ตั้งใจดูข่าวสรุปผลเลือกตั้ง #อบจพิษณุโลก ทำให้กระจ่างในหลายประเด็นจากบทสัมภาษณ์ของคุณดนัย หมาแก่
- หมออ๋อง ยอมรับความพ่ายแพ้ โดยชื่นชมว่าอีกฝ่ายทำได้ดี ทั้งการเข้าถึงในการหาเสียง และการใช้ social media ของนายก อบจ. คนเดิม ทำให้คะแนนเสียงห่างเป็นหลักแสน
- ส่วนเสียงของคนที่เคยเลือกก้าวไกลที่หายไป มองว่ามีผลกระทบจากการที่ระบบเลือกตั้งท้องถิ่นของไทย ยังไม่มีการอำนวยความสะดวกการเลือกตั้งล่วงหน้า คนที่ไม่สะดวกกลับภูมิลำเนาจำนวนหนึ่งในวันเลือกตั้ง ก็มีผลให้เสียงหายไปจำนวนมาก ลดโอกาสการชนะลงไป
- สิ่งที่น่าสนใจและต้องยอมรับคือ การเมืองท้องถิ่นเป็นระบบตระกูลคนคุ้นเคย ทำให้คนหน้าใหม่เข้าไปในใจคนท้องถิ่นไม่ง่ายนัก เพราะความผูกพันระบบเครือญาติ และระบบอุปถัมภ์แบบบ้านใหญ่ ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นเดิม ที่ยึดหัวหาด สืบทอดกันผ่านตระกูลที่เล่นการเมืองต่อเนื่องอยู่เดิม ต้องทำการบ้าน วางกลยุทธ์ และใช้เวลากับชาวบ้านมากขึ้น
= ส่วนตัวคิดว่า ภาพการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปมากก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าการเอาชนะใจท้องถิ่นจะเกิดขึ้นได้ทุกท้องที่ มันมีตัวแปรทั้งหมด ตั้งแต่ว่าแข่งกับใครอยู่, เลือกใครมาเป็น candidate ของพรรค, กลยุทธ์การหาเสียง การสื่อสาร และการเข้าถึงเป็นอย่างไร?
ทุกอย่างมีผลทั้งหมด แค่ 'สีส้ม' ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ความสำเร็จ เอาความนิยมทั่วประเทศ มาสรุปชัยชนะในท้องถิ่นได้ มันคนละสนามกัน แต่แน่นอนว่า การเริ่มต้นแนะนำตัว เข้าไปทำความรู้จัก เปิดตัวให้เห็นความตั้งใจ จริงใจ และความใส่ใจ ในสมัยหน้า โอกาสก็ยังมีอยู่เสมอ ค่อยๆปลูกเมล็ดพันธ์แห่งความหวังไปเรื่อยๆ มันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรออยู่แน่นอน ต่อให้ไม่ใช่วันนี้ สักวันก็จะเป็นวันของเรา แต่ต้องไม่หยุดพัฒนา และลงมือทำ
ดูข่าวสรุปผลเลือกตั้ง #อบจพิษณุโลก ทำให้กระจ่างในหลายประเด็น
ตั้งใจดูข่าวสรุปผลเลือกตั้ง #อบจพิษณุโลก ทำให้กระจ่างในหลายประเด็นจากบทสัมภาษณ์ของคุณดนัย หมาแก่
- หมออ๋อง ยอมรับความพ่ายแพ้ โดยชื่นชมว่าอีกฝ่ายทำได้ดี ทั้งการเข้าถึงในการหาเสียง และการใช้ social media ของนายก อบจ. คนเดิม ทำให้คะแนนเสียงห่างเป็นหลักแสน
- ส่วนเสียงของคนที่เคยเลือกก้าวไกลที่หายไป มองว่ามีผลกระทบจากการที่ระบบเลือกตั้งท้องถิ่นของไทย ยังไม่มีการอำนวยความสะดวกการเลือกตั้งล่วงหน้า คนที่ไม่สะดวกกลับภูมิลำเนาจำนวนหนึ่งในวันเลือกตั้ง ก็มีผลให้เสียงหายไปจำนวนมาก ลดโอกาสการชนะลงไป
- สิ่งที่น่าสนใจและต้องยอมรับคือ การเมืองท้องถิ่นเป็นระบบตระกูลคนคุ้นเคย ทำให้คนหน้าใหม่เข้าไปในใจคนท้องถิ่นไม่ง่ายนัก เพราะความผูกพันระบบเครือญาติ และระบบอุปถัมภ์แบบบ้านใหญ่ ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นเดิม ที่ยึดหัวหาด สืบทอดกันผ่านตระกูลที่เล่นการเมืองต่อเนื่องอยู่เดิม ต้องทำการบ้าน วางกลยุทธ์ และใช้เวลากับชาวบ้านมากขึ้น
= ส่วนตัวคิดว่า ภาพการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปมากก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าการเอาชนะใจท้องถิ่นจะเกิดขึ้นได้ทุกท้องที่ มันมีตัวแปรทั้งหมด ตั้งแต่ว่าแข่งกับใครอยู่, เลือกใครมาเป็น candidate ของพรรค, กลยุทธ์การหาเสียง การสื่อสาร และการเข้าถึงเป็นอย่างไร?
ทุกอย่างมีผลทั้งหมด แค่ 'สีส้ม' ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ความสำเร็จ เอาความนิยมทั่วประเทศ มาสรุปชัยชนะในท้องถิ่นได้ มันคนละสนามกัน แต่แน่นอนว่า การเริ่มต้นแนะนำตัว เข้าไปทำความรู้จัก เปิดตัวให้เห็นความตั้งใจ จริงใจ และความใส่ใจ ในสมัยหน้า โอกาสก็ยังมีอยู่เสมอ ค่อยๆปลูกเมล็ดพันธ์แห่งความหวังไปเรื่อยๆ มันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรออยู่แน่นอน ต่อให้ไม่ใช่วันนี้ สักวันก็จะเป็นวันของเรา แต่ต้องไม่หยุดพัฒนา และลงมือทำ