เคยสงสัยมั้ยว่า ความเชื่อเรื่องมือถือที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ นั้นจริงหรือหลอก? วันนี้จะมาไขข้อข้องใจกันว่า ความเชื่อเหล่านี้มีข้อเท็จจริงเป็นยังไงบ้าง? Real or Cake? ไปเช็กกันได้เลยค้าบบ
1. ดูคลิปเร็วคูณสองแล้วจะสมาธิสั้น >> ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานระบุชัดเจนนะครับว่าทำให้คนสมาธิสั้น และยังมีการทดสอบพบว่าการดูแบบสปีด x2 นี้ ไม่ได้รบกวนประสาทการเรียนรู้นะ นอกจากเราจะจับใจความไม่ได้เอง หรือไม่โฟกัสตั้งแต่แรกครับ
2. เด็กติดจอทำให้เป็นสมาธิสั้น >> หลักฐานพบว่า การติดจอไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เด็กสมาธิสั้น แต่ถ้าดูทั้งวันเนี่ย ส่งผลทำให้พัฒนาการช้ากว่าวัยอันควรได้จริง ๆ นะครับ
3. เล่นมือถือในที่มืดทำให้สายตาสั้น >> มีการศึกษาพบว่าการเล่นมือถือในที่มืดไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างตา ให้ค่าสายตาเปลี่ยนครับ
แต่ถ้าจ้องจอสว่าง ๆ ในที่มืด ๆ จะส่งผลโดยตรงให้เราตาล้าได้ เพราะเวลาเราอยู่ในที่มืด ม่านตาเราจะขยาย แต่พอมีแสงสว่างขึ้นมาม่านตาเราก็จะหด เมื่อต้องสลับขยายและหดบ่อยๆ ก็ทำตาล้า แต่ทั้งหมดเป็นเพียงภาวะชั่วคราวครับ แค่พักสายตาก็กลับมาเป็นปกติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าสายตาถาวรเปลี่ยนแต่อย่างใด
4. แสงสีฟ้าจากจอมือถือ เร่งให้ตาเสื่อม >> การศึกษาจาก Harvard พบว่าแสงสีฟ้าจากจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ จะปล่อยค่าแสงสีฟ้าที่ทำร้ายตาเรา ออกมาน้อยมาก เมื่อเทียบกับแสงแดด ดังนั้นเลยไม่เพียงพอที่จะทำร้ายตาให้เสื่อมได้ครับ แต่แม้จะไม่ได้ทำให้ตาเสื่อม แต่แสงสีฟ้าจากจอก็ยังสามารถรบกวนวงจรการนอนของเราได้นะครับ
สุดท้ายนี้ก็อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพดวงตาของเราให้ดีนะครับ เพราะปัจจุบันเราแทบจะใช้ชีวิตครึ่งค่อนวันอยู่กับมันแล้ว อย่างน้อยลุงก็อยากให้ทุกคนพักเบรกสายตา ทุก 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที พร้อมกับมองออกไปไกล ๆ, กะพริบตาบ่อย ๆ เพื่อช่วยในการกระจายน้ำตาให้เคลือบกระจกตา รวมถึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และทานผักผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาด้วยน้าาา
ที่มา : Jones Salad
ความเชื่อเรื่องมือถือที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ นั้นจริงหรือหลอก?
3. เล่นมือถือในที่มืดทำให้สายตาสั้น >> มีการศึกษาพบว่าการเล่นมือถือในที่มืดไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างตา ให้ค่าสายตาเปลี่ยนครับ
แต่ถ้าจ้องจอสว่าง ๆ ในที่มืด ๆ จะส่งผลโดยตรงให้เราตาล้าได้ เพราะเวลาเราอยู่ในที่มืด ม่านตาเราจะขยาย แต่พอมีแสงสว่างขึ้นมาม่านตาเราก็จะหด เมื่อต้องสลับขยายและหดบ่อยๆ ก็ทำตาล้า แต่ทั้งหมดเป็นเพียงภาวะชั่วคราวครับ แค่พักสายตาก็กลับมาเป็นปกติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าสายตาถาวรเปลี่ยนแต่อย่างใด
4. แสงสีฟ้าจากจอมือถือ เร่งให้ตาเสื่อม >> การศึกษาจาก Harvard พบว่าแสงสีฟ้าจากจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ จะปล่อยค่าแสงสีฟ้าที่ทำร้ายตาเรา ออกมาน้อยมาก เมื่อเทียบกับแสงแดด ดังนั้นเลยไม่เพียงพอที่จะทำร้ายตาให้เสื่อมได้ครับ แต่แม้จะไม่ได้ทำให้ตาเสื่อม แต่แสงสีฟ้าจากจอก็ยังสามารถรบกวนวงจรการนอนของเราได้นะครับ
สุดท้ายนี้ก็อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพดวงตาของเราให้ดีนะครับ เพราะปัจจุบันเราแทบจะใช้ชีวิตครึ่งค่อนวันอยู่กับมันแล้ว อย่างน้อยลุงก็อยากให้ทุกคนพักเบรกสายตา ทุก 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที พร้อมกับมองออกไปไกล ๆ, กะพริบตาบ่อย ๆ เพื่อช่วยในการกระจายน้ำตาให้เคลือบกระจกตา รวมถึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และทานผักผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาด้วยน้าาา
ที่มา : Jones Salad