เคยรู้สึกไหมว่าการสร้างนิสัยใหม่ๆ หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเรื่องโคตรจะยาก? บางคนอาจเคยตั้งเป้าหมายในชีวิตตั้งมากมาย แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกไปเพราะขาดวินัยและแรงจูงใจ แต่รู้หรือไม่ว่า หากคุณฮึดสู้! และรักษาความมุ่งมั่นให้ผ่านพ้น 21 วันไปได้ คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและสร้างนิสัยใหม่ที่ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แนวคิดนี้ที่มาจาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ (Dr. Maxwell Maltz) ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน เป็นผู้เสนอแนวคิด ‘กฎ 21 วัน เปลี่ยนนิสัย’ ในหนังสือ Psycho-Cybernetics มันมาจากการที่เขาสังเกตเห็นว่า ผู้ป่วยที่เขารักษามักใช้เวลาประมาณ 21 วันในการปรับตัวและคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังผ่าตัด เขาจึงสรุปว่าสมองมนุษย์ต้องการเวลา 21 วันในการยอมรับและปรับเปลี่ยนสิ่งใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นเอง ถ้าอยากรู้จักและเข้าใจกับแนวคิดนี้ให้มากขึ้นคลิกอ่านบทความเต็มได้เลย
แม้ว่างานวิจัยในปัจจุบันจะบอกว่า การสร้างนิสัยใหม่อาจต้องใช้เวลามากกว่า 21 วัน แต่ 21 วันก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกวินัยและความมุ่งมั่น เพราะเมื่อเราสามารถทำสิ่งหนึ่งได้อย่างต่อเนื่องจนครบ 21 วัน โอกาสที่เราจะทำสิ่งนั้นต่อไปได้อีกจนเป็นนิสัยถาวรก็มีสูงขึ้น ดังนั้นแนวคิด กฎ 21 วัน เปลี่ยนนิสัย จาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ ก็เป็นอีกทางเลือกที่เราสามารถทดลองทำได้ มันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะท้าทายตัวเองสักครั้ง เพื่อสร้างนิสัยใหม่ที่ดีกว่าเดิม
นอกจาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ แล้วก็ยังมีนักจิตวิทยาคนอื่นๆ ที่มีแนวคิดคล้ายๆ กันเช่น ดร.ฟิลลิปปา ลัลลี (Dr.Phillippa Lally) นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ ซึ่งมีผลงานวิจัยที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างนิสัยและพฤติกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาเรื่องระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างนิสัยใหม่ก็เคยกล่าวไว้ว่า “การศึกษาพบว่า การทำพฤติกรรมซ้ำๆ ในบริบทที่คงที่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างนิสัยที่แข็งแกร่ง” ดังนั้น เมื่อตั้งเป้าหมายที่จะสร้างนิสัยใหม่แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ในช่วงเวลาและสถานที่เดิม เพื่อให้จิตใต้สำนึกเชื่อมโยงพฤติกรรมนั้นเข้ากับบริบทต่างๆ จนเกิดเป็นความเคยชินนั่นเอง
ไม่ว่าผู้อ่านจะอยากสร้างนิสัยในการออกกำลังกาย กินอาหารให้ดีขึ้น อ่านหนังสือ หรือแม้แต่ตื่นเช้าขึ้น ลองนำกฎ 21 วันไปปรับใช้ดู ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้ชัดเจน และทำซ้ำทุกวัน หากทำได้ไม่ถึง 21 วันก็ไม่เป็นไรนะ เพราะคนเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เหมือนที่ โทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) นักประดิษฐ์ชื่อก้องโลกเคยบอกเอาไว้เป็นแง่คิดเกี่ยวกับความพยายามว่า “ความล้มเหลวคือบทเรียนสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด” ให้ลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นได้จากการลงมือทำในวันนี้
กฎ 21 วัน เป็นแนวคิดที่ว่า หากทำสิ่งใดติดต่อกัน 21 วันจะสามารถสร้างนิสัยใหม่หรือเปลี่ยนแปลงนิสัยเดิมได้
แนวคิดนี้มาจาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ (Dr.Maxwell Maltz) ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ในหนังสือ Psycho-Cybernetics
ดร.มอลตซ์ สังเกตว่า ผู้ป่วยที่เขารักษามักใช้เวลาประมาณ 21 วันในการปรับตัวและคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังการผ่าตัด
เขาจึงสรุปว่า สมองมนุษย์ต้องการเวลา 21 วันในการยอมรับและปรับเปลี่ยนสิ่งใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
แม้งานวิจัยปัจจุบันจะแย้งว่า การสร้างนิสัยใหม่อาจต้องใช้เวลามากกว่า 21 วัน แต่ 21 วันยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกวินัยและความมุ่งมั่นอยู่ดี
ดร.ฟิลลิปปา ลัลลี (Dr.Phillippa Lally) กล่าวว่า การทำพฤติกรรมซ้ำๆ ในบริบทที่คงที่ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างนิสัยที่แข็งแกร่ง
การสร้างนิสัยใหม่ควรทำอย่างสม่ำเสมอทุกวันในช่วงเวลาและสถานที่เดิม เพื่อให้จิตใต้สำนึกเชื่อมโยงพฤติกรรมนั้นๆ เข้ากับชีวิตของตัวเอง
หากทำได้ไม่ถึง 21 วันก็ไม่เป็นไร ให้ลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ ตามคำกล่าวของ โทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) ที่ว่า “ความล้มเหลวคือบทเรียนสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด”
https://thestandard.co/life/21-day-rule-creates-new-habits/
กฎ 21วัน เปลี่ยนนิสัยใหม่
แนวคิดนี้ที่มาจาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ (Dr. Maxwell Maltz) ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน เป็นผู้เสนอแนวคิด ‘กฎ 21 วัน เปลี่ยนนิสัย’ ในหนังสือ Psycho-Cybernetics มันมาจากการที่เขาสังเกตเห็นว่า ผู้ป่วยที่เขารักษามักใช้เวลาประมาณ 21 วันในการปรับตัวและคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังผ่าตัด เขาจึงสรุปว่าสมองมนุษย์ต้องการเวลา 21 วันในการยอมรับและปรับเปลี่ยนสิ่งใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นเอง ถ้าอยากรู้จักและเข้าใจกับแนวคิดนี้ให้มากขึ้นคลิกอ่านบทความเต็มได้เลย
แม้ว่างานวิจัยในปัจจุบันจะบอกว่า การสร้างนิสัยใหม่อาจต้องใช้เวลามากกว่า 21 วัน แต่ 21 วันก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกวินัยและความมุ่งมั่น เพราะเมื่อเราสามารถทำสิ่งหนึ่งได้อย่างต่อเนื่องจนครบ 21 วัน โอกาสที่เราจะทำสิ่งนั้นต่อไปได้อีกจนเป็นนิสัยถาวรก็มีสูงขึ้น ดังนั้นแนวคิด กฎ 21 วัน เปลี่ยนนิสัย จาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ ก็เป็นอีกทางเลือกที่เราสามารถทดลองทำได้ มันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะท้าทายตัวเองสักครั้ง เพื่อสร้างนิสัยใหม่ที่ดีกว่าเดิม
นอกจาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ แล้วก็ยังมีนักจิตวิทยาคนอื่นๆ ที่มีแนวคิดคล้ายๆ กันเช่น ดร.ฟิลลิปปา ลัลลี (Dr.Phillippa Lally) นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ ซึ่งมีผลงานวิจัยที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างนิสัยและพฤติกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาเรื่องระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างนิสัยใหม่ก็เคยกล่าวไว้ว่า “การศึกษาพบว่า การทำพฤติกรรมซ้ำๆ ในบริบทที่คงที่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างนิสัยที่แข็งแกร่ง” ดังนั้น เมื่อตั้งเป้าหมายที่จะสร้างนิสัยใหม่แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ในช่วงเวลาและสถานที่เดิม เพื่อให้จิตใต้สำนึกเชื่อมโยงพฤติกรรมนั้นเข้ากับบริบทต่างๆ จนเกิดเป็นความเคยชินนั่นเอง
ไม่ว่าผู้อ่านจะอยากสร้างนิสัยในการออกกำลังกาย กินอาหารให้ดีขึ้น อ่านหนังสือ หรือแม้แต่ตื่นเช้าขึ้น ลองนำกฎ 21 วันไปปรับใช้ดู ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้ชัดเจน และทำซ้ำทุกวัน หากทำได้ไม่ถึง 21 วันก็ไม่เป็นไรนะ เพราะคนเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เหมือนที่ โทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) นักประดิษฐ์ชื่อก้องโลกเคยบอกเอาไว้เป็นแง่คิดเกี่ยวกับความพยายามว่า “ความล้มเหลวคือบทเรียนสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด” ให้ลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นได้จากการลงมือทำในวันนี้
กฎ 21 วัน เป็นแนวคิดที่ว่า หากทำสิ่งใดติดต่อกัน 21 วันจะสามารถสร้างนิสัยใหม่หรือเปลี่ยนแปลงนิสัยเดิมได้
แนวคิดนี้มาจาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลตซ์ (Dr.Maxwell Maltz) ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ในหนังสือ Psycho-Cybernetics
ดร.มอลตซ์ สังเกตว่า ผู้ป่วยที่เขารักษามักใช้เวลาประมาณ 21 วันในการปรับตัวและคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังการผ่าตัด
เขาจึงสรุปว่า สมองมนุษย์ต้องการเวลา 21 วันในการยอมรับและปรับเปลี่ยนสิ่งใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
แม้งานวิจัยปัจจุบันจะแย้งว่า การสร้างนิสัยใหม่อาจต้องใช้เวลามากกว่า 21 วัน แต่ 21 วันยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกวินัยและความมุ่งมั่นอยู่ดี
ดร.ฟิลลิปปา ลัลลี (Dr.Phillippa Lally) กล่าวว่า การทำพฤติกรรมซ้ำๆ ในบริบทที่คงที่ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างนิสัยที่แข็งแกร่ง
การสร้างนิสัยใหม่ควรทำอย่างสม่ำเสมอทุกวันในช่วงเวลาและสถานที่เดิม เพื่อให้จิตใต้สำนึกเชื่อมโยงพฤติกรรมนั้นๆ เข้ากับชีวิตของตัวเอง
หากทำได้ไม่ถึง 21 วันก็ไม่เป็นไร ให้ลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ ตามคำกล่าวของ โทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) ที่ว่า “ความล้มเหลวคือบทเรียนสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด”
https://thestandard.co/life/21-day-rule-creates-new-habits/