สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
การวินิจฉัยโรคของแพทย์จะใช้อาการผู้ป่วยเป็นหลัก โรคใส้ติ่งอักเสบ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีการการปวดและกดเจ็บบริเวณท้องน้อยด้านขวา ถ้าใครมีอาการตามนี้ก็ให้การวินิจฉัยได้ว่า เป็นโรคใส้ติ่งอักเสบ และแพทย์ก็จะทำการผ่าตัดทันที แต่จะมีผู้ป่วยส่วนน้อยที่ไม่ได้มีอาการลักษณะดังกล่าว เช่น ปวดกลางท้องเหมือนโรคกระเพาะ ปวดมวนทั่งท้องหมือนลำใส้อักเสบ อาการของใส้ติ่งอักเสบจะชัดเจนก็ต่อเมื่อใส้ติ่งแตกแล้ว กรณีนี้ต้องให้การวินิจฉัยไปตามอาการของผู้ป่วยก่อน จะเอาผู้ป่วยไปผ่าตัดใส้ติ่งทั้งๆที่อาการไม่เหมือนไม่ได้
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 6
ร้องเรียนได้ ดีเหมือนกันจะได้เกิดการทบทวน ว่าต้องแก้ไขปรับปรุง ตรงไหน
แม้เวลาจะผ่านมาเท่าไร ไส้ติ่งก็ยังเป็นโรคปราบเซียนเสมอ
ถ้าอาการ และอาการแสดงที่มาตอนแรกไม่ชัด จะเอามาผ่าเลยก็ใช่ที่
จากที่เล่ามา จขกท ก็กลับไปหาหมอช้าไปหน่อยนะ
ตั้ง 2-3 วันถัดมา
ถ้าไปหาหมอวันรุ่งขึ้น อาการไส้ติ่งน่าจะชัดขึ้น และยังไม่แตก
มองสองด้านน่ะ
แม้เวลาจะผ่านมาเท่าไร ไส้ติ่งก็ยังเป็นโรคปราบเซียนเสมอ
ถ้าอาการ และอาการแสดงที่มาตอนแรกไม่ชัด จะเอามาผ่าเลยก็ใช่ที่
จากที่เล่ามา จขกท ก็กลับไปหาหมอช้าไปหน่อยนะ
ตั้ง 2-3 วันถัดมา
ถ้าไปหาหมอวันรุ่งขึ้น อาการไส้ติ่งน่าจะชัดขึ้น และยังไม่แตก
มองสองด้านน่ะ
แสดงความคิดเห็น
แพทย์วินิจฉัยผิดพลาดจนเราต้องผ่าตัดใหญ่
ผมมีอาการปวดท้องมวนๆเลยไปหาหมอ
หมอวินิจฉัยว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะ(เคยเป็นมาก่อน มีประวัติที่นี่ แต่หมอคนละคน) เคาะท้องปกติ
รับยากลับบ้าน ปกติ
สองสามวันถัดมา ผมปวดท้องมาก ปวด ตื่นมากลางดึก ไปรพ.เลย
ถึงรพ.เดิม เวลาตีห้า
รอผ่าตัด สิบโมง
เพราะเป็นไส้ติ่งแตก
นอนรพ.สิบสี่วันพร้อมกับแผลแนวตั้งขนาดใหญ่ที่หน้าท้อง
ผมสามารถเรียกร้องอะไรได้ไหมครับกับหมอที่ไม่ตรวจเชคถึงโอกาสการเป็นไส้ติ่ง ทำให้ไส้ติ่งแตก แล้วเกิดแผลเป็นขนาดใหญ่