พรรคประชาชน ซุ่มจัดทัพใหม่ รับศึกใหญ่การเมือง จับตาแต่งตั้ง ตำแหน่งสำคัญเพียบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4802964
“พรรคประชาชน” ซุ่ม จัดทัพใหม่สู้ศึกการเมืองหลัง “ก้าวไกล” ถูกยุบ จับตาแต่งตั้งรองหัวหน้า ขณะ “รองเลขาธิการ” ต้องเลือกตั้ง 12 คน ชี้คนชนะต้องรับบท “แม่ทัพภาค” มีอำนาจเป็นเจ้าของมุ้ง เลือกคนลงสมัครท้องถิ่น-สนามใหญ่ได้ พบยังไม่นิ่ง คนลงชิง เดินเกมขอเสียงเพื่อน ส.ส.
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชน ว่า ในวันที่ 21-22 กันยายนนี้ พรรคประชาชนจัดสัมมนาพรรค และประชุมลับเป็นการภายใน โดยมีวาระสำคัญเป็นการจัดกระบวนทัพในการต่อสู้ทางการเมืองใหม่ หลังจากอดีตพรรคก้าวไกลเดิมถูกยุบและมาสังกัดพรรคถิ่นกาขาว จนเปลี่ยนชื่อพรรคมาเป็นพรรคประชาชน
ทั้งนี้ จากเดิมโครงสร้างของพรรคที่กรรมการบริหารพรรคทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ตามภาคถูกเปลี่ยน มีการลดทอนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคจาก 10 คน เหลือ 5 คน เพื่อลดช่องว่าง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้าที่ยังไม่มีการตั้งบุคคลในพรรคมาดำรงตำแหน่งสำคัญอื่นๆ เช่น รองหัวหน้าพรรค รองเลขาธิการพรรค และทีมโฆษกพรรค
ทำให้ในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายนนี้ มีรายงานว่า พรรคประชาชนจะทำการตั้งรองหัวหน้าพรรค จำนวน 10 คน โดยจะมาจากการแต่งตั้งทั้งหมด และเป็นการเกลี่ยตำแหน่งให้กับดาวเด่น โดยมีโผรายชื่อที่แน่นอนแล้ว ได้แก่ น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น ส่วนที่เหลือมาจากสายเทคโนแครต ที่เคยอยู่ในทีมวิชาการของพรรค เช่น นาย
ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคอีกจำนวน 12 คน มาจากการเลือกตั้งภายใน โดยตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคมีบทบาทสำคัญ เปรียบเสมือนแม่ทัพภาค ในการคัดเลือกผู้สมัครท้องถิ่น และผู้สมัคร ส.ส. สนามเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งรองเลขาธิการพรรคทั้ง 12 คนนี้ มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นพื้นที่ 12 โซน ทำให้ขณะนี้เริ่มมีล็อบบี้เพื่อน ส.ส.ภายในพรรคกันแล้ว
ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ เจ้าหน้าที่กองสื่อพรรคประชาชนแจ้งต่อสื่อมวลชนประจำพรรคว่า “
สำหรับสื่อมวลชนที่สอบถามเกี่ยวกับการประชุมสัมมนา ส.ส.พรรคประชาชน วันที่ 21-22 ก.ย.2567 นี้ เนื่องจากกิจกรรมจัดเป็นการภายใน พรรคจะมีการสื่อสารสรุปผลกิจกรรมให้สื่อมวลชนทราบในสัปดาห์ต่อไป”
เชตวัน น้อมรับความผิดพลาด ปราศรัยนำค่ายเอกาทศรถ เป็นที่ทิ้งขยะ ชี้พรรคตักเตือน คาดโทษแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4803183
‘เชตวัน’ รับมันปากไปหน่อย พูดเอา ‘ค่ายเอกทศรถ เป็นที่ทิ้งขยะ’ ขอโทษประชาชนที่ทำให้ผิดหวัง จะระวังมากกว่านี้ ชี้ พรรคตักเตือนแล้ว คาดโทษ อดได้ถามกระทู้สดในสภา เผยที่มาปราศรัยเดือด เหตุ ‘โฟล์ค ณฐชนน’ หอบหลักฐานยื่นร้อง กมธ. บอกชาวสองแควไม่มีที่ทิ้งขยะ เสนอทางออกเป็นค่ายทหาร
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นาย
เชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปราศรัยเดือดสนามเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก เขต 1 จะนำค่ายเอกาทศรถเป็นสถานที่ทิ้งขยะ ว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจากนาย
ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เคยมายื่นหนังสือว่าจะใช้พื้นที่ค่ายเอกาทศรถเป็นพื้นที่บริหารจัดการขยะให้ชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่มีปัญหาเรื่องไม่มีสถานที่ทิ้งขยะ ซึ่งนาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธาน กมธ. ได้ทำหนังสือถึงค่ายทหารว่าพอจะมีที่ทางหรือไม่
เมื่อตนเดินทางไปช่วยหาเสียงที่จังหวัดพิษณุโลกจึงมีการพูดถึงเรื่องนี้ ว่าเป็นความลำบากของประชาชนชาวพิษณุโลกที่เทศบาลไม่สามารถจัดเก็บขยะได้
“
ก็นำแนวคิดของคุณโฟล์ค ในการนำค่ายทหารมาพิจารณาดูว่ามีพื้นที่ตรงไหนหรือไม่ ที่จะช่วยประชาชนที่จะจัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะ ก็นำเรื่องนี้มาปราศรัย แต่แน่นอนว่าการปราศรัยหาเสียงตรงนั้น ผมก็น้อมรับท่าทีในการพูด อาจจะดุดัน รุนแรง แต่ก็เป็นสิ่งที่คล้ายกับผมหาเสียงในพื้นที่นี่แหละครับ ตอนแรกผมก็ชั่งใจอยู่ว่าเราจะพูดแบบไหน แบบแรกคือจะขอร้องอย่างไร แบบที่สองเป็นแบบที่ผมเคยพูดประจำคือความเข้มข้น ดุดัน แต่ไม่ได้ไปท้าตีท้าต่อย มันก็เป็นหลักคิดของเราว่าทหารไม่ควรอยู่การเมือง ค่ายทหารควรอยู่ตามชายแดน เพราะฉะนั้นก็เป็นหลักคิดของเราเรื่องนี้” นาย
เชตวันกล่าว
เมื่อถามว่าเรียกว่ามันไปหน่อยได้หรือไม่ นาย
เชตวันกล่าวว่า ก็ได้ครับ ตนก็น้อมรับว่าเป็นการหาเสียงที่ดุดัน สนุกปาก คะนอง ก็น้อมรับ ถือว่าเป็นความผิดพลาด แต่ประเด็นสำคัญคือมีการตัดเฉพาะที่เป็นช่วงนี้เอาไปปั่นเป็นกระแส อารมณ์เหมือนขนขยะไปดั้มทิ้งในค่ายทหารแน่นอน แต่เจตนารมย์ของตน กมธ.การทหาร สอบถามถึงค่ายเอกาทศรถแล้ว ซึ่งค่ายก็ตอบกลับมาว่า ใช้พื้นที่เต็มแล้ว โดยตามกระบวนการก็ต้องเป็นแบบนี้ ซึ่งหากจะทำได้ก็ต้องทำให้ถูกสุขลักษณะ ไม่ใช่ขนไปทิ้งไปดั้มเหมือนอย่างที่โดนโจมตีอย่างแน่นอน
ส่วนมันจะกลายเป็นภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นาย
เชตวัน กล่าวว่า ไม่หรอก ตนอยู่ใน กมธ. การทหาร ก็มีท่าทีประนีประนอม เข้าไปพูดคุยได้ปกติ ได้รับการต้อนรับที่ดี ส่วนการปราศรัยก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตน ยอมรับว่ามีการจ้องจับผิด โดยเฉพาะประโยคท่อนนี้ สุดท้ายอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการก็ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่าพรรคมีการคาดโทษเตือน รายละเอียดเป็นอย่างไร นาย
เชตวัน กล่าวว่า พรรคเรียกไปตักเตือน ซึ่งกิจกรรมบางอย่างก็อาจจะถูกลดบทบาทไป แต่ไม่ได้เป็นโทษหนัก ตนก็คงต้องปรับปรุงตัวต่อไปให้ดีขึ้น ตนต้องขอโทษทุกคนด้วย
“
ก็ตักเตือนและคาดโทษ ผมกำลังจะมีกระทู้ถามสดในสภา ในส่วนนี้ก็เปลี่ยนคนถามกระทู้สดแทน” นาย
เชตวันกล่าว
ล่มซ้ำ! ถกค่าแรง 400 บ.นัดใหม่ 24 กย.คาดไม่ทัน 1 ตค.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4803183
ล่มซ้ำรอบ 2 ถกค่าแรง 400 บาท กรรมการฝ่ายรัฐบาล-ลูกจ้าง ไม่เข้าร่วม “ปลัดแรงงาน” ยันไม่มีนัยยะทางการเมือง รับอาจไม่ทัน 1 ต.ค. นี้
นาย
ไพโรจน์ โชติเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีค่าจ้าง ว่า การประชุมวันนี้ไม่ได้ล่มแต่ไม่ครบองค์ประชุม 2 ใน 3 เพราะมีตัวแทนของข้าราชการไม่ได้เข้าร่วมประชุม 4 คน ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งทั้ง 4 หน่วยงานติดภารกิจสำคัญ และหากมีการส่งตัวแทนก็ไม่สามารถลงมติได้ และยืนยันว่า ไม่มีนัยยะทางการเมือง และฝ่ายลูกจ้างไม่มา 2 คน เนื่องจากตามข้อกำหนดระบุว่า จะต้องมีผู้เข้าประชุม 10 คนขึ้นไป
ดังนั้น ที่ประชุมวันนี้จึงมีการพูดคุยกัน โดยมีการพูดถึงสภาพของการจ้างงาน ที่มีการจ้างลูกจ้างและจ่ายค่าจ้างในอัตรา 400 บาทอยู่จำนวนเท่าไร ผลกระทบต่อแรงงานไทยและแรงงายต่างด้าวอย่างไรบ้าง และหากมีการขึ้นค่าแรง 400 บาท จะมีแรงงานต่างด้าวได้รับผลประโยชน์ประมาณ 1 ล้านคน ส่วนแรงงานไทยได้รับผลประโยชน์ประมาณเกือบ 4 ล้านคน ซึ่งเป็นเพียงการเสนอข้อมูลในที่ประชุมทราบแต่ยังไม่มีการลงมติ
ทั้งนี้ มีการนัดหมายประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 24 ก.ย.นี้ ซึ่งได้มีการโทรสอบถามกันแล้ว หากยังไม่ครบอีกก็จะมีการขยับการประชุมไปอีก แต่คาดว่า จะได้ข้อสรุปและสามารถนำเข้าครม. ประมาณวันที่ 1 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ตนอยากทำให้ทันก่อนเกษียณอายุราชการ ซึ่งตนก็เหลือเวลาอีก 6 วัน เมื่อถามย้ำว่าไม่น่าประกาศใช้ทันวันที่ 1 ต.ค. ใช่หรือไม่ นาย
ไพโรจน์ พยักและตอบว่า “ใช่”
ทั้งนี้ หากหลังวันที่ 30 ก.ย.นี้ไป จะเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ รับผิดชอบเรื่องนี้ หากยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะมีรักษาการปลัดกระทรวงเป็นผู้รับผิดชอบต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีอะไรมากดดัน แต่ละฝ่ายก็มีมุมมองของตัวเอง
ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมนั้น มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนหรือไม่ นายไพโรจน์ กล่าวว่า บางคนแจ้งกระทันหัน 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมา บางคนแจ้งมาล่วงหน้าว่า 1 วันว่าติดภารกิจ ส่วนลูกจ้าง 2 คนที่ไม่ได้เข้าร่วมนั้น แจ้งว่า ติดภารกิจส่วนตัว เพราะถึงจะมีการนัดประชุมล่วงหน้า แต่หากไม่สามารถร่วมการประชุมได้ แล้วส่งผู้แทนมาร่วมประชุม จะไม่สามารถลงมติได้ อยากให้กรรมการตัวจริงมาด้วยตนเอง ดังนั้น การประชุมครั้งหน้าก็จะย้ำไปยังกรรมการตัวจริง
ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าประชุมครั้งนี้เป็นสัดส่วนรัฐบาล มองว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการขึ้นค่าแรง นายไพโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของไตรภาคีในการพิจารณา เมื่อถามย้ำว่า หากเข้าครม.วันที่ 19 ต.ค.ให้มีการปรับเพิ่มค่าจ้างจะขึ้นย้อนหลังให้หรือไม่ นายไพโรจน์ กล่าวว่า อาจจะต้องเบรกและกำหนดวันกันใหม่ ไม่น่าจะย้อนหลัง
JJNY : พรรคประชาชนซุ่มจัดทัพใหม่│เชตวันน้อมรับความผิดพลาด│ล่มซ้ำ!ถกค่าแรง400บ.│อียูเตรียมปล่อยกู้ยูเครนรอบใหม่กว่า 1ล.ล.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4802964
“พรรคประชาชน” ซุ่ม จัดทัพใหม่สู้ศึกการเมืองหลัง “ก้าวไกล” ถูกยุบ จับตาแต่งตั้งรองหัวหน้า ขณะ “รองเลขาธิการ” ต้องเลือกตั้ง 12 คน ชี้คนชนะต้องรับบท “แม่ทัพภาค” มีอำนาจเป็นเจ้าของมุ้ง เลือกคนลงสมัครท้องถิ่น-สนามใหญ่ได้ พบยังไม่นิ่ง คนลงชิง เดินเกมขอเสียงเพื่อน ส.ส.
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชน ว่า ในวันที่ 21-22 กันยายนนี้ พรรคประชาชนจัดสัมมนาพรรค และประชุมลับเป็นการภายใน โดยมีวาระสำคัญเป็นการจัดกระบวนทัพในการต่อสู้ทางการเมืองใหม่ หลังจากอดีตพรรคก้าวไกลเดิมถูกยุบและมาสังกัดพรรคถิ่นกาขาว จนเปลี่ยนชื่อพรรคมาเป็นพรรคประชาชน
ทั้งนี้ จากเดิมโครงสร้างของพรรคที่กรรมการบริหารพรรคทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ตามภาคถูกเปลี่ยน มีการลดทอนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคจาก 10 คน เหลือ 5 คน เพื่อลดช่องว่าง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้าที่ยังไม่มีการตั้งบุคคลในพรรคมาดำรงตำแหน่งสำคัญอื่นๆ เช่น รองหัวหน้าพรรค รองเลขาธิการพรรค และทีมโฆษกพรรค
ทำให้ในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายนนี้ มีรายงานว่า พรรคประชาชนจะทำการตั้งรองหัวหน้าพรรค จำนวน 10 คน โดยจะมาจากการแต่งตั้งทั้งหมด และเป็นการเกลี่ยตำแหน่งให้กับดาวเด่น โดยมีโผรายชื่อที่แน่นอนแล้ว ได้แก่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น ส่วนที่เหลือมาจากสายเทคโนแครต ที่เคยอยู่ในทีมวิชาการของพรรค เช่น นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคอีกจำนวน 12 คน มาจากการเลือกตั้งภายใน โดยตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคมีบทบาทสำคัญ เปรียบเสมือนแม่ทัพภาค ในการคัดเลือกผู้สมัครท้องถิ่น และผู้สมัคร ส.ส. สนามเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งรองเลขาธิการพรรคทั้ง 12 คนนี้ มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นพื้นที่ 12 โซน ทำให้ขณะนี้เริ่มมีล็อบบี้เพื่อน ส.ส.ภายในพรรคกันแล้ว
ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ เจ้าหน้าที่กองสื่อพรรคประชาชนแจ้งต่อสื่อมวลชนประจำพรรคว่า “สำหรับสื่อมวลชนที่สอบถามเกี่ยวกับการประชุมสัมมนา ส.ส.พรรคประชาชน วันที่ 21-22 ก.ย.2567 นี้ เนื่องจากกิจกรรมจัดเป็นการภายใน พรรคจะมีการสื่อสารสรุปผลกิจกรรมให้สื่อมวลชนทราบในสัปดาห์ต่อไป”
เชตวัน น้อมรับความผิดพลาด ปราศรัยนำค่ายเอกาทศรถ เป็นที่ทิ้งขยะ ชี้พรรคตักเตือน คาดโทษแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4803183
‘เชตวัน’ รับมันปากไปหน่อย พูดเอา ‘ค่ายเอกทศรถ เป็นที่ทิ้งขยะ’ ขอโทษประชาชนที่ทำให้ผิดหวัง จะระวังมากกว่านี้ ชี้ พรรคตักเตือนแล้ว คาดโทษ อดได้ถามกระทู้สดในสภา เผยที่มาปราศรัยเดือด เหตุ ‘โฟล์ค ณฐชนน’ หอบหลักฐานยื่นร้อง กมธ. บอกชาวสองแควไม่มีที่ทิ้งขยะ เสนอทางออกเป็นค่ายทหาร
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายเชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปราศรัยเดือดสนามเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก เขต 1 จะนำค่ายเอกาทศรถเป็นสถานที่ทิ้งขยะ ว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจากนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เคยมายื่นหนังสือว่าจะใช้พื้นที่ค่ายเอกาทศรถเป็นพื้นที่บริหารจัดการขยะให้ชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่มีปัญหาเรื่องไม่มีสถานที่ทิ้งขยะ ซึ่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธาน กมธ. ได้ทำหนังสือถึงค่ายทหารว่าพอจะมีที่ทางหรือไม่
เมื่อตนเดินทางไปช่วยหาเสียงที่จังหวัดพิษณุโลกจึงมีการพูดถึงเรื่องนี้ ว่าเป็นความลำบากของประชาชนชาวพิษณุโลกที่เทศบาลไม่สามารถจัดเก็บขยะได้
“ก็นำแนวคิดของคุณโฟล์ค ในการนำค่ายทหารมาพิจารณาดูว่ามีพื้นที่ตรงไหนหรือไม่ ที่จะช่วยประชาชนที่จะจัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะ ก็นำเรื่องนี้มาปราศรัย แต่แน่นอนว่าการปราศรัยหาเสียงตรงนั้น ผมก็น้อมรับท่าทีในการพูด อาจจะดุดัน รุนแรง แต่ก็เป็นสิ่งที่คล้ายกับผมหาเสียงในพื้นที่นี่แหละครับ ตอนแรกผมก็ชั่งใจอยู่ว่าเราจะพูดแบบไหน แบบแรกคือจะขอร้องอย่างไร แบบที่สองเป็นแบบที่ผมเคยพูดประจำคือความเข้มข้น ดุดัน แต่ไม่ได้ไปท้าตีท้าต่อย มันก็เป็นหลักคิดของเราว่าทหารไม่ควรอยู่การเมือง ค่ายทหารควรอยู่ตามชายแดน เพราะฉะนั้นก็เป็นหลักคิดของเราเรื่องนี้” นายเชตวันกล่าว
เมื่อถามว่าเรียกว่ามันไปหน่อยได้หรือไม่ นายเชตวันกล่าวว่า ก็ได้ครับ ตนก็น้อมรับว่าเป็นการหาเสียงที่ดุดัน สนุกปาก คะนอง ก็น้อมรับ ถือว่าเป็นความผิดพลาด แต่ประเด็นสำคัญคือมีการตัดเฉพาะที่เป็นช่วงนี้เอาไปปั่นเป็นกระแส อารมณ์เหมือนขนขยะไปดั้มทิ้งในค่ายทหารแน่นอน แต่เจตนารมย์ของตน กมธ.การทหาร สอบถามถึงค่ายเอกาทศรถแล้ว ซึ่งค่ายก็ตอบกลับมาว่า ใช้พื้นที่เต็มแล้ว โดยตามกระบวนการก็ต้องเป็นแบบนี้ ซึ่งหากจะทำได้ก็ต้องทำให้ถูกสุขลักษณะ ไม่ใช่ขนไปทิ้งไปดั้มเหมือนอย่างที่โดนโจมตีอย่างแน่นอน
ส่วนมันจะกลายเป็นภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายเชตวัน กล่าวว่า ไม่หรอก ตนอยู่ใน กมธ. การทหาร ก็มีท่าทีประนีประนอม เข้าไปพูดคุยได้ปกติ ได้รับการต้อนรับที่ดี ส่วนการปราศรัยก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตน ยอมรับว่ามีการจ้องจับผิด โดยเฉพาะประโยคท่อนนี้ สุดท้ายอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการก็ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่าพรรคมีการคาดโทษเตือน รายละเอียดเป็นอย่างไร นายเชตวัน กล่าวว่า พรรคเรียกไปตักเตือน ซึ่งกิจกรรมบางอย่างก็อาจจะถูกลดบทบาทไป แต่ไม่ได้เป็นโทษหนัก ตนก็คงต้องปรับปรุงตัวต่อไปให้ดีขึ้น ตนต้องขอโทษทุกคนด้วย
“ก็ตักเตือนและคาดโทษ ผมกำลังจะมีกระทู้ถามสดในสภา ในส่วนนี้ก็เปลี่ยนคนถามกระทู้สดแทน” นายเชตวันกล่าว
ล่มซ้ำ! ถกค่าแรง 400 บ.นัดใหม่ 24 กย.คาดไม่ทัน 1 ตค.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4803183
ล่มซ้ำรอบ 2 ถกค่าแรง 400 บาท กรรมการฝ่ายรัฐบาล-ลูกจ้าง ไม่เข้าร่วม “ปลัดแรงงาน” ยันไม่มีนัยยะทางการเมือง รับอาจไม่ทัน 1 ต.ค. นี้
นายไพโรจน์ โชติเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีค่าจ้าง ว่า การประชุมวันนี้ไม่ได้ล่มแต่ไม่ครบองค์ประชุม 2 ใน 3 เพราะมีตัวแทนของข้าราชการไม่ได้เข้าร่วมประชุม 4 คน ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งทั้ง 4 หน่วยงานติดภารกิจสำคัญ และหากมีการส่งตัวแทนก็ไม่สามารถลงมติได้ และยืนยันว่า ไม่มีนัยยะทางการเมือง และฝ่ายลูกจ้างไม่มา 2 คน เนื่องจากตามข้อกำหนดระบุว่า จะต้องมีผู้เข้าประชุม 10 คนขึ้นไป
ดังนั้น ที่ประชุมวันนี้จึงมีการพูดคุยกัน โดยมีการพูดถึงสภาพของการจ้างงาน ที่มีการจ้างลูกจ้างและจ่ายค่าจ้างในอัตรา 400 บาทอยู่จำนวนเท่าไร ผลกระทบต่อแรงงานไทยและแรงงายต่างด้าวอย่างไรบ้าง และหากมีการขึ้นค่าแรง 400 บาท จะมีแรงงานต่างด้าวได้รับผลประโยชน์ประมาณ 1 ล้านคน ส่วนแรงงานไทยได้รับผลประโยชน์ประมาณเกือบ 4 ล้านคน ซึ่งเป็นเพียงการเสนอข้อมูลในที่ประชุมทราบแต่ยังไม่มีการลงมติ
ทั้งนี้ มีการนัดหมายประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 24 ก.ย.นี้ ซึ่งได้มีการโทรสอบถามกันแล้ว หากยังไม่ครบอีกก็จะมีการขยับการประชุมไปอีก แต่คาดว่า จะได้ข้อสรุปและสามารถนำเข้าครม. ประมาณวันที่ 1 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ตนอยากทำให้ทันก่อนเกษียณอายุราชการ ซึ่งตนก็เหลือเวลาอีก 6 วัน เมื่อถามย้ำว่าไม่น่าประกาศใช้ทันวันที่ 1 ต.ค. ใช่หรือไม่ นายไพโรจน์ พยักและตอบว่า “ใช่”
ทั้งนี้ หากหลังวันที่ 30 ก.ย.นี้ไป จะเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ รับผิดชอบเรื่องนี้ หากยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะมีรักษาการปลัดกระทรวงเป็นผู้รับผิดชอบต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีอะไรมากดดัน แต่ละฝ่ายก็มีมุมมองของตัวเอง
ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมนั้น มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนหรือไม่ นายไพโรจน์ กล่าวว่า บางคนแจ้งกระทันหัน 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมา บางคนแจ้งมาล่วงหน้าว่า 1 วันว่าติดภารกิจ ส่วนลูกจ้าง 2 คนที่ไม่ได้เข้าร่วมนั้น แจ้งว่า ติดภารกิจส่วนตัว เพราะถึงจะมีการนัดประชุมล่วงหน้า แต่หากไม่สามารถร่วมการประชุมได้ แล้วส่งผู้แทนมาร่วมประชุม จะไม่สามารถลงมติได้ อยากให้กรรมการตัวจริงมาด้วยตนเอง ดังนั้น การประชุมครั้งหน้าก็จะย้ำไปยังกรรมการตัวจริง
ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าประชุมครั้งนี้เป็นสัดส่วนรัฐบาล มองว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการขึ้นค่าแรง นายไพโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของไตรภาคีในการพิจารณา เมื่อถามย้ำว่า หากเข้าครม.วันที่ 19 ต.ค.ให้มีการปรับเพิ่มค่าจ้างจะขึ้นย้อนหลังให้หรือไม่ นายไพโรจน์ กล่าวว่า อาจจะต้องเบรกและกำหนดวันกันใหม่ ไม่น่าจะย้อนหลัง