"งูใหญ่" เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ โดยขณะที่บางตำราก็หมายถึง "พญานาค" และ "มังกร" ตามแต่ความเชื่อของแต่ละประเทศ
พญานาคและมังกรต่างก็อยู่ในน้ำ และสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้พ่นไฟได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งในทางเทววิทยา ต่างก็ยกให้พญานาคและมังกรเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์ด้วยกันทั้งคู่ สามารถอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก
"มังกร" กับ "พญานาค" คือสิ่งเดียวกัน แต่ว่าคนที่เห็นเป็นคนละเชื้อชาติกัน ในเมื่อคนละเชื้อชาติกัน สิ่งที่ยึดถือมาเดิมๆ ลักษณะต้องเป็นอย่างนั้นๆ ของเขาเอง พอถึงเวลาวาดให้คนอื่นเห็น ก็เลยออกไปคนละทิศคนละทางกัน แต่ว่าก็แบบเดียวกัน คือเป็นงูใหญ่ที่มีฤทธิ์เหมือนกัน
มังกร
"งูใหญ่" ของไทยก็คือ "พญานาค" หรือที่ไทยพายัพเรียกว่า "ปีสี" หรือ "เปิ้งนาค" ตรงกับปีนักษัตรของจีน คือ "มังกร" ซึ่งในภาษาจีนหลวงเรียกว่าหล่ง กวางตุ้งเรียกหลุ่ง ฮกเกี้ยนเรียกเหล็ง แต้จิ๋วเรียกเล้ง จีนแคะเรียกลิอุ๋ง ญวนเรียกกองร่อง
พญานาค
คนสมัยโบราณจะนิยมสร้างหรือต่อเรือที่มีหัวเรือเป็นรูป "มังกร" ซึ่งไทยเราเองก็มีแต่เราเรียกว่า "พญานาค" เท่านั้นเอง
ในวัฒนธรรม "ล้านนา" และ "ล้านช้าง" มีคำเรียก “พญานาค” อีกอย่างหนึ่งว่า “ลวง” ซึ่งมีที่มาจากชื่อเรียกในสำเนียงจีนแมนดารินว่า “หลง” (หรือ “เล้ง” ในสำเนียงของพวกจีนแต้จิ๋ว) พวกล้านช้างหรือล้านนาในสมัยก่อนมีความใกล้ชิดกับจีน ก็เอา “หลง” มาจับใส่ไว้เป็นสัตว์ในปรัมปราคติของตัวเองด้วย แต่เรียกด้วยสำเนียงตนเองว่า “ลวง”
และที่ว่าพญานาคคือสิ่งเดียวกับมังกรนั้น หมายถึง "มังกรจีน" ไม่ใช่ "มังกรฝรั่ง" หรือมังกรตามความเชื่อของทางตะวันตก
มังกรตะวันตก
เพราะมังกรตามความเชื่อของจีนและของฝรั่งที่เราเห็นในวรรณกรรมต่างๆ นั้น ไม่เหมือนกัน แม้จะใช้คำว่า "Dragon" หรือ "มังกร" เหมือนกันก็ตาม
มังกรของจีนหรือทิเบต ที่เราเห็นกันตามรูปภาพหรือในหนังจะเป็นประเภทสัตว์เลื้อยคลานหรืองูที่ไม่มีปีก แต่สามารถบินไปในอากาศได้ นอกจากนี้มังกรจีนยังเป็นสัตว์กึ่งเทพเจ้าที่มีอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้เกิดฝน เกิดความอุดมสมบูรณ์ได้
แต่มังกรของยุโรปเป็นสัตว์ที่เสมือนตัวแทนของความชั่วร้ายหรือปีศาจหรือมาร เป็นสัตว์ที่มุ่งร้ายต่อมนุษย์ โดยมากมีลักษณะเป็นสัตว์สี่ขา มีปีกกว้างใหญ่คล้ายค้างคาว หางยาวปลายหางเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายหัวหอก สามารถพ่นไฟได้
พญานาคหรืองูใหญ่ของไทยและมังกรของจีน เป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์อำนาจเหมือนกัน รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์ทั้งสองนี้ก็มีความคล้ายกันอีกด้วย เช่น สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้
ในประเทศจีนได้มีการกล่าวถึงความสามารถในการกลายร่างของมังกรไว้ว่า มังกรสามารถย่อตัวจนเท่าหนอน หรือสามารถขยายใหญ่เท่ามหาสมุทรได้ และบางตำนานของจีนก็มีกล่าวไว้ เช่น ฮ่องแต้ทรงสวรรคต และกลายเป็นมังกรบินกลับสวรรค์ไป ซึ่งพญานาคของไทยก็ไม่ต่างอะไรกับมังกรของจีนเลย
เคยฟังจากผู้มีญาณทั้งหลายที่บอกว่ามี "พญานาค" นอนขดตัวบำเพ็ญศีลอยู่ในถ้ำลึกตรงนั้นตรงนี้หรือใต้บาดาลนั้น แท้จริงแล้วคือ "มังกร" นั่นแล เพียงแต่เรามองไม่เห็นเขา เพราะเขาเป็นกายละเอียด ซึ่งพวกเขาสามารถมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ได้เพื่อบำเพ็ญสั่งสมกำลังบารมีของตัวเองต่อไป ถ้าจะกล่าวเอาเท่หน่อยก็เรียกว่า "มังกรมาจุติเป็นมนุษย์" ก็ได้เช่นกัน
ดังนั้น "พญานาค" กับ "มังกร" คือสิ่งๆ เดียวกัน มีฤทธิ์เหมือนกัน และสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์หรือมาเกิดเป็นมนุษย์ได้
สุดท้ายนี้ "พญานาค" กับ "มังกร" มีอยู่ทั่วประเทศไทย หาได้มีแค่เฉพาะในแม่น้ำโขงเท่านั้น ถ้าภาคกลางก็สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ที่สุพรรณบุรี ซึ่งสระทั้งสี่ของเมืองสุพรรณ เป็นน้ำที่ไม่เคยแห้ง คนโบราณจึงยกย่องเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วเชิญเป็นน้ำอภิเษกตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยคนแต่ก่อนเชื่อว่าเป็นน้ำของพญานาคจากเมืองบาดาล จึงถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์กว่าน้ำอื่นๆ นั่นเอง
สระแก้ว หนึ่งในสระน้ำทั้งสี่
นอกจากสระน้ำแล้วยังมีถ้ำเขาป่าไพรต่างๆ ในภาคกลางกับภาคใต้ที่ยังมีอยู่อีกมากมาย รอให้ผู้มีญาณไปสำรวจค้นหาสัตว์กึ่งเทพอย่าง "พญานาค" หรือ "มังกร" อยู่เสมอ
มังกรก็คือพญานาค พญานาคก็คือมังกร
พญานาคและมังกรต่างก็อยู่ในน้ำ และสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้พ่นไฟได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งในทางเทววิทยา ต่างก็ยกให้พญานาคและมังกรเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์ด้วยกันทั้งคู่ สามารถอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก
"มังกร" กับ "พญานาค" คือสิ่งเดียวกัน แต่ว่าคนที่เห็นเป็นคนละเชื้อชาติกัน ในเมื่อคนละเชื้อชาติกัน สิ่งที่ยึดถือมาเดิมๆ ลักษณะต้องเป็นอย่างนั้นๆ ของเขาเอง พอถึงเวลาวาดให้คนอื่นเห็น ก็เลยออกไปคนละทิศคนละทางกัน แต่ว่าก็แบบเดียวกัน คือเป็นงูใหญ่ที่มีฤทธิ์เหมือนกัน
ในวัฒนธรรม "ล้านนา" และ "ล้านช้าง" มีคำเรียก “พญานาค” อีกอย่างหนึ่งว่า “ลวง” ซึ่งมีที่มาจากชื่อเรียกในสำเนียงจีนแมนดารินว่า “หลง” (หรือ “เล้ง” ในสำเนียงของพวกจีนแต้จิ๋ว) พวกล้านช้างหรือล้านนาในสมัยก่อนมีความใกล้ชิดกับจีน ก็เอา “หลง” มาจับใส่ไว้เป็นสัตว์ในปรัมปราคติของตัวเองด้วย แต่เรียกด้วยสำเนียงตนเองว่า “ลวง”
และที่ว่าพญานาคคือสิ่งเดียวกับมังกรนั้น หมายถึง "มังกรจีน" ไม่ใช่ "มังกรฝรั่ง" หรือมังกรตามความเชื่อของทางตะวันตก
มังกรของจีนหรือทิเบต ที่เราเห็นกันตามรูปภาพหรือในหนังจะเป็นประเภทสัตว์เลื้อยคลานหรืองูที่ไม่มีปีก แต่สามารถบินไปในอากาศได้ นอกจากนี้มังกรจีนยังเป็นสัตว์กึ่งเทพเจ้าที่มีอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้เกิดฝน เกิดความอุดมสมบูรณ์ได้
แต่มังกรของยุโรปเป็นสัตว์ที่เสมือนตัวแทนของความชั่วร้ายหรือปีศาจหรือมาร เป็นสัตว์ที่มุ่งร้ายต่อมนุษย์ โดยมากมีลักษณะเป็นสัตว์สี่ขา มีปีกกว้างใหญ่คล้ายค้างคาว หางยาวปลายหางเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายหัวหอก สามารถพ่นไฟได้
พญานาคหรืองูใหญ่ของไทยและมังกรของจีน เป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์อำนาจเหมือนกัน รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์ทั้งสองนี้ก็มีความคล้ายกันอีกด้วย เช่น สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้
ในประเทศจีนได้มีการกล่าวถึงความสามารถในการกลายร่างของมังกรไว้ว่า มังกรสามารถย่อตัวจนเท่าหนอน หรือสามารถขยายใหญ่เท่ามหาสมุทรได้ และบางตำนานของจีนก็มีกล่าวไว้ เช่น ฮ่องแต้ทรงสวรรคต และกลายเป็นมังกรบินกลับสวรรค์ไป ซึ่งพญานาคของไทยก็ไม่ต่างอะไรกับมังกรของจีนเลย
เคยฟังจากผู้มีญาณทั้งหลายที่บอกว่ามี "พญานาค" นอนขดตัวบำเพ็ญศีลอยู่ในถ้ำลึกตรงนั้นตรงนี้หรือใต้บาดาลนั้น แท้จริงแล้วคือ "มังกร" นั่นแล เพียงแต่เรามองไม่เห็นเขา เพราะเขาเป็นกายละเอียด ซึ่งพวกเขาสามารถมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ได้เพื่อบำเพ็ญสั่งสมกำลังบารมีของตัวเองต่อไป ถ้าจะกล่าวเอาเท่หน่อยก็เรียกว่า "มังกรมาจุติเป็นมนุษย์" ก็ได้เช่นกัน
ดังนั้น "พญานาค" กับ "มังกร" คือสิ่งๆ เดียวกัน มีฤทธิ์เหมือนกัน และสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์หรือมาเกิดเป็นมนุษย์ได้
สุดท้ายนี้ "พญานาค" กับ "มังกร" มีอยู่ทั่วประเทศไทย หาได้มีแค่เฉพาะในแม่น้ำโขงเท่านั้น ถ้าภาคกลางก็สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ที่สุพรรณบุรี ซึ่งสระทั้งสี่ของเมืองสุพรรณ เป็นน้ำที่ไม่เคยแห้ง คนโบราณจึงยกย่องเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วเชิญเป็นน้ำอภิเษกตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยคนแต่ก่อนเชื่อว่าเป็นน้ำของพญานาคจากเมืองบาดาล จึงถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์กว่าน้ำอื่นๆ นั่นเอง