ยังไม่หยุด พายุ จากเวียดนาม เข้าลาว มาถึง นครพนม กลางดึก เตือนคืน 19 ก.ย.ฝนหนักแน่
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4797394
ยังไม่หยุด พายุ จากเวียดนาม เข้าลาว มาถึง นครพนม กลางดึก เตือนคืน 19 ก.ย.ฝนหนักแน่
วันที่ 18 กันยายน นาย
ศศิน เฉลิมลาภ นักธรณีวิทยา และนักวิชาการอิสระ ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ว่า พายุซูริค ที่มาจากประเทศฟิลิปปินส์ นั้นเดิมทีคาดว่า ไม่น่าจะแรง และส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก แต่หลังจากพิจารณา จากแผนที่แล้ว พายุน่าจะมาเร็วและแรงมากกว่าที่ คาดการณ์ไว้เยอะ โดยเวลานี้ พายุกำลังปั่นอยู่ที่ประเทศเวียดนาม โดยพยายามขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม และจะอ่อนกำลังกลายพายุดีเปรสชั่น จากนั้น จะเข้าไปที่ประเทศลาวตอนใต้ โดยฝนจะตกหนักมากที่คอนพะเพ็ง
“
จากนั้น ตกดึกของคืนวันที่ 19 กันยายน ก็จะเข้ามาแตะที่ จ.นครพนม ทั้งนี้ หากพายุหมดพลังที่ ลาว ก็ไม่มีปัญหา แต่เราก็ไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร เบื้องต้น คือ คาดว่า จะเข้ามาที่ จ.นครพนม และแถบอีสานเหนือ คือ แถว อุบลราชธานี สกลนคร หนองคาย บุงกาฬ จุดที่น่าเป็นห่วงคือ เลย เพชรบูรณ์ พื้นที่ภูเขาสูง แหล่งท่องเที่ยว เช่น น้ำหนาว ภูหินร่องกล้า ทุ่งแสลงหลวง และประมาณ วันที่ 20 กันยายน ช่วงเย็นๆพายุ จะวกเข้าพื้นที่ พิษณุโลก สวรรคโลก น้ำจะลงที่ ตามแม่น้ำยม ลงไปที่ทุ่ง พิจิตร ซึ่งตรงนี้ แม้ว่ามีแก่งเสือเต้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะฝนจะตกใต้เขื่อน” นาย
ศศิน กล่าว
นาย
ศศิน กล่าวว่า พายุลูกนี้จะ หมดฤทธ์ วันที่ 21-22 กันยายน ซึ่งตรงกับวันเสาร์ อาทิตย์ ทั้งนี้ สองวันนี้ ขอให้ทุกคน ต้องเชื่อประกาศ ทั้งของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ อย่างไรก็ตาม หน่วยงาน อย่ามัวแต่ดูหัวพายุ เพราะหางมันดึงฝนมาทางฝั่งอันดามันหนักแน่ โดยเฉพาะภูเก็ต พังงา ระนอง ฉ่ำมาหลายวันแล้วเจอห่านี้มีความเป็นไปได้สูงว่าเจอกับดินถล่ม โคลนไหลทันที หางมันยังพาด มาหาภาคตะวันออกชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และพาดมานครนายก เขาใหญ่ เขื่อนขุนด่าน น่าต้องเฝ้าสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด
“
ทั้งนี้ แต่ละจังหวัดต้องมอบหมายให้อำเภอต่างๆตามเฉดสีเหลืองนี้เตรียมแผนเผชิญเหตุนะครับ ไม่ใช่แค่เฝ้าระวัง เพราะไม่รู้ว่าจะระวังอย่างไร ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์น่าจะเป็นคิวที่น้ำจะลงมาทางเมืองเพชรบูรณ์ สุโขทัยและพิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ ต้องระวังน้ำล้นแม่น้ำป่าสักช่วงเหนือเขื่อนป่าสัก น้ำน่าน น้ำยม ช่วงพิษณุโลก และทุ่งพิจิตร ต้องระวังพิเศษ ต่อมาก็คงลงบึงบรเพ็ด ซึ่งต้องติดตามอาทิตย์หน้าว่าจะมีผลต่อภาคกลางหรือไม่” นาย
ศศิน กล่าว
ยกของขึ้นที่สูงด่วน! กรมชลฯ เตือนพื้นที่ 11 จว.รวม กทม. รับมือน้ำท่วมฉับพลัน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9418029
กรมชลประทาน ออกประกาศเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 8 กำชับพื้นที่ 11 จังหวัด รวมกรุงเทพฯ เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
เดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 8 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง
พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้มีปริมาณฝนตกมากขึ้น
จากการคาดการณ์ โดยกรมชลประทาน ใน 1-7 วันข้างหน้า โดยในวันที่ 24 ก.ย. 2567 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,500-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำ SideFlow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังประมาณ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทางกรมชลประทาน ได้ผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตก ในอัตรา 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทาน จำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยจะระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ส่งผลทำให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 60 เซนติเมตร – 1 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และที่บริเวณแม่น้ำน้อย ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่
จ.พระนครศรีอยุธยา อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
รายงานสถานการ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา วันที่ 18 ก.ย.67 เวลา 07.00 น.
สถานี C2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,115 ลบ.ม./วินาที
สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีอัตราการระบายน้ำลงสู่ทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,099 ลบ.ม/วินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,114 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเข้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
พรรคประชาชน ยันไม่ใช่พรรคปฏิวัติ คิดเปลี่ยนการปกครอง ชี้ถูกตีตราให้ร้าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4797500
พรรคประชาชน ยันไม่ใช่พรรคปฏิวัติ คิดเปลี่ยนการปกครอง ชี้ถูกตีตราให้ร้าย
พรรคประชาชน – วันที่ 18 กันยายน ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรค ปชน. พ่ายแพ้การเลือกตั้ง สส.พิษณุโลก เขต 1 แก่พรรคเพื่อไทย ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเพราะการปราศรัยของส.ส.คนหนึ่งที่ระบุว่า จะให้นำค่ายทหารในจังหวัดมาเป็นที่ทิ้งขยะ จนทำให้ฐานเสียงเกิดความไม่สบายใจ ว่า เรื่องผลการเลือกตั้งเราไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเพราะประเด็นหนึ่งของทั้งหมดได้ เชื่อว่าประชาชนมีปัจจัยแตกต่างกัน ส่วนข้อกังวลนโยบายเรื่องการบริหารจัดการขยะ เราได้รับทราบข้อมูลมา ซึ่งทีมงานของผู้สมัครสส.เขต 1 ได้ชี้แจงไปแล้ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นาย
จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงพรรค ปชน.เป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิวัติ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันเป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิรูป นาย
พริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน การที่นิยามว่าพรรค ปชน. คือพรรคปฏิวัตินั้น ตนมองว่าการนิยามคำว่าปฏิวัติ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะตีความ
หากตีความว่าเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง พรรค ปชน. ก็ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาเช่นนั้น แต่หากยอมรับว่าบางปัญหาในประเทศ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งการศึกษา ปฏิรูประบบราชการ การกระจายอำนาจ ก็ไม่ปฏิเสธว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การนิยามว่าพรรครัฐบาลเป็นพรรคปฏิรูป ตนขอตั้งคำถามย้อนกลับไปว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตนยังไม่เห็นการปฏิรูปโครงสร้างอะไรอย่างเป็นรูปธรรมเลย แม้แต่การปฏิรูปกองทัพ จะใช้คำนี้ยังถูกตำหนิเพราะให้ใช้คำว่าพัฒนาร่วมกันแทน
นาย
พริษฐ์ กล่าวว่า ฝ่ายที่ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงมักจะพยายามใช้วิธีการตีตราฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นพวกสุดโต่ง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราเผชิญตั้งแต่ปี 66 ซึ่งจะเห็นว่าไม่ได้ผล เพราะอดีตพรรคก้าวไกล ได้รับความไว้วางใจในการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ดังนั้น ก็ไม่อยากเห็นการใช้ยุทธศาสตร์แบบนี้ เพื่อขีดขวางการเปลี่ยนแปลง.
JJNY : เตือนคืน 19ก.ย.ฝนหนักแน่│ยกของขึ้นที่สูงด่วน! กรมชลฯเตือน│เตือนปชน.ชี้ถูกตีตราให้ร้าย│รัสเซียพร้อมทดสอบนิวเคลียร์
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4797394
ยังไม่หยุด พายุ จากเวียดนาม เข้าลาว มาถึง นครพนม กลางดึก เตือนคืน 19 ก.ย.ฝนหนักแน่
วันที่ 18 กันยายน นายศศิน เฉลิมลาภ นักธรณีวิทยา และนักวิชาการอิสระ ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ว่า พายุซูริค ที่มาจากประเทศฟิลิปปินส์ นั้นเดิมทีคาดว่า ไม่น่าจะแรง และส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก แต่หลังจากพิจารณา จากแผนที่แล้ว พายุน่าจะมาเร็วและแรงมากกว่าที่ คาดการณ์ไว้เยอะ โดยเวลานี้ พายุกำลังปั่นอยู่ที่ประเทศเวียดนาม โดยพยายามขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม และจะอ่อนกำลังกลายพายุดีเปรสชั่น จากนั้น จะเข้าไปที่ประเทศลาวตอนใต้ โดยฝนจะตกหนักมากที่คอนพะเพ็ง
“จากนั้น ตกดึกของคืนวันที่ 19 กันยายน ก็จะเข้ามาแตะที่ จ.นครพนม ทั้งนี้ หากพายุหมดพลังที่ ลาว ก็ไม่มีปัญหา แต่เราก็ไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร เบื้องต้น คือ คาดว่า จะเข้ามาที่ จ.นครพนม และแถบอีสานเหนือ คือ แถว อุบลราชธานี สกลนคร หนองคาย บุงกาฬ จุดที่น่าเป็นห่วงคือ เลย เพชรบูรณ์ พื้นที่ภูเขาสูง แหล่งท่องเที่ยว เช่น น้ำหนาว ภูหินร่องกล้า ทุ่งแสลงหลวง และประมาณ วันที่ 20 กันยายน ช่วงเย็นๆพายุ จะวกเข้าพื้นที่ พิษณุโลก สวรรคโลก น้ำจะลงที่ ตามแม่น้ำยม ลงไปที่ทุ่ง พิจิตร ซึ่งตรงนี้ แม้ว่ามีแก่งเสือเต้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะฝนจะตกใต้เขื่อน” นายศศิน กล่าว
นายศศิน กล่าวว่า พายุลูกนี้จะ หมดฤทธ์ วันที่ 21-22 กันยายน ซึ่งตรงกับวันเสาร์ อาทิตย์ ทั้งนี้ สองวันนี้ ขอให้ทุกคน ต้องเชื่อประกาศ ทั้งของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ อย่างไรก็ตาม หน่วยงาน อย่ามัวแต่ดูหัวพายุ เพราะหางมันดึงฝนมาทางฝั่งอันดามันหนักแน่ โดยเฉพาะภูเก็ต พังงา ระนอง ฉ่ำมาหลายวันแล้วเจอห่านี้มีความเป็นไปได้สูงว่าเจอกับดินถล่ม โคลนไหลทันที หางมันยังพาด มาหาภาคตะวันออกชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และพาดมานครนายก เขาใหญ่ เขื่อนขุนด่าน น่าต้องเฝ้าสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด
“ทั้งนี้ แต่ละจังหวัดต้องมอบหมายให้อำเภอต่างๆตามเฉดสีเหลืองนี้เตรียมแผนเผชิญเหตุนะครับ ไม่ใช่แค่เฝ้าระวัง เพราะไม่รู้ว่าจะระวังอย่างไร ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์น่าจะเป็นคิวที่น้ำจะลงมาทางเมืองเพชรบูรณ์ สุโขทัยและพิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ ต้องระวังน้ำล้นแม่น้ำป่าสักช่วงเหนือเขื่อนป่าสัก น้ำน่าน น้ำยม ช่วงพิษณุโลก และทุ่งพิจิตร ต้องระวังพิเศษ ต่อมาก็คงลงบึงบรเพ็ด ซึ่งต้องติดตามอาทิตย์หน้าว่าจะมีผลต่อภาคกลางหรือไม่” นายศศิน กล่าว
ยกของขึ้นที่สูงด่วน! กรมชลฯ เตือนพื้นที่ 11 จว.รวม กทม. รับมือน้ำท่วมฉับพลัน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9418029
กรมชลประทาน ออกประกาศเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 8 กำชับพื้นที่ 11 จังหวัด รวมกรุงเทพฯ เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 8 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง
พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้มีปริมาณฝนตกมากขึ้น
จากการคาดการณ์ โดยกรมชลประทาน ใน 1-7 วันข้างหน้า โดยในวันที่ 24 ก.ย. 2567 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,500-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำ SideFlow ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมกับคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังประมาณ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทางกรมชลประทาน ได้ผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งตะวันออก และตะวันตก ในอัตรา 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทาน จำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยจะระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ส่งผลทำให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 60 เซนติเมตร – 1 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และที่บริเวณแม่น้ำน้อย ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่
จ.พระนครศรีอยุธยา อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
รายงานสถานการ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา วันที่ 18 ก.ย.67 เวลา 07.00 น.
สถานี C2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,115 ลบ.ม./วินาที
สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีอัตราการระบายน้ำลงสู่ทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,099 ลบ.ม/วินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,114 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเข้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
พรรคประชาชน ยันไม่ใช่พรรคปฏิวัติ คิดเปลี่ยนการปกครอง ชี้ถูกตีตราให้ร้าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4797500
พรรคประชาชน ยันไม่ใช่พรรคปฏิวัติ คิดเปลี่ยนการปกครอง ชี้ถูกตีตราให้ร้าย
พรรคประชาชน – วันที่ 18 กันยายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรค ปชน. พ่ายแพ้การเลือกตั้ง สส.พิษณุโลก เขต 1 แก่พรรคเพื่อไทย ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเพราะการปราศรัยของส.ส.คนหนึ่งที่ระบุว่า จะให้นำค่ายทหารในจังหวัดมาเป็นที่ทิ้งขยะ จนทำให้ฐานเสียงเกิดความไม่สบายใจ ว่า เรื่องผลการเลือกตั้งเราไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเพราะประเด็นหนึ่งของทั้งหมดได้ เชื่อว่าประชาชนมีปัจจัยแตกต่างกัน ส่วนข้อกังวลนโยบายเรื่องการบริหารจัดการขยะ เราได้รับทราบข้อมูลมา ซึ่งทีมงานของผู้สมัครสส.เขต 1 ได้ชี้แจงไปแล้ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงพรรค ปชน.เป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิวัติ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันเป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิรูป นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน การที่นิยามว่าพรรค ปชน. คือพรรคปฏิวัตินั้น ตนมองว่าการนิยามคำว่าปฏิวัติ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะตีความ
หากตีความว่าเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง พรรค ปชน. ก็ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาเช่นนั้น แต่หากยอมรับว่าบางปัญหาในประเทศ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งการศึกษา ปฏิรูประบบราชการ การกระจายอำนาจ ก็ไม่ปฏิเสธว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การนิยามว่าพรรครัฐบาลเป็นพรรคปฏิรูป ตนขอตั้งคำถามย้อนกลับไปว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตนยังไม่เห็นการปฏิรูปโครงสร้างอะไรอย่างเป็นรูปธรรมเลย แม้แต่การปฏิรูปกองทัพ จะใช้คำนี้ยังถูกตำหนิเพราะให้ใช้คำว่าพัฒนาร่วมกันแทน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ฝ่ายที่ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงมักจะพยายามใช้วิธีการตีตราฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นพวกสุดโต่ง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราเผชิญตั้งแต่ปี 66 ซึ่งจะเห็นว่าไม่ได้ผล เพราะอดีตพรรคก้าวไกล ได้รับความไว้วางใจในการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ดังนั้น ก็ไม่อยากเห็นการใช้ยุทธศาสตร์แบบนี้ เพื่อขีดขวางการเปลี่ยนแปลง.