คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
พวกรู้แต่ทฤษฎี พวกอ่านพระไตรฏิฎก อ่านพุทธวัจนะ
เอามาบอกว่าธรรมมะ อัตตาทิฐิสูงกว่าคนที่ไม่ได้อ่าน
พระอาจารย์สมภพเคยเทศน์ มีพระที่ฉลาดรู้ กับพระที่ไม่รู้
มาศึกษาพระธรรมในเมืองไทย พระที่รู้มาก เวลาปฏิบัติธรรมจริงๆ ไปไม่รอด เพราะสงสัยไปหมด
ส่วนพระที่ไม่ฉลาด เรียนไม่เก่ง ท่องนะโมตัสสะ ๓ เดือนยังท่องไม่ได้
สององค์เข้าป่าไปปฏิบัติธรรม พระที่ไม่รู้อะไรเลยก้าวหน้ากว่า เพราะไม่สงสัย
ส่วนพระที่รู้มาก ปฏิบัติธรรมไม่ไปถึงไหนจนเป็นบ้า
พระที่ไม่รู้อะไรเลยกลายมาเป็นอาจารย์สอนปฏิบัติแทน
พวกที่อ่านมาก อัตตาสูง ทิฐิมานะสูง เอามาเถียงเพื่อเอาชนะคะคานกัน
โดยเฉพาะสายปริยัติ
พระปฏิบัติที่รู้จริง ท่านจะเงียบๆ ไม่สอนใคร เพราะบางเรื่องมันเหนือธรรมชาติ
ธรรมมะของพระพุทธเจ้า ท่านให้นำมาน้อมสอนจิตตัวเอง
ไม่ใช่ไปเถียงเอาชนะคะคานชาวบ้าน ตัวเองรู้ธรรมมะ
เอาไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาเรียก "ธรรมเมา" เมาในธรรม
มันช่างบังเอิญ จขกท ถามเรื่องนี้ ตรงกับที่ผมนั่งฟังเรื่องนี้พอดี
ครูบาฉ่ายเคยหลงตัวเองว่ารู้ เอาไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
แต่จริงๆ เวลามองถึงตัวเอง จึงรู้ว่าตัวเองโง่ (อันนี้ท่านพูดเอง)
สายปฏิบัติไม่พูดมาก ส่วนมากที่เถียงกันเพราะสายอ่านตำรานี่แหละ
เอามาบอกว่าธรรมมะ อัตตาทิฐิสูงกว่าคนที่ไม่ได้อ่าน
พระอาจารย์สมภพเคยเทศน์ มีพระที่ฉลาดรู้ กับพระที่ไม่รู้
มาศึกษาพระธรรมในเมืองไทย พระที่รู้มาก เวลาปฏิบัติธรรมจริงๆ ไปไม่รอด เพราะสงสัยไปหมด
ส่วนพระที่ไม่ฉลาด เรียนไม่เก่ง ท่องนะโมตัสสะ ๓ เดือนยังท่องไม่ได้
สององค์เข้าป่าไปปฏิบัติธรรม พระที่ไม่รู้อะไรเลยก้าวหน้ากว่า เพราะไม่สงสัย
ส่วนพระที่รู้มาก ปฏิบัติธรรมไม่ไปถึงไหนจนเป็นบ้า
พระที่ไม่รู้อะไรเลยกลายมาเป็นอาจารย์สอนปฏิบัติแทน
พวกที่อ่านมาก อัตตาสูง ทิฐิมานะสูง เอามาเถียงเพื่อเอาชนะคะคานกัน
โดยเฉพาะสายปริยัติ
พระปฏิบัติที่รู้จริง ท่านจะเงียบๆ ไม่สอนใคร เพราะบางเรื่องมันเหนือธรรมชาติ
ธรรมมะของพระพุทธเจ้า ท่านให้นำมาน้อมสอนจิตตัวเอง
ไม่ใช่ไปเถียงเอาชนะคะคานชาวบ้าน ตัวเองรู้ธรรมมะ
เอาไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาเรียก "ธรรมเมา" เมาในธรรม
มันช่างบังเอิญ จขกท ถามเรื่องนี้ ตรงกับที่ผมนั่งฟังเรื่องนี้พอดี
ครูบาฉ่ายเคยหลงตัวเองว่ารู้ เอาไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
แต่จริงๆ เวลามองถึงตัวเอง จึงรู้ว่าตัวเองโง่ (อันนี้ท่านพูดเอง)
สายปฏิบัติไม่พูดมาก ส่วนมากที่เถียงกันเพราะสายอ่านตำรานี่แหละ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมที่เห็นถกเถียงธรรมะกันในนี้มีแต่สายปริยัติทั้งนั้นเลย
ล่อไปไม่รู้กี่เม้น
ใครเห็นต่าง ไม่ว่าจะปริยัติด้วยกันหรือภาคปฏิบัติ
พวกนี้จะเข้าไปเถียง บางทีก็เกินเลย แซะ ด่ากัน ลามปามไปถึงพระก็มี พระยังโดน
ผมว่าพวกนี้เข้าข่ายคำว่า รู้หมดอดไม่ได้ ตามนี้เลย
พอถามถึงเรื่องการปฏิบัติธรรมหรือประสบการณ์จากชีวิตจริง
พวกนี้มักจะอ้ำๆ อึ้งๆ ตอบแบบดริฟแบบแถไม่ยอมตอบตรงๆ
เช่นถามว่าทุกวันนี้ยังนั่งสมาธิอยู่รึเปล่า หรือถามว่ายังนอนกับภรรยาอยู่รึเปล่า
พวกนี้ก็จะเลี่ยงไม่ตอบ ทำเป็นตอบแบบมาดนักปฏิบัติ ไม่อยากเปรียบเทียบใครประมาณนี้
พวกนี้มารยาเยอะจริง ทีเห็นไปตอบเรื่องเนื้อหาธรรมะในตำรา ซัดกันไม่ยั้ง
แต่ถามถึงประสบการณ์กลับไม่กล้าตอบหรือตอบไม่ได้หรือไม่มีกันแน่เพราะไม่ได้ปฏิบัติธรรมรึเปล่าก็ไม่รู้กัน
หรือมัวแต่ท่องชื่อธรรมะ เพื่อมาถกเถียงกันว่าใครรู้มากกว่ารู้ถูกกว่า แล้วมาอ้างว่าสนทนาธรรมเป็นกุศล
ทั้งๆ ที่พฤติกรรมการตอบมันไม่ใช่มันเหมือนคนวางความรู้ไม่เป็น ปล่อยวางไม่ได้
ไปสังเกตุ คนปฏิบัติ เวลาเค้าตอบส่วนมากจะตอบแต่ภาคปฏิบัติ
จากประสบการณ์ตัวเองเป็นหลัก ปริยัติไม่ค่อยเห็นจะยกมาตอบเท่าไหร่
แต่ไม่ค่อยเห็นไปถกเถียงกันเหมือนพวกปริยัติคนอื่นๆ ที่เถียงกัน จะไม่ตอบอะไรยืดยาวหลายคอมเม้น
ซึ่งคนอื่นนี่ถ้าเปลี่ยนหัวข้อจากธรรมะ
เป็นเรื่องอื่น คงได้ฉายาเกรียนคีย์บอร์ดไปนานแล้ว เพราะพฤติกรรมสุดจะทนจริงๆ
สุดท้ายก็อยากฝากไปถึงพวกปริยัติทั้งหลายให้หัดเจียมตัวบ้าง
ตนเองมีความรู้แค่ในตำราอย่าเที่ยวไปอวดเขี้ยวอวดงาเถียงไปทั่ว
ให้ดูพระเป็นตัวอย่าง พระที่มีครูบาอาจารย์กว่าท่านจะเปิดตัวต่อสื่อ
ท่านต้องผ่านการปฏิบัติมาจนพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านรับรองให้สอนได้ท่านถึงสอน
ไม่ใช่เหมือนพวกท่องปริยัติในพันทิปนี้ ไม่รู้มีพระองค์ไหนรับรองให้สอนได้รึยัง