ผมเห็นมาเยอะแล้ว เที่ยวไปสอนธรรมะ ล่อไปถึงธรรมะพระอรหันต์
วิธีปฏิบัติต่างๆ นาๆ ไม่รู้ไปท่องจำมาจากไหน อะไรจะเก่งปานนั้น
แต่พอถามยังเสพกามกับผัวกับเมียอยู่ไหม
ก็อ้ำๆ อึ้งๆ ตอบเลี่ยงๆ ไม่ซื่อสัตย์ บางคนก็ยอมรับตรงๆ
เหมือนวิทยากรธรรมะท่านนึงก็ยอมรับว่ายังช่วยตัวเองอยู่
แต่ก็เห็นไปสอนธรรมะขั้นสูง ผมไม่รู้ว่าพี่แกเอาที่ไหนมาสอน
ทั้งๆ ที่ตัวเองยังทำไม่ได้
บางคนก็ลามปามไปจับผิดพระ ด่าพระ แซะพระในยุคปัจจุบันก็มี
ทั้งๆ ที่ตัวเองยังนอนกอดผัวกอดเมียอยู่ที่บ้าน
ผิดกับพระที่ท่านเลิกเสพกามได้แล้ว
การสอนธรรมะควรออกมาจากประสบการณ์ตรง
จึงจะทำให้น่าเชื่อถือ และสามารถทำตามได้
ไม่ใช่ไปลอกปริยัติมาแล้วมาสอน มาเที่ยวสอนคนอื่นไปทั่ว มั่วไปหมด
สอนเฉพาะผู้สนใจปริยัติด้วยกันยังพอว่า
แต่นี่เที่ยวไปสอนคนปฏิบัติธรรมด้วยมันเกินไป เกินขอบเขตตัวเองไป
พระพุทธเจ้าท่านก็สอนจากประสบการณ์
ขณะที่บำเพ็ญเพียรเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ท่านก็สอนคนถือศีลเพราะท่านมีประสบการณ์ในการถือศีล
และบำเพ็ญอยู่ ท่านไม่ได้สอนเกินตัว
ไม่เหมือนเราในทุกวันนี้ส่วนมากสอนเกินตัวทั้งนั้น สอนทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์ตรง
ก็ไม่ต่างอะไรกับปลาพูดเรื่องนก ปลาไม่สามารถบินได้ แต่ก็คุยแต่เรื่องบินได้ให้ปลาตัวอื่นฟัง
ขอให้พึงระวังใครที่คิดจะสอนคนอื่น
ถ้าเขาถามว่าทำอย่างที่สอนได้หรือ แล้วท่านทำไม่ได้ท่านจะเงิบกันครับ
และข้อควรระวังอีกอย่างคือพวกเที่ยวไปสอนกรรมฐานคนอื่น
ตนเองยังไม่มีครูบาอาจารย์รับรองให้ไม่ได้สั่งให้ไปสอนกรรมฐาน
ก็อย่าพากันทำ เดี๋ยวจะพากันหลงทาง
จากที่เค้าหลงทางมาถาม จะกลายเป็นพากันหลงทางไปกันใหญ่
จากที่ปฏิบัติกรรมฐานเดิมอยู่ดีๆ พอมาอ่านก็เปลี่ยนกรรมฐาน
ในอดีตก็มีพระที่สอนกรรมฐานไม่ตรงจริตเพราะพระองค์นี้ไม่มีอภิญญา
จึงทำให้ลูกศิษย์หลงทาง สุดท้ายต้องให้พระองค์อื่นเป็นผู้สอนลูกศิษย์คนนั้นให้ แก้ให้
สุดท้ายอยากถามว่ามีใครปฏิบัติธรรมแล้วยังเสพกามกับผัวกับเมียอยู่บ้าง?
แล้วคิดยังไงกับคนที่เที่ยวไปสอนธรรมะขั้นสูง ทั้งๆ ที่ตัวเองยังทำไม่ได้ครับ ?
คนในห้องศาสนาพุทธยังเสพกามกันอยู่ไหม แล้วคิดยังไงกับคนที่สอนธรรมะแต่ตัวเองยังทำไม่ได้
วิธีปฏิบัติต่างๆ นาๆ ไม่รู้ไปท่องจำมาจากไหน อะไรจะเก่งปานนั้น
แต่พอถามยังเสพกามกับผัวกับเมียอยู่ไหม
ก็อ้ำๆ อึ้งๆ ตอบเลี่ยงๆ ไม่ซื่อสัตย์ บางคนก็ยอมรับตรงๆ
เหมือนวิทยากรธรรมะท่านนึงก็ยอมรับว่ายังช่วยตัวเองอยู่
แต่ก็เห็นไปสอนธรรมะขั้นสูง ผมไม่รู้ว่าพี่แกเอาที่ไหนมาสอน
ทั้งๆ ที่ตัวเองยังทำไม่ได้
บางคนก็ลามปามไปจับผิดพระ ด่าพระ แซะพระในยุคปัจจุบันก็มี
ทั้งๆ ที่ตัวเองยังนอนกอดผัวกอดเมียอยู่ที่บ้าน
ผิดกับพระที่ท่านเลิกเสพกามได้แล้ว
การสอนธรรมะควรออกมาจากประสบการณ์ตรง
จึงจะทำให้น่าเชื่อถือ และสามารถทำตามได้
ไม่ใช่ไปลอกปริยัติมาแล้วมาสอน มาเที่ยวสอนคนอื่นไปทั่ว มั่วไปหมด
สอนเฉพาะผู้สนใจปริยัติด้วยกันยังพอว่า
แต่นี่เที่ยวไปสอนคนปฏิบัติธรรมด้วยมันเกินไป เกินขอบเขตตัวเองไป
พระพุทธเจ้าท่านก็สอนจากประสบการณ์
ขณะที่บำเพ็ญเพียรเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ท่านก็สอนคนถือศีลเพราะท่านมีประสบการณ์ในการถือศีล
และบำเพ็ญอยู่ ท่านไม่ได้สอนเกินตัว
ไม่เหมือนเราในทุกวันนี้ส่วนมากสอนเกินตัวทั้งนั้น สอนทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์ตรง
ก็ไม่ต่างอะไรกับปลาพูดเรื่องนก ปลาไม่สามารถบินได้ แต่ก็คุยแต่เรื่องบินได้ให้ปลาตัวอื่นฟัง
ขอให้พึงระวังใครที่คิดจะสอนคนอื่น
ถ้าเขาถามว่าทำอย่างที่สอนได้หรือ แล้วท่านทำไม่ได้ท่านจะเงิบกันครับ
และข้อควรระวังอีกอย่างคือพวกเที่ยวไปสอนกรรมฐานคนอื่น
ตนเองยังไม่มีครูบาอาจารย์รับรองให้ไม่ได้สั่งให้ไปสอนกรรมฐาน
ก็อย่าพากันทำ เดี๋ยวจะพากันหลงทาง
จากที่เค้าหลงทางมาถาม จะกลายเป็นพากันหลงทางไปกันใหญ่
จากที่ปฏิบัติกรรมฐานเดิมอยู่ดีๆ พอมาอ่านก็เปลี่ยนกรรมฐาน
ในอดีตก็มีพระที่สอนกรรมฐานไม่ตรงจริตเพราะพระองค์นี้ไม่มีอภิญญา
จึงทำให้ลูกศิษย์หลงทาง สุดท้ายต้องให้พระองค์อื่นเป็นผู้สอนลูกศิษย์คนนั้นให้ แก้ให้
สุดท้ายอยากถามว่ามีใครปฏิบัติธรรมแล้วยังเสพกามกับผัวกับเมียอยู่บ้าง?
แล้วคิดยังไงกับคนที่เที่ยวไปสอนธรรมะขั้นสูง ทั้งๆ ที่ตัวเองยังทำไม่ได้ครับ ?