สวัสดีค่ะทุกคน เรามีเรื่องที่ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงเกี่ยวกับ 'พ่อ' ของเราค่ะ
ปัญหามี 2 ส่วน เราจะอธิบายให้ดีที่สุด ภายในกระทู้เดียวนะคะ
ส่วนที่ 1
เราอยู่กับพี่สาวพ่อ หรือ ป้า ตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งตอนเด็กอยู่กัน 4 คน พ่อ เรา น้องสาวเรา และป้าค่ะ อาศัยอยู่บ้านป้านะคะ
จนพอผ่านไปหลายปี เราก็แยกย้ายมาอยู่กับป้า 2 คน น้องก็ไปมีชีวิตตัวเอง พ่อก็มีแฟนใหม่
ป้ามาอยู่กับเรา แต่ก็จะกลับบ้านป้าทุกอาทิตย์ พ่อก็ยังแวะเวียนไปบ้านป้าประจำ เพราะบ้านป้าเปิดให้เช่าขายของ
ทีนี้ป้าตั้งใจจะมาอยู่กับเราจริงจัง จึงตัดสินใจขายบ้านและมาซื้อบ้านใหม่อยู่กับเราค่ะ
(ขอเพิ่มเติม พ่อเราฐานะไม่ดีค่ะ ติดเหล้า และ พนัน เรากับพ่อไม่ค่อยสนิทกัน ส่วนน้องสาวก็ตามชีวิตวัยรุ่นแว๊นค่ะ แต่เราคอยช่วยเหลือน้องกับพ่อตลอด ส่วนป้าไม่ค่อยช่วยค่ะ เพราะแกใช้หนี้พนันให้พ่อมาหลายแสนแล้ว รวมถึงดูแลการกินอยู่ พ่อ เรา น้อง ตั้งแต่เด็ก แกเลยไม่อยากช่วยเหลืออีก )
จนผ่านไป 3 ปี หลังจากซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน ป้าเราเกิดอุบัติเหตุสาหัส ติดเตียง ดังนั้นพ่อเราเลยทำเรื่องอนุบาลป้า โดยปรึกษาเพื่อนเค้าที่เป็นทนาย
โดยไม่ผ่านการยินยอมจากเรา เราทราบเรื่องก็ไม่ทันแล้วค่ะ ศาลตัดสินเรียบร้อย ให้ป้าเราเป็นผู้ไร้ความสามารถตามหลักฐาน
เราก็ตกลงกับพ่อว่า จะใช้เงินส่วนตัวทำอะไร นอกเหนือจากรักษาป้า ให้แจ้งเราทุกครั้ง ซึ่งพ่อรับปาก แต่เรามาทราบทีหลังว่าไม่เคยทำตามคำพูดเลย
พ่อถอนเงินป้าไปโดยรวมเป็นจำนวนหลักล้าน ตกเดือนละ 1-3แสน หรือมากกว่านั้น ซึ่งค่ารักษาป้าตามจริง ไม่เกิน 26000ต่อเดือน
(ป้าเราต้องอยู่ศูนย์พักฟื้นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งเราเป็นคนเตรียมการใกล้บ้านเราที่สุด เพื่อที่จะได้ไปหาได้บ่อยๆ เราต้องทำงานทุกวันค่ะ )
เราทราบเรื่องขอเจรจากับพ่อ ยังไม่ได้ตัดสินใจทำอะไร พ่อรับปากว่าจะไม่ทำอีก และขอเราในการใช้เงินป้าเปิด 'ร้านอาหาร คาราโอเกะ' เพื่อที่จะหาเงินคืนป้า ก็คุยกันไปมา ตกลงที่ว่าเปิดด้วยกัน ช่วยกันสร้าง โดยที่เป็นร้านที่เน้นผู้ใหญ่เข้ามาทาน ร้องเพลง เต้นรำกัน หลักจากวางแผน เช่าร้าน ทำทุกอย่าง
ทีมงานจะมี 4 คน โดยมี พ่อ เรา แฟนพ่อ แฟนเรา ช่วยกันทำ หลักจากเปิดร้านเสร็จ พ่อเริ่มไม่ฟังความเห็นเรา แนะนำอะไรไปก็ยึดแต่คำพูดแฟนพ่อ ช่วยอะไรไม่เคยฟัง แต่พอร้านเกิดปัญหาเราต้องแก้ รวมถึง แฟนพ่ออยู่ๆก็มีพฤติกรรมหึงหวงพ่อ กับ พนักงานหญิงในร้านทุกคน ย้ำว่าทุกคน ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ชวนพ่อทะเลาะในร้าน พ่อก็ยอม เราต้องคอยมาเคลียให้ทุกอย่าง ร้านเริ่มแย่ เริ่มแปลก ลูกค้าติเตียน หรือควรปรับปรุงอะไร พ่อเราไม่เคยสนใจฟังแต่แฟนแกอย่างเดียว (พ่อจ้างแฟนให้ทำงานในร้านในตำแหน่งที่เงินสูงที่สุด) แต่ลูกอย่างเราไม่เคยได้อะไรเลย ช่วยด้วยใจ ทำด้วยใจ แต่สิ่งที่เสนอโดนปัดตกหมด
แต่ที่พีคคือ เรามาทราบทีหลัง (อีกแล้ว) ว่าพ่อยังแอบถอนเงินป้าออกไปจำนวนมาก ที่ไม่เกี่ยวกับร้าน กำไรร้านไม่เคยเข้าบัญชีป้า มีแต่ถอน ถอน ถอน ออกมาเรื่อยๆ และ ทราบอีกว่า ถอนให้ลูกติด ถอนให้แฟนเก่า ถอนให้คนนู้นคนนี้ยืม ไปทั่ว!!! เรารับไม่ได้ค่ะ สงสารป้ามากๆ ใจมันสั่นไปหมด สุดท้ายเราตัดสินใจบอกกับป้า(ช่วงทำร้านกับพ่อป้าเราอาการดีขึ้นมากค่ะ เหลือแค่การเดินทรงตัว) ตอนแรกไม่อยากบอกเพราะคิดว่าพ่อจะต้องดีขึ้นและหาเงินมาคืนในบัญชีป้าได้บ้าง กลัวป้าแกช็อคค่ะ แต่พอเราตัดสินใจบอก ป้าขอให้เราจัดการเรื่องทนาย หลักฐานทุกอย่าง สุดท้ายก็ยื่นเรื่องต่อศาล และระหว่างนั้นที่รอวันไตร่สวน เราช่วยร้านเต็มที่ เราคิดแล้วว่าถ้าชนะขึ้นมาพ่อต้องโกรธเรามากๆ เราไม่อยากมีปัญหากับพ่อตัวเองอีกแล้วค่ะ (ลึกๆในครอบครัว เรามีปัญหากับพ่อมามากพอแล้วค่ะ เพิ่งจะมาคุยกันรู้เรื่องช่วงปี 2566) เครียด จะบ้า ร้องไห้ทุกคืน จนถึงวันไตร่สวน ศาลท่านเห็นป้เราก็ทราบเลยว่าไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถอีกต่อไป จึงสั่งยกเลิกผู้อนุบาลค่ะ หลังจากนั้นพ่อเราโวยวาย ตามที่คิดเลยค่ะ เราพยายามประณีประนอม บอกว่าจะช่วยร้านต่อ เราทำด้วยกันนะพ่อ เราไปต่อด้วยกัน พ่อไม่ต้องอยู่ด้วยเงินอนุบาลของป้าแล้วได้ไหม สรุป พ่อเราใช้เงินป้าไป 5 ล้านกว่าค่ะ ภายใน2-3ปี พ่อก็ไม่ฟังค่ะ จะขอต่อรองเอาเงินก้อน จะให้เราเซ้งร้านคืนเอาเงินให้เค้า เราได้ฟังแบบนี้ เราไม่ไหวแล้วค่ะ เราหยุดคุยกับเค้า และเงียบเลย แต่ผ่านไป 2 วัน เหมือนแกรู้ว่าร้านต้องไปต่อ ก็มาคุยดีกับเรา ของเงินเราซื้อของเข้าร้าน พยายามขอให้เราไกล่เกลี่ยกับป้าขอเงินก้อน ซึ่งตามจริง ป้าจะให้เราแจ้งยักยอกทรัพย์พ่อ แต่เราขอไว้ อีกใจป้าก็สงสารน้องชายตัวเอง แต่อีกใจก็แค้นค่ะ เงินหายไป 5 ล้านกว่า ไม่รวมค่ารักษา แต่รวมค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน ขอจบส่วนที่ 1
ส่วนที่ 2
หลังจากเราเอาเงินป้าคืนป้ามาได้ ก็ลุยทำร้านต่อ โดยใช้เงินเราซัพพอร์ตร้าน ซึ่งเราก็งงว่ายอดขายที่เคยขายได้มา มันหายไปไหนหมด ทำไมพอมันไม่มีเงินป้าแล้วมันถึงไม่มีเงินขนาดนี้ เราซัพพอร์ตไป 3 หมื่น ได้กำไรก็ยังขอเราอีกเรื่อยๆ คือทุนมันไปไหนหมด สรุปคือ พ่อไม่ยอมจม อยากมีเงินติดบัญชีเยอะๆ จึงไม่ลงกับร้านเลย ได้เท่าไหร่เก็บหมด และขอเราเรื่อยๆ แจ้งก่อนว่าเรามีงานประจำของเรา เราให้พ่อดูแลร้านเลย เราจะคอยเป็นการตลาดให้ และเข้าร้านเกือบทุกวัน จริงๆมันติดขัดในใจแต่เราพอยอมได้ค่ะ แต่ๆๆๆ มันเริ่มเดินยากขึ้นเพราะแฟนพ่อเหมือนคอยกำกับพ่อทุกอย่าง เพื่อนๆจำได้ไหมคะ ด้านบนที่เราแจ้งนิสัยแปลกๆของแฟนพ่อ ขี้หึง หวงพ่อ โวยวาย พ่อเราคุยกับลูกน้องแทบไม่ได้ ต้องโดนด่าโดนว่า ซึ่งเรื่องพวกนี้มันเกิดมาหลายครั้ง เราเคลียทุกครั้ง แต่มันเป็นเรื่องส่วนตัว เราเลยปล่อยผ่าน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วค่ะ มันทำให้ลูกน้องในร้านอยากลาออก อยู่ไม่ได้ ระบบร้านแย่ เจ้าของร้านกับเมียตีกันในร้านทุกวันไม่ไว้หน้าเรา ทะเลาะกันทีไร แฟนพ่อขอลาออก ออกไปได้1วัน ก็กลับมาใหม่ แล้วหน้าที่ของแฟนพ่อที่เธอทิ้งไป เด็กในร้านก็ต้องมาทำ โดยที่พ่อไม่ให้ค่าจ้างเพิ่ม และฟางเส้นสุดท้ายของเราก็ขาดค่ะ วันนั้นเราเลิกงานและเข้าร้านไปทานอาหารกับดูแลความเรียบร้อย ช่วงที่ลูกค้าโต๊ะสุดท้ายกำลังออก แฟนพ่อเธอก็แผลงฤทธิ์เลยค่ะ โวยวายตีโพยตีพาย จนสุดท้ายตีกัน เราทนไม่ไหวเลยว่าให้ไปทีนึง แฟนพ่อเธอก็บอกว่าจะออก พ่อก็บอกว่าจะเลิก (รอบที่ล้าน) เราเลยบอกว่านี่คือครั้งสุดท้าย ' หนูจะไม่ขอยุ่งกับร้านอีกถ้าหากพ่อเอามันกลับมาทำงาน พ่อเป็นอะไร พ่อไม่เคยเป็นแบบนี้ พ่อเป็นหัวหน้าคน ทำไมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ หนูไม่ทนแล้ว น้าจะออก ออกเลย แล้วอย่ากลับมาอีก ' เรื่องก็จบลงวันนั้น พ่อขอเงินเราในการย้ายที่พักจากบ้านแฟนไปเช่าอยู่ที่อื่น แต่ตอนี้คงไปนอนโรงแรมก่อน เราก็โอเคค่ะ ยอม แต่ทำข้อตกลงกับพ่อว่า ให้เวลา 5 วัน พ่อจะคบกันต่อเป็นเรื่องของพ่อ แต่ถ้าพ่อยังเอาผู้หญิงคนนี้กลับมาทำงานในร้าน หนูไม่ขอยุ่งแล้ว พ่อเราก็ตกลงรับปากดิบดี สุดท้ายค่ะ ตอนจบ ผ่านไป2วัน พ่อเราทักไลน์มา ' พ่อขอให้แฟนพ่อกลับมาทำงาน น้าเค้าสัญญากับพ่อแล้วว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก (รอบที่ล้าน) ขอให้เราเข้าใจ ใกล้วันเกิดพ่อแล้วพ่อขอเรื่องนี้เป็นของขวัญวันเกิดพ่อนะ และถ้าพ่อมีอะไรติดขัด หนูก็ช่วยพ่อต่อนะ ' เรายอมรับเลยค่ะ เราโมโหมากๆ ฟิวขาด อะไรจะเอาแต่ได้แบบนี้ ไม่คิดถึงลูกก็คิดถึงร้านบ้าง ร้านจะอยู่ไม่ได้แล้ว เราตัดสินใจบล็อคพ่อทุกทาง ไม่ขออยุ่งเกี่ยวกับร้านนี้แล้ว อยากทำอะไรทำกันเลย ในเมื่อที่ผ่านมาไม่เคยฟังความเห็นเรา ฟังแต่เมีย เวลาร้านเกิดเรื่องก็เรา ติดขัดเงินก็เรา เจรจาลูกน้องก็เรา แต่เจ้าของร้านไม่พิจารณาปัญหาที่เกิด ปล่อยละเลย เอาแต่ตัวเอง เราจึงตัดสินใจ จบค่ะ
แต่แล้วพ่อก็พยายามติดต่อน้องสาวเรา ให้มาคุยกับเรา เรื่องเงินให้ช่วยร้าน ถ้าไม่ช่วยก็จะเอาสมบัติที่ใช้เงินป้าซื้อไปวางเล่ม ไปติดไฟแนนซ์ สร้างหนี้เหมืนเดิม
กระทู้นี้ เราคิดหัวข้อไม่ออกจริงๆค่ะ แต่เราอยากทราบว่า ถ้าเพื่อนๆที่สละเวลามาอ่านจนจบ เพื่อนๆเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆจะทำยังไงดีคะ
ปล.1 พ่อไม่ยอมคืนร้านให้เราบริหาร (ข้อต่อรองเราคือเราบริหาร พ่อดูแลในส่วนที่ไหว)
ปล. 2 พ่อมีแววจะเซ้งร้าน ซึ่งร้านนี้เป็นเงินป้า ที่ใช้เปิด ป้ากับเราไม่ยอม
ปล. 3 ป้าอยากให้แจ้งยักยอกทรัพย์ เพื่อเอาร้านคืน และเอาผิดพ่อ
เราควรจะเริ่มยังไงดีคะ ตอนนี้ตันไปหมด และเริ่มเศร้ากับเรื่องนี้ขึ้นทุกวันค่ะ เรายังห่วงร้าน และห่วงพ่อค่ะ ไม่อยากให้สร้างหนี้ อยากให้แกหยุดสักที ไม่งั้นพังกันหมด
ขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยนะคะ
ปัญหาที่เรายากจะแก้ไข เกี่ยวกับพ่อ และกิจการของเรา ช่วยทีค่ะเพื่อนๆ จนปัญญาแล้วค่ะ
ปัญหามี 2 ส่วน เราจะอธิบายให้ดีที่สุด ภายในกระทู้เดียวนะคะ
ส่วนที่ 1
เราอยู่กับพี่สาวพ่อ หรือ ป้า ตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งตอนเด็กอยู่กัน 4 คน พ่อ เรา น้องสาวเรา และป้าค่ะ อาศัยอยู่บ้านป้านะคะ
จนพอผ่านไปหลายปี เราก็แยกย้ายมาอยู่กับป้า 2 คน น้องก็ไปมีชีวิตตัวเอง พ่อก็มีแฟนใหม่
ป้ามาอยู่กับเรา แต่ก็จะกลับบ้านป้าทุกอาทิตย์ พ่อก็ยังแวะเวียนไปบ้านป้าประจำ เพราะบ้านป้าเปิดให้เช่าขายของ
ทีนี้ป้าตั้งใจจะมาอยู่กับเราจริงจัง จึงตัดสินใจขายบ้านและมาซื้อบ้านใหม่อยู่กับเราค่ะ
(ขอเพิ่มเติม พ่อเราฐานะไม่ดีค่ะ ติดเหล้า และ พนัน เรากับพ่อไม่ค่อยสนิทกัน ส่วนน้องสาวก็ตามชีวิตวัยรุ่นแว๊นค่ะ แต่เราคอยช่วยเหลือน้องกับพ่อตลอด ส่วนป้าไม่ค่อยช่วยค่ะ เพราะแกใช้หนี้พนันให้พ่อมาหลายแสนแล้ว รวมถึงดูแลการกินอยู่ พ่อ เรา น้อง ตั้งแต่เด็ก แกเลยไม่อยากช่วยเหลืออีก )
จนผ่านไป 3 ปี หลังจากซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน ป้าเราเกิดอุบัติเหตุสาหัส ติดเตียง ดังนั้นพ่อเราเลยทำเรื่องอนุบาลป้า โดยปรึกษาเพื่อนเค้าที่เป็นทนาย
โดยไม่ผ่านการยินยอมจากเรา เราทราบเรื่องก็ไม่ทันแล้วค่ะ ศาลตัดสินเรียบร้อย ให้ป้าเราเป็นผู้ไร้ความสามารถตามหลักฐาน
เราก็ตกลงกับพ่อว่า จะใช้เงินส่วนตัวทำอะไร นอกเหนือจากรักษาป้า ให้แจ้งเราทุกครั้ง ซึ่งพ่อรับปาก แต่เรามาทราบทีหลังว่าไม่เคยทำตามคำพูดเลย
พ่อถอนเงินป้าไปโดยรวมเป็นจำนวนหลักล้าน ตกเดือนละ 1-3แสน หรือมากกว่านั้น ซึ่งค่ารักษาป้าตามจริง ไม่เกิน 26000ต่อเดือน
(ป้าเราต้องอยู่ศูนย์พักฟื้นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งเราเป็นคนเตรียมการใกล้บ้านเราที่สุด เพื่อที่จะได้ไปหาได้บ่อยๆ เราต้องทำงานทุกวันค่ะ )
เราทราบเรื่องขอเจรจากับพ่อ ยังไม่ได้ตัดสินใจทำอะไร พ่อรับปากว่าจะไม่ทำอีก และขอเราในการใช้เงินป้าเปิด 'ร้านอาหาร คาราโอเกะ' เพื่อที่จะหาเงินคืนป้า ก็คุยกันไปมา ตกลงที่ว่าเปิดด้วยกัน ช่วยกันสร้าง โดยที่เป็นร้านที่เน้นผู้ใหญ่เข้ามาทาน ร้องเพลง เต้นรำกัน หลักจากวางแผน เช่าร้าน ทำทุกอย่าง
ทีมงานจะมี 4 คน โดยมี พ่อ เรา แฟนพ่อ แฟนเรา ช่วยกันทำ หลักจากเปิดร้านเสร็จ พ่อเริ่มไม่ฟังความเห็นเรา แนะนำอะไรไปก็ยึดแต่คำพูดแฟนพ่อ ช่วยอะไรไม่เคยฟัง แต่พอร้านเกิดปัญหาเราต้องแก้ รวมถึง แฟนพ่ออยู่ๆก็มีพฤติกรรมหึงหวงพ่อ กับ พนักงานหญิงในร้านทุกคน ย้ำว่าทุกคน ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ชวนพ่อทะเลาะในร้าน พ่อก็ยอม เราต้องคอยมาเคลียให้ทุกอย่าง ร้านเริ่มแย่ เริ่มแปลก ลูกค้าติเตียน หรือควรปรับปรุงอะไร พ่อเราไม่เคยสนใจฟังแต่แฟนแกอย่างเดียว (พ่อจ้างแฟนให้ทำงานในร้านในตำแหน่งที่เงินสูงที่สุด) แต่ลูกอย่างเราไม่เคยได้อะไรเลย ช่วยด้วยใจ ทำด้วยใจ แต่สิ่งที่เสนอโดนปัดตกหมด
แต่ที่พีคคือ เรามาทราบทีหลัง (อีกแล้ว) ว่าพ่อยังแอบถอนเงินป้าออกไปจำนวนมาก ที่ไม่เกี่ยวกับร้าน กำไรร้านไม่เคยเข้าบัญชีป้า มีแต่ถอน ถอน ถอน ออกมาเรื่อยๆ และ ทราบอีกว่า ถอนให้ลูกติด ถอนให้แฟนเก่า ถอนให้คนนู้นคนนี้ยืม ไปทั่ว!!! เรารับไม่ได้ค่ะ สงสารป้ามากๆ ใจมันสั่นไปหมด สุดท้ายเราตัดสินใจบอกกับป้า(ช่วงทำร้านกับพ่อป้าเราอาการดีขึ้นมากค่ะ เหลือแค่การเดินทรงตัว) ตอนแรกไม่อยากบอกเพราะคิดว่าพ่อจะต้องดีขึ้นและหาเงินมาคืนในบัญชีป้าได้บ้าง กลัวป้าแกช็อคค่ะ แต่พอเราตัดสินใจบอก ป้าขอให้เราจัดการเรื่องทนาย หลักฐานทุกอย่าง สุดท้ายก็ยื่นเรื่องต่อศาล และระหว่างนั้นที่รอวันไตร่สวน เราช่วยร้านเต็มที่ เราคิดแล้วว่าถ้าชนะขึ้นมาพ่อต้องโกรธเรามากๆ เราไม่อยากมีปัญหากับพ่อตัวเองอีกแล้วค่ะ (ลึกๆในครอบครัว เรามีปัญหากับพ่อมามากพอแล้วค่ะ เพิ่งจะมาคุยกันรู้เรื่องช่วงปี 2566) เครียด จะบ้า ร้องไห้ทุกคืน จนถึงวันไตร่สวน ศาลท่านเห็นป้เราก็ทราบเลยว่าไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถอีกต่อไป จึงสั่งยกเลิกผู้อนุบาลค่ะ หลังจากนั้นพ่อเราโวยวาย ตามที่คิดเลยค่ะ เราพยายามประณีประนอม บอกว่าจะช่วยร้านต่อ เราทำด้วยกันนะพ่อ เราไปต่อด้วยกัน พ่อไม่ต้องอยู่ด้วยเงินอนุบาลของป้าแล้วได้ไหม สรุป พ่อเราใช้เงินป้าไป 5 ล้านกว่าค่ะ ภายใน2-3ปี พ่อก็ไม่ฟังค่ะ จะขอต่อรองเอาเงินก้อน จะให้เราเซ้งร้านคืนเอาเงินให้เค้า เราได้ฟังแบบนี้ เราไม่ไหวแล้วค่ะ เราหยุดคุยกับเค้า และเงียบเลย แต่ผ่านไป 2 วัน เหมือนแกรู้ว่าร้านต้องไปต่อ ก็มาคุยดีกับเรา ของเงินเราซื้อของเข้าร้าน พยายามขอให้เราไกล่เกลี่ยกับป้าขอเงินก้อน ซึ่งตามจริง ป้าจะให้เราแจ้งยักยอกทรัพย์พ่อ แต่เราขอไว้ อีกใจป้าก็สงสารน้องชายตัวเอง แต่อีกใจก็แค้นค่ะ เงินหายไป 5 ล้านกว่า ไม่รวมค่ารักษา แต่รวมค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน ขอจบส่วนที่ 1
ส่วนที่ 2
หลังจากเราเอาเงินป้าคืนป้ามาได้ ก็ลุยทำร้านต่อ โดยใช้เงินเราซัพพอร์ตร้าน ซึ่งเราก็งงว่ายอดขายที่เคยขายได้มา มันหายไปไหนหมด ทำไมพอมันไม่มีเงินป้าแล้วมันถึงไม่มีเงินขนาดนี้ เราซัพพอร์ตไป 3 หมื่น ได้กำไรก็ยังขอเราอีกเรื่อยๆ คือทุนมันไปไหนหมด สรุปคือ พ่อไม่ยอมจม อยากมีเงินติดบัญชีเยอะๆ จึงไม่ลงกับร้านเลย ได้เท่าไหร่เก็บหมด และขอเราเรื่อยๆ แจ้งก่อนว่าเรามีงานประจำของเรา เราให้พ่อดูแลร้านเลย เราจะคอยเป็นการตลาดให้ และเข้าร้านเกือบทุกวัน จริงๆมันติดขัดในใจแต่เราพอยอมได้ค่ะ แต่ๆๆๆ มันเริ่มเดินยากขึ้นเพราะแฟนพ่อเหมือนคอยกำกับพ่อทุกอย่าง เพื่อนๆจำได้ไหมคะ ด้านบนที่เราแจ้งนิสัยแปลกๆของแฟนพ่อ ขี้หึง หวงพ่อ โวยวาย พ่อเราคุยกับลูกน้องแทบไม่ได้ ต้องโดนด่าโดนว่า ซึ่งเรื่องพวกนี้มันเกิดมาหลายครั้ง เราเคลียทุกครั้ง แต่มันเป็นเรื่องส่วนตัว เราเลยปล่อยผ่าน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วค่ะ มันทำให้ลูกน้องในร้านอยากลาออก อยู่ไม่ได้ ระบบร้านแย่ เจ้าของร้านกับเมียตีกันในร้านทุกวันไม่ไว้หน้าเรา ทะเลาะกันทีไร แฟนพ่อขอลาออก ออกไปได้1วัน ก็กลับมาใหม่ แล้วหน้าที่ของแฟนพ่อที่เธอทิ้งไป เด็กในร้านก็ต้องมาทำ โดยที่พ่อไม่ให้ค่าจ้างเพิ่ม และฟางเส้นสุดท้ายของเราก็ขาดค่ะ วันนั้นเราเลิกงานและเข้าร้านไปทานอาหารกับดูแลความเรียบร้อย ช่วงที่ลูกค้าโต๊ะสุดท้ายกำลังออก แฟนพ่อเธอก็แผลงฤทธิ์เลยค่ะ โวยวายตีโพยตีพาย จนสุดท้ายตีกัน เราทนไม่ไหวเลยว่าให้ไปทีนึง แฟนพ่อเธอก็บอกว่าจะออก พ่อก็บอกว่าจะเลิก (รอบที่ล้าน) เราเลยบอกว่านี่คือครั้งสุดท้าย ' หนูจะไม่ขอยุ่งกับร้านอีกถ้าหากพ่อเอามันกลับมาทำงาน พ่อเป็นอะไร พ่อไม่เคยเป็นแบบนี้ พ่อเป็นหัวหน้าคน ทำไมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ หนูไม่ทนแล้ว น้าจะออก ออกเลย แล้วอย่ากลับมาอีก ' เรื่องก็จบลงวันนั้น พ่อขอเงินเราในการย้ายที่พักจากบ้านแฟนไปเช่าอยู่ที่อื่น แต่ตอนี้คงไปนอนโรงแรมก่อน เราก็โอเคค่ะ ยอม แต่ทำข้อตกลงกับพ่อว่า ให้เวลา 5 วัน พ่อจะคบกันต่อเป็นเรื่องของพ่อ แต่ถ้าพ่อยังเอาผู้หญิงคนนี้กลับมาทำงานในร้าน หนูไม่ขอยุ่งแล้ว พ่อเราก็ตกลงรับปากดิบดี สุดท้ายค่ะ ตอนจบ ผ่านไป2วัน พ่อเราทักไลน์มา ' พ่อขอให้แฟนพ่อกลับมาทำงาน น้าเค้าสัญญากับพ่อแล้วว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก (รอบที่ล้าน) ขอให้เราเข้าใจ ใกล้วันเกิดพ่อแล้วพ่อขอเรื่องนี้เป็นของขวัญวันเกิดพ่อนะ และถ้าพ่อมีอะไรติดขัด หนูก็ช่วยพ่อต่อนะ ' เรายอมรับเลยค่ะ เราโมโหมากๆ ฟิวขาด อะไรจะเอาแต่ได้แบบนี้ ไม่คิดถึงลูกก็คิดถึงร้านบ้าง ร้านจะอยู่ไม่ได้แล้ว เราตัดสินใจบล็อคพ่อทุกทาง ไม่ขออยุ่งเกี่ยวกับร้านนี้แล้ว อยากทำอะไรทำกันเลย ในเมื่อที่ผ่านมาไม่เคยฟังความเห็นเรา ฟังแต่เมีย เวลาร้านเกิดเรื่องก็เรา ติดขัดเงินก็เรา เจรจาลูกน้องก็เรา แต่เจ้าของร้านไม่พิจารณาปัญหาที่เกิด ปล่อยละเลย เอาแต่ตัวเอง เราจึงตัดสินใจ จบค่ะ
แต่แล้วพ่อก็พยายามติดต่อน้องสาวเรา ให้มาคุยกับเรา เรื่องเงินให้ช่วยร้าน ถ้าไม่ช่วยก็จะเอาสมบัติที่ใช้เงินป้าซื้อไปวางเล่ม ไปติดไฟแนนซ์ สร้างหนี้เหมืนเดิม
กระทู้นี้ เราคิดหัวข้อไม่ออกจริงๆค่ะ แต่เราอยากทราบว่า ถ้าเพื่อนๆที่สละเวลามาอ่านจนจบ เพื่อนๆเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆจะทำยังไงดีคะ
ปล.1 พ่อไม่ยอมคืนร้านให้เราบริหาร (ข้อต่อรองเราคือเราบริหาร พ่อดูแลในส่วนที่ไหว)
ปล. 2 พ่อมีแววจะเซ้งร้าน ซึ่งร้านนี้เป็นเงินป้า ที่ใช้เปิด ป้ากับเราไม่ยอม
ปล. 3 ป้าอยากให้แจ้งยักยอกทรัพย์ เพื่อเอาร้านคืน และเอาผิดพ่อ
เราควรจะเริ่มยังไงดีคะ ตอนนี้ตันไปหมด และเริ่มเศร้ากับเรื่องนี้ขึ้นทุกวันค่ะ เรายังห่วงร้าน และห่วงพ่อค่ะ ไม่อยากให้สร้างหนี้ อยากให้แกหยุดสักที ไม่งั้นพังกันหมด
ขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยนะคะ