ครูและนักเรียน รร.ห้วยยอด จ.ตรัง นำ “ด้วงสาคู” แมลงที่นิยมบริโภคกันมากในภาคใต้ มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ “ข้าวเกรียบด้วงสาคู” ที่หอม กรอบ อร่อย อันเป็นเมนูแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ด้วงสาคู เป็นแมลงที่นิยมบริโภคและมีการเพาะเลี้ยงกันมากในแถบจังหวัดภาคใต้ เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยเฉพาะโปรตีนชนิดที่มีคุณภาพดีเทียบเท่าเนื้อสัตว์ทั่วไป ทำให้นอกจากจะนำมาปรุงอาหารแบบธรรมดาทั่วไปแล้ว ได้เริ่มมีการแปรรูปและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ทานได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยคณะครูและนักเรียนของโรงเรียนห้วยยอด โรงเรียนระดัมมัธยมศึกษาประจำอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ด้วยการนำด้วงสาคูมาผลิตเป็นข้าวเกรียบ ซึ่งเป็นอาหารว่างที่ทำได้ง่าย และยังสามารถสร้างอาชีพที่ก่อให้เกิดรายได้เสริมอีกด้วย
สำหรับ 3 นักเรียนเก่งชั้น ม.2/8 อันประกอบไปด้วย เด็กหญิงภัทราวภรณ์ บุญถาวร เด็กหญิงณัฐหทัย ไทยกลาง และ เด็กหญิงถิรณิชา อายุสุข ภายใต้การกำกับดูแลของ 2 คุณครู คือ นางสุกัญญา จงใจ กับ นางธีรารัตน์ สิทธิรักษ์ ได้ร่วมกันจัดทำโครงงานข้าวเกรียบด้วงสาคูขึ้น อันเป็นเมนูแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยเริ่มจากการนำด้วงสาคูมาต้ม แล้วปั่นใส่กระเทียม น้ำปลา จนละเอียดได้ที่ ก่อนนำมาผสมกับแป้งกรอบ แป้งมันสำปะหลัง เกลือป่น น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น แล้วนวดจนแป้งเนื้อเนียนไม่ติดกะละมัง
จากนั้นนำแป้งที่นวดเสร็จไปปั้นให้เป็นแท่ง แล้วห่อด้วยกระดาษฟอร์ย ก่อนนำไปนึ่ง 40-45 นาที หลังจากนั้นเก็บใส่ถุงพลาสติก และแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน เพื่อให้เนื้อแป้งพอเซ็ตตัว ก่อนสไลด์เป็นแผ่นบางๆ แล้ววางเรียงใส่ถาด เพื่อนำไปผึ่งแดด 1-2 วัน จนแห้งสนิท เมื่อนำมาทอดจนขึ้นฟูสวยงาม และจัดใส่ถุงพร้อมจำหน่าย ก็จะได้ข้าวเกรียบด้วงสาคูที่หอม กรอบ อร่อย ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทานด้วงสาคูโดยทั่วไปอยู่แล้ว และยังทำให้เกิดนักชิมหน้าใหม่ที่อยากริเริ่มลองทานด้วงสาคูในแบบผสม ที่มิใช่ทานแบบเป็นตัวๆ
นายสมปอง ห่วงจริง ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยยอด กล่าวว่า โครงการข้าวเกรียบด้วงสาคู ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะทางความคิดจากการเรียนรู้ โดยการนำด้วงสาคูมาสร้างสรรค์หรือแปรรูปเพื่อจำหน่ายในโอกาสต่างๆ ราคาถุงละ 35 บาท ซึ่งก็ได้รับความนิยมมากพอสมควร เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ ถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติภายในชุมชนอย่างคุ้มค่า ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการ รวมทั้งก่อให้เกิดรายได้เสริมระหว่างเรียนจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และช่วยเหลือเศรษฐกิจในครอบครัว
ข้อมูลจากช่อง ศูนย์ข่าวรักษ์ตรัง ด้วยนะครับ
ใครไปภาคใต้อย่าลืมไปอุดหนุนน้องๆนะครับ
ชวนลิ้มลอง ข้าวเกรียบด้วงสาคู ผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก ร.ร.ห้วยยอด
ด้วงสาคู เป็นแมลงที่นิยมบริโภคและมีการเพาะเลี้ยงกันมากในแถบจังหวัดภาคใต้ เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยเฉพาะโปรตีนชนิดที่มีคุณภาพดีเทียบเท่าเนื้อสัตว์ทั่วไป ทำให้นอกจากจะนำมาปรุงอาหารแบบธรรมดาทั่วไปแล้ว ได้เริ่มมีการแปรรูปและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ทานได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยคณะครูและนักเรียนของโรงเรียนห้วยยอด โรงเรียนระดัมมัธยมศึกษาประจำอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ด้วยการนำด้วงสาคูมาผลิตเป็นข้าวเกรียบ ซึ่งเป็นอาหารว่างที่ทำได้ง่าย และยังสามารถสร้างอาชีพที่ก่อให้เกิดรายได้เสริมอีกด้วย
สำหรับ 3 นักเรียนเก่งชั้น ม.2/8 อันประกอบไปด้วย เด็กหญิงภัทราวภรณ์ บุญถาวร เด็กหญิงณัฐหทัย ไทยกลาง และ เด็กหญิงถิรณิชา อายุสุข ภายใต้การกำกับดูแลของ 2 คุณครู คือ นางสุกัญญา จงใจ กับ นางธีรารัตน์ สิทธิรักษ์ ได้ร่วมกันจัดทำโครงงานข้าวเกรียบด้วงสาคูขึ้น อันเป็นเมนูแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยเริ่มจากการนำด้วงสาคูมาต้ม แล้วปั่นใส่กระเทียม น้ำปลา จนละเอียดได้ที่ ก่อนนำมาผสมกับแป้งกรอบ แป้งมันสำปะหลัง เกลือป่น น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น แล้วนวดจนแป้งเนื้อเนียนไม่ติดกะละมัง
จากนั้นนำแป้งที่นวดเสร็จไปปั้นให้เป็นแท่ง แล้วห่อด้วยกระดาษฟอร์ย ก่อนนำไปนึ่ง 40-45 นาที หลังจากนั้นเก็บใส่ถุงพลาสติก และแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน เพื่อให้เนื้อแป้งพอเซ็ตตัว ก่อนสไลด์เป็นแผ่นบางๆ แล้ววางเรียงใส่ถาด เพื่อนำไปผึ่งแดด 1-2 วัน จนแห้งสนิท เมื่อนำมาทอดจนขึ้นฟูสวยงาม และจัดใส่ถุงพร้อมจำหน่าย ก็จะได้ข้าวเกรียบด้วงสาคูที่หอม กรอบ อร่อย ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทานด้วงสาคูโดยทั่วไปอยู่แล้ว และยังทำให้เกิดนักชิมหน้าใหม่ที่อยากริเริ่มลองทานด้วงสาคูในแบบผสม ที่มิใช่ทานแบบเป็นตัวๆ
นายสมปอง ห่วงจริง ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยยอด กล่าวว่า โครงการข้าวเกรียบด้วงสาคู ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะทางความคิดจากการเรียนรู้ โดยการนำด้วงสาคูมาสร้างสรรค์หรือแปรรูปเพื่อจำหน่ายในโอกาสต่างๆ ราคาถุงละ 35 บาท ซึ่งก็ได้รับความนิยมมากพอสมควร เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ ถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติภายในชุมชนอย่างคุ้มค่า ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการ รวมทั้งก่อให้เกิดรายได้เสริมระหว่างเรียนจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และช่วยเหลือเศรษฐกิจในครอบครัว
ใครไปภาคใต้อย่าลืมไปอุดหนุนน้องๆนะครับ