“ปิยบุตร” ยกเรื่องรัฐสมบัติ ตั้งคำถาม การบริหารรัฐ เป็นเรื่องของครอบครัว-ตระกูลได้หรือ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2808569
“อาจารย์ป๊อก ปิยบุตร” แจงปมเรื่องรัฐสมบัติ ส่งต่อให้คนในตระกูลมาเป็นเจ้าของเมื่อพ้นไป ถามทำได้หรือ ชี้สภาวการณ์วันนี้ นำมาซึ่ง “ประชาธิปไตย 2 ตระกูล” พร้อมเตือน “อิ๊งค์” กำลังตกอยู่ในสถานะ “ตัวประกัน” และอยู่ใน “กับดักทางรัฐธรรมนูญ” จนอาจประสบชะตากรรม “นิติสงคราม”
วันที่ 17 ส.ค. 2567 นาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่าน X ถึงเรื่องรัฐสมบัติ ว่า
รัฐสมบัติ หรือ Patrimonial State
คือ รัฐที่ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ตระกูลใดตระกูลหนึ่งเป็นเจ้าของ เมื่อผู้ปกครองคนหนึ่งพ้นไป ก็ส่งมอบตำแหน่งให้สมาชิกในตระกูลขึ้นดำรงตำแหน่งต่อไป ตำแหน่งผู้ปกครองรัฐ และรัฐนั้น จึงเสมือนเป็น “ทรัพย์สมบัติ” ของตระกูล ที่สามารถเป็น “มรดก” ยกต่อให้ทายาทในตระกูลได้
รัฐสมบัติ ไม่แยกแยะเรื่อง “ส่วนตัว” กับ “ส่วนรวม” ออกจากกัน นำเรื่องของครอบครัว เรื่องของตนเอง ให้กลายเป็นเรื่องของรัฐ ทรัพยากรและงบประมาณของรัฐถูกนำไปปะปนกับการใช้จ่ายส่วนตน นโยบายของรัฐถูกนำไปปะปนกับความต้องการส่วนตน ส่วนครอบครัว
รัฐสมบัติจึงแตกต่างจากรัฐแบบสมัยใหม่ ที่พยายามแยกแดนส่วนตัวออกจากแดนสาธารณะ
รัฐแบบสมัยใหม่ สร้าง “รัฐ” ให้เป็นนิติบุคคล แยกออกจาก “คน” และกำหนดให้มี “ตำแหน่ง” เข้าใช้อำนาจรัฐ โดยมีกระบวนการได้มาซึ่งตำแหน่งนั้นไว้ มิให้ยกสืบทอดกันเป็นมรดกในตระกูล
ในโลกปัจจุบัน ครอบครัวหนึ่ง ทำธุรกิจร่ำรวย เมื่อพ่อแม่ตายไป ก็ยกมรดกให้ลูก เช่นนี้ คงไม่มีใครว่า เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เอกชน ครอบครัวตนเอง
...
ถึงกระนั้น ความคิดแบบสมัยใหม่ยังมองว่าไม่เป็นธรรม ทำให้คนที่ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเสียเปรียบ จึงได้คิดมาตรการสร้างความเสมอภาค เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดิน เป็นต้น
ในขณะที่ครอบครัวเศรษฐีเอง ก็ตระหนักดีถึง “กฎธรรมชาติ” ที่ว่า ความสามารถ อำนาจ บารมี ไม่อาจถ่ายทอดผ่านพันธุกรรม พวกเขาจึงจ้างผู้บริหารมืออาชีพเข้ามา
แล้วถ้าเป็นรัฐ เป็นเรื่องสาธารณะ เรื่องมหาชน เรื่องแดน Public มิใช่แดน Private ล่ะ?
เราสามารถยอมให้การบริหารรัฐ กลายเป็นเรื่องของครอบครัว ตระกูล ได้หรือ?
จะเป็นไปได้อย่างไรที่ประชาชนผู้เป็นสมาชิกรัฐ เป็นเจ้าของรัฐร่วมกัน ต้องยินยอมครอบครัวหนึ่ง ตระกูลหนึ่ง ยก “อำนาจรัฐ” ให้กันเองภายในตระกูล ราวกับเป็น “สมบัติ” เป็น “มรดก” ได้
สภาวการณ์ “ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต” วันนี้ นำมาซึ่ง “ประชาธิปไตย 2 ตระกูล”
นอกจากนี้ นาย
ปิยบุตร ยังตั้งคำถามว่า
ควรเลือกทางไหนระหว่าง “กอด” ใบอนุญาตที่ 2 หรือ “ยึด” ใบอนุญาตที่ 2?
การเมืองไทยเป็น “ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต” ประชาชนมอบใบอนุญาต ให้ฉันทานุมัติ พรรคการเมืองไปตั้งรัฐบาล อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ แต่ต้องมีใบอนุญาตอีกใบจากชนชั้นนำด้วย
ในระยะหลัง พรรคการเมืองจำนวนมากตระหนักเรื่องนี้ดี จึงละทิ้งใบอนุญาตใบแรก เลือกที่จะควานหาใบอนุญาตใบที่ 2 จากชนชั้นนำ
น้กข่าว นักวิเคราะห์การเมือง นักวิชาการ ต่างออกโรงเตือนว่า คุณแพทองธาร ชินวัตร กำลังตกอยู่ในสถานะ “ตัวประกัน” และอยู่ใน “กับดักทางรัฐธรรมนูญ” จนอาจประสบชะตากรรม “นิติสงคราม” แบบเดิมๆ จำพวก ปลด ถอนถอน ยุบ ตัดสิทธิ ดำเนินคดี
ผมเห็นว่า สถานการณ์เหล่านี้คงไม่เกิด ตราบใดที่รัฐบาลแสดงออกอย่างให้เห็นประจักษ์ชัด แสดงออกให้มาก ทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น ทุกเทศกาล ทุกวโรกาส ว่า ยังคงเอาอกเอาใจ น้อมนำรำลึก ปฏิบัติตามผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตทึ่ 2
พูดให้ชัด ก็คือ พวกเขาคงเลือกหนทาง “กอด” ใบอนุญาตที่ 2 เอาไว้ ถ้ารู้สึกว่าจะหลุดมือ ก็จะยิ่งควานหาและกอดเอาไว้ให้แน่นขึ้น เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในตำแหน่งของตน
วิธีการดังกล่าว อาจได้ผลเลิศ แต่เป็นผลเลิศระยะสั้น ชั่วคราว และไม่ส่งผลดีต่อประชาชนคนไทย ทำให้ระบบการเมืองบิดเบี้ยววิปริตไปเรื่อย
ทางที่ถูกต้อง คือ หันหน้ามารวมพลัง “ยึด” ใบอนุญาตใบที่ 2 กันดีกว่า
ให้เหลือใบอนุญาตใบเดียวจากประชาชน
เพราะ ประชาชน คือ ผู้ทรงอำนาจสูงสุดของแผ่นดิน
https://x.com/Piyabutr_FWP/status/1824299518940340362
https://x.com/Piyabutr_FWP/status/1824408872783851575
แม่สายอ่วม! ฝนถล่มต่อเนื่องไม่หยุด ‘ตลาดสายลมจอย’ เจอน้ำหลากท่วมรอบ 4
https://www.dailynews.co.th/news/3763040/
แม่สายอ่วม! ฝนถล่มต่อเนื่องไม่หยุด ‘ตลาดสายลมจอย’ เจอน้ำหลากท่วมรอบ 4
เกิดมีฝนตกหนักต่อเนื่องระหว่างคืนวันที่ 16-17 ส.ค. 67 ส่งผลให้ระดับน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลับสูงขึ้นอีกครั้ง ก่อนเอ่อล้นเข้าท่วม "
ตลาดสายลมจอย" รอบที่ 4
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนระหว่างวันที่ 16-17 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้กลับสูงขึ้นอีกครั้ว หลังจากแห้งลงเมื่อวานนี้ โดยเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดสายลมจอยเป็นรอบที่ 4 แล้ว
โดยที่บ้านป่าซางงาม หมู่ที่ 6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ทำให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะช้าง และฝ่ายปกครองต้องระดมกำลังกันนำกระสอบทรายขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ็คและเสาไม้ไปกั้นเอาไว้แล้ว 2 รอบ เพราะน้ำได้ทะลักเข้าท่วมทุ่งนาและบ้านเรือนที่อยู่ถัดจากพนังกั้นน้ำไว้ประมาณ 100 ลูกจนพังทลายและยังเอ่อล้นจุดที่ซ่อมแซม ส่งผลทำให้น้ำทะลักเข้าสู่บ้านป่าซางงามและบ้านร้องพระเจ้า หมู่ 5 ต.เกาะช้าง ที่อยู่ถัดไปจนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอย่างหนัก
สำหรับ ปริมาณน้ำฝนใน จ.เชียงราย เมื่อ 20.00 น.วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนพื้นที่ ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย วัดได้ 104 มิลลิเมตร,เวลา 19.00 น.ที่ ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย มากถึง 133.5 มิลลิเมตร,ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 128.5 มิลลิเมตร, ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด วัดได้ 111 มิลลิเมตร, สถานีหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ต.ปอ อ.เวียงแก่น วัดได้ 111 มิลลิเมตร และสถานีบ้านขุนห้วยไคร้ ต.ตับเต่า อ.เทิง วัดได้ 109 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ามีปริมาณที่สูงและพบว่าบรรยากาศเช้าวันที่ 17 ส.ค.ยังคงมีฝนตกสลับกันไปทำให้ทุกฝ่ายยังคงต้องเฝ้าระวัง.
น้ำมัน WTI ปิดร่วงเกือบ 2% นักลงทุนคาดอุปสงค์จากจีนลดลง
https://ch3plus.com/news/economy/morning/413061
น้ำมัน WTI ปิดร่วงเกือบ 2% นลท.คาดอุปสงค์จากจีนลดลง สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 2% ในวันศุกร์ (16 ส.ค.) แต่แทบไม่เปลี่ยนแปลงในรอบสัปดาห์นี้ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวของอุปสงค์จากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.51 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 76.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 79.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
เมื่อวันพฤหัสบดี ข้อมูลจากจีนแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวในเดือนก.ค. โดยราคาบ้านใหม่ลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 9 ปี, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ โดยโรงกลั่นได้ลดอัตราการกลั่นน้ำมันดิบลงอย่างมากในเดือนที่แล้ว เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงซบเซา
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ โดยบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนอ่อนแอลง ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ก็ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2568 เมื่อวันอังคาร (13 ส.ค.)
นาย
กาวราฟ ชาร์มา นักวิเคราะห์น้ำมันอิสระกล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจปรับตัวไร้ทิศทางชัดเจนไปจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตัดสินใจว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ในการประชุมเดือนก.ย.
JJNY : “ปิยบุตร”ยกเรื่องรัฐสมบัติ│แม่สายอ่วม! ฝนถล่มต่อเนื่องไม่หยุด│น้ำมัน WTI ปิดร่วง│ยูเครนตัดทางรัสเซียส่งกำลังเสริม
https://www.thairath.co.th/news/politic/2808569
“อาจารย์ป๊อก ปิยบุตร” แจงปมเรื่องรัฐสมบัติ ส่งต่อให้คนในตระกูลมาเป็นเจ้าของเมื่อพ้นไป ถามทำได้หรือ ชี้สภาวการณ์วันนี้ นำมาซึ่ง “ประชาธิปไตย 2 ตระกูล” พร้อมเตือน “อิ๊งค์” กำลังตกอยู่ในสถานะ “ตัวประกัน” และอยู่ใน “กับดักทางรัฐธรรมนูญ” จนอาจประสบชะตากรรม “นิติสงคราม”
วันที่ 17 ส.ค. 2567 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่าน X ถึงเรื่องรัฐสมบัติ ว่า
รัฐสมบัติ หรือ Patrimonial State
คือ รัฐที่ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ตระกูลใดตระกูลหนึ่งเป็นเจ้าของ เมื่อผู้ปกครองคนหนึ่งพ้นไป ก็ส่งมอบตำแหน่งให้สมาชิกในตระกูลขึ้นดำรงตำแหน่งต่อไป ตำแหน่งผู้ปกครองรัฐ และรัฐนั้น จึงเสมือนเป็น “ทรัพย์สมบัติ” ของตระกูล ที่สามารถเป็น “มรดก” ยกต่อให้ทายาทในตระกูลได้
รัฐสมบัติ ไม่แยกแยะเรื่อง “ส่วนตัว” กับ “ส่วนรวม” ออกจากกัน นำเรื่องของครอบครัว เรื่องของตนเอง ให้กลายเป็นเรื่องของรัฐ ทรัพยากรและงบประมาณของรัฐถูกนำไปปะปนกับการใช้จ่ายส่วนตน นโยบายของรัฐถูกนำไปปะปนกับความต้องการส่วนตน ส่วนครอบครัว
รัฐสมบัติจึงแตกต่างจากรัฐแบบสมัยใหม่ ที่พยายามแยกแดนส่วนตัวออกจากแดนสาธารณะ
รัฐแบบสมัยใหม่ สร้าง “รัฐ” ให้เป็นนิติบุคคล แยกออกจาก “คน” และกำหนดให้มี “ตำแหน่ง” เข้าใช้อำนาจรัฐ โดยมีกระบวนการได้มาซึ่งตำแหน่งนั้นไว้ มิให้ยกสืบทอดกันเป็นมรดกในตระกูล
ในโลกปัจจุบัน ครอบครัวหนึ่ง ทำธุรกิจร่ำรวย เมื่อพ่อแม่ตายไป ก็ยกมรดกให้ลูก เช่นนี้ คงไม่มีใครว่า เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เอกชน ครอบครัวตนเอง
...
ถึงกระนั้น ความคิดแบบสมัยใหม่ยังมองว่าไม่เป็นธรรม ทำให้คนที่ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเสียเปรียบ จึงได้คิดมาตรการสร้างความเสมอภาค เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดิน เป็นต้น
ในขณะที่ครอบครัวเศรษฐีเอง ก็ตระหนักดีถึง “กฎธรรมชาติ” ที่ว่า ความสามารถ อำนาจ บารมี ไม่อาจถ่ายทอดผ่านพันธุกรรม พวกเขาจึงจ้างผู้บริหารมืออาชีพเข้ามา
แล้วถ้าเป็นรัฐ เป็นเรื่องสาธารณะ เรื่องมหาชน เรื่องแดน Public มิใช่แดน Private ล่ะ?
เราสามารถยอมให้การบริหารรัฐ กลายเป็นเรื่องของครอบครัว ตระกูล ได้หรือ?
จะเป็นไปได้อย่างไรที่ประชาชนผู้เป็นสมาชิกรัฐ เป็นเจ้าของรัฐร่วมกัน ต้องยินยอมครอบครัวหนึ่ง ตระกูลหนึ่ง ยก “อำนาจรัฐ” ให้กันเองภายในตระกูล ราวกับเป็น “สมบัติ” เป็น “มรดก” ได้
สภาวการณ์ “ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต” วันนี้ นำมาซึ่ง “ประชาธิปไตย 2 ตระกูล”
นอกจากนี้ นายปิยบุตร ยังตั้งคำถามว่า
ควรเลือกทางไหนระหว่าง “กอด” ใบอนุญาตที่ 2 หรือ “ยึด” ใบอนุญาตที่ 2?
การเมืองไทยเป็น “ประชาธิปไตย 2 ใบอนุญาต” ประชาชนมอบใบอนุญาต ให้ฉันทานุมัติ พรรคการเมืองไปตั้งรัฐบาล อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ แต่ต้องมีใบอนุญาตอีกใบจากชนชั้นนำด้วย
ในระยะหลัง พรรคการเมืองจำนวนมากตระหนักเรื่องนี้ดี จึงละทิ้งใบอนุญาตใบแรก เลือกที่จะควานหาใบอนุญาตใบที่ 2 จากชนชั้นนำ
น้กข่าว นักวิเคราะห์การเมือง นักวิชาการ ต่างออกโรงเตือนว่า คุณแพทองธาร ชินวัตร กำลังตกอยู่ในสถานะ “ตัวประกัน” และอยู่ใน “กับดักทางรัฐธรรมนูญ” จนอาจประสบชะตากรรม “นิติสงคราม” แบบเดิมๆ จำพวก ปลด ถอนถอน ยุบ ตัดสิทธิ ดำเนินคดี
ผมเห็นว่า สถานการณ์เหล่านี้คงไม่เกิด ตราบใดที่รัฐบาลแสดงออกอย่างให้เห็นประจักษ์ชัด แสดงออกให้มาก ทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น ทุกเทศกาล ทุกวโรกาส ว่า ยังคงเอาอกเอาใจ น้อมนำรำลึก ปฏิบัติตามผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตทึ่ 2
พูดให้ชัด ก็คือ พวกเขาคงเลือกหนทาง “กอด” ใบอนุญาตที่ 2 เอาไว้ ถ้ารู้สึกว่าจะหลุดมือ ก็จะยิ่งควานหาและกอดเอาไว้ให้แน่นขึ้น เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในตำแหน่งของตน
วิธีการดังกล่าว อาจได้ผลเลิศ แต่เป็นผลเลิศระยะสั้น ชั่วคราว และไม่ส่งผลดีต่อประชาชนคนไทย ทำให้ระบบการเมืองบิดเบี้ยววิปริตไปเรื่อย
ทางที่ถูกต้อง คือ หันหน้ามารวมพลัง “ยึด” ใบอนุญาตใบที่ 2 กันดีกว่า
ให้เหลือใบอนุญาตใบเดียวจากประชาชน
เพราะ ประชาชน คือ ผู้ทรงอำนาจสูงสุดของแผ่นดิน
https://x.com/Piyabutr_FWP/status/1824299518940340362
https://x.com/Piyabutr_FWP/status/1824408872783851575
แม่สายอ่วม! ฝนถล่มต่อเนื่องไม่หยุด ‘ตลาดสายลมจอย’ เจอน้ำหลากท่วมรอบ 4
https://www.dailynews.co.th/news/3763040/
แม่สายอ่วม! ฝนถล่มต่อเนื่องไม่หยุด ‘ตลาดสายลมจอย’ เจอน้ำหลากท่วมรอบ 4
เกิดมีฝนตกหนักต่อเนื่องระหว่างคืนวันที่ 16-17 ส.ค. 67 ส่งผลให้ระดับน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลับสูงขึ้นอีกครั้ง ก่อนเอ่อล้นเข้าท่วม "ตลาดสายลมจอย" รอบที่ 4
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนระหว่างวันที่ 16-17 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้กลับสูงขึ้นอีกครั้ว หลังจากแห้งลงเมื่อวานนี้ โดยเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดสายลมจอยเป็นรอบที่ 4 แล้ว
โดยที่บ้านป่าซางงาม หมู่ที่ 6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ทำให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะช้าง และฝ่ายปกครองต้องระดมกำลังกันนำกระสอบทรายขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ็คและเสาไม้ไปกั้นเอาไว้แล้ว 2 รอบ เพราะน้ำได้ทะลักเข้าท่วมทุ่งนาและบ้านเรือนที่อยู่ถัดจากพนังกั้นน้ำไว้ประมาณ 100 ลูกจนพังทลายและยังเอ่อล้นจุดที่ซ่อมแซม ส่งผลทำให้น้ำทะลักเข้าสู่บ้านป่าซางงามและบ้านร้องพระเจ้า หมู่ 5 ต.เกาะช้าง ที่อยู่ถัดไปจนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอย่างหนัก
สำหรับ ปริมาณน้ำฝนใน จ.เชียงราย เมื่อ 20.00 น.วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนพื้นที่ ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย วัดได้ 104 มิลลิเมตร,เวลา 19.00 น.ที่ ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย มากถึง 133.5 มิลลิเมตร,ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 128.5 มิลลิเมตร, ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด วัดได้ 111 มิลลิเมตร, สถานีหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ต.ปอ อ.เวียงแก่น วัดได้ 111 มิลลิเมตร และสถานีบ้านขุนห้วยไคร้ ต.ตับเต่า อ.เทิง วัดได้ 109 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ามีปริมาณที่สูงและพบว่าบรรยากาศเช้าวันที่ 17 ส.ค.ยังคงมีฝนตกสลับกันไปทำให้ทุกฝ่ายยังคงต้องเฝ้าระวัง.
น้ำมัน WTI ปิดร่วงเกือบ 2% นักลงทุนคาดอุปสงค์จากจีนลดลง
https://ch3plus.com/news/economy/morning/413061
น้ำมัน WTI ปิดร่วงเกือบ 2% นลท.คาดอุปสงค์จากจีนลดลง สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 2% ในวันศุกร์ (16 ส.ค.) แต่แทบไม่เปลี่ยนแปลงในรอบสัปดาห์นี้ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวของอุปสงค์จากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.51 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 76.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 79.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
เมื่อวันพฤหัสบดี ข้อมูลจากจีนแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวในเดือนก.ค. โดยราคาบ้านใหม่ลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 9 ปี, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ โดยโรงกลั่นได้ลดอัตราการกลั่นน้ำมันดิบลงอย่างมากในเดือนที่แล้ว เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงซบเซา
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ โดยบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนอ่อนแอลง ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ก็ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2568 เมื่อวันอังคาร (13 ส.ค.)
นายกาวราฟ ชาร์มา นักวิเคราะห์น้ำมันอิสระกล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจปรับตัวไร้ทิศทางชัดเจนไปจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตัดสินใจว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ในการประชุมเดือนก.ย.