ทุเรียนไทยสั่นคลอน: ไต้หวันผงาดเป็นคู่แข่งใหม่ในตลาดโลก

ทุเรียนไทยสั่นคลอน! ไต้หวันผงาดเป็นคู่แข่งใหม่ในตลาดโลกด้วยการพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนของตนเองสำเร็จ อุตสาหกรรมทุเรียนไทยจะรับมือกับความท้าทายครั้งนี้อย่างไร? อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบ กลยุทธ์ และอนาคตของทุเรียนไทยในตลาดโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง


ตลาดส่งออกทุเรียนของไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อไต้หวัน ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย กลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโลก จากข้อมูลสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่าในปี 2566 การส่งออกทุเรียนของไทยไปไต้หวันมีมูลค่าเพียง 137 ล้านบาท ลดลงถึง 30.76% เมื่อเทียบกับปี 2565 นี่เป็นสัญญาณชัดเจนว่าทุเรียนของไต้หวันกำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากไทยอย่างจริงจัง

เบื้องหลังความสำเร็จของไต้หวันคือความพยายามอย่างยาวนานกว่า 13 ปี ในการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนของตนเอง จนสามารถปลูกทุเรียนคุณภาพดีได้ภายในประเทศ สถิติการนำเข้าทุเรียนของไต้หวันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 38,649 ตันในปี 2545 มาเหลือเพียง 8,465 ตันในปี 2566 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพึ่งพาตนเองของไต้หวัน และการก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตทุเรียนเพื่อการส่งออก

ตลาดส่งออกทุเรียนที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ นำมาซึ่งทั้งความท้าทายและโอกาสให้กับอุตสาหกรรมทุเรียนไทย ผู้ส่งออกไทยไม่เพียงต้องแข่งขันกับไต้หวัน แต่ยังต้องเผชิญกับคู่แข่งที่ทวีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างจีนและเวียดนาม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ก็เป็นโอกาสให้ไทยต้องพัฒนาคุณภาพและสร้างความแตกต่างให้กับทุเรียนไทยในเวทีโลกด้วยเช่นกัน

หากอุตสาหกรรมทุเรียนไทยต้องการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์เชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ การแสวงหาและขยายตลาดใหม่ การร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตอื่น ๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิตและจัดการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุน

การเติบโตของอุตสาหกรรมทุเรียนในไต้หวันเป็นเสมือนสัญญาณเตือนว่า ไทยไม่สามารถหยุดนิ่งได้อีกต่อไป หากอุตสาหกรรมทุเรียนไทยสามารถปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่าทุเรียนไทยจะยังคงครองความเป็นหนึ่งในตลาดโลกต่อไปได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

ภาพ Getty Images 
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tnnthailand.com/news/tnnexclusive/173168/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่