สารานุกรมปืนตอนที่ 2169 ประวัติความเป็นมาของปืนกล PKM ปืนกลที่พบเห็นได้ทั่วโลก (ตอนที่ 4)

แปลจากบทความของ Vladimir Onokoy ในเว็บไซต์ The firearm blog 



ในตอนที่ 1  ของบทความนี้ผมได้เขียนเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของเรื่องราวปืนกล Kalashnikov ตอนที่ 2 อุทิศให้กับขั้นตอนราชการที่เขาต้องฝ่าฟันในตอนแรก ตอนที่ 3 บรรยายถึงการทดสอบทางเทคนิคและการแข่งขันระหว่าง Kalashnikov กับคู่แข่งของเขา Nikitin และ Sokolov ในบทนี้ผมจะพูดถึงเรื่องราวของการทดสอบโดนทหารที่กำหนดชะตากรรมของปืนกล Kalashnikov GPMG
 
การทดสอบกำลังพลเริ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 1960 มีการเลือกหน่วยทหารสี่หน่วยเพื่อทดสอบปืนกลรุ่นใหม่หน่วยแรกคือโรงเรียนนายร้อยใกล้มอสโกว์ที่เรียกว่า “Vistrel” (แปลว่า “ยิง”)
 
หน่วยที่สองตั้งอยู่ในดินแดนปัจจุบันของรัฐบอลติก (ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย) หน่วยที่สามตั้งอยู่ในทะเลทรายของเอเชียกลาง (ปัจจุบันคืออุซเบกิสถาน) หน่วยสุดท้ายตั้งอยู่ในโอเดสซา ซึ่งปัจจุบันคือยูเครน



จากคู่มือสนามของ PK: ทหารใช้ไม้ค้ำสกีหนุนขาทรายเพื่อยิงปืนในพื้นที่ที่มีหิมะตกหนา

นี่เป็นครั้งแรกในระหว่างการทดสอบที่ตัวต้นแบบปืนกลทั้งสองได้รับการทดสอบพร้อมกันและนักออกแบบทั้งสองได้เห็นผลลัพธ์ของกันและกันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่การเผชิญหน้าระหว่างทีมออกแบบทั้งสองทีมจะไปสู่อีกระดับหนึ่ง
 
วันหนึ่ง Kalashnikov ไปที่สนามยิงปืนเพื่อสังเกตการทดสอบปืนกลของคู่แข่งเขาเฝ้าดูการยิงอย่างเงียบๆ และเมื่อการยิงสิ้นสุดลงเขาจึงเข้าไปหานายทหารที่รับผิดชอบการทดสอบ:
 
Kalashnikov- "ยิงรัวทีนึงเนี่ยกี่นัด?"

นายทหาร- "ตามมาตรฐานก็ 7-12 นัด"

Kalashnikov- "ผมรู้แต่ผมขอเดิมพันว่าวันนี้ไม่มีการยิงรัวครั้งไหนที่มากกว่า 10 นัดแน่"
 
นายทหารที่รับผิดชอบเข้าไปหาทหารที่กำลังยิงปืนกลและขอให้ทหารยิงอีกสองสามครั้งโดยไม่ได้บอกอะไรทหารก็ทำตามและการยิงก็ไม่เกิน 10 นัด
 
"ผมบอกคุณแล้วนะ" Kalashnikov กล่าว

"บอกให้พวกเขายิงรัวเป็นชุด ชุดละ 12 นัด"
 
เมื่อทหารเริ่มรัวกระสุนเป็นชุดที่ยาวขึ้นทำให้ปืนกลของ Nikitin ขัดลำจากนั้นปรากฏว่ามีคนในทีมของ Nikitin และ Sokolov ไปบอกพวกทหารที่ทดสอบปืนกลอย่างลับๆว่าพวกเขาต้องยิงปืนรัวเป็นชุดทีละต่ำกว่า 10 นัดเท่านั้นเหตุการณ์นี้ทำให้ชื่อเสียงของปืนกลของ Nikitin เสียหายอย่างหนัก...ไม่มีใครชอบคนโกงหรอก

"ถามจริงถ้าคุณเป็นทหารคุณอยากฝากชีวิตไว้กับปืนกลที่ยิงรัวเป็นชุดมากกว่าทีละ 10 นัดไม่ได้เหรอ ?" < ผู้แปล


สายกระสุนของปืนกล PK เป็นแบบติดตายตัวต่างจากปืนของ NATO เช่น FN MAG หรือ M60 ที่เป็นแบบหลุดออกจากกันในขั้นตอนการคัดปลอกกระสุน

ปืนกลของ Kalashnikov ก็ไม่สมบูรณ์แบบเช่นกันแต่เขาสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้เร็วกว่าคู่แข่งในสถานที่ทดสอบที่ตั้งอยู่ไหมเอเชียกลางเนื่องจากอากาศร้อนจัดปืนกล PK กระบอกหนึ่งจึงมีตำหนิทหารที่ทดสอบไม่สามารถถอดลำกล้องออกจากตัวปืนได้
 
Kalashnikov รีบไปที่โรงงานแห่งหนึ่งและตัดสินใจทันทีเขาจะชุบโครเมียมบนพื้นผิวทั้งหมดที่สัมผัสกับกลไกการเปลี่ยนลำกล้องแต่คุณจะชุบโครเมียมให้บางสิ่งบางอย่างได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงได้อย่างไร ? เขาก็สั่งคนงานที่มีหน้าแกะสลักตกแต่งปืนล่าสัตว์มาทำให้ไง (โดยส่วนใหญ่แล้วการชุบโครเมียมปืนในสมัยโซเวียตมักจะทำกับชิ้นส่วนภายนอกของปืนลูกซองที่สั่งซื้อโดยบุคคลสำคัญในพรรคคอมมิวนิสต์)


พื้นผิวชุบโครเมียมบนลำกล้อง PKM

แต่ในวันนั้นแทนที่จะทำให้ปืนลูกซองดูสวยงามสำหรับเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์อย่างที่ทำประจำคนงานกลับต้องชุบโครเมียมลำกล้องปืนกลแทนไม่กี่วันต่อมาลำกล้องใหม่ก็มาถึงเอเชียกลางและปัญหาก็ได้รับการแก้ไข
 
Kalashnikov รู้วิธีสร้างมิตรภาพทุกคนที่เข้าร่วมการทดสอบต่างสังเกตเห็นว่าเขาใช้เวลาอยู่กับทหารมากเพียงใดรับฟังปัญหาของพวกเขาและไม่เคยทำตัวเหมือนเป็นคนดังแต่อย่างใด
 
การรับฟังเป็นส่วนสำคัญของการเป็นวิศวกรออกแบบปืนวันหนึ่งจอมพลชื่อดัง (เทียบเท่านายพลระดับห้าดาว) Rostmistrov มาเยี่ยมชมสนามทดสอบและทดสอบปืนกลทั้งสองกระบอกปืนทั้งสองกระบอกทำงานได้ดีแต่เจ้าหน้าที่บอกกับเขาว่าปืนกลของ Nikitin มีปัญหาเรื่องการติดขัดของสายกระสุน



จอมพล Pavel Rostmistrov ถ่ายภาพโดย Boris Kaufman

จากคำกล่าวนี้จอมพล Rostmistrov จึงสนับสนุน Kalashnikov และได้พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเขาในระหว่างการพูดคุยนี้ Rostmistrov ได้แบ่งปันข้อมูลภายในบางส่วน
 
"คุณไม่ควรพอใจกับความจริงที่ว่า GPMG ของคุณใช้งานได้แค่กับยานพาหนะปัจจุบันของกองทัพเรามันควรใช้งานได้กับรถถังในอนาคตของเราด้วยเช่นกันพื้นที่ภายในจะน้อยลงเนื่องมาจากอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมดรถถังรุ่นใหม่จะถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์และกันอากาศเข้าออกได้เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ที่ปนเปื้อนรังสีและอาวุธเคมีดังนั้นคุณต้องคิดถึงการระบายก๊าซออกจากป้อมปืนด้วยนะ" - Rostmistrov
 
ดังนั้นแม้ว่าจะยังไม่มีข้อกำหนดอย่างเป็นทางการออกมาแต่ Kalashnikov ก็รู้แล้วว่าเขาต้องเตรียมตัวอย่างไรในอนาคต
 
สิ่งที่พิเศษของการทดสอบกองกำลังคือขั้นตอนการทดสอบค่อนข้างยืดหยุ่นเจ้าหน้าที่ในแต่ละเขตสามารถคิดค้นการทดสอบของตนเองได้และบางครั้งการทดสอบเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เสียทีเดียว
 
ตัวอย่างเช่นนายทหารจะวางปืนกลทั้งสองกระบอก (ตัวต้นแบบของ Kalashnikov กับ Nikitin) ไว้ในห้องและส่งทหารของตนไปแบบสุ่มทหารจะต้องเลือกกระบอกที่ดีที่สุดโดยอาศัยสัญชาตญาณและความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้นและก็มีการทดสอบความสมเหตุสมผลมากกว่าเจ้าหน้าที่ได้กำหนดเวลาขั้นตอนการถอดประกอบภาคสนามด้วยการฝึกอบรมเพียงเล็กน้อยให้ทหารที่เข้าร่วมการทดสอบและผลก็ปรากฏว่าทหารก็สามารถถอดประกอบปืนกลตัวต้นแบบของ Kalashnikov ได้เร็วกว่าปืนกลของ Nikitin



ผู้เขียนถอดประกอบ Kalashnikov GPMG

การทดสอบโดยทหารสิ้นสุดลงแล้วหน่วยต่างๆ สี่หน่วยลงคะแนนเสียง หน่วยหนึ่งที่ตั้งอยู่ในบอลติกลงคะแนนเสียงให้กับปืนกล Kalashnikov หน่วยที่ตั้งอยู่ในยูเครนไม่สามารถระบุผู้ชนะที่ชัดเจนได้ หน่วยหนึ่งจากอุซเบกิสถานลงคะแนนเสียงให้กับปืนกล Kalashnikov แต่มีเงื่อนไขว่าทีมวิศวกรของ Kalashnikov จะต้องแก้ไขปัญหาที่ระบุไว้ภายใน 30 วัน มีเพียงโรงเรียนนายร้อยใกล้มอสโกเท่านั้นที่คัดค้านปืนกล Kalashnikov GPMG อย่างจริงจัง
 
ในส่วนต่อไปของบทความนี้ผมจะพูดถึงการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายระหว่างกับระบบราชการของโซเวียตที่เกือบจะสามารถหยุดการผลิต-เช้าประจำการของ PK ได้แม้ว่าการทดสอบทั้งหมดจะเสร็จสิ้นไปแล้วก็ตาม

https://www.thefirearmblog.com/blog/the-history-of-pkm-the-most-common-machine-gun-in-the-world-part-4-44816332



Vladimir Onokoy ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนเล็กและผู้ฝึกสอนอาวุธปืนตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาทำงานใน 20 ประเทศในตำแหน่งผู้รับเหมารักษาความปลอดภัย ช่างแสง ตัวแทนขายอาวุธปืน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ และ ที่ปรึกษา
► Email: machaksilver at gmail dot com.
► Facebook: https://www.facebook.com/Vladimir-Onokoy-articles-and-videos-about-guns-and-other-unpopular-stuff-107273143980300/
► Instagram: https://www.instagram.com/vladonokoy/
► YouTube: https://www.youtube.com/user/machaksilver

 
 

สวัสดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่