หวังดีกับก้าวก่าย แค่เส้นบางๆ จริงหรือ??

กระทู้สนทนา
มันเป็นความอึดอัดที่อยากระบายมากค่ะ ตอนนี้เรามีคนคุยๆอยู่อายุห่างกันประมาณ 4 ปีค่ะ เราทั้งสองคุยกันมาพักนึงแล้วน่าจะเกือบๆครึ่งปีได้ แล้วก็มีงานทำประจำทั้งสองคนค่ะ แล้วเราก็อยู่ไกลกัน คนคุยของเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันค่ะ ขอใช้ชื่อ N นะคะ  เราคุยกันทุกเรื่องแชร์กันทุกอย่างมีปัญหาอะไร ก็จะมาเล่าสู่กันฟังเสมอ ส่วนตัวเราเป็นคนintrovertค่ะ จะไม่ค่อยออกจาก safe zone เท่าไหร่ เลิกงานกลับห้องชีวิตเรามีอยู่แค่นี้ค่ะแม้กระทั่งการทานข้าวถ้าไม่ทานในที่ทำงานก็คือทานที่ห้อง เราไม่ชอบออกข้างนอก ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะแยะ แต่ผิดกัน อีกคนคือโลกคนละขั้วกับเราค่ะแต่เราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรในการคุยกันเพราะเรารับได้ในสิ่งที่Nเป็นแล้วNก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับสิ่งที่เราเป็นเหมือนกัน
   Nเป็นสาวออฟฟิศค่ะแล้วก็หารายได้เพิ่มจากการเทรด หรือซื้อขายเหรียญอะไรพวกนี้ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเข้าใจค่ะแล้วเราก็ไม่คิดที่จะทำความเข้าใจสักเท่าไหร่ เพราะเราคิดว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางของเรา งานประจำที่เราทำอยู่มันก็ไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อนหรือขาดสภาพคล่องอะไร เราพอใจที่จะทำงานของเราแล้วก็ได้เก็บออมเล็กๆน้อยๆ เพราะรู้สึกว่าการลงทุนอะไรพวกนี้มันค่อนข้างมีความเสี่ยงค่ะ ความที่เราป่วยเป็นซึมเศร้าแล้วก็พยายามดูแลรักษาตัวเองให้ดีที่สุดมาก็เกือบๆ 2 ปีแล้วค่ะ เราก็เลยเซฟตัวเองมากๆเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงหรือความกดดันต่างๆนานา เพื่อความสบายใจแล้วก็ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดในด้านลบ แล้วจะกลับทำร้ายมาตัวเองในอนาคตด้วยค่ะ

      มีครั้งนึงNพาเราเข้าไปเพื่อซื้อขายเหรียญค่ะ เราก็เข้านะคะกรอกแบบฟอร์มเข้าระบบปกติ แล้วก็ลองๆดูแค่หลักพันค่ะเพราะแค่อยากลองว่า มันได้มาแบบไหนที่เขาเล่นๆกัน เราซื้อไป5,000ค่ะ แล้วก็ขายกลับมาได้+950บาท ซึ่งเราก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร หรือแม้แต่เราคิดว่าถ้าลงไป 10,000 หรือ 50,000 บาทเราจะได้กลับมาเท่าไหร่เราไม่ได้ใส่ใจจริงๆค่ะเพราะเราไม่ได้สนใจตรงนี้เลย แล้วเราก็คุยกันปกติค่ะก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย N ชอบพูดเรื่องความฝันค่ะ เราอยากเปิดร้านกาแฟเหมือนกัน แต่ส่วนตัวเรายังไม่พร้อมค่ะเราอยากเก็บเงินให้ได้ก่อนที่บ้านเราก็มีที่ดินซึ่งตอนนี้พ่อก็ทำการเกษตรอยู่ส่วนตัวเราไม่ได้เร่งรัดอะไร เพราะคิดว่าสุดท้ายเราก็ต้องกลับไปอยู่ที่บ้านกลับไปสานต่ออะไรของที่บ้าน ที่พ่อทำไว้ไม่ว่าจะเป็นการทำไร่ทำสวน สวนเรื่องการเปิดร้านกาแฟของเรา เราก็จะเปิดเป็นร้านเล็กๆเอาบรรยากาศให้ตัวเองด้วย ขายได้ก็ขายขายไม่ได้ก็กินเอง  แล้วเราก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอีกประมาณไม่เกิน 3-5 ปีเราจะกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ค่อยๆทำมันขึ้นมา แต่Nจะชอบตั้งคำถามกับเราว่าทำไมต้องรอทำไมไม่ทำเลยทำไมไม่ลงมือตอนนี้ถ้ารอให้พร้อม
แล้วคิดว่าจะพร้อมตอนไหน ซึ่งเราก็ตอบไปหลายครั้งมากว่าทุกอย่างเราวางแผนมาแล้วแผนของเรามันคือแบบนี้เราคิดไว้แล้วว่าอนาคตเราจะเป็นยังไงตอนนี้เรายังมีแรงทำงานหาเงินตรงนี้ได้อยู่เราก็อยากทำ N บอกกับเราว่าทำไมไม่ขายที่ซักไร่ 2 ไร่ล่ะเอามาเป็นทุนแล้วก็เปิดเลย ประกาศขายเลยจะทำก็ทำตอนนี้เลยไม่ต้องรอให้แก่ไปกว่านี้
    ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องขายที่ ในเมื่อเราก็บอกอยู่ว่าเราต้องการเอาทุนจากเงินที่เราเก็บไปลงตรงนั้นส่วนที่ดินเราก็อยากเก็บไว้ทำโน่นทำนี่ตามประสาในตอนแก่ หรือถ้ามันจำเป็นต้องขายมันต้องเป็นความจำเป็นที่จำเป็นจริงๆ
     แต่Nชอบพูดแต่เรื่องพวกนี้พักหลังๆกดดันพูดถึงเรื่องอายุที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าจะทำอะไรต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ต้องรีบทำ Nแนะนำให้เราเข้าไปเทรดหุ้น เเล้วก็ซื้อขายเหรียญเหมือนที่Nกำลังทำอยู่ Nให้เหตุผลว่าอยากให้เรามีเงินเยอะๆ แต่เราก็บอกไปว่าเราไม่อยากทำเราไม่ชอบ เขาก็จะมีคำถามตามมาตลอดทำไมถึงไม่ชอบมีเหตุผลอะไรถึงไม่ชอบ พี่แนะนำให้เล่นให้ทำเพราะอยากให้เรามีเงิน แล้วการที่เขาแนะนำเราเขาก็ไม่ได้อะไรจากเรา มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำ
      
    ซึ่งเหตุผลของเราก็คือไม่ชอบ แล้วพักนี้Nชอบพูดอะไรที่กดดันเรามากๆ คล้ายเอาแต่ใจเอาเหตุผลของตัวเองเป็นใหญ่ พอเราไม่ทำตามก็โกรธ หลังๆมานี้รู้สึกว่าเราคุยกันคนละเรื่อง แล้วก็คุยกันไม่เข้าใจด้วย
      Nชอบส่งรูปร้านกาแฟ รูปบ้านมาให้เราดูประจำ เวลาคุยกันก็จะพูดถึงแต่เรื่องสร้างบ้าน ซึ่งเราก็บอกว่าเรื่องสร้างบ้านเราคงไม่สร้างใหม่เราก็คงจะต่อเติมหลังเก่าที่พ่ออยู่ในบ้านสวนเพราะเราอยากอยู่ตรงนั้นถ้าวันนึงพ่อไม่อยู่อย่างน้อยมันก็เป็นที่ที่พ่อเคยอยู่ Nตั้งคำถามกับเราว่า แต่นั่นมันก็คือบ้านพ่อให้ต่อเติมมาขนาดไหนมันก็ขึ้นชื่อว่าบ้านพ่อบ้านแม่ ไม่คิดอยากจะมีบ้านตัวเองบ้างหรอ ไม่คิดอยากจะสร้างอะไรที่เป็นของตัวเองบ้างหรอ
    เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงๆแล้ว ความคิดของNมันคือสิ่งที่ควรจะเป็น แล้วความคิดของเรามันล้าหลังไปหรือเปล่า สิ่งที่เราคิดคือเราอยากจะต่อยอดทุกสิ่งอย่างที่พ่อกับแม่ทำไว้อะไรที่มันมีอยู่แล้วเราก็จะต่อเติม ซึ่งเราก็ทำแบบนั้นมาประจำค่ะ ตอนนี้เรามีบ่อปลา 2 บ่อ บอกกุ้งเล็กๆอีกบ่อนึง แล้วก็ปลูกพืชผลต่างๆตามฤดู พ่อมีหน้าที่ทำค่ะถึงเวลาปันผลกันตามสมควร เราใช้ชีวิตมาแบบนี้เราก็ไม่ได้คิดว่ามันไม่เพียงพอ แต่ตั้งแต่เริ่มคุยกับN เขาพยายามพูดกับเราตลอด ว่าต้องเป็นแบบนั้นต้องเป็นแบบนี้ต้องทำตอนนี้เดี๋ยวนี้อย่ารอ แล้วเรามีเหตุผลอะไรที่จะไม่ฟังเขาเพราะสิ่งที่เขาบอกเราเขาหวังดีกับเราทั้งนั้น เรื่องอยากให้เล่นหุ้นเหมือนกัน เขาอยากให้เรามีเงินเยอะๆอยากทำอะไรก็จะได้ทำ อยากให้หาเพิ่มไม่ได้อยากให้เรามีอยู่แค่นี้
   ซึ่งเราฟังแล้วเราไม่ได้รู้สึกมีแรงฮึด หรือได้รับพลังบวกอะไรเลย
เรารู้สึกเหนื่อย รู้สึกกดดัน แล้วก็ไม่อยากคุยต่อ Nบอกว่าหวังดีกับเราเรารู้สึกดีกับเรามาก อยากให้เรามีชีวิตที่ดีอยากให้เราเพอร์เฟค ซึ่งเรามองว่าเราเองที่ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาคนหนึ่งมันห่างไกลกับคำว่า perfect มาก
    Nถึงขั้นให้เราลดความอ้วน เราถ่ายรูปให้ดูว่าเช้าเราทานอะไร เที่ยงทานอะไร แรกๆที่เราทำเพราะเราแค่อยากแชร์การใช้ชีวิตในแต่ละวันแค่นั้นเองค่ะ แต่หลังๆมาN มักจะมีปัญหากับอาหารการกินของเราในแต่ละมื้อ แล้วชอบถามว่าหนักเท่าไหร่แล้วลดน้ำหนักหรือยัง น้ำหนักลดไปกี่กิโลกรัมแล้ว ออกไปยืนใกลๆให้ดูหน่อยจะได้เห็นเต็มตัว
    
     เรารู้สึกอึดอัดขึ้นทุกวัน อึดอัดจนต้องบอกว่าแบบนี้เราเริ่มไม่โอเค แล้วเราก็ไม่อยากจะไปต่อกับNแล้ว เราว่าการที่เราเป็นตัวเองเรามีความสุขแล้ว
สิ่งที่เรารับไม่ได้ที่สุด คือNก็รู้ว่าเรารักษาภาวะซึมเศร้าอยู่ แต่กลับบอกเราว่าจริงๆยามันไม่ได้ช่วยอะไร กินไปก็ไม่หาย  Nชอบจะตั้งคำถามกับเราว่า "เรายังเป็นความสุขให้เธอไม่พอหรอถึงต้องพึ่งยาพวกนั้น"
    - จะเศร้าอะไรคนอื่นเจออะไรมาเยอะกว่านี้ยังไม่เห็นเป็นไรเลย
    - อยู่กับเราเศร้าแค่ไหนก็หาย
    N จะเป็นแบบนี้ แล้วชอบบอกว่าตัวเองเป็นคนคิดบวกแล้วมีพลังบวกเยอะมาก แล้วก็จะถ่ายทอดพลังบวกนั้นให้เรา แต่ทำไมเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่พลังบวก มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ที่ชวนอึดอัดมากๆ

      ช่วงนี้เราไม่ได้คุยกับNทุกวันเหมือนเมื่อก่อน เราก็คุยบ้างตอบบ้าง ถ้าโทรมาก็จะให้เหตุผลว่าเราไม่ว่าง งานยุ่งหรืออะไรก็ว่าไป แชทมาเราก็อ่านบ้าง ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เราเลือกที่จะตอบสั้นๆ ให้เขารู้ว่าเราไม่อยากคุย พักหลังมาเราก็คิดค่ะว่าเราจะเงียบๆไปหรือว่าจะบล็อกไปเลย เพราะเรารู้สึกเหมือนถูกคุกคามอยู่ตลอดเวลา
    แต่เราก็มานั่งคิดนะคะ หรือว่าเป็นที่เราเองที่ไม่มีไฟ จนดูง่อยไปเลย ถ้าเทียบกับNขอดูเป็นคนมีความฝันแล้วก็มีไฟในการใช้ชีวิตมากๆ
หรือว่าเราเองเป็นคนไม่เอาถ่านไม่เอาไหน มันตีกันไปหมดค่ะความคิดตอนนี้ เรากำลังคิดว่าเขาไม่โอเค หรือจริงๆแล้วคนที่ไม่โอเคเลยอ่ะคือเราต่างหาก
     เราทำงานทางด้านสถานพยาบาลค่ะค่าตอบแทนก็จะอยู่ที่ 30,000-50,000 บาท/เดือน แต่Nบอกว่าในเมื่อเรามีโอกาสหาเงินได้มากกว่านี้แล้วทำไมเราไม่ทำ เราอยากมีอยู่แค่นี้จริงๆหรอชีวิต  
    หรือว่าสิ่งที่Nคิดและพูด มันคือทัศนคติของคนที่จะรวย
เราแค่อยากมีความสุขอ่ะเราไม่ได้อยากรวย แค่ไม่ลำบากก็พอหรือว่าเราควรเปลี่ยนความคิด
    สับสนจริงๆค่ะ สับสนปนอึดอัด ทุกวันนี้แค่เห็นหน้าจอโชว์ว่ามีสายเรียกเข้า ใจสั่นไปหมดไม่ต่างจากการโดนทวงหนี้555

    ถ้าเราไม่ไปต่อเราจะดูอ่อนด๋อยมากไม๊อ่า แบบความคิดไม่โตเลยประมาณนี้อ่ะ ... 🥺
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่