เล่าประสบการณ์ผ่าตัดริดสีดวงทวารสำหรับใครยังหาข้อมูลอยู่
** ข้อมูลที่ผมพิมพ์ไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ละหมอ แต่ละโรงบาล นะครับ
ผมเป็นริดสีดวงทวารตั้งเเต่ยังเด็กประมาณอายุ 13 ปี
สาเหตุการเป็นเกิดจากเบ่งอุจาระแรงๆ และ นั่งถ่ายเป็นระยะเวลานาน (สมัยก่อนชอบเอาหนังสือการ์ตูนเข้าไปอ่านในห้องน้ำและนั่งได้เป็น ชม.)
ตอนเป็นครั้งเเรกคิดว่าถ่ายไม่สุดเลยเบ่งสุดแรงเกิดทำให้ ติ่งไม่ยุบตัวเข้าไปคืนทำให้ทรมานมากๆ ถึงขั้นไข้ขึ้น แถมเวลาขมิบก้นทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก
หลังจากที่ติ่งนั้นฝ่อเเละยุบลงไปอาการก็ดีขึ้น แต่ยังคงมีติ่งเล็กๆด้านใน (จะออกมาขั้นรูทวารตอนนั่งถ่าย) ทำให้การอุจาระทุกครั้งตั้งนั่งๆยืนๆ (ติดการ
ใช้ห้องน้ำที่ต้องมีที่ฉีดก้นเท่านั้น) จากนั้นอาการจะแย่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีนิสัยติดตัวที่ไม่กินผัก ทำให้การขับถ่ายเเข็งบาดริดสีดวง ทำให้เลือดออกตอนถ่ายหนัก (เลือดจะออกมาข้นเเละเเดงสด จะออกมาเฉพาะตอนนั่งถ่ายเท่านั้น) ทำให้มีอาการหน้ามืด สุขภาพเสียสุดๆ บางครั้งถ่ายเป็นเลือดติดต่อเป็นอาทิตย์
เคยคิดว่าจะไปผ่าออกหลายครั้ง เเต่ด้วยตัวเลขการผ่าตัดที่ไม่เคยต่ำกว่า 4 หมื่นเลย ยิงเป็นเเบบไม่เลเซอร์เท่าที่หาดูก็ 7 หมื่น - แสน
ปัจจุบันอายุ 30 ก็ไปหาหมอด้วยโรคประจำตัว คือ
ถ่ายเป็นเลือดเพราะริดสีดวง ก็เข้าไปโรงพยาบาลให้หมดสอดแท่งใสตรวจภายในช่องทวาร ก็คงเป็นเหมือนทุกครั้งก็คือตรวจเจอ เเต่ขนาดมันยังเล็กเลยจ่ายยาเเละให้กลับบ้าน แต่รอบนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะเป็นติดต่อมา 3 อาทิตย์รวด กินยาไม่หาย เพราะแผลที่อยุ่ภายในเป็นหนอง เเละมีจำนวนหัวได้ Spawnออกมาอีก 1 หัว จึงได้รับสิทธ์ในการผ่าตัดธรรมดา ที่หลังผ่าเจ็บปวดทรมานแบบ 300% แน่นอน
วันที่ 10/07/24 เลยได้ผ่าตัดในตอนบ่ายทันที เพราะบอกหมอว่าเมื่อคืนตั้งเเต่ 3 ทุ่มไม่ได้กินข้าวกับกินน้ำมา เพราะหลับไว หมอบอกเตรียมตัวมาเหมือนรู้งานจับผ่าได้ทันที (ปกติคนไข้ที่ไม่ได้อดอาหารมาจะต้องมานอนพักที่โรงบาลก่อนอาจจะ 9 ชั่วโมง (ไม่เเน่ใจ) ก่อนขับถ่ายให้เรียบร้อยเเละค่อยผ่าตัด)
หลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จก็โดนพยาบาลจับเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดคลุมเปิดหลัง และหมอจะเข้ามาสวนทวารเพื่อให้ถ่ายให้หมดก่อนผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดคุณหมอเอาเอกสารมาให้เซ็นพร้อมบอกวิธีการ ว่าครั้งนี้จะเป็นการผ่าตัดบล็อคหลัง โดยการฉีดยาเข้ากระดูกสันหลัง
ก็ถึงเวลาผ่าตัด (ด้านในเหมือนในหนัง แอบน่ากลัว) จับเราถอดเสื้อผ้า เเละให้นอนชันเข่าเพื่อฉีดยาชาเข้ากระดูกสันหลัง (ตรงนี้เจ็บเล็กน้อยถึงปานกลางทนได้) จากนั้นยาก็เริ่มเเสดงผลทันที ชาครึ่งล่าง คุณหมอจับพลิกตัวทำท่ากบเเอ่นทวารขึ้น หลังจากนั้นก็จะมีอาการหน้ามืดเล็กน้อย
ตอนผ่าตัดไม่เจ็บเลย ตึงๆบริเวณทวารอย่างเดียว เเต่คุณหมอใช้เวลานานมากในเคสผม คิดว่าติ่งน่าจะอยู่ลึกพอสมควร จนยาชาเริ่มส่งผลน้อยลงผมรับรู้ได้ถึงเครื่องมือที่เข้าไปตัด เเละโดนบริเวณเเก้มก้น สัมผัสได้ถึงมือที่ดึงถางเเก้มทั้ง 2 ออกในใจ ภวานาว่าอย่าให้ยาชาหมดฤทธิ์เด็ดขาด เพราะผมเริ่มขยับนิ้วเท้าได้เเล้วเเต่คุณหมอยังไม่เสร็จ เเต่ก็จบไปด้วยดีโดยก่อนเสร็จคุณหมอได้ทำการยัดผ่าเทปติดเเผลยัดมาเต็มก้น เเต่ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรเพราะยาชายังอยู่
เข้าสู่เฟททรมาน!! ก็คือห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด นอนพักไปได้ 1 ชม.ตอนนี้เริ่มมีอาการเจ็บเเผล เเละปวดฉี่มากๆ ตรงปวดฉี่นี้คือปัญหาของการมาผ่าตัดริดสีดวงเลยเพราะเมื่อหลังจากโดนบล็อคหลังเเล้วเราจะไม่สามารถควบคุมการเบ่งฉี่ได้ ทำให้มีอาการเจ็บท้องน้อยมากๆ จนต้องเรียกพยาบาลขอขวดปัสวะ เเต่ก็ไม่สามารถเบ่งฉี่ได้ เเละไม่สามารถพลิกตัวไปมาได้ต้องนอนเป็นผักอยู่เเบบนี้ให้ถึง 3 ทุ่ม (ตอนนั้นเวลา บ่ายโมงครึ่ง) ทนไม่ไหวสุดๆ จนเเทบร้องไห้ (บางเคสหรือบางรีวิวชอบพิมพ์กันว่าเจ็บปวดเเต่ทนได้ เเต่ผมไม่คิดเช่นนั้นทรมานมาก ขอรีวิวเเบบไม่อวย) พยาบาลจึงบอกว่าจะทำการสวนฉี่ให้ เเต่ตอนเจ็บปวดรู้สึกว่าเวลาที่พยาบาลไปเอาเครื่องมือกันมามันนานมากๆ ด้วยเเรงทั้งหมดที่มีผมเบ่งสุดเกิดเลยจนฉี่ออกมานิดหน่อย ก็สบายใจขึ้นเพราะเริ่มฉี่ได้เเล้ว พยาบาลเห็นเริ่มฉี่ได้เลยเอาอุปกรณ์สวนฉี่ไปเก็บ ผมก็ใช่เวลากับการเบ่งฉี่ไป จนถึง 3 ทุ่ม (ในระหว่างทางคือทรมานกับผ้าพันเเพรที่เเปะอุดไว้ที่รูทวารมากเพราะมันยัดแน่น หมอเขาปั้นเป็นดุ้นเเล้วชุบเบตาดีนเเล้วเสียบไว้) จะได้เวลาลุกเดินเเละเเกะดุ้นนั้นออกเสียที พอถึง 3 ทุ่ม ผมเเกะออกทันทีเเละลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะมันมีหลายอาการปนกันไปหมด ปวดฉี่ เจ็บเเผลที่ก้น ปวดท้องน้อย ปวดนั้นนี้ผสมกันไปหมด จนตอนไปนั่งที่ชักโครก ความเจ็บปวดเเบบเดิมก็กลับมาคืออาการเจ็บตรงที่ขมิบก้นเเบบปวดร้าวเลยนะ ไข้ขึ้นเลย ไม่สามารถลุกมาจากชักโครกได้ทันทีต้องใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะลุกจากนั้นได้ แถมตอนนี้ผมจะปวดฉี่บ่อยมาก เหมือนฉี่ไม่สุด เเละการฉี่ทุกครั้งก่อนมันจะสุดเราจะมีการขมิบก้นทุกครั้งทำให้การเข้าห้องน้ำมาฉี่ทรมาณเช่นกัน สรุปคืนวันผ่าตัด ไข้ขึ้น 38 เพราะทรมานแผล และที่เจ็บใจสุดคือ หมอไม่ได้เขียนในพยาบาลมาเเช่ก้นเเผลหลังผ่าตัดวันเเรก มารู้อีกทีว่าผมควรจะได้บรรเทาทุกข์จากการเเช่น้ำอุ่นก้นสักหน่อยกลายเป็นว่านอนเป็นไข้ ปวดเเผล เลือดเเละน้ำเหลืองไหลเป็นวงเต็มที่นอนโรงบาล จนหมอมาทักว่าปวดมั้ยหลังเเช่ก้นไปเป็นยังไงบ้าง ผมเลยบอกว่ายังไม่ได้เเช่เลยครับนอนไม่หลับทั้งคืน (ยังไม่รวมเรื่องของนอนโรงบาลห้องรวมกับคนไข้อีกคนขี้หนาว ที่ไปปรับเเอร์จนผมกับญาติที่มาเฝ้าไข้นอนไม่ได้เหงื่อไหล จนคนที่มาเฝ้าผมต้องเอาพัดมาพัดให้ตอนกลางคืน) หลังจากผ่านวันเเรกไปได้อาการก็ดีขึ้นเเบบก้าวกระโดดเเต่ยังเจ็บจากการขมิบอยู่ เเต่เดินได้ 2 วันหลังจากนั้นก็สามารถอุจจาระได้เเต่แสบมาก เเต่ตอนไม่เข้าห้องน้ำหรือนอนอยุ่บนเตียง จะได้กินยาเเก้ปวดก็จะรู้สึกว่าร่างกายปกติทุกอย่าง หลังจากนอนโรงบาลไป 4 วันหมอบอกสามารถเดินทางกลับบ้าน
หลังกลับบ้านมาจากวันที่ 14 - 25/07/24 อาการตอนนี้เดินได้ ถ่ายได้ปกติ ต้องเเช่ก้น 2 เวลา น้ำต้องต้มเดือดๆ เเละสะอาด ส่วนที่เเช่ก้นต้องสั่ง shopee มา อันละ 200 กว่าบาท บางโรงบาลอาจจะเเถมมาให้ (เเต่ที่นี่เขาไม่ทำกันอย่างงั้น) อาการเจ็บจากการขมิบหายไปประมาณกลับมาได้ 5 วัน และตอนนี้ที่ยังคงเป็นอยู่คือ มีน้ำเหลืองไหลอยู่ + มีติ่งเนื้อยื่นออกมา (หาข้อมูลในอากู๋หรือตามรีวิวมาเขาบอกว่ามันเป็นการอักเสบจากการผ่าตัด เดียวจะยุบหายไปเองหลังจากเเผลหาย ) + อาการคัน (คันคนจะเป็นสัญญาณของแผลที่เริ่มจะหายเเล้ว) บางคนบอกว่าอาทิตย์เดียวก็หายใช้ชิวิตได้ปกติ เเต่ผมบอกเลยว่าเเล้วเเต่ร่างกายคนเลยครับอันนี้
สรุป ผ่าตัดริดสีดวงธรรมดาเจ็บครับ เจ็บมาก ทรมานมาก ส่วนหายไวไม่ไวขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ผม 15 วันคิดว่าร่างกายฟื้นฟูมาประมาณ 70% คือไม่ได้รบกวนกับการใช้ชิวิตครับหลังจากหายเเล้วจะมาอัพเดทให้ทราบ
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังหาข้อมูลว่าจะตัดดีหรือไม่
- ทำใจได้เลยครับเเล้งปลงไปเลยว่าเจ็บเเน่ ไออาการเจ็บนี้มันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยนะครับว่าทนได้มากเเค่ไหน
- ค่าใช้จ่ายสิทธิประกันสังคม 6 หมื่นสำหรับการผ่าตัดริดสีดวง
- รอลุ้นว่าจะมีอาการของรูทวารตีบหรือไม่ เเต่ตอนนี้เริ่มถ่ายเหมือนกระต่าย อุจระไหลเป็นMetronome เป็นก้อนเล็กๆ
- ใช้ชีวิตดีขึ้นกว่าปกติไหม ไม่เห็นความเเตกต่างเพราะยังไม่หายดีเเหละมั้ง เเต่ดีว่ามีเลือดไหลถึงจะไม่เจ็บเเต่รู้สึกได้เลยว่าร่างกายไม่โอเคเเน่นอน
ผ่าตัดริดสีดวงทวาร...ทรมานกว่าที่คิด
** ข้อมูลที่ผมพิมพ์ไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ละหมอ แต่ละโรงบาล นะครับ
ผมเป็นริดสีดวงทวารตั้งเเต่ยังเด็กประมาณอายุ 13 ปี
สาเหตุการเป็นเกิดจากเบ่งอุจาระแรงๆ และ นั่งถ่ายเป็นระยะเวลานาน (สมัยก่อนชอบเอาหนังสือการ์ตูนเข้าไปอ่านในห้องน้ำและนั่งได้เป็น ชม.)
ตอนเป็นครั้งเเรกคิดว่าถ่ายไม่สุดเลยเบ่งสุดแรงเกิดทำให้ ติ่งไม่ยุบตัวเข้าไปคืนทำให้ทรมานมากๆ ถึงขั้นไข้ขึ้น แถมเวลาขมิบก้นทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก
หลังจากที่ติ่งนั้นฝ่อเเละยุบลงไปอาการก็ดีขึ้น แต่ยังคงมีติ่งเล็กๆด้านใน (จะออกมาขั้นรูทวารตอนนั่งถ่าย) ทำให้การอุจาระทุกครั้งตั้งนั่งๆยืนๆ (ติดการ
ใช้ห้องน้ำที่ต้องมีที่ฉีดก้นเท่านั้น) จากนั้นอาการจะแย่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีนิสัยติดตัวที่ไม่กินผัก ทำให้การขับถ่ายเเข็งบาดริดสีดวง ทำให้เลือดออกตอนถ่ายหนัก (เลือดจะออกมาข้นเเละเเดงสด จะออกมาเฉพาะตอนนั่งถ่ายเท่านั้น) ทำให้มีอาการหน้ามืด สุขภาพเสียสุดๆ บางครั้งถ่ายเป็นเลือดติดต่อเป็นอาทิตย์
เคยคิดว่าจะไปผ่าออกหลายครั้ง เเต่ด้วยตัวเลขการผ่าตัดที่ไม่เคยต่ำกว่า 4 หมื่นเลย ยิงเป็นเเบบไม่เลเซอร์เท่าที่หาดูก็ 7 หมื่น - แสน
ปัจจุบันอายุ 30 ก็ไปหาหมอด้วยโรคประจำตัว คือ ถ่ายเป็นเลือดเพราะริดสีดวง ก็เข้าไปโรงพยาบาลให้หมดสอดแท่งใสตรวจภายในช่องทวาร ก็คงเป็นเหมือนทุกครั้งก็คือตรวจเจอ เเต่ขนาดมันยังเล็กเลยจ่ายยาเเละให้กลับบ้าน แต่รอบนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะเป็นติดต่อมา 3 อาทิตย์รวด กินยาไม่หาย เพราะแผลที่อยุ่ภายในเป็นหนอง เเละมีจำนวนหัวได้ Spawnออกมาอีก 1 หัว จึงได้รับสิทธ์ในการผ่าตัดธรรมดา ที่หลังผ่าเจ็บปวดทรมานแบบ 300% แน่นอน
วันที่ 10/07/24 เลยได้ผ่าตัดในตอนบ่ายทันที เพราะบอกหมอว่าเมื่อคืนตั้งเเต่ 3 ทุ่มไม่ได้กินข้าวกับกินน้ำมา เพราะหลับไว หมอบอกเตรียมตัวมาเหมือนรู้งานจับผ่าได้ทันที (ปกติคนไข้ที่ไม่ได้อดอาหารมาจะต้องมานอนพักที่โรงบาลก่อนอาจจะ 9 ชั่วโมง (ไม่เเน่ใจ) ก่อนขับถ่ายให้เรียบร้อยเเละค่อยผ่าตัด)
หลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จก็โดนพยาบาลจับเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดคลุมเปิดหลัง และหมอจะเข้ามาสวนทวารเพื่อให้ถ่ายให้หมดก่อนผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดคุณหมอเอาเอกสารมาให้เซ็นพร้อมบอกวิธีการ ว่าครั้งนี้จะเป็นการผ่าตัดบล็อคหลัง โดยการฉีดยาเข้ากระดูกสันหลัง
ก็ถึงเวลาผ่าตัด (ด้านในเหมือนในหนัง แอบน่ากลัว) จับเราถอดเสื้อผ้า เเละให้นอนชันเข่าเพื่อฉีดยาชาเข้ากระดูกสันหลัง (ตรงนี้เจ็บเล็กน้อยถึงปานกลางทนได้) จากนั้นยาก็เริ่มเเสดงผลทันที ชาครึ่งล่าง คุณหมอจับพลิกตัวทำท่ากบเเอ่นทวารขึ้น หลังจากนั้นก็จะมีอาการหน้ามืดเล็กน้อย
ตอนผ่าตัดไม่เจ็บเลย ตึงๆบริเวณทวารอย่างเดียว เเต่คุณหมอใช้เวลานานมากในเคสผม คิดว่าติ่งน่าจะอยู่ลึกพอสมควร จนยาชาเริ่มส่งผลน้อยลงผมรับรู้ได้ถึงเครื่องมือที่เข้าไปตัด เเละโดนบริเวณเเก้มก้น สัมผัสได้ถึงมือที่ดึงถางเเก้มทั้ง 2 ออกในใจ ภวานาว่าอย่าให้ยาชาหมดฤทธิ์เด็ดขาด เพราะผมเริ่มขยับนิ้วเท้าได้เเล้วเเต่คุณหมอยังไม่เสร็จ เเต่ก็จบไปด้วยดีโดยก่อนเสร็จคุณหมอได้ทำการยัดผ่าเทปติดเเผลยัดมาเต็มก้น เเต่ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรเพราะยาชายังอยู่
เข้าสู่เฟททรมาน!! ก็คือห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด นอนพักไปได้ 1 ชม.ตอนนี้เริ่มมีอาการเจ็บเเผล เเละปวดฉี่มากๆ ตรงปวดฉี่นี้คือปัญหาของการมาผ่าตัดริดสีดวงเลยเพราะเมื่อหลังจากโดนบล็อคหลังเเล้วเราจะไม่สามารถควบคุมการเบ่งฉี่ได้ ทำให้มีอาการเจ็บท้องน้อยมากๆ จนต้องเรียกพยาบาลขอขวดปัสวะ เเต่ก็ไม่สามารถเบ่งฉี่ได้ เเละไม่สามารถพลิกตัวไปมาได้ต้องนอนเป็นผักอยู่เเบบนี้ให้ถึง 3 ทุ่ม (ตอนนั้นเวลา บ่ายโมงครึ่ง) ทนไม่ไหวสุดๆ จนเเทบร้องไห้ (บางเคสหรือบางรีวิวชอบพิมพ์กันว่าเจ็บปวดเเต่ทนได้ เเต่ผมไม่คิดเช่นนั้นทรมานมาก ขอรีวิวเเบบไม่อวย) พยาบาลจึงบอกว่าจะทำการสวนฉี่ให้ เเต่ตอนเจ็บปวดรู้สึกว่าเวลาที่พยาบาลไปเอาเครื่องมือกันมามันนานมากๆ ด้วยเเรงทั้งหมดที่มีผมเบ่งสุดเกิดเลยจนฉี่ออกมานิดหน่อย ก็สบายใจขึ้นเพราะเริ่มฉี่ได้เเล้ว พยาบาลเห็นเริ่มฉี่ได้เลยเอาอุปกรณ์สวนฉี่ไปเก็บ ผมก็ใช่เวลากับการเบ่งฉี่ไป จนถึง 3 ทุ่ม (ในระหว่างทางคือทรมานกับผ้าพันเเพรที่เเปะอุดไว้ที่รูทวารมากเพราะมันยัดแน่น หมอเขาปั้นเป็นดุ้นเเล้วชุบเบตาดีนเเล้วเสียบไว้) จะได้เวลาลุกเดินเเละเเกะดุ้นนั้นออกเสียที พอถึง 3 ทุ่ม ผมเเกะออกทันทีเเละลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะมันมีหลายอาการปนกันไปหมด ปวดฉี่ เจ็บเเผลที่ก้น ปวดท้องน้อย ปวดนั้นนี้ผสมกันไปหมด จนตอนไปนั่งที่ชักโครก ความเจ็บปวดเเบบเดิมก็กลับมาคืออาการเจ็บตรงที่ขมิบก้นเเบบปวดร้าวเลยนะ ไข้ขึ้นเลย ไม่สามารถลุกมาจากชักโครกได้ทันทีต้องใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะลุกจากนั้นได้ แถมตอนนี้ผมจะปวดฉี่บ่อยมาก เหมือนฉี่ไม่สุด เเละการฉี่ทุกครั้งก่อนมันจะสุดเราจะมีการขมิบก้นทุกครั้งทำให้การเข้าห้องน้ำมาฉี่ทรมาณเช่นกัน สรุปคืนวันผ่าตัด ไข้ขึ้น 38 เพราะทรมานแผล และที่เจ็บใจสุดคือ หมอไม่ได้เขียนในพยาบาลมาเเช่ก้นเเผลหลังผ่าตัดวันเเรก มารู้อีกทีว่าผมควรจะได้บรรเทาทุกข์จากการเเช่น้ำอุ่นก้นสักหน่อยกลายเป็นว่านอนเป็นไข้ ปวดเเผล เลือดเเละน้ำเหลืองไหลเป็นวงเต็มที่นอนโรงบาล จนหมอมาทักว่าปวดมั้ยหลังเเช่ก้นไปเป็นยังไงบ้าง ผมเลยบอกว่ายังไม่ได้เเช่เลยครับนอนไม่หลับทั้งคืน (ยังไม่รวมเรื่องของนอนโรงบาลห้องรวมกับคนไข้อีกคนขี้หนาว ที่ไปปรับเเอร์จนผมกับญาติที่มาเฝ้าไข้นอนไม่ได้เหงื่อไหล จนคนที่มาเฝ้าผมต้องเอาพัดมาพัดให้ตอนกลางคืน) หลังจากผ่านวันเเรกไปได้อาการก็ดีขึ้นเเบบก้าวกระโดดเเต่ยังเจ็บจากการขมิบอยู่ เเต่เดินได้ 2 วันหลังจากนั้นก็สามารถอุจจาระได้เเต่แสบมาก เเต่ตอนไม่เข้าห้องน้ำหรือนอนอยุ่บนเตียง จะได้กินยาเเก้ปวดก็จะรู้สึกว่าร่างกายปกติทุกอย่าง หลังจากนอนโรงบาลไป 4 วันหมอบอกสามารถเดินทางกลับบ้าน
หลังกลับบ้านมาจากวันที่ 14 - 25/07/24 อาการตอนนี้เดินได้ ถ่ายได้ปกติ ต้องเเช่ก้น 2 เวลา น้ำต้องต้มเดือดๆ เเละสะอาด ส่วนที่เเช่ก้นต้องสั่ง shopee มา อันละ 200 กว่าบาท บางโรงบาลอาจจะเเถมมาให้ (เเต่ที่นี่เขาไม่ทำกันอย่างงั้น) อาการเจ็บจากการขมิบหายไปประมาณกลับมาได้ 5 วัน และตอนนี้ที่ยังคงเป็นอยู่คือ มีน้ำเหลืองไหลอยู่ + มีติ่งเนื้อยื่นออกมา (หาข้อมูลในอากู๋หรือตามรีวิวมาเขาบอกว่ามันเป็นการอักเสบจากการผ่าตัด เดียวจะยุบหายไปเองหลังจากเเผลหาย ) + อาการคัน (คันคนจะเป็นสัญญาณของแผลที่เริ่มจะหายเเล้ว) บางคนบอกว่าอาทิตย์เดียวก็หายใช้ชิวิตได้ปกติ เเต่ผมบอกเลยว่าเเล้วเเต่ร่างกายคนเลยครับอันนี้
สรุป ผ่าตัดริดสีดวงธรรมดาเจ็บครับ เจ็บมาก ทรมานมาก ส่วนหายไวไม่ไวขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ผม 15 วันคิดว่าร่างกายฟื้นฟูมาประมาณ 70% คือไม่ได้รบกวนกับการใช้ชิวิตครับหลังจากหายเเล้วจะมาอัพเดทให้ทราบ
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังหาข้อมูลว่าจะตัดดีหรือไม่
- ทำใจได้เลยครับเเล้งปลงไปเลยว่าเจ็บเเน่ ไออาการเจ็บนี้มันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยนะครับว่าทนได้มากเเค่ไหน
- ค่าใช้จ่ายสิทธิประกันสังคม 6 หมื่นสำหรับการผ่าตัดริดสีดวง
- รอลุ้นว่าจะมีอาการของรูทวารตีบหรือไม่ เเต่ตอนนี้เริ่มถ่ายเหมือนกระต่าย อุจระไหลเป็นMetronome เป็นก้อนเล็กๆ
- ใช้ชีวิตดีขึ้นกว่าปกติไหม ไม่เห็นความเเตกต่างเพราะยังไม่หายดีเเหละมั้ง เเต่ดีว่ามีเลือดไหลถึงจะไม่เจ็บเเต่รู้สึกได้เลยว่าร่างกายไม่โอเคเเน่นอน