สวัสดีค่ะ ขอแทนว่าเอนะคะ วันนี้มาเล่าชีวิตอันน้อยนิดของตน ปัญหามันคงเล็กสำหรับหลายคนและรู้ค่ะว่ามีคนเจอมากกว่า แต่อยากให้อ่านเพื่อความจอยนะคะ
เราเป็นลูกพ่อคะ หย่ากับแม่ตั้งแต่เด็ก เรามีพี่น้องเยอะก็จริงแต่ก็ไม่ค่อยเจอกันเพราะต่างฝ่ายมีครอบครัว และพอเราจำความได้แม่นประมาณ10-11ขวบ พ่อก็แต่งงานใหม่เราก็ได้แม่เลี้ยงคนใฟม่ ขอย่อว่ามล.นะคะ และนี้เป็นมุมมองการเล่าของเราเท่านั้นบางครั้งอาจขัดความคิดทุกคน เรากับมล.ก็เข้ากันได้ดีค่ะ เค้าเปฺนคนหัวผสมแต่ค่อนข้างเนี้ยบแบบมากไปรวมถึงเป็นคนชอบพูดคุยในเชิงรู้อะไรก็บอกคนอื่นหมด พออยู่กันนานวันก็คงปกติค่ะ มีตีมีด่า เราชินนะเพราะพ่อเราตีเราบ่อยแต่เค้าชอบพูดแซะเรารวมถึงเอาความลับที่เราเล่าฟรือความผิดของเราไปบอกคนอื่นเราไม่โอเคคมากแต่ก็ไม่ว่าอะไร หลายวันเข้าเราโตขึ้นทุกอย่างก็หนักขึ้นแม้เราจะทำ
ะเลาะกับเค้าบ่อยแต่เราก็รักเค้าและเค้าก็บอกรักเรา พอขึ้นม.4มา เราได้เพื่อนของมล.ช่วยให้เข้ารร.มปลายได้(เราเป็นเด็กโควต้า หากไม่พอใจเชิญติได้ค่ะ)เราย้ายบ้านจากพ่อมาอยู่บ้านของมล.กันเต็มตัว นั้นละค่ะจุดเริ่มตั้นความวายป่วง เรากับมล.เหมือนจะหนักขึ้นทุกวัน เรื่องเล็กๆเค้าก็ตีเป็นเรื่องใหญ่ได้ ลืมอะไรแค่ครั้งเดียวก็บอกว่าไม่เคยทำดี หรือบอกว่าทำอย่างกับเค้าเป็นคนใช้ทั้งที่เราไม่เคยคิด เวลาอภิบายก้ว่าเถียง และเรื่องการตีเค้าก็แย่มากขึ้น เค้ามีไม้คันเบ็ตคอยตีเรา(ค่อนข้างแข็งค่ะลองเสิร์จได้ถ้านึกไม่ออก)และชอบเอามันมาเคาะหัวเราแรงๆไม่ก็ที่นิ้วหรือขาและไหล่ความรู้สึกมันจะเจ็บก่อนแล้วแสบไปประมาณสามสี่วันค่ะ และเค้าชอบตบปาก เราไม่ชอบเรื่องนี้เรื่องเดียวแต่เค้าชอบทำจนบางครั้งในหัวก็อยากสวนสักครั้ง แต่นั้นแหละเรารักเค้าเหมือนแม่เค้าก็บอกไม่รักก็ไม่ตีหรอก แต่ทำไมต้องตบปากก็ไม่ทราบพอเอามือป้องก็โดนหนักขน ตัดมาที่ตอนนี้ เราเหนื่อยมากและเคลียดจนร้องไห้ มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัด เค้าเป็นห่าอะไรไม่รู้กับเรา เรื่องเล็กๆแต่เค้าตีความใหญ่โตจนน่ารำคาญ ทำเสียงตึ้งตั้ง ไม่พูดด้วย พูดแซะ พอไม่ทำก็ด่า พอทำก็ว่าเสนอหน้า เราเหนื่อยค่ะ เอไม่รู้จะทนได้อีกนานมั้ยจนจบม6และเข้ามหาลัย จริงๆมีอีกเยอะนะคะ แต่เราอธิบายไม่ถูกง่ายคือเหนื่อยจนจะบ้า
ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวเล็กๆน้อยๆนี้นะคะ
ระบายเรื่องราวของตัวเรา อายุ16ปีที่ตอนนี้ร้องให้หนักกว่าทุกครั้ง และหวังให้ในอนาคตตนจะกลับมาอ่านถ้าไม่เป็นซึมเศร้าตาย
เราเป็นลูกพ่อคะ หย่ากับแม่ตั้งแต่เด็ก เรามีพี่น้องเยอะก็จริงแต่ก็ไม่ค่อยเจอกันเพราะต่างฝ่ายมีครอบครัว และพอเราจำความได้แม่นประมาณ10-11ขวบ พ่อก็แต่งงานใหม่เราก็ได้แม่เลี้ยงคนใฟม่ ขอย่อว่ามล.นะคะ และนี้เป็นมุมมองการเล่าของเราเท่านั้นบางครั้งอาจขัดความคิดทุกคน เรากับมล.ก็เข้ากันได้ดีค่ะ เค้าเปฺนคนหัวผสมแต่ค่อนข้างเนี้ยบแบบมากไปรวมถึงเป็นคนชอบพูดคุยในเชิงรู้อะไรก็บอกคนอื่นหมด พออยู่กันนานวันก็คงปกติค่ะ มีตีมีด่า เราชินนะเพราะพ่อเราตีเราบ่อยแต่เค้าชอบพูดแซะเรารวมถึงเอาความลับที่เราเล่าฟรือความผิดของเราไปบอกคนอื่นเราไม่โอเคคมากแต่ก็ไม่ว่าอะไร หลายวันเข้าเราโตขึ้นทุกอย่างก็หนักขึ้นแม้เราจะทำ
ะเลาะกับเค้าบ่อยแต่เราก็รักเค้าและเค้าก็บอกรักเรา พอขึ้นม.4มา เราได้เพื่อนของมล.ช่วยให้เข้ารร.มปลายได้(เราเป็นเด็กโควต้า หากไม่พอใจเชิญติได้ค่ะ)เราย้ายบ้านจากพ่อมาอยู่บ้านของมล.กันเต็มตัว นั้นละค่ะจุดเริ่มตั้นความวายป่วง เรากับมล.เหมือนจะหนักขึ้นทุกวัน เรื่องเล็กๆเค้าก็ตีเป็นเรื่องใหญ่ได้ ลืมอะไรแค่ครั้งเดียวก็บอกว่าไม่เคยทำดี หรือบอกว่าทำอย่างกับเค้าเป็นคนใช้ทั้งที่เราไม่เคยคิด เวลาอภิบายก้ว่าเถียง และเรื่องการตีเค้าก็แย่มากขึ้น เค้ามีไม้คันเบ็ตคอยตีเรา(ค่อนข้างแข็งค่ะลองเสิร์จได้ถ้านึกไม่ออก)และชอบเอามันมาเคาะหัวเราแรงๆไม่ก็ที่นิ้วหรือขาและไหล่ความรู้สึกมันจะเจ็บก่อนแล้วแสบไปประมาณสามสี่วันค่ะ และเค้าชอบตบปาก เราไม่ชอบเรื่องนี้เรื่องเดียวแต่เค้าชอบทำจนบางครั้งในหัวก็อยากสวนสักครั้ง แต่นั้นแหละเรารักเค้าเหมือนแม่เค้าก็บอกไม่รักก็ไม่ตีหรอก แต่ทำไมต้องตบปากก็ไม่ทราบพอเอามือป้องก็โดนหนักขน ตัดมาที่ตอนนี้ เราเหนื่อยมากและเคลียดจนร้องไห้ มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัด เค้าเป็นห่าอะไรไม่รู้กับเรา เรื่องเล็กๆแต่เค้าตีความใหญ่โตจนน่ารำคาญ ทำเสียงตึ้งตั้ง ไม่พูดด้วย พูดแซะ พอไม่ทำก็ด่า พอทำก็ว่าเสนอหน้า เราเหนื่อยค่ะ เอไม่รู้จะทนได้อีกนานมั้ยจนจบม6และเข้ามหาลัย จริงๆมีอีกเยอะนะคะ แต่เราอธิบายไม่ถูกง่ายคือเหนื่อยจนจะบ้า
ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวเล็กๆน้อยๆนี้นะคะ