JJNY : เท้งแนะอิ๊งค์ เอาจำเลยคดีตากใบขึ้นศาล│อ้วนชิ่ง 2 กระทู้วิโรจน์│รถด่วนราคาพุ่ง│อียูอนุมัติแผนเงินกู้ให้ยูเครน

เท้ง แนะ อิ๊งค์ คุยนอกรอบ นายกฯญี่ปุ่น แสดงท่าทีให้ชัด เอาจำเลยคดีตากใบ กลับมาขึ้นศาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4838171
 
‘ณัฐพงษ์’ แนะ ‘แพทองธาร’ คุยนอกรอบนายกฯ ญี่ปุ่น ส่งตัวจำเลยคดีตากใบกลับมาดำเนินการ ก่อนหมดอายุความ ชี้ ต้องแสดงเจตจำนงทางการเมืองเยียวยาพี่น้องชายแดนใต้
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีที่ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ตัวแทนประเทศไทย ได้รับเลือกในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้แสดงเจตจำนงทางการเมืองของผู้นำประเทศว่า เราให้ความสำคัญ กับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคดีตากใบ ที่เป็นประเทศที่ทั่วโลกให้ความสนใจในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนั้น การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรืออัยการ มาให้ความเห็นในการติดตามความคืบหน้าการติดตามตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดี ให้ทันวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนที่คดีความจะหมดอายุ ซึ่งพบว่า มีจำเลย 2 คนหลบหนีอยู่ต่างประเทศ คือจำเลยที่ 1 หลบหนีไปประเทศอังกฤษ และจำเลยที่ 8 หลบหนีไปประเทศญี่ปุ่น และทุกหน่วยงานชี้แจงว่าดำเนินการอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานและตำรวจบอกว่าได้ออกหมายแดงอินเตอร์โพลแล้ว
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งช่องทางคือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แม้ว่าประเทศไทยจะไม่มีสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศญี่ปุ่น แต่เราสามารถใช้ช่องทางทางการทูต รัฐบาลต่อรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต่อนายกรัฐมนตรี ในการเจรจาขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาประเทศไทยได้ และเราทราบดีว่า ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน แต่อีกช่องทางหนึ่งที่ดำเนินการได้และมีประสิทธิภาพมากกว่าคือการขอเนรเทศส่งตัวในฐานะบุคคลผู้ไม่พึงประสงค์ของประเทศปลายทางให้ส่งตัวกลับประเทศไทย ในฐานะที่เป็นจำเลยผู้ต้องหายคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น วันนี้สิ่งที่ตนอยากส่งข้อเสนอแนะและข้อเรียกร้องไปยังน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คือ การใช้เวทีการประชุมอาเซียนบวกสามที่ น.ส.แพทองธาร กำลังประชุมอยู่ ได้หารือนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น ในการเจรจาขอดำเนินการทั้ง 3 ช่องทางอย่างเต็มที่ที่สุด โดยเฉพาะช่องทางการเนรเทศตัวบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ให้กลับมาทันก่อนคดีจะหมดอายุความ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียก็ได้แสดงวิสัยทัศน์ในฐานะว่าที่ประธานอาเซียนคนถัดไป มีวิสัยทัศน์ที่จะส่งเสริมกระบวนการการสันติภาพชายแดนใต้ด้วย ฉะนั้น จึงหวังว่า นายกรัฐมนตรีของประทเทศไทย จะใช้เวทีเจรจาในครั้งนี้ ส่งเสริมกระบวนการสันติภาพในชายแดนใต้ โดยติดตามทั้งเรื่องของจำเลยกลับมาดำเนินคดี พร้อมกับกระบวนการต่างๆที่จะส่งเสริมกระบวนการสันติภาพในชายแดนใต้
 
“ย้ำอีกครั้งว่า ด้วยระยะเวลาที่จำกัดก่อน 15 วันที่คดีจะหมดอายุความ วันนี้เราต้องการเพียงแค่เจตจำนงทางการเมืองของผู้นำประเทศ หากเราไม่สามารถใช้เวทีทางการทูตในการเจรจรา ให้ประเทศที่เข้าร่วมประชุมอาเซียนบวกสามอยู่ในขณะนี้ช่วยกันส่งตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ผมคิดว่าบาดแผลที่ลึกที่สุดของพ่อแม่พี่น้องในคดีตากใบ ก็จะไม่ได้รับความเยียวยา และกระบวนการสันติภาพ ในชายแดนใต้ก็จะไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น วันนี้อยากให้นายกฯแสดงเจตจำนงทางการเมือง ในฐานะที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนใน UNHRC ขอให้ท่านใช้เวทีเจรจานอกรอบในการติดตามตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดี” นายณัฐพงษ์ กล่าว
 
เมื่อถามว่า มองว่าจากนี้ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม จะมีการลุกฮือของคนในพื้นที่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งที่เราต้องทำให้เต็มที่ที่สุดก่อนคือภายใต้กรอบระยะเวลาอีก 15 วันที่เหลือ ซึ่งรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทัน และตอนนี้สิ่งที่จะเยียวยาบาดแผลของพ่อแม่พี่น้องได้ คือนายกรัฐมนตรีที่ไปประชุมอาเซียนบวกสามอยู่ เจรจานอกรอบกับประเทศญี่ปุ่น และเชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นก็พร้อมให้ความร่วมมือ ฉะนั้น ไม่อยากคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขอส่งคำแนะนำให้รัฐบาลดำเนินการให้เต็มที่ที่สุดก่อน
 
เมื่อถามว่า นอกจากช่องทางทางการทูตมีช่องทางอื่นอีกหรือไม่ที่สามารถทำได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับหน่วยงานโดยเฉพาะในกมธ.กฎหมายฯ ทุกหน่วยงานแจ้งว่าหากดูจากระบบปัจจุบันถ้าไม่มีการเจรจาทางการทูต คิดว่าอย่างไรก็เป็นไปได้สูงที่จะไม่ทัน ฉะนั้น ตอนนี้เหลือช่องทางสุดท้ายแล้ว ซึ่งก็หวังว่านายกรัฐมนตรีจะใช้เวทีดังกล่าว ในการเจรจาทางการทูต เพื่อให้เกิดการเร่งรัดให้จำเลยกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด และถ้าไม่ใช้อำนาจอธิปไตยของประเทศปลายทางทั้งอังกฤษ และญี่ปุ่น อย่างไรก็จะไม่ทัน
 
เมื่อถามย้ำว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาบอกว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ที่เป็นจำเลยในคดีดังกล่าว ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คดีตากใบที่เกิดขึ้น เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และเกิดขึ้นในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น ซึ่งมีความเกี่ยวพันไปยังรัฐบาลในปัจจุบัน คิดว่า รัฐบาลควรแสดงสปิริต และให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองหลักสิทธิมนุษยชน ตอนนี้มีเวทีเจรจาทางการทูตที่นายกฯ สามารถทำได้ และเชื่อว่า สามารถดำเนินการได้ ถ้าพร้อมที่จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เกิดความเป็นธรรมกับคนไทย


 
บิ๊กอ้วน ชิ่งฝ่ายค้าน 2 กระทู้รวด วิโรจน์ ฉะยับไม่ใส่ใจ ย้อนกลาโหม ไม่ได้มีรมต.แค่คนเดียว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4838341

“บิ๊กอ้วน” เท ตอบ 2 กระทู้สดฝ่ายค้าน “วิโรจน์”เดือด กลาโหม ไม่ได้มี รมต.แค่คนเดียว เหน็บทำม “สมศักดิ์”มาได้ เตรียมใช้บทบาท  “กมธ.ทหาร”สอบพลทหารดับในค่าย”หากเข้าข่ายซ้อมทรมาน ยื่น อัยการ- ดีเอสไอ เอาผิดไม่มีละเว้น ขณะที่”รองแบด”วอน รมต.มาสแตนด์บายแค่วันเดียวเอง
 
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่อง พลทหารเสียชีวิตในค่ายทหาร แต่นายภูมิธรรม มีหนังสือแจ้งว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมติดภารกิจสำคัญ และเร่งด่วนไม่สามารถที่จะมาตอบกระทู้ได้ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปก่อน และหากนายวิโรจน์ยังประสงค์ที่จะตั้งเป็นกระทู้ถามสดด้วยวาจาอยู่ก็ให้เสนอมาใหม่ในคราวหน้า
 
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ อภิปรายว่า กระทรวงกลาโหม ไม่ได้มีแค่รัฐมนตรีว่าการฯแค่คนเดียว ยังมีรัฐมนตรีช่วยฯอีก และเราได้พูดกันในสภาฯมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่ฝ่ายค้าน แต่วิปรัฐบาลก็พูด และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ก็เคยพูดและแสดงถึงความไม่สบายใจที่รัฐมนตรีไม่ให้ความสำคัญในการมาตอบกระทู้
 
วันนี้ผมยังดีใจที่เห็นหน้าท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาสแตนด์บาย ทำไมท่านสมศักดิ์ ทำได้ ทำไมท่านอื่นทำไม่ได้ ทำไมในครม. ท่านนายกฯตั้งแต่สมัยที่ ท่านเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ อยู่ จนถึงปัจจุบัน ท่านแพทองธาร ชิรวัตร จะขันน็อตเรื่องนี้กันไม่ได้ และผมขอย้ำท่านประธานให้ทราบด้วยว่า ถ้าย้อนกลับไปดูมติครม.ในยุคของท่านเศรษฐา ก็เคยมีมติครม.ให้รัฐมนตรีสแตนด์บายตอบกระทู้ และให้เกียรติสภาฯเป็นลายลักษณ์อักษรมาแล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว
 
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ตนจะหารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เราไม่ได้มีท่าทีที่จะมาตอบโต้หรือด่าทอต่อว่า เลยเราจะมาหารือกันว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้กรณีการเสียชีวิตจากการซ้อมทรมานผลทหารในค่ายทหารมันหมดไปเสียทีเพราะผมเข้าใจว่าท่านภูมิธรรมก็เพิ่งมารับตำแหน่งจึงจะมาหารือเรื่องนี้ว่าจะออกระเบียบหรือจะทำอย่างไรที่จะทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ลูกหลานเข้าไปอยู่ในค่ายทหารสบายใจ ทุกวันนี้เวลาที่เราได้ยินข่าวการเสียชีวิตของทหาร สิ่งที่ควรจะเป็นคือการพลีชีพเพื่อชาติการที่เสียชีวิตเพราะต้องคมอาวุธจากอริราชศัตรู
 
แต่ทุกวันนี้เป็นการเสียชีวิตจากทหารของชาติเดียวกัน เสียชีวิตเพราะการคลั่งอำนาจของทหารระดับบังคับบัญชา โดยที่ผู้บังคับการมีค่ายไม่เคยเหลียวแล วันนี้พิสูจน์กันแล้วว่า ผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงกลาโหม คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงด้วย ไม่ให้ความใส่ใจกับชีวิตของพลทหารที่อยู่ในค่ายทหาร ดังนั้น โครงการรรับสมัครทหารแบบสมัครใจ ควรยกเลิกการเกฑณ์ทหารของรัฐบาลชุดนี้จะเป็นจริงได้อย่างไร มันเป็นได้เพียงแค่เป็นลมปากเท่านั้น
 
ผมขอฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในเมื่อท่านไม่ใส่ใจ ไม่เหลียวแลชีวิตที่ต้องเสียไปในค่ายทหาร ผมฐานะประธานกมธ.ทหาร จะสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และหากเข้าข่ายการซ้อมทรมาณ จะทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และอัยการฝ่ายพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนิคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้บังคับบัญชา มาตรา 42 ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย อย่างไม่มีข้อยกเว้น” นายวิโรจน์ กล่าว
 
นายภราดร ชี้แจงว่า เข้าใจดีในบทบาทของสภาฯ ในเรื่องกระทู้จริงๆในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร หลังจากที่ตนเข้ามาทำหน้าที่รองประธานสภาฯ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับสภาฯ มีเพียงสัปดาห์นี้เท่านั้นที่รัฐมนตรีไม่ได้มาตอบกระทู้สด อย่างไรก็ตาม ขอฝาก นายสมศักดิ์ ช่วยกำชับในที่ประชุม ครม.ด้วยว่า ในวันพฤหัสฯ​ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้รัฐมนตรีได้สแตนด์บาย เพราะมีแค่วันเดียวเท่านั้น
 
จากนั้น เป็นการถามกระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้ที่สอง ของ นายกัณวีร์​ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรม ถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มอบหมายให้ นายภูมิธรรม มาตอบกระทู้แทน แต่นายภูมิธรรม ติดภารกิจ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปก่อน
 
ทั้งนี้ นายกัณวีร์ อภิปรายว่า ตนเข้าใจถึงการติดภารกิจ แต่การหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญกับสันติภาพ และสิทธิมนุษยชน ที่เกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมถึงปัญหาผู้หาสันติภาพเมียนมา ที่กระทบต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตามขอให้รัฐบาลไทยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน เพื่อไม่ให้ถูกวิจารณ์หรือมีผลกระทบต่อชื่อเสียงไทยในเวทีต่างประเทศ และในฐานะสมาชิกมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
 


‘อากาศเปลี่ยน - ฝนถล่ม’ ทำรถด่วนราคาพุ่ง 800 บาท/กิโล แม้จะแพง แต่ยังต้องสั่งจอง
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/420164

วันนี้ (10 ต.ค. 67) ที่ตลาดสดเทศบาลนครเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าหนอนรถด่วน หรือหนอนไม้ไผ่ ที่นำออกมาวางจำหน่ายให้กับลูกค้าได้เลือกซื้อไปรับประทาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารป่าที่เป็นที่นิยมตามฤดูกาลในช่วงนี้ พบว่า หนอนรถหนอนรถด่วนแบบสดนั้นมีราคาสูงถึงกิโลกรัม 800 บาท แต่หากเป็นแบบแช่แข็งราคากิโลกรัมละ 600 บาท
 
ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านที่นำหนอนรถด่วนมาขาย ทราบว่า ปัจจุบันจากสภาพอากาศ รวมทั้งฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หนอนรถด่วนที่เคยหามาได้นั้น หายากขึ้น และต้องเข้าป่าไปไกลยิ่งกว่าเดิม ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นน่าจะมาจากสภาพอากาศ ทำให้ช่วงระยะเวลาของหนอนรถด่วนเปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้ราคาหนอนรถด่วน ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าในระยะนี้มีราคาแพง
 
แต่อย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่