พญานาคที่บ้านคำเตย จะเป็นเพียงเรื่องเล่า หรือมีตัวตนอยู่จริง? มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกัน! #ตำนานไทย #พญานาค #เรื่องเล่า


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
"ผมจะพาทุกท่านย้อนเวลาไปเมื่อปี พ.ศ. 2533 
สมัยที่ผมยังเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ
 ชื่อบ้านคำเตย อำเภอไทยเจริง จังหวัดยโสธรครับ"

"ในสมัยนั้น หมู่บ้านของผมเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี
 และมีสระน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน
 สระน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวบ้าน
 ใช้สำหรับอุปโภคบริโภคและเลี้ยงสัตว์ แต่เบื้องหลังความสงบสุขนั้น 
กลับซ่อนเร้นเรื่องราวลึกลับน่าขนลุกที่คนในหมู่บ้านต่างพากันเล่าขานสืบต่อกันมา
 นั่นก็คือตำนานของ 'พญานาคบ้านคำเตย' นั่นเองครับ"

"เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อยามค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม
 ดวงจันทร์ซ่อนตัวอยู่หลังก้อนเมฆ เสียงจิ้งหรีดร้องเจี๊ยบแจ้ว
 และลมพัดโชยมาเบาๆ ผมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน 
พร้อมกับคุณยายที่กำลังปั่นฝ้าย มือเล็กๆ ของผมกำขวดน้ำหวานไว้แน่น
 ขณะที่สายตากวาดมองไปรอบๆ สนามหญ้ากว้าง"
"คุณยายเริ่มเล่าเรื่องราวให้ผมฟังด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
 เรื่องราวของพญานาคตนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร อาศัยอยู่ ณ สระน้ำกลางหมู่บ้าน
 พวกเขาเชื่อกันว่าพญานาคตนนี้มีอายุยืนยาวมาก"

"คุณยายเล่าว่า พญานาคตนนี้มักจะออกมาปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นในยามค่ำคืน"

วันหนึ่งมีข่าวลือว่ามีเณรน้อยรูปร่างผอมสูงรูปหนึ่ง ในวัดป่าบ้านคำเตย 
ได้นั่งสมาธิอยู่ริมสระน้ำหลังวัด และได้เห็นภาพของพญานาคขนาดใหญ่กำลังเลื้อยเล่นอยู่ในน้ำอย่างชัดเจน 
เณรน้อยผู้นั้นเล่าว่า พญานาคมีเกล็ดสีเงินวาวระยับ ดวงตาสีแดงก่ำ "

"พอชาวบ้านรู้ข่าวจากเณรน้อยกันหมด ก็พากันตื่นเต้น
ต่างคนต่างพากันมาดูพญานาคที่สระน้ำกันจนแน่นขนัด
ผมเองก็รีบวิ่งไปดูด้วยความตื่นเต้นใจจะขาด
แต่พอไปถึงสระน้ำกลับไม่เห็นอะไรเลย
มีเพียงแต่ชาวบ้านยืนมุงกันเต็มไปหมด "

"หลังจากนั้นไม่นาน พ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเปิดร้านขายของข้างสระน้ำมากขึ้น 

โดยเฉพาะร้านขายส้มตำที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
 เพราะชาวบ้านอยากเห็นพญานาคเชื่อว่า จะทำให้มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
ทำให้เศรษฐกิจของบ้านคำเตยดีขึ้นเป็นอย่างมาก
มีนักท่องเที่ยวมามากมายเพื่อมาชมสระน้ำและลิ้มลองรสชาติของส้มตำ"

คิดว่า พวกเราจะเห็นพญานาคกันจริงๆ หรือเปล่า?

"แต่แล้วก็มีชาวบ้านบางคนที่ไม่เชื่อเรื่องราวเหล่านี้ 
พวกเขาลงไปในสระน้ำเพื่อหาหลักฐานว่ามีพญานาคจริงหรือไม่ 
แต่สิ่งที่พวกเขาเจอคือถุงขยะเก่าๆ ที่ติดอยู่กับกิ่งไม้ใต้น้ำ 
พวกเขาจึงประกาศให้ชาวบ้านคนอื่นๆ ฟังว่าไม่มีพญานาคอยู่จริง
 และว่าเณรน้อยคนนั้นขี้โกหก"

ทำให้ชาวบ้านหลายคนรู้สึกผิดหวังและโกรธแค้นที่ถูกหลอกลวง"
"ความเชื่อในพญานาคเริ่มสั่นคลอนไป คนที่เคยเชื่อก็เริ่มสงสัย
 คนที่ไม่เชื่อก็ยิ่งยืนยันในความคิดของตัวเองมากขึ้น

"พ่อค้าแม่ค้าที่เคยหวังพึ่งพาเรื่องราวของพญานาคในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
ก็ต้องผิดหวัง 
เมื่อข่าวลือแพร่กระจายออกไป ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้ามาเที่ยวที่หมู่บ้านอีกต่อไป 
ร้านค้าต่างๆ เริ่มเงียบเหงา เศรษฐกิจของหมู่บ้านก็ซบเซาลงอีกครั้ง"

พ่อค้าแม่ค้าที่เคยค้าขายได้กำไร ก็ขายของไม่ได้เพราะไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อ
 เพราะทุกคนต่างก็จมอยู่กับความทุกข์ยาก 

"ความยากลำบากบีบให้หนุ่มสาวในหมู่บ้านต้องออกไปหางานทำในเมืองใหญ่ 
พวกเขาต้องทิ้งบ้านเกิดไป เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว บางคนต้องฝากลูกไว้กับญาติพี่น้อง
 ทำให้ครอบครัวขาดความอบอุ่น หลายครอบครัวแตกแยก"
ต่อมาชาวบ้านก็เริ่มคิดว่า น่าจะสร้างรูปปั้นพญานาค ข้างสระน้ำ หน้าวัดป่าบ้านคำเตย
เพื่อเป็นการบูชาพญานาค
จึงได้สรา้ง เสร็จเมื่อ พ.ศ2567 

ความเชื่อเรื่องพญานาคช่วยให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข 
โดยมีความเคารพต่อธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
การอนุรักษ์ธรรมชาติ: ความเชื่อเรื่องพญานาคที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ 
ทำให้คนในชุมชนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม
การส่งเสริมการท่องเที่ยว: 
ความเชื่อเรื่องพญานาคดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนสถานที่ที่มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับพญานาค 
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชน
การสร้างเอกลักษณ์: ความเชื่อเรื่องพญานาคเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทย
 ช่วยสร้างความเป็นปึกแผ่นและความภาคภูมิใจในท้องถิ่น
กฎแห่งกรรมนำมาเป็นผลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หลักการของกรรมนั้นเป็นสัจธรรมที่สามารถพิสูจน์ได้ การกระทำใดๆ 
ย่อมส่งผลกลับมาหาตัวผู้กระทำเสมอ ดังนั้น การเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
 ควรมาพร้อมกับการกระทำที่ดีงาม การให้ความสำคัญกับการทำความดี การช่วยเหลือผู้อื่น 
และการรักษาศีลธรรม จะนำมาซึ่งผลที่ดี  และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่แท้จริง
จบแล้วครับเรื่องความทรงจำในวัยเด็ก  
ผิดพลาดตรงไหนขออภัย พร้อมแก้ไขปรับปรุงครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่