกๆไม่ได้ กินเหล้าหนักขึ้นทุกวัน เริ่มมีอาการ คุยคนเดียว เดิมทีแม่เราเป็นประสาทอยู่ด้วย กินเหล้าหนักคุยคนเดียว แล้วก็ร้องไห้ เพ้อถึงพ่อเราเป็นอาทิตย์ๆ ละผ่านมาสักพักก็หาคนมาดามใจ คือคนที่ก่อสร้างข้างบ้านเรา(พ่อเลี้ยงเราตอนนั้น) แม่เราอยากให้ครอบครัวกลับมาดีขึ้น เลยหาพ่อเลี้ยงให้เรา ปรากฏว่าแย่กว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า แม่เราทั้งขี่รถไปหาเขา ไม่บอกคนในบ้านเลย ก่อนที่จะเปิดตัวเขา เสียเงินเสียทองให้เขาจนแทบไม่ค่อยเหลือเลย แล้วก็ทะเลาะกันบ่อยมาก แม่เรามีปากเสียกับเขาบ่อยมาก กินเหล้ามาก็ทะเลาะกัน เขาก็กิน แม่เราก็กิน เขาอายุน้อยกว่าแม่เราไป 10 กว่าปีอะ แม่เราตอนนั้น 40 ปลายๆ ทะเลาะกันทุกวัน พอแม่เอาเข้ามาอยู่บ้านด้วย ก็ทะเลาะกันหนัก ทุกวันจริงๆ จนเราหน่าย เราก็เตือน ยายเราก็ไม่ชอบเขา แม่เราก็ทะเลาะกับยายด้วย ยายเราเป็นคนอารมณ์แรงขึ้นเลย พอคบกับคนคนนั้น แม่เราก็เอาแต่เมาแล้วพาลไปทะเลาะกับข้างบ้าน เดิมทีหน้าบ้าน เป็นที่พึ่งทางใจของยายเรามาก ๆ แม่เราเมาแล้วขุดเรื่องเก่าๆ ที่ไม่พอใจมันพูดเสียงดังมาก ๆ ให้เขาได้ยิน พอนานนับเข้าก็กลายเป็นมาทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน จะตีกัน ยายเราก็กลายเป็นไม่ชอบขี้หน้าเขาไปด้วยเลย เขาก็ตัดเขากับคนในบ้านเราจนถึงตอนนี้เลย ทะเลาะกันหนักมากจนข่มขู่จะฆ่/ากันก็มี แต่ก็ช่วงที่เราขึ้น ม.1- ม.3 ตอนนั้นหนักมากจริง ๆ ทั้งแม่เราที่เมาแล้วเอาแต่ด่าคนข้างบ้าน ละเมามาให้เราไปเหยียบบีบให้ทุกคืน หลับเเล้วก็ยังเรียกเราไปบีบ ตอนนั้นเราภาวนาให้มันดีขึ้น ร้องไห้บ่อยมาก ยายเราทนอยู่ไม้ได้ จนต้องย้ายไปอยู่กับลูกอีกคนที่เชียงราย 3-4 เดือน กลับมาก็ไม่ค่อยเป็นประสาทแล้ว พอเราขึ้นปี 2 (ปวช.) เขา(พ่อเลี้ยง) ก็เสียชีวิตตอนเทอม 1 ตอนนั้นเราทั้ง งง ทั้งอึ้ง ว่าหมดภาระกับเขาแล้วเนาะ เพราะเขาก็ไม่ชอบเราด้วย ก็นึกว่าแม่จะดีขึ้น
ผ่านไปคือช่วงปีก่อน สองปีก่อน ตอนนี้เราขึ้น ปวช.3 เทอม 2 แล้ว ตอนนั้น แม่เราก็เอาแต่โทรหาผู้ชายคนไหนไม่รู้อีกตั้ง 2-3 คน แต่ไม่ได้เอาเข้าบ้านมาสักคน เหมือนแค่เวลาเมาแล้วก็ชอบโทรไปหาเขา โทรไป 10 กว่ารอบได้ ละตอนนั้นเป็นช่วงที่ยายไปเชียงรายยังไม่กลับ เป็นช่วงปิดเทอมด้วยแหละ เดือนเมษา แม่เราเมาเหมือนเดิม กินเหล้าทุกวันเหมือนเดิม นั่งด่าคนเหมือนเดิม แต่เบากว่าช่วง ม.1-ม.3 เพราะแค่ทะเลาะกับคนข้างบ้าน ใช้วาจาที่รุนแรง เราเริ่มรู้สึกแพนิคขึ้นมาคือช่วงนั้นเลยที่ตัดพ้อกับชีวิตมาก แบบชีวิตนี่ไม่มีอะไรดีเลย ดวงก็ไม่ดี อกหักซ้ำซ้อน ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง เรานอนเหม่อคิดอะไรต่างๆนา ๆ แต่ไม่ได้นึกถึงการจบชีวิตตัวเองเลย แค่ไม่รู้จะทำไงกับชีวิตดี เพราะแม่เราทะเลาะกับคนอื่นเกือบทุกวันเลยละเราท้อมาก เพราะบอกแม่แล้วแม่ก็ไม่ฟังเลย ด่าเราด้วย
ตอนนี้แหละ ตอนปวช.3 เราเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไม่มีทางออกไม่มีทางแก้เลย เพราะช่วงนี้ก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็มีทะเลาะกับข้างบ้านอยู่ ทะเลาะกับคนในบ้านบ้าง กลับมาปาข้าวของ โทรกับผู้ชายน้อยลง มีโทรศัพท์ก็เลยใช้ทรศ. เริ่มใช้หูฟังครอบที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้าง กลายเป็นว่า พอฟังเพลงไป (แม่เราฟังแต่เพลงแดนซ์) อารมณ์คึกแล้วก็อารมณ์เสียไปด่าคน รอบนี้เล่นคนหลังบ้าน หลังบ้านคือเค้าเป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ด้วยละเขาก็รวย แม่เราไม่พอใจอะไรไม่รู้ในใจ ไมีรู้ว่าคิดไรอยู่ เมาแล้วเพี้ยนไปด่าเขา ตะโกนเสียงดังโวยวายเกือบทุกตอนเย็น ค่ำนิด ๆ เราแพนิคมาก กลัวเขาจะมาตีแม่เรา กลัวหลายอย่าง อาทิตย์ก่อน ๆ ยายเราเข้าไปห้ามแม่เรา แม่เราไม่ฟัง หงุดหงิดเพราะทรศ.พังด้วยจมน้ำนี่แหละน้ำท่วม แล้วยายเราหลังจากที่ปล่อยวางแม่เรา กลับกลายมาจะตีกับแม่เรา ภาพในอดีตมันผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะตอนนั้นแม่กับยายเราตีกันบ่อยมาก เราไม่รู้จะห้ามยังไง ละเรากลัวมาก ตอนที่ผ่านมาสักพักคือหนักมากจริง ๆ เรากลัวมาก ๆ มีคนข้างบ้านมาช่วยห้ามทัน ก็โอเคขึ้นมาหน่อย ตื่นเช้าเรารวบรวมความกล้าไปบอกแม่ว่าเลิกทำอย่างงั้นอย่างงี้ พูดไปร้อยแปดคำ ทั้งเอาคลิปเสียงตอนแม่เมาไปให้แม่ฟัง แม่เราก็บอกว่าไม่รู้สึกตัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ แถมบอกว่ารู้แล้ว จะไม่ทำอย่างงี้แล้ว เราก็โล่งใจ พอตกเย็นมา ไปกินเหล้าเมามาอีก เราเริ่มท้อมาก แต่เมาปุ้บก็เข้ามานอนเลย พูดไรนิด ๆ แต่ไม่ทะเลาะกับใคร
แต่อาทิตย์นี้แหละ กลับมาหนัก เพราะออกบ้านทุกวัน 4 วันแล้ว ที่ไปกินเหล้าตอนกลางวันที่อื่น วันแรกของอาทิตย์คือออกไปช่วงเที่ยงๆก่อนเราตื่น ตกค่ำมา เมานิด ๆ แต่ก่อนกลับบ้านคือเราร้องไห้จริง เรากลัวว่ากลับบ้านมาจะทะเลาะกับใครละเราก็อดคิดไม่ได้ จนอีกวันที่ 2 ของอาทิตย์ ก็กลับค่ำเหมือนเดิม เมากว่าของวันแรกไปนิดนึง วันที่ 3 ของอาทิตย์ เรายังท้ออยู่ว่าออกไปอีกแล้วหรอ อะไรอีก จะทำให้คิดมากทุกวันเลยหรอ ท้อจริงจัง กลับค่ำมา เริ่มละ เริ่มพูดคนเดียว หนักขึ้นคือบ่นจะตีกับป้าๆที่เขามาดูถูกแม่ ละพูดวนอย่างงั้นจนยายเรานอนไม่ได้ เราพยายามไปห้ามให้แม่กลับเข้าห้องมานอน พอกลับเข้าห้องมา ก็ด่าคนหลังบ้าน ที่เขาเป็นผู้ใหญ่บ้าน จนสักพักก็หลับไป ส่วนวันที่ 4 ของอาทิตย์คือเมื่อวาน แม่เราตอนแรกไม่ได้ออกไปไหน แถมตอนเช้าไม่เมา ทะเลาะกับเรา ด่าเราครั้งแรกว่า “อิสันดาน” เราอึ้งในคำพูดของแม่มาก เพียงเพราะว่าโมโหอะ ด่าเราแบบพูดกูเลย เราโกรธมากจริง ๆ พอตอนเที่ยงออกไปงานวัด กลับเข้าบ้านมาบ่ายสอง เราสงสัยมากว่ากลับเร็ว แต่เมากว่าวันผ่านๆมา นั่งกินเบียร์ข้างนอก เปิดเพลงดังๆ พอช่วง 6 โมงขี่จักรยานไปกินเหล้ากับป้าคนนึง (ป้าคนนั้นชอบชวนแม่เราไปกินเหล้ามาก พาไปกินบ่อย แถมสร้างภาระให้แม่เรา แต่แม่เราก็ยังคบหากับเขาอยู่ แม่เรากินเหล้าเมาทะเลาะเงี้ยจนเพื่อนคนอื่นแทบไม่คบละ คบกับป้าๆที่เอาแต่กินเหล้า) พอกลับเข้าบ้านมา เราบอกแม่ว่ายายไปนอนบ้านป้า แม่เราก็บอกว่ายายกลัวทะเลาะกับแม่ ก็ใช่ เพราะเราเป็นคนให้ยายไปนอนบ้านป้าเอง เพราะเลี่ยงการทะเลาะจากการคาดคะเนของเรา ละมันก็ถูกต้อง แม่เรากลับมาบ่นถึงป้าคนนั้น บ่นไปบ่นมา คนที่ทะเลาะด้วยหน้าบ้านเมื่อนานมาแล้ว เขายืนคุยกับใครไม่รู้หน้าบ้าน ละแม่เราเกิดอาการหลอนจากเหล้าเบียร์ ไปคิดว่าป้าหน้าบ้านคนนั้นมาด่าแม่เรา ละก็กลายเป็นว่าไปด่าเขา ละเราก็ห้ามสุดชีวิตเลย ทำทุกอย่างให้หยุด จากที่แม่เราบ่นเรื่องป้านั่น ก็เอาป้าหน้าบ้านมาพ่วงด่าด้วย ด่าตั้งแต่ 6 โมง ยัน 4 ทุ่ม แล้วด่าเสียงดัง เราแพนิคร้องไห้หนักมากจริง ๆ เหนื่อยมาก ๆ ห้ามยังไงก็ไม่มีท่าทีจะหยุดเลย พอเราออกไปห้ามก็ด่าเรา แต่เราเดินไปห้ามบ่อยมาก ลุกทุก 5 นาทีไปห้าม เรากลัวมากจริง ๆ ปรึกษาพี่ พี่บอกให้เรานอน เราใส่หูฟังนอน นอนยังไงก็นอนไม่ได้ แม่ไม่มีท่าทีจะหยุด เพราะเรากลัวจะพาลไปด่าคนหลังบ้านด้วยก็คือบ้านผู้ใหญ่บ้านอะแหละ แม่เราด่าเขาวนเรื่องเดิมๆ ทั้งคืน อันไหนที่ด่าแรงมาก ๆ เราก็ไปห้าม แม่เราเพี้ยนมากจริง ๆ เราเหนื่อย กลัวจะต้องไปพบแพทย์จริง ๆ พอแม่กลับเข้ามานอนเราก็เหนื่อยจนพลอยหลับไป พอเช้ามาวันนี้ เราโกรธมากจริง ๆ เราพยายามพูดถึงเรื่องเมื่อวานว่าเลิกทำอย่างงี้เถอะ ไม่ไหวแล้วจริง ๆ คือวันนี้ไม่ค่อยได้คุยกับแม่เท่าไหร่ ตกค่ำมาแปลกใจที่ไม่กินเหล้า เราก็คงนึกว่าก็แค่วันนี้แหละ ยังไงพรุ่งนี้ก็เมาต่อแน่ ๆ
ปัญหาคือ เราควรจะทำยังไงกับเรื่องพวกนี้ดี เราสุดความสามารถ ละสุดอดทนกับเรื่องพวกนี้ กลัวมันจะใหญ่โต ละเราก็กลายเป็นคนขี้ระแวงมาก ๆ คิดมาก กลัวหลายอย่าง เหม่อกว่าเดิม กลัวจะเป็นโรคทางจิต แต่เราก็มีสติอยู่ ยังไม่เผยอาการทางจิตใด ๆ ออกมา ไม่รู้จริง ๆ เราภาวนาให้ทุกอย่างดีขึ้น ทั้งพยายามพูดกับตัวเองว่าจะเลิกทำอย่างงั้น เพื่อให้ครอบครัวดีขึ้น พยายามแก้ไขหลายๆอย่าง ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเลย ไม่รู้จะทำยังไง เราอยากแก้ไขได้ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงจริง ๆ เรากลัวมาก ๆ กลัวความสัมพันธ์ในบ้านจะแย่ลง เรารักแม่มากจริง ๆ รักยายมาก ๆ ด้วย การเงินก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นในช่วงนี้ อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด แม่เราก็ไม่ได้ทำงานด้วยในช่วงนี้ ประหยัดเงินเพราะเทอมแรกเราฝึกงาน แต่เทอมหน้าอาจจะมีการเงินเข้ามาเกี่ยวด้วย เราก็อาจจะต้องหาพาร์ทไทม์ไปด้วย แต่ปัญหาคือแม่จริง ๆ เรากลัวว่าถ้าต้องไปอยู่ที่อื่น เพราะเราก็โตขึ้นทุกวัน ปีนี้ก็ 18 แล้ว ก้าวเข้ามหาลัยด้วย ยังไงก็อาจจะไปต่างจังหวัด แต่แม่เรายังไม่ดีขึ้นเลย เดิมทีเราเป็นคนห้ามแม่ในการทะเลาะวิวาทตลอด ละถ้าไม่มีเรา มันจะเกิดอะไรขึ้น เรากังวลคิดเรื่องนี้อยู่ตลอด หมดหนทางแก้ ครอบครัวเราน่าจะโดนสาปส่งอยู่หรอกเพราะแม่เราเมาละก็เป็นแบบนี้ ยายห้ามแม่ก็ด่า ด่าละก็ด่า ไม่ยอมฟัง เราเตือนก็เหมือนจะฟัง แต่ก็ไม่แก้อะไร เนี้ยวันนี้อาจจะดี พรุ่งนี้หรืออาทิตย์ต่อ ๆ ไป ก็อาจจะกลับมาทำเหมือนเดิม ท้อจริง ๆ เหนื่อยท้อทุกตอนเย็นมาก วันไหนที่เมาตอนเช้าตอนเที่ยง จะเหนื่อยกว่าเป็นพิเศษ
ปกติแม่เราตอนเมากับไม่เมา คนละคนเลย ไม่เมาคือดีมากจริง ๆ แต่พอเมาแล้วมันแบบ มันเหมือนไม่ใช่แม่ คือท้าบวกพร้อมตีคนอื่นอยู่ตลอด เป็นประสาทแต่ไม่ยอมแก้ เพราะถ้าแก้อาจจะต้องเลี่ยงแอลกอฮอล์ แต่สิ่งนี้เหมือนขาดไม่ได้เลย อย่างกับเป็นส่วนนึงของชีวิตไปแล้ว ปรึกษาเพื่อนๆไม่ได้จริง ๆ ไม่ค่อยมีใครรับรู้ชีวิตเราเท่าไหร่ ภายนอกที่โรงเรียน เราจะเป็นพวกรั่ว ๆ ในสายตาคนอื่นก็น่าจะมองว่าเป็นเอ้กโทรเวิร์ด พูดจาไรใส่ก็ได้ เราก็มีปัญหากับส่วนนี้บ่อย แต่พอเราอยู่ที่บ้าน คือเราติดบ้านมากๆ คนแถวบ้านน่าจะมองเราเป็นพวกเก็บกด ไม่เข้าสังคม แต่มันผิดกับที่เราอยู่ข้างนอกเลย มุมมองมันต่างกัน เราเลยไม่ได่ให้พวกเพื่อนๆมารับรู้ชีวิตมุมมืดของตัวเองเท่าไหร่ เลยไม่ได้บอกให้ใครรับรู้ ชีวิตเรามันแบบมีแต่เรื่องเกือบทุกวัน เรื่องยิบๆย่อยๆของแม่เราอีกเยอะแยะ นับไม่ถ้วน ความสุขไม่ค่อยมี วันไหนที่แม่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แบบนอนไว ไม่ทะเลาะกับใคร วันนั้นจะเป็นวันที่นับได้ว่าแปลก เราสิ้นหวังจริง ๆ คิดเรื่องจบชีวิตก็ไม่กล้า เรามีอะไรที่อยากทำอีกเยอะอยู่ เรามีอาการแค่มือสั่น บ้างก็อยากร้องไห้แต่ร้องไห้ไม่ออก อึดอัดใจ ใจเต้นเเรง ตัวสั่นบ้าง อาจจะไม่เชิงแพนิคไหมเราก็ไม่รู้ แต่เรารู้สึกแย่มากจริงๆ หัวมันโล่งไปหมด พูดอะไรไม่ออก ศัตรูแม่เราเยอะจริงๆ ไม่ถูกกับฝั่งย่า ไม่ถูกกับพี่ตัวเอง ตอนนี้น่าจะทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน ข้างบ้านเมื่อก่อนมีทะเลาะกัน แต่สักพักก็ดีกัน ทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ดีกันอยู่
เราไม่อยากให้ชีวิตมันแย่กว่านี้แล้ว เราควรทำยังไงดีหรอคะ จากมุมมองของคนที่เข้ามาอ่าน ถ้ามีคนตอบก็ขอบคุณมากจริง ๆค่ะ เราไม่รู้จะปรึกษาคนอื่นยังไงเลยเริ่มจากตรงนี้ก่อน t-t
อยากแก้ไขคสพ.ในครอบครัวให้ดีขึ้นควรทำยังไงหรอคะ
พอหลังจากที่พ่อเราเสียตอนป. 5 ฐานะมันก็ไม่ค่อยดีเท่าตอนที่พ่ออยู่ เพราะตอนที่พ่อเราอยู่ พ่อเราทำงานราชการ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเดือดร้อนอะไร ไม่รวยละก็ไม่จน พอมีพอกิน อยู่แบบไม่มีปัญหาอะไร พอพ่อเราเสีย แม่ก็ทำใจช่วงแรกๆไม่ได้ กินเหล้าหนักขึ้นทุกวัน เริ่มมีอาการ คุยคนเดียว เดิมทีแม่เราเป็นประสาทอยู่ด้วย กินเหล้าหนักคุยคนเดียว แล้วก็ร้องไห้ เพ้อถึงพ่อเราเป็นอาทิตย์ๆ ละผ่านมาสักพักก็หาคนมาดามใจ คือคนที่ก่อสร้างข้างบ้านเรา(พ่อเลี้ยงเราตอนนั้น) แม่เราอยากให้ครอบครัวกลับมาดีขึ้น เลยหาพ่อเลี้ยงให้เรา ปรากฏว่าแย่กว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า แม่เราทั้งขี่รถไปหาเขา ไม่บอกคนในบ้านเลย ก่อนที่จะเปิดตัวเขา เสียเงินเสียทองให้เขาจนแทบไม่ค่อยเหลือเลย แล้วก็ทะเลาะกันบ่อยมาก แม่เรามีปากเสียกับเขาบ่อยมาก กินเหล้ามาก็ทะเลาะกัน เขาก็กิน แม่เราก็กิน เขาอายุน้อยกว่าแม่เราไป 10 กว่าปีอะ แม่เราตอนนั้น 40 ปลายๆ ทะเลาะกันทุกวัน พอแม่เอาเข้ามาอยู่บ้านด้วย ก็ทะเลาะกันหนัก ทุกวันจริงๆ จนเราหน่าย เราก็เตือน ยายเราก็ไม่ชอบเขา แม่เราก็ทะเลาะกับยายด้วย ยายเราเป็นคนอารมณ์แรงขึ้นเลย พอคบกับคนคนนั้น แม่เราก็เอาแต่เมาแล้วพาลไปทะเลาะกับข้างบ้าน เดิมทีหน้าบ้าน เป็นที่พึ่งทางใจของยายเรามาก ๆ แม่เราเมาแล้วขุดเรื่องเก่าๆ ที่ไม่พอใจมันพูดเสียงดังมาก ๆ ให้เขาได้ยิน พอนานนับเข้าก็กลายเป็นมาทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน จะตีกัน ยายเราก็กลายเป็นไม่ชอบขี้หน้าเขาไปด้วยเลย เขาก็ตัดเขากับคนในบ้านเราจนถึงตอนนี้เลย ทะเลาะกันหนักมากจนข่มขู่จะฆ่/ากันก็มี แต่ก็ช่วงที่เราขึ้น ม.1- ม.3 ตอนนั้นหนักมากจริง ๆ ทั้งแม่เราที่เมาแล้วเอาแต่ด่าคนข้างบ้าน ละเมามาให้เราไปเหยียบบีบให้ทุกคืน หลับเเล้วก็ยังเรียกเราไปบีบ ตอนนั้นเราภาวนาให้มันดีขึ้น ร้องไห้บ่อยมาก ยายเราทนอยู่ไม้ได้ จนต้องย้ายไปอยู่กับลูกอีกคนที่เชียงราย 3-4 เดือน กลับมาก็ไม่ค่อยเป็นประสาทแล้ว พอเราขึ้นปี 2 (ปวช.) เขา(พ่อเลี้ยง) ก็เสียชีวิตตอนเทอม 1 ตอนนั้นเราทั้ง งง ทั้งอึ้ง ว่าหมดภาระกับเขาแล้วเนาะ เพราะเขาก็ไม่ชอบเราด้วย ก็นึกว่าแม่จะดีขึ้น
ผ่านไปคือช่วงปีก่อน สองปีก่อน ตอนนี้เราขึ้น ปวช.3 เทอม 2 แล้ว ตอนนั้น แม่เราก็เอาแต่โทรหาผู้ชายคนไหนไม่รู้อีกตั้ง 2-3 คน แต่ไม่ได้เอาเข้าบ้านมาสักคน เหมือนแค่เวลาเมาแล้วก็ชอบโทรไปหาเขา โทรไป 10 กว่ารอบได้ ละตอนนั้นเป็นช่วงที่ยายไปเชียงรายยังไม่กลับ เป็นช่วงปิดเทอมด้วยแหละ เดือนเมษา แม่เราเมาเหมือนเดิม กินเหล้าทุกวันเหมือนเดิม นั่งด่าคนเหมือนเดิม แต่เบากว่าช่วง ม.1-ม.3 เพราะแค่ทะเลาะกับคนข้างบ้าน ใช้วาจาที่รุนแรง เราเริ่มรู้สึกแพนิคขึ้นมาคือช่วงนั้นเลยที่ตัดพ้อกับชีวิตมาก แบบชีวิตนี่ไม่มีอะไรดีเลย ดวงก็ไม่ดี อกหักซ้ำซ้อน ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง เรานอนเหม่อคิดอะไรต่างๆนา ๆ แต่ไม่ได้นึกถึงการจบชีวิตตัวเองเลย แค่ไม่รู้จะทำไงกับชีวิตดี เพราะแม่เราทะเลาะกับคนอื่นเกือบทุกวันเลยละเราท้อมาก เพราะบอกแม่แล้วแม่ก็ไม่ฟังเลย ด่าเราด้วย
ตอนนี้แหละ ตอนปวช.3 เราเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไม่มีทางออกไม่มีทางแก้เลย เพราะช่วงนี้ก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็มีทะเลาะกับข้างบ้านอยู่ ทะเลาะกับคนในบ้านบ้าง กลับมาปาข้าวของ โทรกับผู้ชายน้อยลง มีโทรศัพท์ก็เลยใช้ทรศ. เริ่มใช้หูฟังครอบที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้าง กลายเป็นว่า พอฟังเพลงไป (แม่เราฟังแต่เพลงแดนซ์) อารมณ์คึกแล้วก็อารมณ์เสียไปด่าคน รอบนี้เล่นคนหลังบ้าน หลังบ้านคือเค้าเป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ด้วยละเขาก็รวย แม่เราไม่พอใจอะไรไม่รู้ในใจ ไมีรู้ว่าคิดไรอยู่ เมาแล้วเพี้ยนไปด่าเขา ตะโกนเสียงดังโวยวายเกือบทุกตอนเย็น ค่ำนิด ๆ เราแพนิคมาก กลัวเขาจะมาตีแม่เรา กลัวหลายอย่าง อาทิตย์ก่อน ๆ ยายเราเข้าไปห้ามแม่เรา แม่เราไม่ฟัง หงุดหงิดเพราะทรศ.พังด้วยจมน้ำนี่แหละน้ำท่วม แล้วยายเราหลังจากที่ปล่อยวางแม่เรา กลับกลายมาจะตีกับแม่เรา ภาพในอดีตมันผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะตอนนั้นแม่กับยายเราตีกันบ่อยมาก เราไม่รู้จะห้ามยังไง ละเรากลัวมาก ตอนที่ผ่านมาสักพักคือหนักมากจริง ๆ เรากลัวมาก ๆ มีคนข้างบ้านมาช่วยห้ามทัน ก็โอเคขึ้นมาหน่อย ตื่นเช้าเรารวบรวมความกล้าไปบอกแม่ว่าเลิกทำอย่างงั้นอย่างงี้ พูดไปร้อยแปดคำ ทั้งเอาคลิปเสียงตอนแม่เมาไปให้แม่ฟัง แม่เราก็บอกว่าไม่รู้สึกตัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ แถมบอกว่ารู้แล้ว จะไม่ทำอย่างงี้แล้ว เราก็โล่งใจ พอตกเย็นมา ไปกินเหล้าเมามาอีก เราเริ่มท้อมาก แต่เมาปุ้บก็เข้ามานอนเลย พูดไรนิด ๆ แต่ไม่ทะเลาะกับใคร
แต่อาทิตย์นี้แหละ กลับมาหนัก เพราะออกบ้านทุกวัน 4 วันแล้ว ที่ไปกินเหล้าตอนกลางวันที่อื่น วันแรกของอาทิตย์คือออกไปช่วงเที่ยงๆก่อนเราตื่น ตกค่ำมา เมานิด ๆ แต่ก่อนกลับบ้านคือเราร้องไห้จริง เรากลัวว่ากลับบ้านมาจะทะเลาะกับใครละเราก็อดคิดไม่ได้ จนอีกวันที่ 2 ของอาทิตย์ ก็กลับค่ำเหมือนเดิม เมากว่าของวันแรกไปนิดนึง วันที่ 3 ของอาทิตย์ เรายังท้ออยู่ว่าออกไปอีกแล้วหรอ อะไรอีก จะทำให้คิดมากทุกวันเลยหรอ ท้อจริงจัง กลับค่ำมา เริ่มละ เริ่มพูดคนเดียว หนักขึ้นคือบ่นจะตีกับป้าๆที่เขามาดูถูกแม่ ละพูดวนอย่างงั้นจนยายเรานอนไม่ได้ เราพยายามไปห้ามให้แม่กลับเข้าห้องมานอน พอกลับเข้าห้องมา ก็ด่าคนหลังบ้าน ที่เขาเป็นผู้ใหญ่บ้าน จนสักพักก็หลับไป ส่วนวันที่ 4 ของอาทิตย์คือเมื่อวาน แม่เราตอนแรกไม่ได้ออกไปไหน แถมตอนเช้าไม่เมา ทะเลาะกับเรา ด่าเราครั้งแรกว่า “อิสันดาน” เราอึ้งในคำพูดของแม่มาก เพียงเพราะว่าโมโหอะ ด่าเราแบบพูดกูเลย เราโกรธมากจริง ๆ พอตอนเที่ยงออกไปงานวัด กลับเข้าบ้านมาบ่ายสอง เราสงสัยมากว่ากลับเร็ว แต่เมากว่าวันผ่านๆมา นั่งกินเบียร์ข้างนอก เปิดเพลงดังๆ พอช่วง 6 โมงขี่จักรยานไปกินเหล้ากับป้าคนนึง (ป้าคนนั้นชอบชวนแม่เราไปกินเหล้ามาก พาไปกินบ่อย แถมสร้างภาระให้แม่เรา แต่แม่เราก็ยังคบหากับเขาอยู่ แม่เรากินเหล้าเมาทะเลาะเงี้ยจนเพื่อนคนอื่นแทบไม่คบละ คบกับป้าๆที่เอาแต่กินเหล้า) พอกลับเข้าบ้านมา เราบอกแม่ว่ายายไปนอนบ้านป้า แม่เราก็บอกว่ายายกลัวทะเลาะกับแม่ ก็ใช่ เพราะเราเป็นคนให้ยายไปนอนบ้านป้าเอง เพราะเลี่ยงการทะเลาะจากการคาดคะเนของเรา ละมันก็ถูกต้อง แม่เรากลับมาบ่นถึงป้าคนนั้น บ่นไปบ่นมา คนที่ทะเลาะด้วยหน้าบ้านเมื่อนานมาแล้ว เขายืนคุยกับใครไม่รู้หน้าบ้าน ละแม่เราเกิดอาการหลอนจากเหล้าเบียร์ ไปคิดว่าป้าหน้าบ้านคนนั้นมาด่าแม่เรา ละก็กลายเป็นว่าไปด่าเขา ละเราก็ห้ามสุดชีวิตเลย ทำทุกอย่างให้หยุด จากที่แม่เราบ่นเรื่องป้านั่น ก็เอาป้าหน้าบ้านมาพ่วงด่าด้วย ด่าตั้งแต่ 6 โมง ยัน 4 ทุ่ม แล้วด่าเสียงดัง เราแพนิคร้องไห้หนักมากจริง ๆ เหนื่อยมาก ๆ ห้ามยังไงก็ไม่มีท่าทีจะหยุดเลย พอเราออกไปห้ามก็ด่าเรา แต่เราเดินไปห้ามบ่อยมาก ลุกทุก 5 นาทีไปห้าม เรากลัวมากจริง ๆ ปรึกษาพี่ พี่บอกให้เรานอน เราใส่หูฟังนอน นอนยังไงก็นอนไม่ได้ แม่ไม่มีท่าทีจะหยุด เพราะเรากลัวจะพาลไปด่าคนหลังบ้านด้วยก็คือบ้านผู้ใหญ่บ้านอะแหละ แม่เราด่าเขาวนเรื่องเดิมๆ ทั้งคืน อันไหนที่ด่าแรงมาก ๆ เราก็ไปห้าม แม่เราเพี้ยนมากจริง ๆ เราเหนื่อย กลัวจะต้องไปพบแพทย์จริง ๆ พอแม่กลับเข้ามานอนเราก็เหนื่อยจนพลอยหลับไป พอเช้ามาวันนี้ เราโกรธมากจริง ๆ เราพยายามพูดถึงเรื่องเมื่อวานว่าเลิกทำอย่างงี้เถอะ ไม่ไหวแล้วจริง ๆ คือวันนี้ไม่ค่อยได้คุยกับแม่เท่าไหร่ ตกค่ำมาแปลกใจที่ไม่กินเหล้า เราก็คงนึกว่าก็แค่วันนี้แหละ ยังไงพรุ่งนี้ก็เมาต่อแน่ ๆ
ปัญหาคือ เราควรจะทำยังไงกับเรื่องพวกนี้ดี เราสุดความสามารถ ละสุดอดทนกับเรื่องพวกนี้ กลัวมันจะใหญ่โต ละเราก็กลายเป็นคนขี้ระแวงมาก ๆ คิดมาก กลัวหลายอย่าง เหม่อกว่าเดิม กลัวจะเป็นโรคทางจิต แต่เราก็มีสติอยู่ ยังไม่เผยอาการทางจิตใด ๆ ออกมา ไม่รู้จริง ๆ เราภาวนาให้ทุกอย่างดีขึ้น ทั้งพยายามพูดกับตัวเองว่าจะเลิกทำอย่างงั้น เพื่อให้ครอบครัวดีขึ้น พยายามแก้ไขหลายๆอย่าง ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเลย ไม่รู้จะทำยังไง เราอยากแก้ไขได้ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงจริง ๆ เรากลัวมาก ๆ กลัวความสัมพันธ์ในบ้านจะแย่ลง เรารักแม่มากจริง ๆ รักยายมาก ๆ ด้วย การเงินก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นในช่วงนี้ อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด แม่เราก็ไม่ได้ทำงานด้วยในช่วงนี้ ประหยัดเงินเพราะเทอมแรกเราฝึกงาน แต่เทอมหน้าอาจจะมีการเงินเข้ามาเกี่ยวด้วย เราก็อาจจะต้องหาพาร์ทไทม์ไปด้วย แต่ปัญหาคือแม่จริง ๆ เรากลัวว่าถ้าต้องไปอยู่ที่อื่น เพราะเราก็โตขึ้นทุกวัน ปีนี้ก็ 18 แล้ว ก้าวเข้ามหาลัยด้วย ยังไงก็อาจจะไปต่างจังหวัด แต่แม่เรายังไม่ดีขึ้นเลย เดิมทีเราเป็นคนห้ามแม่ในการทะเลาะวิวาทตลอด ละถ้าไม่มีเรา มันจะเกิดอะไรขึ้น เรากังวลคิดเรื่องนี้อยู่ตลอด หมดหนทางแก้ ครอบครัวเราน่าจะโดนสาปส่งอยู่หรอกเพราะแม่เราเมาละก็เป็นแบบนี้ ยายห้ามแม่ก็ด่า ด่าละก็ด่า ไม่ยอมฟัง เราเตือนก็เหมือนจะฟัง แต่ก็ไม่แก้อะไร เนี้ยวันนี้อาจจะดี พรุ่งนี้หรืออาทิตย์ต่อ ๆ ไป ก็อาจจะกลับมาทำเหมือนเดิม ท้อจริง ๆ เหนื่อยท้อทุกตอนเย็นมาก วันไหนที่เมาตอนเช้าตอนเที่ยง จะเหนื่อยกว่าเป็นพิเศษ
ปกติแม่เราตอนเมากับไม่เมา คนละคนเลย ไม่เมาคือดีมากจริง ๆ แต่พอเมาแล้วมันแบบ มันเหมือนไม่ใช่แม่ คือท้าบวกพร้อมตีคนอื่นอยู่ตลอด เป็นประสาทแต่ไม่ยอมแก้ เพราะถ้าแก้อาจจะต้องเลี่ยงแอลกอฮอล์ แต่สิ่งนี้เหมือนขาดไม่ได้เลย อย่างกับเป็นส่วนนึงของชีวิตไปแล้ว ปรึกษาเพื่อนๆไม่ได้จริง ๆ ไม่ค่อยมีใครรับรู้ชีวิตเราเท่าไหร่ ภายนอกที่โรงเรียน เราจะเป็นพวกรั่ว ๆ ในสายตาคนอื่นก็น่าจะมองว่าเป็นเอ้กโทรเวิร์ด พูดจาไรใส่ก็ได้ เราก็มีปัญหากับส่วนนี้บ่อย แต่พอเราอยู่ที่บ้าน คือเราติดบ้านมากๆ คนแถวบ้านน่าจะมองเราเป็นพวกเก็บกด ไม่เข้าสังคม แต่มันผิดกับที่เราอยู่ข้างนอกเลย มุมมองมันต่างกัน เราเลยไม่ได่ให้พวกเพื่อนๆมารับรู้ชีวิตมุมมืดของตัวเองเท่าไหร่ เลยไม่ได้บอกให้ใครรับรู้ ชีวิตเรามันแบบมีแต่เรื่องเกือบทุกวัน เรื่องยิบๆย่อยๆของแม่เราอีกเยอะแยะ นับไม่ถ้วน ความสุขไม่ค่อยมี วันไหนที่แม่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แบบนอนไว ไม่ทะเลาะกับใคร วันนั้นจะเป็นวันที่นับได้ว่าแปลก เราสิ้นหวังจริง ๆ คิดเรื่องจบชีวิตก็ไม่กล้า เรามีอะไรที่อยากทำอีกเยอะอยู่ เรามีอาการแค่มือสั่น บ้างก็อยากร้องไห้แต่ร้องไห้ไม่ออก อึดอัดใจ ใจเต้นเเรง ตัวสั่นบ้าง อาจจะไม่เชิงแพนิคไหมเราก็ไม่รู้ แต่เรารู้สึกแย่มากจริงๆ หัวมันโล่งไปหมด พูดอะไรไม่ออก ศัตรูแม่เราเยอะจริงๆ ไม่ถูกกับฝั่งย่า ไม่ถูกกับพี่ตัวเอง ตอนนี้น่าจะทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน ข้างบ้านเมื่อก่อนมีทะเลาะกัน แต่สักพักก็ดีกัน ทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ดีกันอยู่
เราไม่อยากให้ชีวิตมันแย่กว่านี้แล้ว เราควรทำยังไงดีหรอคะ จากมุมมองของคนที่เข้ามาอ่าน ถ้ามีคนตอบก็ขอบคุณมากจริง ๆค่ะ เราไม่รู้จะปรึกษาคนอื่นยังไงเลยเริ่มจากตรงนี้ก่อน t-t