พอดีผมจบจากมหาวิทยาลัยภาคภาษาไทย แต่ในการเรียนตั้งแต่ปี 3 จนจบ ป.โท อ่านหนังสือรวมถึงเปเปอร์เป็นภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก การอ่านจึงไม่ติดขัดอะไร อ่านได้ลื่น ยกเว้นเรื่องที่มีศัพท์วิชาการใหม่ๆมากๆ ก็ต้องไปหาความหมาย แต่ไม่มีปัญหาอะไร เรียกได้ว่าอ่านหนังสือพิมพ์ Business ได้ค่อนข้างเต็มความหมาย โดยไม่ต้องเสิร์จหาคำแปล
ส่วนการเขียน เนื่องจากไม่ต้องตอบข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากเรียนภาคไทย ถึงให้รู้ศัพท์ทุกคำ แต่การประกอบเป็นประโยคหรือย่อหน้ายาวๆ ยังต้องใช้พลังในการเชื่อมสันธาน การต้องมานั่งนึกว่า ตัวไหนเป็น adv adj หรือการใช้ประเภทคำให้ถูกกับหน้าที่ประโยคอยู่บ้าง พอมาทำงานต้องส่ง e-mail คุยกับเพื่อนร่วมงาน ตปท. บ้าง ประมาณเดือนละ 5-6 ครั้ง ก็ได้พัฒนาตรงนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เซียนอะไร
ส่วนเรื่องการพูดเนื่องจากเรามีคลังศัพท์เยอะ จากการที่อ่านมาตั้งแต่หนุ่มๆ คือถ้าให้พูดกับเพื่อน ตปท. นี่สบาย แต่ Deep Conversation ก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าให้คุยเล่นตอนพาไปเที่ยวนี่สบาย แต่แกรมม่าผิดครึ่งๆเลยนะ เอาง่ายๆถ้าพูด formal แบบต้อง serve ลูกค้า vendor จาก ตปท. อาจจะไม่เหมาะสม แต่ถ้าคุยแบบเพื่อนร่วมงาน หรือสถานะเราเป็นลูกค้า อันนี้ไม่มีปัญหาเพราะ เค้าไม่ต้องการความ formal อะไรมากมาย55
แต่ทักษะที่ผมมีปัญหาสุดๆคือการฟัง คือผมมีต้องฟังสัมมนาวิชาการเป็นภาษาอังกฤษเรื่อยๆ ราวๆ 2-3 เดือนครั้ง นี่ทำงานมา 8 ปีแล้ว ยังฟังไม่ชินหูสักที เวลาฟังสัมมนาภาษาอังกฤษพวกนี้คือผมใช้พลังงานมาก ฟังภาษาอังกฤษ 30 นาที เหนื่อยเหมือนฟังภาษาไทย 8 ชั่วโมง ด้วยเรื่องที่มันยากอยู่แล้ว(เศรษฐศาสตร์ หรือ เศรษฐมิติ หรือ การวิจัยอื่นๆ) ปกติฟังภาษาไทยก็ต้องค่อยๆย่อย ฟังภาษาอังกฤษนี่ยิ่งยากเลย
ก็พยายามหาวิธีตามที่แนะนำมา นี่ผมดูหนัง sub eng มา 6 ปีละ อ่านนิยายที่เราชอบเป็นภาษาอังกฤษมาเป็น 10 เล่มละ ดูกีฬาภาคอังกฤษเกือบตลอด พยายามพาตัวไป Hangout กับต่างชาติเมื่อมีโอกาส (แต่กินพลังงานมากเวลาต้องไป Hangout ฟัง Eng พูด Eng)
ผลที่ได้คือเวลาฟังหนังฮอลลีวู้ดก็ยังฟังทันแค่ 70% ดูกีฬาก้ราวๆนั้น 70% (และมีประมาณ 50% ที่ในสมองไม่ต้องนั่งนึกแปลเป็นภาษาไทย) แต่พอต้องมานั่งฟังสัมมนาฟังทันแค่ 30-50% และใช้พลังเป็นอย่างมากพอผ่านไป 15 นาที % ก็จะลดลงเรื่อยๆ
นี่เราก็จะ 30 ต้นๆละ จะเป็นซีเนียร์ละ มันต้องมีพูดบ้างแล้วในงานสัมมนา ผมนี่เป็นคนไม่กลัวผิดแกรมม่าเท่าไหร่หรอก แต่กลัวฟังเค้ามาผิด แล้วตอบผิด แบบสมมติเค้าคุยเรื่อง "ทางตะวันตกมีแนวทางให้จำนวนปลาหมอคางดำลดลงในสมัย 10 ปีก่อน" ถ้าสมมติผมฟังเป็น หัวข้ออื่นที่ใกล้กันแต่ผิดความหมายไปหน่อยนึง แล้วผมไปตอบเรื่องอื่นคงขายหน้าแย่
และลองมานั่งสังเกตตัวเองแบบจริงๆจังๆ จึงค้นพบว่าการฟังภาษาไทยของตัวเอง ก็ระบุคำได้ไม่ดีเท่าคนอื่นๆ คือจำนวนครั้งก็ฟังเพื่อนที่พูดไวพูดเร็วพูดไม่เต็มปากผิดความหมาย คือไม่บ่อยจนเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต แต่มันเกิดบ่อยกว่าคนอื่น(เพิ่งรู้ปัญหาเมื่อตั้งใจสังเกตตนเอง)
จึงลองมาสรุปคร่าวๆว่าเราอาจจะเป็นคนที่ใช้หูไม่เก่งเท่าคนอื่น
แต่อยากขอคำแนะนำจากพี่ๆว่า เราสามารถพัฒนาการฟังให้ดีจากวิธีไหนอีก นอกจากเรียนนะครับ
ฟังภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องสักที แต่อ่านเขียนได้ค่อนข้างดี
ส่วนการเขียน เนื่องจากไม่ต้องตอบข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากเรียนภาคไทย ถึงให้รู้ศัพท์ทุกคำ แต่การประกอบเป็นประโยคหรือย่อหน้ายาวๆ ยังต้องใช้พลังในการเชื่อมสันธาน การต้องมานั่งนึกว่า ตัวไหนเป็น adv adj หรือการใช้ประเภทคำให้ถูกกับหน้าที่ประโยคอยู่บ้าง พอมาทำงานต้องส่ง e-mail คุยกับเพื่อนร่วมงาน ตปท. บ้าง ประมาณเดือนละ 5-6 ครั้ง ก็ได้พัฒนาตรงนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เซียนอะไร
ส่วนเรื่องการพูดเนื่องจากเรามีคลังศัพท์เยอะ จากการที่อ่านมาตั้งแต่หนุ่มๆ คือถ้าให้พูดกับเพื่อน ตปท. นี่สบาย แต่ Deep Conversation ก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าให้คุยเล่นตอนพาไปเที่ยวนี่สบาย แต่แกรมม่าผิดครึ่งๆเลยนะ เอาง่ายๆถ้าพูด formal แบบต้อง serve ลูกค้า vendor จาก ตปท. อาจจะไม่เหมาะสม แต่ถ้าคุยแบบเพื่อนร่วมงาน หรือสถานะเราเป็นลูกค้า อันนี้ไม่มีปัญหาเพราะ เค้าไม่ต้องการความ formal อะไรมากมาย55
แต่ทักษะที่ผมมีปัญหาสุดๆคือการฟัง คือผมมีต้องฟังสัมมนาวิชาการเป็นภาษาอังกฤษเรื่อยๆ ราวๆ 2-3 เดือนครั้ง นี่ทำงานมา 8 ปีแล้ว ยังฟังไม่ชินหูสักที เวลาฟังสัมมนาภาษาอังกฤษพวกนี้คือผมใช้พลังงานมาก ฟังภาษาอังกฤษ 30 นาที เหนื่อยเหมือนฟังภาษาไทย 8 ชั่วโมง ด้วยเรื่องที่มันยากอยู่แล้ว(เศรษฐศาสตร์ หรือ เศรษฐมิติ หรือ การวิจัยอื่นๆ) ปกติฟังภาษาไทยก็ต้องค่อยๆย่อย ฟังภาษาอังกฤษนี่ยิ่งยากเลย
ก็พยายามหาวิธีตามที่แนะนำมา นี่ผมดูหนัง sub eng มา 6 ปีละ อ่านนิยายที่เราชอบเป็นภาษาอังกฤษมาเป็น 10 เล่มละ ดูกีฬาภาคอังกฤษเกือบตลอด พยายามพาตัวไป Hangout กับต่างชาติเมื่อมีโอกาส (แต่กินพลังงานมากเวลาต้องไป Hangout ฟัง Eng พูด Eng)
ผลที่ได้คือเวลาฟังหนังฮอลลีวู้ดก็ยังฟังทันแค่ 70% ดูกีฬาก้ราวๆนั้น 70% (และมีประมาณ 50% ที่ในสมองไม่ต้องนั่งนึกแปลเป็นภาษาไทย) แต่พอต้องมานั่งฟังสัมมนาฟังทันแค่ 30-50% และใช้พลังเป็นอย่างมากพอผ่านไป 15 นาที % ก็จะลดลงเรื่อยๆ
นี่เราก็จะ 30 ต้นๆละ จะเป็นซีเนียร์ละ มันต้องมีพูดบ้างแล้วในงานสัมมนา ผมนี่เป็นคนไม่กลัวผิดแกรมม่าเท่าไหร่หรอก แต่กลัวฟังเค้ามาผิด แล้วตอบผิด แบบสมมติเค้าคุยเรื่อง "ทางตะวันตกมีแนวทางให้จำนวนปลาหมอคางดำลดลงในสมัย 10 ปีก่อน" ถ้าสมมติผมฟังเป็น หัวข้ออื่นที่ใกล้กันแต่ผิดความหมายไปหน่อยนึง แล้วผมไปตอบเรื่องอื่นคงขายหน้าแย่
และลองมานั่งสังเกตตัวเองแบบจริงๆจังๆ จึงค้นพบว่าการฟังภาษาไทยของตัวเอง ก็ระบุคำได้ไม่ดีเท่าคนอื่นๆ คือจำนวนครั้งก็ฟังเพื่อนที่พูดไวพูดเร็วพูดไม่เต็มปากผิดความหมาย คือไม่บ่อยจนเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต แต่มันเกิดบ่อยกว่าคนอื่น(เพิ่งรู้ปัญหาเมื่อตั้งใจสังเกตตนเอง)
จึงลองมาสรุปคร่าวๆว่าเราอาจจะเป็นคนที่ใช้หูไม่เก่งเท่าคนอื่น
แต่อยากขอคำแนะนำจากพี่ๆว่า เราสามารถพัฒนาการฟังให้ดีจากวิธีไหนอีก นอกจากเรียนนะครับ